เช็กด่วน! สัญญาณอันตราย ก่อนเป็นโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน เรียกได้ว่าเป็นโรคร้ายยอดฮิตในไทย แถมทุกวันนี้ยังมีสถิติโรคเบาหวานในไทยสำหรับวัยรุ่นและวัยทำงานที่เป็นโรคเบาหวานเพิ่มมากขึ้น ว่าแต่อะไรคือสัญญาณอันตรายที่ส่อเค้าก่อนเราจะเป็นเบาหวานกันนะ? มาเช็กสุขภาพด้วยกันเถอะ!
สัญญาณอันตราย ก่อนเป็น “โรคเบาหวาน”
หิวน้ำมากกว่าปกติ ดื่มน้ำบ่อย
แค่หิวน้ำมาก ดื่มน้ำบ่อยกว่าปกติ ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณได้ โดยสาเหตุอาจมาจากการที่ไตไม่สามารถกรองน้ำตาลที่อยู่ในเลือดได้ จนขับออกมาเป็นปัสสาวะในปริมาณมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายเกิดอาการขาดน้ำ และต้องการน้ำมาชดเชยที่สูญเสียกลับเข้าไปทดแทน หากเราปล่อยอาการแบบนี้ไว้นาน ๆ หรือเรื้อรัง ร่างกายจะเกิดภาวะสูญเสียน้ำในปริมาณมาก อาจส่งผลให้ร่างกายมีภาวะช็อกได้ง่ายอีกด้วย
เข้าห้องน้ำบ่อย ปัสสาวะมีปริมาณมาก
ลองสังเกตกันดูหน่อยว่าคุณเข้าห้องน้ำบ่อยแค่ไหน เพราะนี่คือหนึ่งในสัญญาณอันตรายที่ส่อเค้าว่าคุณกำลังจะเป็นเบาหวาน นอกจากที่ร่างกายสูญเสียน้ำ ทำให้เราต้องดื่มน้ำเข้าไปมาก จนต้องเข้าห้องน้ำบ่อยแล้ว อาจจะเนื่องมาจากฮอร์โมนอินซูลินจะเป็นตัวนำน้ำตาลไปยังเซลล์ต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นพลังงาน แต่ในร่างกายผู้ที่เป็นเบาหวานจะพบว่าตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลิน หรือหลั่งออกมาในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อร่างกาย หรือฮอร์โมนอินซูลินที่ผลิตออกมาไม่สามารถทำงานได้ปกติ จึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นกว่าปกติ
สมองไม่แล่น รู้สึกเบลอ
ถ้ารู้สึกว่าช่วงนี้เบลอง่ายกว่าปกติ คิดงานไม่ออก สมองไม่แล่น อาจจะมาจากน้ำตาลกลูโคส ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ช่วยขับเคลื่อนร่างกาย ถูกลำเลียงไปเป็นพลังงานในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ ส่งผลให้สมองเกิดอาการอ่อนล้า ทำงานได้ช้าลง และรู้สึกโรยแรง นอกจากเรื่องสมองไม่แล่น มึน ๆ เบลอ ๆ บ่อยแล้ว เมื่อน้ำตาลไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้อารมณ์แปรปรวนและหงุดหงิดง่ายกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด
หมดเรี่ยวแรง อ่อนเพลีย
ทั้ง ๆ ที่พักผ่อนเพียงพอ และไม่ได้ป่วยไข้แท้ ๆ แต่ถ้าช่วงนี้คุณรู้สึกอ่อนเพลียเป็นพิเศษ อาจจะมาจากการที่ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้เพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย รู้สึกอ่อนเพลียมากกว่าคนปกติ รวมไปถึงอาการปวดขา ปวดเข่า และปวดเมื่อยร่างกายทั้งที่ไม่ได้ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ เสียหน่อย
สายตาแย่ลง มีอาการตาพร่ามัว มองไม่ชัด
อาการทางสายตานี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่อาการในคนที่เป็นเบาหวานส่วนมากจะพบคือ การคั่งของน้ำตาลในเลนส์ตาจนทำให้จอตาผิดปกติ หรือมีระดับน้ำตาลสูงมาเป็นเวลานานจนเกิดความผิดปกติของจอตา จนเป็นที่มาของอาการตาพร่ามัว มองไม่ชัด บางคนอาจจะเห็นแสงวูบวาบ หรือมีอะไรลอยไปมาในดวงตา ส่วนคนที่มีอาการรุนแรงอาจจะถึงขั้นตาบอดได้เลย
มีปัญหาที่ผิวหนัง
ไม่ว่าจะเป็นผิวหนังแห้ง มีอาการคันตามตัว หรือมีแผลหายช้า แม้แต่รอยฟกช้ำที่ใช้เวลาหลายวันกว่าจะทุเลาลง สาเหตุของอาการเหล่านี้ อาจจะมาจากระดับน้ำตาลในร่างกายสูงขึ้น ส่งผลต่อกระบวนรักษาซ่อมแซมของร่างกายที่ช้าลง เนื่องจากเกิดการสะสมของชั้นไขมันที่หนาขึ้น ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี เลือดไปเลี้ยงเซลล์และอวัยวะได้ไม่ดี หลอดเลือดจึงเกิดการแข็งตัวนั่นเอง
ส่วนกรณีที่แผลหายช้ากว่าปกติ ก็มีโอกาสเกิดการติดเชื้อได้เช่นกัน เพราะความสามารถในการกำจัดเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาวลดลง
น้ำหนักลดผิดปกติ
หากน้ำหนักลดลง บางครั้งอาจจะไม่ใช่สัญญาณที่ดี ถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจลดน้ำหนัก คุมอาหารอย่างดี หรือออกกำลังกาย เพราะอาจมาจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันแทนการนำเอาน้ำตาลกลูโคสมาใช้เป็นพลังงาน นอกจากนี้ น้ำตาลกลูโคสบางส่วนถูกขับออกไปทางปัสสาวะเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม อาการน้ำหนักลงผิดปกติมักพบได้ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นส่วนใหญ่ แต่ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มักมีน้ำหนักมากกว่าปกติ
ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุโรคเบาหวานนั้นมีอยู่หลายปัจจัย ส่วนหนึ่งก็มาจากเรื่องของพันธุกรรมที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ช่วงอายุ จนมาถึงเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวันที่เรานั้นอาจไม่ทันได้ให้ความสำคัญ
นอกจากการดูแลสุขภาพของตัวเองแล้ว เพื่อความไม่ประมาท การทำประกันสุขภาพ โดยเฉพาะโรคร้ายแรงอย่างเบาหวานก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเบาหวานเป็นโรคที่พบมากขึ้นแถมยังเป็นได้ทุกช่วงวัย ยังไงก็ลองเข้ามาเปรียบเทียบ ประกันเบาหวาน จาก Rabbit Care เพราะเรามีเบี้ยประกันในราคาคุ้มค่า และยังมีตัวเลือกดี ๆ มากมาย คลิก!
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct