อะไรทำให้กระจกรถเป็นรอย และต้องใช้วิธีไหนถึงจะแก้ปัญหาได้
ทุกครั้งที่ออกเดินทางด้วยรถยนต์ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล มักมีโอกาสเกิดเหตุการณ์จนทำให้กระจกรถเป็นรอยขึ้นมาได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน และพอเป็นคนที่รักรถมาก ๆ ต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ คงรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ที่ต้องเห็นกระจกรถเป็นรอยโดยที่เราไม่ได้ทำอะไรสุ่มเสี่ยงด้วยตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว ฉะนั้นเพื่อให้เราสามารถหลีกเลี่ยงเหตุการณ์แบบนั้น
แรบบิท แคร์ จะช่วยแนะนำว่าสิ่งที่ทำให้กระจกรถเป็นรอย คืออะไร และถ้ากระจกรถเป็นรอย แก้ยังไง ขัดกระจกรถยนต์ด้วยเทคนิคไหนถึงจะกลับมาไร้ริ้วรอยแบบเดิม พร้อมกับการให้คำเตือนเกี่ยวกับคราบหินปูนซึ่งเป็นคราบสกปรกที่หนักหน่วง หากไม่รีบเช็ดออกคงกลายเป็นคราบฝังลึกได้ รวมถึงการเคลมกระจกรถยนต์กับประกันภัย ต้องเกิดขึ้นในกรณีไหนถึงจะสามารถเคลมได้บ้าง มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันได้ในบทความนี้เลย
กระจกรถเป็นรอย เกิดจากอะไร
กระจกรถเป็นรอย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เริ่มต้นง่าย ๆ อาจเป็นการที่มีฝุ่นเกาะบนกระจกหนาแน่น แล้วเราไปใช้ที่ปัดน้ำฝนเพื่อทำความสะอาด แต่แน่นอนว่าพื้นผิวของที่ปัดน้ำฝน จะเป็นลักษณะยางเรียบที่ช่วยรีดน้ำออกด้านข้าง ทำให้เกิดการขูดจากคราบสกปรกบนกระจก จนกลายเป็นริ้วรอยขึ้นมาได้ นอกเหนือจากนั้นกระจกรถเป็นรอยยังเกิดขึ้นได้จากการถูกหินดีด หรือเศษกรวดที่ปลิวมากับลม และการที่จอดใต้ร่มไม้ถูกกิ่งไม้หล่นใส โดนยางไม้ ไปจนถึงขี้นกเอง ก็ยังทำให้กระจกรถเป็นรอยได้เช่นเดียวกัน
กระจกรถเป็นรอย แก้ยังไง
กระจกรถเป็นรอย แก้ยังไง สามารถเริ่มต้นจัดการง่าย ๆ ได้ด้วย 6 วิธี คือ ใช้น้ำยาลบรอยอะคริลิก, ใช้ชุดขัดลบรอย, ใช้ยาสีฟัน, ใช้น้ำยาขัดกระจก, ใช้น้ำยาทาเล็บแบบใส และเข้ารับบริการขัดกระจก เพียงเท่านี้ก็จะช่วยจัดการปัญหากระจกรถเป็นรอย ได้อย่างเหมาะสมตามความหนักหน่วงของปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว แต่จะเลือกวิธีไหนเข้ามาช่วยเหลือ ต้องลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากหัวข้อย่อยทั้งหมดต่อไปนี้
ใช้น้ำยาลบรอยอะคริลิก
น้ำยาลบรอยอะคริลิกสามารถหาซื้อได้ง่ายทั่วไป จะสามารถช่วยลบรอยขนแมว หรือรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ บนกระจกของเราได้ โดยวิธีการใช้งานก็อ้างอิงจากข้างบรรจุพัณฑ์ได้เลย ถือว่าเป็นวิธีจัดการปัญหากระจกรถเป็นรอยได้ง่ายในอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว
ใช้ชุดขัดลบรอย
ชุดขัดลบรอยมักจะมาพร้อมอุปกรณ์ขัด เช่น ฟองน้ำ หรือผ้าชนิดพิเศษ และน้ำยาขัดลบรอยตามแต่ละแบรนด์ที่จัดจำหน่าย ส่วนวิธีการใช้งานเพื่อแก้ไขกระจกรถเป็นรอย ด้วยชุดขัดลบรอยนั้นง่ายมาก เพียงแค่ล้างน้ำตรงบริเวณที่ต้องการขัดลบรอย เพื่อให้แน่ใจว่าคราบฝุ่น สิ่งสกปรกหลุดลอกออกไปหมดแล้ว จากนั้นจึงลงน้ำยาขัดลบรอยและใช้ผ้าสะอาดช่วยขัดจนกว่ารอยจะจางลง
ใช้ยาสีฟัน
ใครจะไปรู้ว่ายาสีฟันนอกเหนือจากการที่เราใช้แปรงฟันทุกวันแล้ว ยังช่วยจัดการกระจกรถเป็นรอย ได้ด้วยการนำไปขัดรถยนต์เช่นเดียวกัน โดยวิธีการเหมือนการขัดด้วยชุดลบรอย ล้างบริเวณกระจกให้สะอาดปราศจากฝุ่นก่อน บีบยาสีฟันลงบนผ้าสะอาด จากนั้นขัดบริเวณที่เป็นรอยประมาณ 30 วินาที และเช็ดคราบยาสีฟันออกด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ที่สำคัญยาสีฟันที่ใช้ขัด ควรเป็นยาสีเนื้อสีขาว ไม่ใช่แบบเจลใส
ใช้น้ำยาขัดกระจก
น้ำยาขัดกระจกมีความสามารถในการลบรอยขนแมวทั่วไปได้ค่อนข้างดี และยังช่วยจัดการคราบสกปรกฝังแน่นได้ดีอีกด้วย ดังนั้นการเลือกน้ำยาขัดกระจกมาช่วยแก้ไขปัญหากระจกรถเป็นรอย จะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดอย่างมาก ส่วนวิธีการใช้งาน เหมือนกับการใช้ยาสีฟันในทุกขั้นตอน เว้นแต่ว่าน้ำยาขัดกระจกรถยนต์บางตัวที่เราซื้อมาจะเป็นแบบพิเศษ มีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป ให้อ้างอิงจากบรรจุภัณฑ์ข้างขวดได้เลยทันที
ใช้น้ำยาทาเล็บแบบใส
ยาทาเล็บแบบใส หรือแบบอะคริลิก จะช่วยแก้ปัญหากระจกรถเป็นรอยขีดข่วนได้โดยตรง เพียงแค่หยดน้ำยาลงบริเวณที่เป็นรอย และทำการเช็ดทำความสะอาดออกไปให้หมด ทิ้งไว้ให้แห้งสักพักหนึ่ง รอยขีดข่วนแบบที่ไม่ลึกมาก จะหายไป กระจกรถของเราจะกลับมาใส เงางามเหมือนเดิม
เข้ารับบริการขัดกระจก
หากใช้วิธีแก้ปัญหากระจกรถเป็นรอยด้านบนทั้งหมดแล้วรู้สึกยังไม่ช่วยเท่าไหร่นัก การเข้ารับบริการขัดกระจกรถยนต์จากร้านที่เชี่ยวชาญ คงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ทำให้เราต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มเติม แต่อย่างน้อยจะช่วยจัดการปัญหากระจกรถเป็นรอยได้ดีกว่าการทำด้วยตัวเองอย่างแน่นอน เนื่องจากทางร้านที่ให้บริการขัดกระจกรถยนต์ จะมีเครื่องมือในการขัดที่ค่อนข้างละเอียดมากกว่า ไหนจะประสิทธิภาพน้ำยาขัดเฉพาะด้าน ที่มีไว้เพื่อลบรอยโดยเฉพาะ หรือถ้ามีรอยหนักจนเกิดรอยร้าว ทางร้านอาจแนะนำการซ่อมแซมให้เพิ่มเติมได้อีกต่างหาก
เทคนิคสำคัญในการแก้ปัญหากระจกรถเป็นรอย
เทคนิคสำคัญในการแก้ปัญหากระจกรถเป็นรอย มีอยู่ด้วยกัน 4 เทคนิค คือ การเลือกใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่มีความละเอียดของเส้นใยสูง ทำให้มีผิวสัมผัสเนียนนุ่ม ไม่เป็นขุย ช่วยขจัดริ้วรอยได้ดีขึ้น, เวลาขัดต้องเบามือให้มาก ๆ เพื่อป้องกันการเป็นรอยเพิ่มเติมระหว่างที่เราขัดอยู่, ช่วงที่เช็ดทำความสะอาดก่อนลงมือขัดจริง ควรใช้น้ำอุ่นในการทำความสะอาด เพื่อเช็ดคราบสกปรกให้ออกมากที่สุดก่อน และสุดท้ายก่อนลงน้ำยาใดก็ตาม เช็กพื้นผิวกระจกให้ดีก่อน ว่าสะอาด ไม่มีฝุ่น คราบสกปรก หรือเศษสิ่งสกปรกที่เสี่ยงต่อการสร้างริ้วรอยเพิ่มเติม
ระวังคราบหินปูน ปัญหาใหญ่กระจกรถเป็นรอย
ระวังคราบหินปูน ปัญหาใหญ่กระจกรถเป็นรอย ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ง่ายมากกว่าที่คุณคิด เพียงแค่หยดน้ำเล็ก ๆ ผสมกับคราบฝุ่นบนกระจกรถ หรือแม้แต่บริเวณตัวถัง เมื่อผสมกันจนกลายเป็นตะกอนฝุ่นที่หนาแน่น หากปล่อยทิ้งไว้นานมีโอกาสกลายเป็นคราบหินปูนที่ทำความสะอาดออกไปได้ยากมาก ถึงขั้นที่จัดการด้วยตัวเองยากขึ้นเป็นเท่าตัว
วิธีขจัดคราบหินปูนบนกระจกรถยนต์
วิธีขจัดคราบหินปูนบนกระจกรถยนต์ เพื่อไม่ให้กระจกรถเป็นรอย ต้องอาศัย 3 สิ่ง ได้แก่ น้ำส้มสายชู, เบกกิ้งโซดา และน้ำยาขจัดคราบหินปูนโดยเฉพาะ ส่วนวิธีการใช้งานมีดังนี้
- น้ำส้มสายชู ชะโลมลงบนผ้าและนำไปเช็ดบนกระจกที่มีคราบหินปูนเกิดขึ้น
- เบกกิ้งโซดา ผสมน้ำเล็กน้อย จนกว่าจะมีผลลัพธ์ออกมาเป็นลักษณะคล้ายเนื้อครีม หลังจากนั้นจึงใช้ผ้าป้ายเนื้อครีมขึ้นมา เช็ดบริเวณที่เป็นคราบหินปูนออกไป
- น้ำยาขจัดคราบหินปูน ที่มาพร้อมแผ่นขัดแบบหยาบ ซึ่งใช้ร่วมกันแล้วขจัดคราบหินปูนได้ง่ายกว่าวิธีที่ทำด้วยตัวเองด้านบน เพียงแต่ต้องหาซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางมาเพิ่มเท่านั้นเอง
กระจกรถเป็นรอย แบบไหนถึงจะเคลมประกันได้
ถ้าหากกระจกรถเป็นรอยขึ้นมา จนเกิดความสงสัยว่ารอยแบบไหนถึงจะเคลมประกันได้ แรบบิท แคร์ มีคำตอบมาให้ คือ ต้องเป็นรอยร้าว หรือรอยแตกเท่านั้นที่เคลมได้ และยังมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นรถยนต์ที่ทำประกันชั้น 1 เอาไว้ ถึงจะสามารถเคลมค่าซ่อมแซมเพื่อเปลี่ยนกระจกใหม่ได้ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ส่วนประกันรถยนต์ชั้นอื่นต้องจ่ายค่าซ่อมแซมด้วยตัวเองทั้งหมด
กระจกรถเป็นรอย เคลมประกันชั้นไหนได้บ้าง
การเคลมประกันสำหรับกรณีที่กระจกรถเป็นรอย ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันรถยนต์ที่คุณมี โดยประกันแต่ละชั้นจะมีระดับการคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนี้:
1. ประกันชั้น 1
- ครอบคลุม: ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองสูงสุด ซึ่งครอบคลุมถึงความเสียหายทุกประเภท รวมถึงกรณีที่กระจกรถเป็นรอยจากอุบัติเหตุ (เช่น การชน หรือโดนเศษหินกระเด็นใส่) และในบางกรณีอาจครอบคลุมการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนกระจกที่มีรอยหรือแตกจากสาเหตุที่ไม่สามารถระบุได้ชัดเจน
- วิธีเคลม: ติดต่อบริษัทประกันเพื่อแจ้งรายละเอียดการเคลมและขอใบเคลมเพื่อนำไปซ่อมหรือเปลี่ยนกระจกที่ศูนย์ซ่อมที่ได้รับอนุญาต ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะครอบคลุมโดยประกันชั้น 1 (อาจมีค่าความเสียหายส่วนแรกตามเงื่อนไขของประกัน)
2. ประกันชั้น 2+
- ครอบคลุมบางกรณี: ประกันชั้น 2+ จะคุ้มครองความเสียหายของตัวรถในกรณีเกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี และยังคุ้มครองกรณีไฟไหม้หรือรถสูญหาย แต่ถ้ากระจกรถเป็นรอยจากการชนที่ไม่มีคู่กรณีหรือจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น เศษหินกระเด็นใส่ จะไม่สามารถเคลมได้
- ข้อจำกัด: โดยทั่วไป ประกันชั้น 2+ ไม่ครอบคลุมกรณีที่กระจกมีรอยเสียหายเองโดยไม่มีอุบัติเหตุร่วม หรือจากการใช้งานตามปกติ
3. ประกันชั้น 3+
- ครอบคลุมบางกรณีที่มีคู่กรณี: ประกันชั้น 3+ ราคาประหยัดคุ้มครองเฉพาะกรณีที่มีอุบัติเหตุและมีคู่กรณี โดยรวมถึงความเสียหายต่อตัวรถจากการชนกับยานพาหนะทางบกที่มีคู่กรณี ดังนั้น หากกระจกรถเป็นรอยจากการชนที่มีคู่กรณี ประกันอาจครอบคลุมค่าซ่อมหรือเปลี่ยนกระจก
- ข้อจำกัด: หากกระจกรถเป็นรอยจากเหตุการณ์ที่ไม่มีคู่กรณี เช่น เศษหินกระเด็นใส่ หรือการกระแทกจากสิ่งของต่าง ๆ ประกันชั้น 3+ จะไม่ครอบคลุม
4. ประกันชั้น 2 และชั้น 3
- ไม่ครอบคลุม: ประกันชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 3 เน้นคุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น และไม่ครอบคลุมความเสียหายของตัวรถ รวมถึงกรณีที่กระจกรถเป็นรอยหรือเสียหาย
หากคุณมีประกันชั้น 1 คุณสามารถเคลมได้ในทุกกรณีที่กระจกเสียหายหรือเป็นรอย แต่หากเป็นประกันชั้น 2+ หรือ 3+ จะขึ้นอยู่กับว่ามีคู่กรณีหรือไม่
ดังนั้นเพื่อเพิ่มความอุ่นใจในทุกการขับขี่ ไม่ว่าจะเดินทางด้วยถนนแบบไหน เจอสถานการณ์อะไร เราก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพียงแค่พิจารณาเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ดูแลคุ้มครองได้ครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี ก็สามารถเคลมได้ทั้งคัน หรือคุ้มครองด้านอื่น ๆ ที่ช่วยดูแลให้คุณได้ทั้งหมด หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมส่วนลดสูงสุด 70% และเลือกผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือน ติดต่อเข้ามาหา แรบบิท แคร์ ได้เลยที่เบอร์ 1438 เบอร์นี้โทรได้ตลอดเวลา
สรุป
กระจกรถเป็นรอย เกิดได้จากหลายสาเหตุ สามารถเริ่มต้นจัดการง่าย ๆ ได้ด้วย 6 วิธี คือ
- ใช้น้ำยาลบรอยอะคริลิก
- ใช้ชุดขัดลบรอย
- ใช้ยาสีฟัน
- ใช้น้ำยาขัดกระจก
- ใช้น้ำยาทาเล็บแบบใส
- เข้ารับบริการขัดกระจกโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ ยังมีวิธีขจัดคราบหินปูนบนกระจกรถยนต์ เพื่อไม่ให้กระจกรถเป็นรอย จะใช้อุปกรณ์ทั้งหมด 3 สิ่ง มีดังนี้
- น้ำส้มสายชู ชะโลมลงบนผ้าและนำไปเช็ดบนกระจกที่มีคราบหินปูนเกิดขึ้น
- เบกกิ้งโซดา ผสมน้ำเล็กน้อยจนคล้ายเนื้อครีม หลังจากนั้นจึงใช้ผ้าป้ายเช็ดบริเวณที่เป็นคราบหินปูนออกไป
- น้ำยาขจัดคราบหินปูน ที่มาพร้อมแผ่นขัดแบบหยาบ ซึ่งใช้ร่วมกันแล้วขจัดคราบหินปูนได้ง่ายกว่าวิธีที่ทำด้วยตัวเองด้านบน เพียงแต่ต้องหาซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางมาเพิ่มเท่านั้นเอง
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology