เสียหายหนักมาก! ไวรัสโคโรน่า กระทบเศรษฐกิจไทยกว่าแสนล้านบาท
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ สร้างความหวาดระแวงให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว มีความรุนแรงในระดับใกล้เคียงกับโรคซาร์ส ที่เคยระบาดเมื่อ 17 ปีก่อน ด้วยเหตุนี้ การแพร่ระบาดของโรคจึงส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ผลกระทบจาก ไวรัสโคโรน่า ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
ผศ.ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ ตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป สถาบันเศรษฐศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยรังสิต ได้เปิดเผยกับแหล่งข่าวเกี่ยวกับเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ จะทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจเอเชียอาจไม่พุ่งสูงอย่างที่คาดไว้
โดยในปีนี้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอาจต่ำกว่า 5.8% ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทยและภาคการท่องเที่ยวรุนแรงกว่าตอนโรคซาร์ส แต่ผลกระทบต่อสุขภาพและอัตราการเสียชีวิตอาจรุนแรงน้อยกว่า เพราะมีมาตรการด้านสาธารณสุขที่ค่อนข้างเข้มงวด และมีประสิทธิภาพการควบคุมโรคที่สูงกว่า
“ผลกระทบทางเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวมีความรุนแรงฉับพลัน มากกว่าตอนโรคซาร์ส เนื่องจากการควบคุมการเดินทางอย่างเข้มงวด การปิดห้ามเข้าออกไปยังเมืองต้นทางของโรคอย่างเมืองอู่ฮั่น เมืองจือเจียง เมืองซื่อปี้ เมืองหวางกาง รวมไปถึงการสั่งห้ามจัดกิจกรรมท่องเที่ยวของทางการจีน”
แม้ว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) จะยังไม่ประกาศให้กรณีแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก แต่ยังต้องคอยติดตามสถานการณ์การปิดเมืองและการเข้า-ออกเมืองในหลายพื้นที่ ว่าจะสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้มากแค่ไหน เป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกและไตรมาสที่สองอาจขยายตัวเพียง 1.8-2.4%
สูญรายได้จากการท่องเที่ยว เพราะเชื้อไวรัสโคโรน่า
ในเบื้องต้นได้คาดว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 80,000-120,000 ล้านบาท หากสามารถทำการควบคุมโรคได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ แต่ถ้ายังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ ก็จะยังไม่สามารถประเมินความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจเอเชียได้
จากเดิมที่รัฐบาลตั้งเป้าให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเป็น 41.8 ล้านคนในปีนี้ แต่การแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนในปีนี้ลดลง 1-2 ล้านคนโดยประมาณ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงอีกไม่ต่ำกว่า 2% ซึ่งเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยว จึงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ทางองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) เปิดเผยว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในจีนส่งผลให้รายได้ของภาคการท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกเติบโตเพิ่มขึ้นไม่เกิน 5% และจะส่งผลกระทบกับรายได้ของธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงกัน ทำให้อัตราการเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยลดลงในปีนี้ รวมทั้งคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวประเทศไทยจะลดลงมากขึ้นด้วยในปีนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลควรปรับกลยุทธ์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนที่กำลังได้รับผลกระทบทั้งจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า และปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ที่มา
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี