ดูแลรถเก่าอย่างไรให้มีอายุยาวนาน และสามารถทำอะไรกับรถยนต์เก่าได้บ้าง
เชื่อว่าบ้านไหนที่มีความผูกพันในรถเก่าที่อยู่ด้วยกันมานาน ทั้งอดีตที่เคยร่วมทางท่องเที่ยวทั่วประเทศ หรือการผ่านความทรงจำมาหลายต่อหลายเรื่อง ทำให้ตัดใจขายไม่ลง แต่ก็ยังอยากดูแลให้รถเก่าคันโปรดคันนั้น สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี พร้อมกับคงสภาพเดิมให้เราได้เห็นไปนาน ๆ
ซึ่งในบทความของ แรบบิท แคร์ หน้านี้ จะพาทุกคนไปดูวิธีการดูแลรถเก่า ให้ใช้งานได้นานขึ้น รวมถึงการแนะนำว่าเราสามารถนำรถไปทำอะไรได้บ้างสำหรับบางคนที่ต้องการ เช่น เข้าไฟแนนซ์, เทิร์นรถใหม่ และจดทะเบียนใหม่ เป็นต้น อยากรู้ข้อมูลเรื่องไหนก่อน สามารถเลื่อนลงไปหาคำตอบได้ตามต้องการ
แนวทางการดูแลรถเก่าให้ใช้งานได้นานขึ้น
แนวทางการดูแลรถเก่าให้ใช้งานได้นานขึ้น หรืออยู่กับเราได้ยาวนานมากกว่าเดิม ซึ่งทุกคนควรจะต้องแบ่งการดูแลจุดย่อยออกเป็น 4 จุดด้วยกัน คือ การดูแลเครื่องยนต์, เกียร์, ช่วงล่าง และระบบยางทั่วคันรถ โดยในแต่ละจุดการดูแล จะมีรายละเอียดที่ควรเน้นเป็นพิเศษดังนี้
- เครื่องยนต์ จะเป็นจุดที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าเป็นรถเก่าโดยเฉพาะที่มีอายุยาวนานกว่า 10 ปี อาจมีการทำงานที่ไม่ปกติ เราจึงต้องเริ่มดูแลกันตั้งแต่ระบบลูกสูบ, หัวฉีดน้ำมัน, การชาร์จ, การสตาร์ต และอื่น ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานรถยนต์ หากมีจุดไหนเสีย ทำงานไม่เป็นปกติ ควรได้รับการเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
- เกียร์ เนื่องด้วยระบบเกียร์มีความสัมพันธ์กับการทำงานของเครื่องยนต์ หากระบบเกียร์ไม่เป็นปกติ ก็ส่งผลให้รถยนต์ทำงานได้ไม่เหมือนเดิม โดยวิธีการดูแลต้องได้รับการตรวจสอบเป็นจุดเมื่อมีอาการ เช่น เฟืองเกียร์, โซลินอยด์เกียร์ และแผ่นคลัตช์เกียร์ ที่มีความสำคัญต่อระบบมากที่สุด
- ช่วงล่าง ปัญหาที่มักเกิดขึ้นบ่อยกับช่วงล่างรถยนต์ที่มีอายุนาน จะเป็นในส่วนของชุดเพลาที่ต่อเข้ากับระบบเกียร์มากที่สุด เพราะผ่านการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้มีอาการสึกหรอลามไปทั่วอุปกรณ์ วิธีการดูแลที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการนำรถเข้าศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อมที่ไว้ใจได้ ให้ช่างช่วยตรวจเช็กอย่างละเอียด และทำการแก้ไขไปทีละจุด
- ระบบยางทั่วคัน หมายถึงชิ้นส่วนทุกชิ้นที่เป็นยาง โดยสิ่งที่สำคัญและไม่พูดไม่ได้ คือ ประเก็นน้ำมันหรือยางโอริงในห้องเครื่อง มีหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้ความชื้นเข้าไปทำลายระบบการทำงานของเครื่องยนต์ นอกเหนือจากนั้นยังหมายถึงซีลยางรอบคันรถ ซึ่งถ้าหากมีการเสื่อมสภาพ ไม่ได้รับการเปลี่ยนใหม่ อาจทำให้เจ้าของรถต้องเสียใจจากความเสียหายที่เกิดขึ้นแน่นอน
ในแต่ละจุดที่กล่าวมา ล้วนเป็นระบบการทำงานที่สำคัญของรถยนต์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ ถ้าอยากให้รถยนต์คันสุดที่รักของเรามีอายุการใช้งานที่ยาวนาน อยู่กับเราไปจนกว่าจะพังแบบแก้ไขไม่ได้จริง ๆ ควรได้รับการดูแลอย่างละเอียด รอบคอบ และใส่ใจอย่างมากตามข้อมูลที่กล่าวมาด้านบน โดยใครที่เป็นเจ้าของรถเก่าในบ้าน ไม่ควรมองข้ามจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยเด็ดขาด
มีรถเก่าอยู่บ้านทำอะไรได้บ้าง
ส่วนใครที่กำลังมองหาช่องทางการใช้งานรถเก่าในด้านอื่น ๆ หรือมีคำถามที่ค้างคาใจว่ารถคันเก่าของเรานั้นแท้จริงแล้ว สามารถเอาไปทำอะไรได้บ้างไหม? แรบบิท แคร์ ได้ลิสต์คำถามโดยหลักมาให้ 3 ข้อด้วยกัน คือ รถเก่า เข้าไฟแนนซ์ ได้ไหม, รถเก่า เทิร์นรถใหม่ และรถเก่า จดทะเบียนใหม่ได้หรือไม่ หากใครต้องการคำตอบจากที่กล่าวมา สามารถอ่านข้อมูลได้จากหัวข้อย่อยดังต่อไปนี้
รถเก่า เข้าไฟแนนซ์ได้ไหม
รถเก่า เข้าไฟแนนซ์ได้ไหม คำตอบ คือ สามารถทำได้ทั้งเอาเข้าไฟแนนซ์ และยื่นขอสินเชื่อ แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า ไม่ใช้รถเก่าทุกคันจะทำได้ เนื่องจากสถาบันการเงิน หรือบริษัทที่ให้บริการด้านนี้ จะมีเงื่อนไขที่กำหนดแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับ รุ่นรถยนต์ ยี่ห้อ ปีที่มีการจดทะเบียนรถ ไปจนถึงรายได้ของผู้ที่ยื่นขออนุมัติ ซึ่งในปัจจุบันส่วนใหญ่แล้วสถาบันการเงิน หรือบริษัทที่ให้บริการ จะรับพิจารณารถเก่าที่มีอายุตั้งแต่ 15-20 ปีด้วยเช่นกัน หากใครดูแลรถยนต์ไว้เป็นอย่างดี พอถึงเวลาจำเป็น สามารถตัดสินใจได้อีกครั้งถึงความเหมาะสมตามที่คุณต้องการ
รถเก่า เทิร์นรถใหม่
รถเก่า เทิร์นรถใหม่ ในที่นี้สามารถตีได้ 2 ความหมาย คือ การนำรถเก่าที่มีอายุนานแล้ว ไปเทิร์นเป็นรถใหม่ หากเป็นการเทิร์นผ่านศูนย์บริการ อาจไม่ได้รับทุกรุ่น หรือรุ่นอื่นที่นอกเหนือจากแบรนด์ของตัวเอง เว้นแต่ว่ายังเป็นรถที่ได้รับความนิยมในตลาด ยังพอมีโอกาสเทิร์นเป็นรถใหม่ได้เช่นกัน ส่วนในอีความหมาย จะเป็นการพูดถึงนำรถยนต์คันเก่าไปเทิร์นเป็นรถคันใหม่ ซึ่งเป็นกรณีเดียวัน เพียงแต่จะเป็นรถที่มีอายุไม่นานเท่าไหร่นัก พูดง่าย ๆ เพียงแค่เจ้าของรถอยากนำรถขายแลกคันใหม่เท่านั้นเอง
รถเก่า จดทะเบียนใหม่ได้หรือไม่
รถเก่า จดทะเบียนใหม่ได้หรือไม่ สามารถทำได้อย่างแน่นอน ซึ่งการจดทะเบียนใหม่ของรถเก่าในที่นี้ ต้องเป็นการขาดต่อทะเบียนมานานเกิน 3 ปี เพราะจะทำให้ทะเบียนรถยนต์ถูกระงับ และหากต้องการนำกลับมาใช้งานใหม่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีการยื่นขอจดทะเบียนใหม่ พร้อมจ่ายค่าปรับ คืนป้ายทะเบียนเดิม ทำการตรวจสภาพรถอีกครั้ง และเข้าสู่กระบวนการขึ้นทะเบียนใหม่ เพียงเท่านี้รถเก่าของคุณจะสามารถจดทะเบียนได้ใหม่ จนนำไปใช้งานได้บนท้องถนนตามปกติ
อ้างอิงข้อมูลรถเก่า จดทะเบียนใหม่จากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
อยากดูแลรถเก่าด้วยประกันรถยนต์ เลือกประเภทไหนดี
อยากดูแลรถเก่าด้วยการเลือกทำประกันรถยนต์ที่เหมาะสม ควรเลือกประเภทไหนถึงจะดี? ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยบางแห่ง จะมีการกำหนดอายุของรถยนต์ไว้ด้วยว่าสามารถทำประเภทไหนได้บ้าง โดยรายละเอียดเบื้องต้นตามประเภทประกันที่เหมาะสม อ้างอิงได้ดังข้อมูลต่อไป
- ประกันชั้น 1 สามารถทำได้กับรถเก่าที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปี จนถึง 15 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทอีกทีหนึ่ง โดยการเลือกทำประกันประเภทนี้ เหมาะสมกับคนที่ยังใช้งานรถยนต์คันเก่าอยู่ทุกวัน ควรเลือกประกันชั้น 1 เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองสูงสุด
- ประกันชั้น 2+ มีเงื่อนไขเรื่องอายุรถเช่นเดียวกันกับชั้น 1 เพียงแต่มีความคุ้มครองที่ลดน้อยลงมา คือ เรื่องการชนแบบไม่มีคู่กรณีที่ในชั้นนี้ จะไม่ได้รับการคุ้มครอง ส่วนด้านอื่นยังมีอยู่เช่นเดิม
- ประกันชั้น 3+ เหมาะสมกับรถเก่าที่มีอายุถึง 15 ปีหรือมากกว่านั้น ยังมีการใช้งานแบบนาน ๆ ครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะจอดอยู่บ้าน ประกันชั้นนี้ยังคงให้ความคุ้มครองขั้นพื้นที่ฐานที่ยอดเยี่ยมแน่นอน
- ประกันชั้น 3 อาจไม่เหมาะสมกับคนที่ใช้งานรถเก่าเป็นประจำ แต่หากใช้งานเฉพาะกิจที่จำเป็น และหากเกิดเหตุไม่คาดฝันสามารถรับผิดชอบค่าซ่อมได้เอง ประกันชั้น 3 จะมีเบี้ยถูกที่สุด แต่ช่วยคุ้มครองเรื่องค่าซ่อมแซมรถคู่กรณี และดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้โดยสาร ผู้ขับขี่ และคู่กรณีเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้การเลือกประกันรถยนต์แต่ละประเภท จะเหมาะสมกับรถเก่าของคุณมากน้อยแค่ไหน สามารถเข้าไปสอบถามบริษัทที่ให้บริการประกันภัยรถยนต์ได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะที่ แรบบิท แคร์ ที่ซึ่งมีตัวช่วยนำเสนอประกันรถยนต์จากบริษัทประกันภัยชั้นนำกว่า 30 แห่งในประเทศ พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับประกันรถยนต์อย่างละเอียด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 70% และสามารถเลือกผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือน หากสนใจทำประกันหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเข้ามาได้ที่เบอร์ 1438 (ติดต่อได้ตลอดเวลา)
สรุป
สรุปแล้ว แนวทางการดูแลรถเก่านั้น เริ่มจาก
- เครื่องยนต์ โดยเฉพาะที่มีอายุยาวนานกว่า 10 ปี อาจมีการทำงานที่ไม่ปกติ เช่น ระบบลูกสูบ, หัวฉีดน้ำมัน, การชาร์จ, การสตาร์ต และอื่น ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานรถยนต์
- เกียร์ ตรวจสอบเป็นจุดเมื่อมีอาการ เช่น เฟืองเกียร์, โซลินอยด์เกียร์ และแผ่นคลัตช์เกียร์ ที่มีความสำคัญต่อระบบมากที่สุด
- ช่วงล่าง ปัญหาที่มักเกิดขึ้นบ่อยกับช่วงล่างรถยนต์ที่มีอายุนาน จะเป็นในส่วนของชุดเพลาที่ต่อเข้ากับระบบเกียร์มากที่สุดเพราะผ่านการใช้งานที่ยาวนาน
- ระบบยางทั่วคัน นอกจากยาง ยังหมายถึง ประเก็นน้ำมัน ยางโอริงในห้องเครื่อง รวมไปถึงซีลยางรอบคันรถ ซึ่งถ้าหากมีการเสื่อมสภาพ ควรทำการเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology