ถ้าไม่อยากให้ปั๊มติ๊กพัง อย่าปล่อยให้น้ำมันหมดถัง

ผู้เขียน : ใบไม้ร่าเริง
ใบไม้ร่าเริง

มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี

close
แก้ไขโดย : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
 
Published: February 23,2021
  
Last edited: August 10, 2024
ปั๊มติ๊ก

คำถามคาใจสำหรับผู้ใช้รถ ต้องการทราบว่า ควรเติมน้ำมันเท่าไรดี เติมแบบไหนปั๊มติ๊กจึงจะไม่พัง ถ้าไม่อยากให้ปั๊มติ๊กพัง อย่าปล่อยให้น้ำมันหมดถัง และเราจะมีวิธีการสังเกตได้จากอะไร และมีวิธีการดูแลรักษาอย่างไรให้ปั๊มติ๊กไม่เสื่อมสภาพเร็ว วันนี้เรามาทำความรู้จักกับปั๊มติ๊กกันให้มากขึ้น โดยเราได้นำข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคนรักรถมาฝากกัน 

ปั๊มติ๊ก

ปั๊มติ๊ก ทำหน้าที่อะไรบ้างในตัวรถยนต์

สำหรับปั๊มติ๊กนั้นมีหน้าที่คอยดูดน้ำมันจากตัวถังไปยังเครื่องยนต์ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ปั๊มติ๊กเสื่อมนั้นเกิดจากระดับน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยจนเกินไป จะทำให้ปั๊มติ๊กทำงานหนักและระบายความร้อนไม่ดี จนส่งผลให้มอเตอร์ฟังและได้รับความเสียหายได้ อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วบางคนไม่คิดมากเรื่องการเติมน้ำมัน ขึ้นกับเงินหรือความต้องการที่มี ขณะที่สายเปย์ ชอบเติมน้ำมันแบบเต็มถัง การเติมน้ำมันที่ถูกต้อง คือ เติมให้เกือบเต็มถัง แต่อย่ารอให้น้ำมันเหลือต่ำกว่า 1/4 ของถัง หรือปล่อยให้หมดถัง เพราะปั้มติ๊กจะทำงานหนัก จนร้อน เพราะน้ำมันที่ไหลผ่านปั้มติ๊ก จะช่วยให้ปั๊มติ๊กไม่ร้อนและมีการหล่อลื่น 

เมื่อน้ำมันในถังเหลือน้อย ทำให้ปั๊มติ๊กต้องทำงานหนักมากขึ้นในการสูบน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำลงไป ประกอบกับไม่มีน้ำมันมาห่อหุ้มเพื่อระบายความร้อนและหล่อลื่นของปั๊มติ๊ก ซึ่งทั้งสองเหตุผลจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปั๊มติ๊กเริ่มเสื่อมสภาพ สำหรับเวลาในการเติมน้ำมันหากเป็นเวลากลางคืน จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ เพราะเวลากลางคืน น้ำมันจะมีการควบแน่นสูง สุดท้ายคือการเลือกรถยนต์ที่มีฟังก์ชั่นประหยัดน้ำมัน เป็นอีกทางเลือก

การเสื่อมสภาพของปั๊มติ๊กสังเกตได้อย่างไร

การเติมน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพเข้าไปในปั๊มติ๊กอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ ปั๊มติ๊กพัง หรือเสื่อมสภาพเร็วก่อนกำหนด รวมถึงการเติมน้ำมันที่ไม่เหมาะสมกับตัวเครื่องยนต์ที่รองรับ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ปั๊มติ๊กเสื่อมสภาพ และอาจสังเกตจากการสตาร์ทรถไม่ติด แต่ระบบไฟฟ้าเป็นปกตินั้นแสดงว่าปั๊มติ๊กเสีย และถ้ายิ่งเป็นรถยนต์รุ่นเก่าก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ ปั๊มติ๊กจะไม่มีเสียง หรือสตาร์ทเครื่องยนต์แล้ว เครื่องยนต์เดินสะดุด เร่งไม่ขึ้น นั้นแสดงว่าปั้มติ๊กเสีย

ขณะเดียวกัน กรณีที่ปล่อยให้น้ำมันเชื้อเพลิงในถังเหลือน้อยอยู่เป็นประจำ ทำให้ไฟเตือนน้ำมันโชว์อยู่บ่อยครั้งยิ่งถ้าบ่อยไว้เป็นประจำจะทำให้ปั๊มติ๊กทำงานหนักขึ้น เนื่องจากไม่มีน้ำมันมาห่อหุ้มเพื่อระบายความร้อนและหล่อลื่น ทำให้การระบายความร้อนจากตัวมอเตอร์ที่ทำงานตลอดก็ระบายไม่ได้ นอกจากนี้แล้วรถยนต์ที่ติดแก๊ส หากทำการสาตร์ทเครื่องยนต์ด้วยเชื้อเพลิงไม่ติด แต่สตาร์ทด้วยแก๊สติด นั้นแสดงว่าปั๊มติ๊กเสียนั่นเอง นอกจากนี้ต้องสังเกตด้วยว่า หากสตาร์ทเครื่องแล้วเกิดสะดุด หรือกระตุกหรือไม่ หรือเมื่อขับรถขึ้นทางชัน แต่เครื่องไม่มีกำลัง หรือกระตุก ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการทำให้ปั๊มติ๊กเริ่มเสื่อมสภาพได้ 

ปั๊มติ๊ก

เทคนิคการดูแลรักษาปั๊มติ๊กไม่ให้เสื่อมสภาพเร็ว

  • เลือกใช้หรือเติมน้ำมันที่มีคุณภาพและสะอาด ก็จะส่งผลให้ไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันในตัวปั๊มติ๊กได้
  • ก่อนเปลี่ยนปั๊มติ๊กตัวใหม่ อย่าลืมเช็คข้อต่อด้วยว่ามีรอยไหม้หรือไม่ ถ้าขั้วข้อต่อไหม้และไม่ได้เปลี่ยนใหม่ ถึงเปลี่ยนปั๊มติ๊กตัวใหม่ก็จะเสียอีกเช่นกัน
  • น้ำมันในถังต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งส่วนสี่เพื่อเป็นการหล่อลื่นและระบายความร้อนให้กับปั๊มติ๊ก จึงควรเติมน้ำมันให้เกือบครึ่งถังอยู่เสมอ
  • หากไม่ได้ขับรถและต้องจอดทิ้งไว้นาน ๆ ควรถ่ายน้ำมันเก่าที่ค้างออกแล้วเติมน้ำมันใหม่เข้าไป
  • รถที่ติดปั๊มแก๊สควรเปลี่ยนมาใช้น้ำมันบ้าง

เทคนิคการเปลี่ยนปั๊มติ๊กด้วยตัวเอง 

กรณีที่เกิดปั๊มติ๊กเสีย หรือเสื่อมสภาพลงทำให้ต้องเปลี่ยนใหม่ ซึ่งถ้าหากนำไปเปลี่ยนที่อู่ซ่อมรถ หรือศูนย์บริการอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณเกือบ 10,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อต่าง ๆ แต่ถ้าหากเจ้าของรถยนต์อยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายก็สามารถเปลี่ยนได้ตัวเองไม่ยาก ซึ่งวิธีการเปลี่ยนนั้นมีขั้นตอนง่าย ๆ ที่ไม่ยุ่งยาก ดังนี้ 

  • ปั๊มติ๊กจะอยู่ใต้เบาะหลัง ดังนั้นแล้วจึงต้องถอดเบาะหลังออกก่อน 
  • ให้ใช้ไขควงแฉกไขน๊อตที่มีอยู่ด้วยกัน 4 ตัวออก 
  • ทำการปลดล็อคปลั๊กสีเขียวอ่อนออกทั้งสองข้าง แล้วจึงใช้ประแจขันน็อตที่ตัวปั๊มติ๊กออก
  • ดึงปั๊มติ๊กตัวเก่าออกมาจากนั้นก็นำปั๊มติ๊กตัวใหม่ใส่เข้าไปแทนที่

สนับสนุนบทความดี ๆ โดย Autospinn และติดตามเรื่องรถใหม่ก่อนใครที่มา Kmotor

สนใจ ต่อประกันภัยรถยนต์ ดีๆ จาก แรบบิท แคร์ คลิกเลย


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 99531

แคร์รถยนต์

ที่จอดรถ BTS ใกล้ที่สุดของแต่ละสถานี มีจุดไหนบ้าง

สำหรับคนที่ต้องนำรถยนต์มาใช้บริการที่จอดรถ BTS หรือต้องเลือกลานจอดรถ BTS ใกล้เคียง เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางให้สะดวกสบายมากขึ้น
Natthamon
20/02/2025
Rabbit Care Blog Image 99055

แคร์รถยนต์

เปลี่ยนยางรถยนต์ ต้องพิจารณาเปลี่ยนตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ใช้เวลาเปลี่ยนนานหรือไม่

พอถึงเวลาที่เราใช้รถไปได้สักระยะ ประมาณ 2-3 ปี คำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนยางรถยนต์ หรือเปลี่ยนล้อรถยนต์จะเริ่มเข้ามากวนใจมากขึ้น ยิ่งถ้ายังเป็นรถยนต์คันแรก
Natthamon
03/02/2025
Rabbit Care Blog Image 99327

แคร์รถยนต์

รถกินน้ำมัน เกิดจากอะไร มีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยประหยัดน้ำมัน

รถกินน้ำมัน สิ่งที่ทำให้เจ้าของรถยนต์ทุกคันต่างก็ต้องกุมขมับเพราะถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเสียทรัพย์ ทั้งค่าน้ำมันที่แพงแสนแพง
Natthamon
23/01/2025