ส่องรถกระบะมือสอง ราคาเบา ๆ ไม่เกินแสน
คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า รถกระบะนั้น สามารถลุยได้ทุกเส้นทาง มีประโยชน์มากมาย สามารถใช้ได้ทั้งการใช้งานแง่บรรทุกสิ่งของ และใช้โดยสารในชีวิตประจำวันได้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ ที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบ และน่าใช้งาน แต่หลายคนมักจะคิดว่า มีราคาแพง และรู้หรือไม่ จริงๆ แล้วยังมีรถกระบะมือสองราคาไม่เกินแสนขาย และใช้งานได้จริงในตลาดรถยนต์มือสองอยู่! ไปดูกันเลยดีกว่า !
ส่องรถกระบะมือสอง ราคาเบาๆ ไม่เกินแสน
Ford Ranger 2.5 SUPER CAB 2003 XL Pickup MT
ราคา 95,000 บาท
Ford Ranger รุ่นปี 2003 ไมเนอร์เชนจ์ ทันสมัยขึ้นมาหน่อย มีแค็ปหลังเปิดได้ พร้อมเกียร์ออโต้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ความจุ 2.5 ลิตร ให้กำลัง 121 แรงม้า
Isuzu TFR 2.5 1995 มังกรทอง Spark EX Pickup MT
ราคา 95,000 บาท
กระบะตอนเดียว เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร รุ่นปรับโฉม ซึ่งเป็นไมเนอร์เชนจ์ โดยมีรุ่นSpark EXรุ่นตอนเดียว,Spacecab SLรุ่นแคปธรรมดา,Spacecab SLXรุ่นแคปตัวทอปภายนอกใส่ล้ออัลลอยด์มีสีเมทาลิกให้เลือกภายในเบาะผ้าชันดีนำเข้าจากญี่ปุ่น ใช้เครื่องยนต์ดีเซลยอดประหยัดน้ำมัน4JA1ไดเรคอินเจคชัน2500cc 90แรงม้าผ่านเกียร์ธรรมดา5สปีดที่ปรับปรุงใหม่
Nissan Frontier 2006 2.7 SINGLE TX Pickup MT
ราคา 100,000 บาท
นิสสัน ฟรอนเทียร์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.7 กระบะตอนเดียวรุ่น TX โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบสปอร์ทไททาเนียม โคมไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวและไฟตัดหมอกเล่นแบบโทนใส สไตล์ มัลทิรีเฟลคเตอร์ ถ่ายทอดกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
หรือสนใจรถกระบะมือสอง หรือรถยนต์มือสองรุ่นอื่นๆ คลิกเลย one2car ที่นี้มีครบ พร้อมให้คุณเลือกอย่างแน่นอน!
ซื้อรถมือสอง จะเลือกซื้อที่ไหนดีนะ ?
โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์มือสองนั้น จะแบ่งออกได้ 2 แบบ หลังๆ และจะมีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละประเภทจะสามารถตอบโจทย์ผู้ซื้อได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งลักษณะของผู้ขายรถยนต์มือสอง มี ดังนี้
- รถบ้าน คือ คนทั่วไป ที่อาจจะอยากขายรถที่ตนเคยใช้แล้วออกทอดตลาด หลักๆ รถยนต์ที่ขายมีไม่มาก และเป็นรถยนต์ทั่วไป บางรายอาจต่อรองราคาได้ไม่ยากนัก
- รถเต็นท์ คือ ผู้ขายมืออาชีพ มีการขายรถมือสองจำนวนหลายๆ คัน มีให้เลือกหลากหลายคัน หลากหลายรุ่น และบางที่มีโปรโมชั่นต่างๆ อีกด้วย เช่น เต็นท์ขายรถ
รถกระบะมือสองควรทำประกันรถยนต์ชั้นไหนดี
สำหรับรถกระบะมือสอง การเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุของรถ สภาพการใช้งาน งบประมาณ และความต้องการด้านความคุ้มครองของเจ้าของรถ โดยทั่วไปแล้ว รถกระบะมักถูกนำไปใช้งานหนัก หรือใช้ในสภาพถนนที่หลากหลาย จึงมีตัวเลือกประกันที่เหมาะสมดังนี้
1. ประกันภัยชั้น 1
- ความเหมาะสม: ประกันชั้น 1 เหมาะสำหรับรถกระบะมือสองที่มีอายุไม่มาก หรืออยู่ในสภาพดีและยังมีมูลค่าสูง โดยเฉพาะหากรถกระบะถูกนำมาใช้บรรทุกสินค้า หรือใช้งานในพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุบ่อย
- ข้อดี: ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด ทั้งการชนที่มีหรือไม่มีคู่กรณี ความเสียหายจากไฟไหม้ การสูญหาย และภัยธรรมชาติ
- ข้อจำกัด: ค่าเบี้ยประกันชั้น 1 สูงที่สุด แต่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองครบทุกด้าน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานหนัก
2. ประกันภัยชั้น 2+
- ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับรถกระบะมือสองที่ใช้งานน้อยลง หรือเจ้าของต้องการความคุ้มครองครอบคลุมในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุกับคู่กรณี รวมถึงการคุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้ แต่ต้องการลดค่าใช้จ่าย
- ข้อดี: ค่าเบี้ยประกันต่ำกว่าชั้น 1 แต่ยังคุ้มครองเหตุการณ์สำคัญ เช่น การชนกับยานพาหนะทางบกที่มีคู่กรณี ไฟไหม้ และการสูญหาย
- ข้อจำกัด: ไม่ครอบคลุมอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่น รถพลิกคว่ำหรือชนสิ่งกีดขวางโดยไม่มีคู่กรณี
3. ประกันชั้น 3+
- ความเหมาะสม: ประกัน 3+ คือ ประกันที่เหมาะสำหรับรถกระบะมือสองที่อายุมากขึ้น หรือมีมูลค่าต่ำลง รถที่ไม่ได้ใช้งานหนักหรือมีความเสี่ยงต่ำ และเจ้าของต้องการประกันภัยที่ราคาประหยัด
- ข้อดี: ให้ความคุ้มครองในกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกที่มีคู่กรณี และมีความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอกในกรณีที่เกิดความเสียหาย
- ข้อจำกัด: ไม่ครอบคลุมการสูญหาย ไฟไหม้ และอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี
- ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับรถกระบะมือสองถ้าหากรถยังมีสภาพดี มีมูลค่าอยู่ และเจ้าของต้องการคุ้มครองที่เพียงพอในราคาประหยัด ประกันชั้น 2 จะให้ความคุ้มครองหลักในกรณีไฟไหม้ การสูญหาย และความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ซึ่งทำให้เหมาะกับการใช้งานทั่วไปของรถกระบะที่อาจไม่จำเป็นต้องมีความคุ้มครองเต็มรูปแบบเหมือนประกันชั้น 1
- ข้อดี: ประกันชั้น 2 จะคุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้สำหรับรถกระบะมักมีความเสี่ยงต่อการสูญหายหรือไฟไหม้ รวมทั้งคุ้มครองบุคคลภายนอกในกรณีเกิดอุบัติเหตุโดยไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยสูงแบบประกันชั้น 1
- ข้อจำกัด: ไม่มีคุ้มครองอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีและกรณีภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม เป็นต้น หากใช้งานรถในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ ควรพิจารณาถึงความจำเป็นนี้ด้วย
5. ประกันชั้น 3
- ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับรถกระบะมือสองที่มีอายุการใช้งานนาน มูลค่าต่ำ และเจ้าของรถต้องการลดค่าใช้จ่ายลงมาก
- ข้อดี: ค่าเบี้ยประกันต่ำสุด เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถน้อย และไม่ต้องการความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุต่อตัวรถของตนเอง แต่เน้นการคุ้มครองบุคคลภายนอก
- ข้อจำกัด: ไม่ครอบคลุมความเสียหายต่อตัวรถของผู้เอาประกันเอง รวมถึงไม่มีคุ้มครองกรณีไฟไหม้และสูญหาย
แต่ถ้าใครอยากจะอัปเดตรถยนต์ใหม่และโปรโมชั่นพิเศษ ต้องที่ one2car.com และอย่าลืมเปรียบเทียบประกันรถยนต์คุ้ม ๆ จาก Rabbit Care
สนับสนุนบทความดี ๆ โดย Autospinn และติดตามทุกเรื่องราวเกี่ยวกับรถคู่ใจที่นี่
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct