แคร์ไลฟ์สไตล์

6 วิธีเช็ครถก่อนออกทริปแคมป์ปิ้ง

ผู้เขียน : Thirakan T
Thirakan T

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology

close
linkedin icon
แก้ไขโดย : Thirakan T
Thirakan T

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology

close
linkedin icon
ตรวจทาน : Nok Srihong
Nok Srihong

มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น

close
linkedin icon
Published: March 2,2022
  
Last edited: February 15, 2024
  
Reviewed: February 19, 2024
วิธีเช็ครถ

ช่วงนี้กระแสแคมป์ปิ้งมาแรง การได้ออกไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดตามป่า เขา ขึ้นดอย ดูทะเลหมอก ก็เหมือนเป็นการพักผ่อน ให้ธรรมชาติบำบัดชาร์จแบตฯให้ร่างกาย โดยเฉพาะอากาศดี ๆ แบบนี้ ต้องรีบจัดทริปแคมป์ปิ้งก่อนหมดหนาว แต่อย่าตื่นเต้นกับการจัดของจนลืมเตรียมรถไปเลยล่ะ เพราะคุณไม่อยากให้การเดินทางของคุณต้องสะดุดจนต้องหัวเสียแน่  เราได้รวบรวม 6 วิธีเช็ครถง่าย ๆ ก่อนออกเดินทางไปแคมป์ปิ้งต่างจังหวัด  เพื่อให้ชัวร์ว่ารถของเราพร้อมที่จะพาเราออกเดินทางได้อย่างสนุกเต็มที่

เช็คลมยางหรือยางรถยนต์

ตรวจเช็คลมยางของรถว่าอยู่ในระดับที่ตรงตามกำหนดหรือไม่ ไม่ควรแข็งเกินไปหรืออ่อนจนเกินไป ตรวจสอบดอกยาง ว่าร่องยังลึกอยู่ ไม่มีรอยแตกร้าวในร่องดอกยางจะมีหน้าที่ช่วยเกาะถนนและรีดน้ำออกจากยางป้องกันการลื่นเมื่อมีฝนตกหรือถนนเปียก พกปั๊มลมฉุกเฉินพกพาเผื่อทับตะปูยางแบนจะได้ขับต่อมาปะยางได้

เช็คน้ำที่ปัดน้ำฝน

ทัศนวิสัยสำคัญมากในการขับรถ คุณคงไม่อยากขับรถที่กระจกหน้าเต็มไปด้วยฝุ่นจนมองไม่เห็นจนอาจเกิดอุบัติเหตุ แต่น้ำเช็ดกระจกหมด ทำความสะอาดไม่ได้เป็นแน่ เติมระดับน้ำที่ปัดน้ำฝนให้อยู่ในระดับที่กำหนดไว้

เช็คระบบไฟส่องสว่าง

ควรมีการเช็คระบบไฟต่าง ๆ ของตัวรถ โดยเฉพาะ ไฟคู่หน้ารถ ไฟเบรกหลัง ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน เพราะหากไฟรถคุณเสีย ทำให้คุณมองไม่เห็น หรือ รถคันอื่นมองไม่เห็นคุณ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้

เช็คห้องเครื่อง

ก้มดูใต้ท้องรถว่ามีน้ำมันอะไรรั่วซึมหรือเปล่า ครบระยะก็ควรนำไปเข้าศูนย์เช็คระยะ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ให้ช่างได้ เช็คระดับของเหลวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเบรก น้ำมันคลัทช์ น้ำมันเครื่อง หรือน้ำมันเกียร์  เพื่อป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ และหมดกังวลปัญหาเครื่องยนต์

เช็คแอร์

คุณคงไม่อยากนั่งในรถแอร์เสียเหมือนห้องอบซาวน่าเคลื่อนที่เป็นแน่ ลองสตาร์ทรถแล้วออกไปขับดูว่าแอร์รถคุณยังเย็นอยู่หรือเปล่า หากแอร์ไม่เย็นก็ไปเติมน้ำยาแอร์ ถ้ายังไม่หายก็ต้องรีบเข้าศูนย์ บางครั้งแบตเตอรี่อ่อนก็ทำให้แอร์ไม่เย็น

เช็คแบตเตอรี่

หัวใจของรถคือแบตเตอรี่ เพราะแบตเตอรี่คือตัวสตาร์ทเครื่องยนต์และจ่ายไฟฟ้าให้รถยนต์ทั้งระบบ หากแบตเตอรี่ของคุณเสื่อม รถคุณอาจสตาร์ทไม่ติดวันเดินทาง หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือสตาร์ทติดตอนออกเดินทางที่บ้าน แต่ไปตายตามปั๊มระหว่างทาง

ควรตรวจเช็คแบตเตอรี่ว่ายังอยู่ในสภาพภาพดีสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ โดยการลองสตาร์ทรถดู สตาร์ทชึ่งเดียวติด หรือ สตาร์ทยาก อืด ๆ หรือ เงียบสนิท ไม่มีไฟขึ้นเลยแสดงว่าแบตเตอรีี่เสื่อมต้องเปลี่ยนลูกใหม่ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเปลี่ยนมาไม่นาน

สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมหมดอายุก่อนเวลาอันควร เป็นเพราะรถไม่ค่อยได้ขับ จอดทิ้งนาน แบตเตอรี่จะมีการคายประจุอยู่ตลอดเวลา หากปล่อยทิ้งไว้นาน แบตเตอรี่จะคายประจุจนหมด

ดังนั้นเมื่อรถของคุณจอดนาน จึงควรแก้ปัญหาที่ต้นแหตุ ด้วยการใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ ที่คอยเติมไฟ เครื่องชาร์จแบตเตอรี่สามารถป้องกันปัญหารถแบตเตอรี่เสื่อมและช่วยให้คุณไม่ต้องเสียอารมณ์ทุกครั้งที่รถสตาร์ทไม่ติด

สำหรับคนที่บอกว่าการวนขับสามารถช่วยปัญหานี้ได้ จริงอยู่ที่การนำรถไปวนขับสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้แต่ต้องขับด้วยความเร็วสูง ให้รอบเครื่องสูงพอและขับนานเป็นชั่วโมง การวนขับในหมู่บ้าน หรือ รถติด ๆ ในกรุงเทพ หรือ สตาร์ททิ้งไว้ แทบไม่ช่วยอะไร กลับทำให้เสียประจุไฟไปมากกว่าเดิมตอนสตาร์ทเสียอีก เป็นการเสียเวลามากกว่า จะดีแค่ไหนหากคุณมีตัวช่วยดูแลแบตเตอรี่รถจอดนานโดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาเอารถไปวนขับ ไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย ๆ หมดปัญหาและความกังวลกับปัญหารถสตาร์ทไม่ติด  ขอแนะนำ เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ อัจฉริยะ CTEK จากสวีเดน รับประกัน 5 ปี ช่วยให้แบตเตอรี่รถคุณมีไฟเต็ม  เหมือนแบตฯใหม่อยู่ตลอด โดยไม่ต้องเอารถไปวนขับ CTEK จากสวีเดน ใช้ง่าย ไม่ต้องถอดขั้วแบตเตอรี่ ทำงานด้วยระบบอัจฉริยะ ตัดอัตโนมัติเมื่อเต็ม ไม่ต้องนั่งเฝ้า ชาร์จทิ้งไว้เป็นเดือนได้เลย ปลอดภัยด้วยระบบป้องกันการคีบสลับขั้ว ไม่เกิดประกายไฟ ปลอดภัยต่อระบบไฟของรถและแบตเตอรี่ CTEK


สรุป

สรุปบทความ

ทั้งหมดนี้คือ 6 วิธีเช็คสภาพรถก่อนออกทริปไปแคมป์ปิ้งต่างจังหวัด คุณควรตรวจเช็ครถก่อนเดินทาง 1-2 สัปดาห์ จะได้มีเวลาแก้ไขหากพบปัญหา ไม่ทำให้แผนการของคุณเสีย พร้อมสำหรับการเดินทางและหมดกังวลเรื่องการขับขี่ในการผจญภัยครั้งถัดไปของคุณ

จบสรุปบทความ
 

บทความแคร์ไลฟ์สไตล์

Rabbit Care Blog Image 96153

แคร์ไลฟ์สไตล์

เอาใจคนชอบมอเตอร์ไซต์ เลือกสรรมอเตอร์ไซค์ที่ใช่สำหรับคุณ

การเลือกมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่รักการขับขี่ เพราะนอกจากจะต้องคำนึงถึงสไตล์และดีไซน์ที่ถูกใจแล้ว ยังต้องพิจารณาถึงสมรรถนะ
Thirakan T
27/08/2024