แคร์รถยนต์

อบโอโซนรถหมายถึงอะไร มีความจำเป็นมากแค่ไหนกับบริการนี้

ผู้เขียน : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
 
ตรวจทาน : Nok Srihong
Nok Srihong

มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น

close
linkedin icon
Published: January 2,2025
  
 
  
Reviewed: December 30, 2024
อบโอโซนรถช่วยอะไรได้บ้าง

ถ้าคนที่ดูแลรถยนต์แบบเอาใจใส่ได้ลองเปิดโลกไปแล้วครั้งหนึ่ง แค่ล้างรถอาจไม่พอ การอบโอโซนรถ จะถูกเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อช่วยทำให้ภายในห้องโดยสารเกิดความสะอาดที่มากขึ้นไปอีกระดับ ตามขีดจำกัดการดูแลของบริการนี้ สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้บริการ อบโอโซนรถ มาก่อน จะสามารถมาทำความเข้าใจข้อมูลเบื้องต้นทั้งหมดพร้อมกันได้ ไปกับเนื้อหาที่ทาง แรบบิท แคร์ ได้เตรียมมานำเสนอ ตั้งแต่เรื่อง อบโอโซนรถ คือ อะไร ช่วยเรื่องไหน ดีไหม ราคาเท่าไหร่ ใช้เวลากี่นาทีถึงจะทำเสร็จ และข้อควรรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับการอบโอโซนรถ มั่นใจได้เลยว่าอ่านจบ จะพิจารณาได้ทันทีว่าคุณต้องการใช้บริการนี้มากน้อยแค่ไหน

อบโอโซนรถ คืออะไร

อบโอโซนรถ คือ การใช้เครื่องอบที่พ่นก๊าซออกมาภายในห้องโดยสาร ช่วยกำจัดชั้นไขมันที่หุ้มพื้นผิวในส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์เอาไว้ ซึ่งชั้นไขมันเหล่านั้นเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ประสิทธิภาพการปล่อยก๊าซเพื่ออบโอโซนรถ ขึ้นอยู่กับขีดจำกัดความสามารถของเครื่องพ่นที่เราเลือกใช้งานแต่ละตัว

อบโอโซนรถ ช่วยอะไร

อบโอโซนรถ จะเน้นไปที่การกำจัดชั้นไขมันเพื่อลดการเกิดเชื้อโรคได้เป็นหลักก็จริง แต่ด้วยก๊าซที่ปล่อยออกมา ยังช่วยขจัดเชื้อรา กำจัดความชื้น และจัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในรถได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเหล่านี้กวนใจบ่อยครั้ง จนคิดว่าไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเองอย่างหมดจด ทางเลือก อบโอโซนรถ จึงกลายเป็นสิ่งที่คนรักรถหลายคนทำเป็นประจำ หลังจากที่รถยนต์ของเราผ่านช่วงเวลาการทำความสะอาดมายาวนาน

คำแนะนำเพิ่มเติม เครื่องอบโอโซนรถที่มีประสิทธิภาพสูง ๆ จะสามารถขจัดไวรัสได้มากถึง 99% รวมถึงการทำความสะอาดด้านอื่น ๆ ก็จะโดดเด่นขึ้นไปด้วยตามลำดับ ฉะนั้นหากต้องการใช้บริการอบโอโซนรถจริง ๆ ควรสอบถามจากเพื่อน หรือคนรู้จักที่เคยใช้บริการนี้ เพื่อตามหาร้านที่ไว้ใจได้ในการช่วยดูแล

อบโอโซนรถ ดีไหม

การอบโอโซนรถนั้นมีข้อดีที่เห็นชัดเจนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสทำความสะอาดภายในห้องโดยสารอย่างจริงจัง นาน ๆ ครั้งการเข้าไปใช้บริการอบโอโซนรถ ยังนับเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างให้ประสิทธิผลเรื่องความสะอาดได้ดีแน่นอน ส่วนคนรักรถยนต์ที่ทำความสะอาดด้วยตัวเองภายในบ่อยครั้ง ก็ลองดูภาพรวมที่เราทำไปนั้นเพียงพอไหม ยังมีร่องรอยที่สกปรกแบบเป็นคราบฝังแน่นมากน้อยแค่ไหน รวมถึงเรื่องกลิ่นอับในรถ ที่หากใช้อบโอโซนรถ จะช่วยจัดการได้ดีทีเดียว

อบโอโซนรถ ราคาเท่าไหร่

ราคาอบโอโซนรถจะเริ่มต้นตั้งแต่หลัก 400 บาทเป็นต้นไป จากนั้นจะพิจารณาเรื่องขนาดรถยนต์เป็นหลัก เช่น รถยนต์ขนาดเล็ก ราคาประมาณ 400-750 บาท, รถยนต์ขนาดกลางถึงใหญ่ ราคาประมาณ 750-900 บาท และรถยนต์ขนาดใหญ่พิเศษ ราคาประมาณ 950-1,200 บาท ซึ่งหากใครที่ใช้บริการอบโอโซนรถบ่อยครั้ง ควรเลือกจากร้านที่ไว้วางใจได้ หรือแพ็กเกจโปรโมชันจัดอบโอโซนรถ ราคาพิเศษ จะช่วยประหยัดได้มากเช่นกัน

อบโอโซนรถ กี่นาที

อบโอโซนรถจะใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ขึ้นอยู่กับพื้นที่ภายในห้องโดยสารถยนต์ของผู้ใช้บริการ ว่ากว้างมากน้อยแค่ไหน แต่มาตรฐานจะเป็นเวลาตามที่กล่าวไป

อบโอโซนรถกำจัด COVID-19 ได้ไหม

ด้วยก๊าซที่พ่นออกมาจากการอบโอโซนจะสามารถกำจัดเชื้อไวรัสที่มีขนาด 0.5-1.5 P.P.M ได้มากที่สุดถึง 99% ดังนั้นเชื้อไวรัสอย่าง COVID-19 ที่มีขนาดเล็กกว่า จึงจะถูกกำจัดได้อย่างหมดจด เมื่อเจอก๊าซสำหรับอบโอโซนโดยตรง จึงค่อนข้างเหมาะเป็นพิเศษ หากต้องการฆ่าเชื้อโรคดังกล่าวผ่านการอบโอโซนรถ เพราะทำครั้งเดียวประสิทธิภาพจะอยู่ได้ค่อนข้างนาน กว่าจะต้องทำใหม่อีกครั้งก็ใช้ไปนานตามที่เราต้องการได้

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการอบโอโซนรถ

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการอบโอโซนรถจะมีทั้งหมด 3 เรื่อง คือ ความต่างระหว่างเครื่องอบโอโซน กับบริการอบโอโซนรถจากร้าน, อบโอโซนมีความอันตรายไหม และอบโอโซนรถควรทำบ่อยมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้คนที่ยังไม่เคยใช้บริการด้านนี้มาก่อน ได้ทำความเข้าใจควบคู่ไปกับการเตรียมพร้อมให้ได้รับการดูแลด้วยความสบายใจ ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมของข้อควรรู้ทั้ง 3 ข้อ สามารถติดตามอ่านได้จากข้อมูลที่ทาง แรบบิท แคร์ เตรียมสรุปไว้ให้กันได้เลย

  1. ความต่างระหว่างเครื่องอบโอโซน กับ บริการอบโอโซนจากร้าน: การใช้งานเครื่องอบจัดการด้วยตัวเองจะได้เรื่องความสะดวกสบาย การดูแลเก็บรักษาที่ง่ายกว่า อยากทำเมื่อไหร่ก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ส่วนบริการอบโอโซนจากร้านจะเน้นในเรื่องการประหยัดเวลาที่เราไม่ต้องทำเอง รวมถึงมั่นใจเรื่องประสิทธิภาพ มาตรฐานการดูแลที่ดีได้มาก
  2. อบโซนอันตรายไหม: ตัวน้ำยาที่เป็นพื้นฐานในการพ่นก๊าซเพื่ออบโอโซนรถเป็นสารเคมีที่ค่อนข้างอันตรายก็จริง แต่หากเราใช้งานตามคู่มือ ใช้งานด้วยความระมัดระวัง ก็จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายได้เลยนั่นเอง
  3. อบโอโซนรถควรทำบ่อยมากน้อยแค่ไหน: ระยะเวลาที่เหมาะสมกับการอบโอโซนรถ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำยาที่แต่ละคนใช้แตกต่างกันออกไป ซึ่งระดับพื้นฐานประสิทธิภาพของการอบโอโซนจะอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน หากเราได้เข้ารับบริการมาเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมสอบถามทางร้านอีกทีหนึ่งว่าระยะเวลาที่เหมาะสมต่อการเข้ามาซ้ำจะเป็นเมื่อไหร่

เท่านี้ทุกคนจะได้รับรู้ข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการอบโอโซนรถทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จะพิจารณาเพื่อใช้บริการหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนอีกทีหนึ่ง

คำแนะนำเพิ่มเติม กรณีที่ไม่ไว้วางใจเรื่องความอันตรายของน้ำยาที่ใช้ในการอบโอโซนรถ เพราะหลังจากที่พ่นก๊าซออกมาแล้ว กลัวว่าละอองจะลอยอยู่ในรถนานและกลายเป็นอันตราย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วตัวก๊าซที่พ่นออกมา หลังจากเปลี่ยนสถานะของเหลวเป็นก๊าซ จะลอยอยู่ในอากาศได้เพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น แล้วจะหายไปจนหมด ไม่เหลือค้างไว้ในอากาศ ทำให้สามารถขึ้นรถได้อย่างปลอดภัย เหลือไว้เพียงแค่ผลลัพธ์ที่ช่วยเรื่องขจัดเชื้อโรค สิ่งสกปรกเท่านั้น

รถได้รับความเสียหายจากการอบโอโซน เคลมประกันชั้นไหนได้บ้าง

หากรถได้รับความเสียหายจากการบำรุงรักษารถอย่างการอบโอโซนซึ่งมักเกิดขึ้นในกระบวนการทำความสะอาดหรือฆ่าเชื้อภายในรถ การเคลมประกันจะขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยรถยนต์ที่ทำไว้ โดยรายละเอียดการคุ้มครองของแต่ละชั้นมีดังนี้

  1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
    ประกันภัยชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกกรณี รวมถึง ความเสียหายที่เกิดจากการใช้บริการหรือกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษารถยนต์ แม้จะไม่ใช่อุบัติเหตุบนท้องถนน ดังนั้น ในกรณีที่รถได้รับความเสียหายจากการรับบริการต่างๆ สามารถแจ้งเคลมได้ภายใต้ประกันชั้น 1 อย่างไรก็ตาม บางบริษัทประกันอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบสาเหตุของความเสียหาย และอาจมีการหักค่าเสียหายส่วนแรก (ค่า Excess) ขึ้นอยู่กับรายละเอียดกรมธรรม์
  2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ และชั้น 3+
    ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ และประกันภัยรถยนต์ 3+ ให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดจากการชนกับยานพาหนะอื่นเท่านั้น และไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากการบำรุงรักษาหรือการอบโอโซน ดังนั้น ประกันภัยชั้น 2+ และชั้น 3+ ไม่ครอบคลุมกรณีความเสียหายที่เกิดจากการบำรุงรักษารถยนต์ใดๆ และจะไม่สามารถเคลมได้
  3. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และชั้น 3
    ประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันชั้น 3 จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอกเท่านั้น เช่น ชีวิตหรือทรัพย์สินของคู่กรณีในอุบัติเหตุที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด ดังนั้น ทั้งประกันชั้น 2 และชั้น 3 จึงไม่ครอบคลุมความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับรถของผู้เอาประกันในกรณีนี้ จึงไม่สามารถเคลมได้

สรุป

สรุปบทความ

การอบโอโซนรถ ถือว่าจำเป็นสำหรับคนที่ต้องการเน้นเรื่องความสะอาดภายในห้องโดยสารให้เป็นมาตรฐาน โดยเฉพาะคนที่ใช้รถทำงานเป็นหลัก อาจต้องเน้นการดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ จึงต้องเข้าไปรับบริการอบโอโซนรถตามช่วงเวลาที่เหมาะสมจากคำแนะนำของร้าน แต่หากใครที่ไม่ได้ใช้รถบ่อยครั้ง หรือไม่ได้ทำให้เกิดความสกปรกสะสมภายในรถยนต์มาก ก็อาจมองข้ามไปก่อนได้ และนาน ๆ เข้าไปใช้บริการสักครั้งหนึ่งตามความต้องการ ไม่ต้องทำเป็นประจำเป็นมาตรฐาน

เพราะการดูแลรถยนต์ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอาจต้องการเข้าคาร์แคร์ดี ๆ สักแห่ง ล้างเคลือบสีภายนอกให้ดูเหมือนใหม่ ทำความสะอาดภายในให้ไม่มีฝุ่น เช็ดเบาะให้ดูสะอาด หรืออาจดูแลห้องเครื่องบ้างอีกนิดหน่อย เท่านั้นก็คงเพียงพอ แต่คนที่มีความซีเรียสมากขึ้น การอบโอโซนรถก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างดีมากทีเดียวในการทำความสะอาดแบบหมดจด นอกเหนือจากนั้นการเลือกทำประกันรถยนต์เสริมเอาไว้ เพื่อช่วยดูแลได้อย่างครอบคลุม เป็นการสร้างความอุ่นใจในทุกการขับขี่ ใช้รถไปในเส้นทางไหนก็มีคนที่พร้อมดูแลเรา 24 ชั่วโมง ดังนั้นหากต้องการปรึกษา สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถยนต์ที่เหมาะสมต่อการใช้งานเพิ่มเติม สามารถติดต่อหา แรบบิท แคร์ ได้โดยตรงที่เบอร์ 1438 เบอร์นี้โทรได้ตลอดเวลา ตัดสินใจสมัครประกันรับส่วนลดสูงสุดถึง 70% เลือกผ่อน 0% ได้นาน 10 เดือน

จบสรุปบทความ

ที่มา


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 98696

แคร์รถยนต์

เบรคจม คือ อะไร มีวิธีจัดการปัญหาอย่างไรให้ขับขี่ได้ปลอดภัย

ในช่วงเวลาที่เราขับขี่บนท้องถนนหากเกิดปัญหาเบรคจมขึ้นมา อาจกลายเป็นเหตุร้ายแรงที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าปกติหลายเท่าตัว
Natthamon
30/12/2024
Rabbit Care Blog Image 98677

แคร์รถยนต์

เกียร์โยง คือ อะไร มีวิธีใส่อย่างไร สำคัญแค่ไหนกับรถมอเตอร์ไซค์

อุปกรณ์การตกแต่งมอเตอร์ไซค์นั้นมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน ซึ่งเกียร์โยงเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เสริมที่เข้ามาช่วยเพิ่มแนวทางการขับขี่ให้เป็นไปในอีกทิศทาง
Natthamon
30/12/2024
Rabbit Care Blog Image 98635

แคร์รถยนต์

ยางบิ๊กไบค์ต้องเลือกแบบไหนถึงจะดีเหมาะสมต่อการใช้งาน

ยางบิ๊กไบค์เป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการขับขี่รถประเภทบิ๊กไบค์ เพราะตัวรถเองต้องใช้งานความเร็วสูงในหลาย ๆ ช่วง รวมถึงด้วยท่าทาง องศาทางนั่ง
Natthamon
29/12/2024