4 วิธีง่ายๆ กับการไล่ฝุ่นและไวรัสในรถ โดย CARRO
สวัสดีครับ พบกับ MR.CARRO ผู้เชี่ยวชาญด้านรถมือสอง จาก CARRO กันอีกครั้งนะครับ ในช่วงหน้าหนาวสิ้นปี 2563 นี้ นอกจากชาวกรุงจะต้องเผชิญปัญหาจากฝุ่น PM 2.5 และวิกฤติที่มองไม่เห็นอย่าง “โควิด-19” ที่กลับมาระบาดระลอกใหม่อีกรอบ ทุกคนต้องดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ
สำหรับรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้งานทุกวัน หรือรถยนต์สาธารณะอย่าง แท็กซี่มิเตอร์ หรือรถที่วิ่งรับคนผ่าน App หลายคันอาจจะสกปรก จนอาจจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ ยิ่งในยุค New Normal นี้ เราต้องให้ความสำคัญกับความสะอาดอย่างมาก และลดการสัมผัสให้มากที่สุด
MR.CARRO ก็เลยจะมาแนะนำวิธีการไล่ฝุ่นและไวรัสในรถ ที่ทำด้วยตัวเองได้อย่างง่ายดาย และประหยัดเวลาครับ
กำจัดฝุ่นในรถและไวรัสในรถ เพื่อสุขอนามัยที่ดี
1. ทำความสะอาดเบาะและพรม
ถ้าหากว่ารถของคุณ เบาะนั่งเป็นแบบผ้าสักหลาด หรือแบบผ้ากำมะหยี่ และพรมปูพื้นที่ชอบอมฝุ่น แถมยังโดนน้ำไม่ค่อยได้ ก็ให้ใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดตามซอกตามมุมต่าง ๆ ที่เข้าถึงได้ยาก เพราะฝุ่นก็มักจะไปรวมตัวกันอยู่จุดนั้น หรือใช้เทปกาวเหนียวๆ แปะไปตามจุดต่าง ๆ ของเบาะนั่ง หรือพรม แล้วก็ดึงขึ้นมา แค่นี้ เศษฝุ่นก็ติดออกมาด้วยแล้ว หรือจะใช้ลูกกลิ้งกำจัดขน หรือแปรงปัดขนก็ย่อมได้
และถ้ามีโอกาส อย่าลืมพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ อบโอโซนภายในรถ แล้วจอดรถตากแดดหน่อย จะได้ฆ่าเชื้อไวรัสไปในตัว
2. ทำความสะอาดระบบแอร์
ระบบปรับอากาศในรถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะต้องหมุนเวียนอากาศทั้งภายในรถ รวมถึงรับอากาศด้านนอกเข้ามา และเป็นแหล่งรวมเชื้อโรค เชื้อรา อีกด้วย ให้คุณลองตรวจดูช่องแอร์ ดูกรองอากาศแอร์ ว่าสกปรกมากน้อยหรือยัง ถ้าพบว่าเริ่มมีฝุ่นติดมาก ก็ควรเปลี่ยนที่กรองอากาศอันใหม่ ซึ่งในปัจจุบันก็มีกรองอากาศ ที่สามารถกรองอนุภาคฝุ่นเล็กระดับ PM 2.5 ได้
หรือถ้าไม่ได้ล้างตู้แอร์มานาน ก็ลองขับรถเข้าร้านแอร์รถยนต์ ถอดตู้แอร์ออกมาล้างทั้งชุดเลย เพื่อความชัวร์ในความสะอาด แต่อาจจะยุ่งยากหน่อย และต้องแวคน้ำยาแอร์ใหม่ เปลี่ยนไดเออร์แอร์ใหม่ และเปลี่ยนวาล์วความดัน แต่ก็แลกกับความสะอาดมากกว่าการล้างแบบไม่ต้องถอดตู้แอร์
3. ราวจับ ที่เปิดประตู ก็สำคัญ
จุดที่มีการสัมผัสบ่อย เช่น พวงมาลัย ก้านไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูนอกรถ-ในรถ ตัวล็อคเข็มขัดนิรภัย คันเกียร์ ปุ่มต่างๆ หรือบริเวณเบรกมือ และราวจับบนหลังคา อาจจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี เพราะมีการสัมผัสบ่อยจากหลายคนและหลายมือ โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีผู้ใช้งานหลาย ๆ คน เจ้าของรถควรหาน้ำยาฆ่าเชื้อโรค มาเช็ดทำความสะอาดตามบริเวณจุดดังกล่าว เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า ก่อนที่คน ๆ นั้น จะมานั่ง ได้มีการไอ-จาม จากอาการเจ็บป่วย หรือใช้มือจับอะไรมาบ้าง หากแจ็กพ็อตว่าไปสัมผัสสิ่งที่ติดเชื้อโรคมา ผู้ใช้รถก็มีโอกาสสูงที่จะติดโรคตามไปด้วย
4. ล้างรถหน่อยก็ดี
คราบความสกปรกบนตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นคราบฝุ่น คราบไคล ขี้นก คราบโคลน น้ำฝนต่าง ๆ หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจติดมาขณะใช้งานรถยนต์ เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี ถ้าหากว่ารถคุณเริ่มสกปรกเมื่อไหร่ ก็จัดการล้างรถให้สะอาด นอกจากจะดูดีแล้ว ยังดูไม่สกปรก เหมือนแหล่งรวมเชื้อโรคอีกด้วยครับ
หากใครที่อยากขายรถในช่วงนี้ CARRO เรายินดีรับซื้อรถของคุณ! สามารถเข้าไปเช็คราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่รายละเอียดรถที่คุณอยากขาย ได้ที่นี่เลย กับ CARRO Express หรือโทร. 02-508-8425 หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือจะสะดวก Add Line มาสอบถามได้ที่ @Carrothai ครับ
และ “CARRO Automall” (คาร์โร ออโต้มอลล์) ศูนย์รวมรถยนต์มือสองสภาพเยี่ยม พร้อมการันตีคุณภาพทุกคัน โดย CARRO พร้อมเปิดให้บริการ ในราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology