รวมทางด่วนฟรีวันไหนบ้าง ปี 2568?

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ เชื่อว่าหลายๆคนคงรอวันนี้อยู่เพราะเป็นช่วงที่ทำให้คุณได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว หรือออกไปเที่ยว แต่บางคนก็มองว่าเป็นช่วงเวลาที่รถติด ทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ กรมทางหลวงได้มีการยกเว้นทางผ่านทางพิเศษหรือทางด่วนฟรี ซึ่งทำให้หลาย ๆ คนสามารถกลับได้ได้สะดวก ง่าย และรวดเร็วมากขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงสงกรานต์มีการเล่นน้ำกัน

น้องแคร์ขอแนะนำให้คุณขับรถด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นได้ วันนี้ แรบบิท แคร์ ได้รวบรวมทางด่วนฟรี มาให้คุณแล้ว ว่าในปี 2568 มีวันหยุดวันไหนบ้าง แล้วทางด่วนฟรีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย!!

ทางด่วนฟรีในช่วงเทศกาลปี 2568 มีกี่สาย?

โดยปกติแล้วทางด่วนที่ถูกกำกับดูแลโดยกระทรวงพิเศษแห่งประเทศไทย จะมีอยู่ ทั้งหมด 8 สาย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล โดยมีระยะทางรวมกว่า 224.60 กิโลเมตร แต่สำหรับทางด่วนฟรีที่จะเปิดให้ขึ้นในช่วงเทศกาลของไทย ปี 2568 มีอยู่ 5 สาย ได้แก่ ทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางด่วนศรีรัช  ทางด่วนอุดรรัถยา ทางด่วนกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) และบูรพาวิถี แต่ละสายของทางพิเศษ มีระยะทางและราคาที่แตกต่างกันออกไป

 

1. ทางด่วนเฉลิมมหานคร

ทางด่วนเฉลิมมหานคร เป็นอีกหนึ่งทางด่วนฟรีซึ่งแบ่งออกเป็น 3 สาย ได้แก่ สายดินแดง-ท่าเรือ, สายบางนา-ท่าเรือ, และสายดาวคะนอง-ท่าเรือ โดยมีรายละเอียดดังนี้

สายดินแดง-ท่าเรือ 

มีระยะทางรวม 8.9 กิโลเมตร โดยเริ่มจากถนนวิภาวดีรังสิต ผ่านแยกต่างระดับมักกะสันและถนนสุขุมวิท เป็นทางยกระดับ 6 ช่องทางจราจร ตั้งแต่ถนนสุขุมวิทจนถึงถนนพระราม 4 จะเป็นทางระดับดิน หลังจากนั้นจะเป็นทางยกระดับอีกครั้งในช่วงถนนพระราม 4 จนถึงทางแยกต่างระดับท่าเรือ 

สายบางนา-ท่าเรือ

มีระยะทางรวม 7.9 กิโลเมตร โดยเริ่มจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 บริเวณทางแยกต่างระดับบางนาจนถึงทางแยกต่างระดับถนนสุขุมวิท ถนนจะมีลักษณะเป็นทางดิน 6 ช่องทางจราจร หลังจากนั้นจะเป็นทางยกระดับตั้งแต่ทางแยกต่างระดับสุขุมวิท จนถึง ทางแยกต่างระดับท่าเรือ 

สายดาวคะนอง-ท่าเรือ

มีระยะทางรวม 10.3 กิโลเมตร โดยเริ่มจากทางแยกต่างระดับท่าเรือ ตั้งแต่ทางแยกต่างระดับบางโคล่ จนถึงสะพานพระราม 9 ถนนจะเป็นทางยกระดับ 6 ช่องจราจร ในขณะที่ ตั้งแต่สะพานพระราม 9 จนถึง ถนนพระราม 2 ถนนจะลดลงเหลือเพียง 4 ช่องทาง 

2. ทางด่วนศรีรัช

ทางด่วนศรีรัช มีเส้นทางทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน ดังนี้

• ส่วนที่ 1 มีระยะทางรวม 12.4 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ถนนรัชดาภิเษก สิ้นสุดที่ถนนพระราม 9
  
• ส่วนที่ 2 มีระยะทางรวม 9.4 กิโลเมตร เริ่มต้นที่โรงกรองน้ำสามเสน ผ่านถนนพระราม4 สิ้นสุดที่บริเวณบางโคล่
  
• ส่วนที่ 3 มีระยะทาง 8 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ถนนรัชดาภิเษก สิ้นสุดที่ถนนแจ้งวัฒนะ
  
• ส่วนที่ 4 มีระยะทาง 8.6 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ถนนพระราม 9 สิ้นสุดที่ถนนศรีนครินทร์

ดังนั้นใครที่มีแพลนจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด สามารถใช้ทางด่วนฟรีศรีรัชได้เลย

3. ทางด่วนอุดรรัถยา

ทางด่วนอุดรรัถยา เป็นอีกหนึ่งทางด่วนฟรี โดยเส้นทางจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ แจ้งวัฒนะ – เชียงราก และ เชียงราก – บางไทร โดยมีรายละเอียดดังนี้

ระยะที่ 1: เส้นทาง แจ้งวัฒนะ – เชียงราก มีระยะทางทั้งหมด 22 กิโลเมตร โดยเส้นทางจะเริ่มต้นเชื่อมกับปลายทางด่วนพิเศษศรีรัช ที่บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ผ่านเมืองทองธานี เพื่อเข้าสู่อำเภอเมืองปทุมธานี ลักษณะถนนจะเป็นทางยกระดับแบบ 4 ช่องจราจร ก่อนที่จะลดระดับเป็นระดับดิน และเข้าสู่อำเภอสามโคก

ระยะที่ 2 : เส้นทาง เชียงราก – บางไทร มีระยะทางทั้งหมด 10 กิโลเมตร จะมีการเชื่อมต่อกับเส้นทางระยะที่ 1 ที่ถนนเชียงราก หลังจากนั้นจะมีทางโค้งไปที่อำเภอบางไทร และสิ้นสุดที่ ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพ บริเวณกิโลเมตรที่ 79 

4. ทางด่วนกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์)

ทางด่วนกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) เป็นอีกหนึ่งทางด่วนฟรีที่เปิดให้วิ่งในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ของไทย มีระยะทางรวม 22.5 กิโลเมตร โดยเส้นทางจะเชื่อมกับวงแหวนกาญจนาภิเษกด้านใต้ โดยเริ่มต้นจากถนนสุขสวัสดิ์ ผ่านสะพานกาญจนาภิเษก และผ่านทางแยกเชื่อมต่อกับสะพานภูมิพล หลังจากนั้นจะไปบวกกับทางหลวงหมายเลข 34 (บางนา – บางปะกง) เพื่อเชื่อมกับทางด่วนบูรพาวิถี บริเวณทางแยกต่างระดับวัดสลุด อำเภอบางพลี

5. ทางด่วนบูรพาวิถี

ทางด่วนบูรพาวิถีมีความยาวรวมทั้งสิ้น 55 กิโลเมตร โดยจะมีการใช้พื้นที่บริเวณเกาะกลางทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 (บางนา – บางปะกง) เพื่อเข้าสู่จังหวัดสมุทรปราการ โดยเส้นทางจะผ่านอำเภอบางพลีบางเสาธง และบางบ่อ เพื่อเข้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยทางด่วนบูรพาวิถีจะสิ้นสุดที่อำเภอเมืองชลบุรี 

ใครที่ต้องการเดินทางในเส้นบางนา – ชลบุรี สามารถใช้ทางด่วนฟรีบูรพาวิถีได้เช่นกัน 

อัตราค่าผ่านทางพิเศษ ในช่วงเวลาปกติ

หากไม่ใช่หน้าเทศกาล คุณจำเป็นต้องจ่ายค่าทางด่วน ซึ่งแต่ละทางด่วนก็จะมีค่าผ่านทางที่แตกต่างกันออกไปกำหนดโดยบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยมีรายละเอียดดังนี้: 

เทศกาลใดบ้างในปี 2568 ที่ทางด่วนเปิดให้ใช้ฟรี?

เทศกาลและวันสำคัญในปี 2568 ที่สามารถใช้ทางด่วนฟรีได้ ได้แก่ ช่วงเทศกาลสงกรานต์, วันฉัตรมงคล, วันเฉลิมพระราชชนี, วันวิสาขบูชา, วันเฉลิม ร. 10, วันอาสาฬหบูชา, วันเข้าพรรษา, วันแม่แห่งชาติ, วันคล้ายวันสวรรคต ร. 9, วันปิยมหาราช, วันพ่อแห่งชาติ, วันรัฐธรรมนูญ และ วันสิ้นปี 

** แต่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นอกจากทางด่วนแล้วยังมีมอเตอร์เวย์ที่เปิดให้วิ่งฟรีอีกด้วย** 

มอเตอร์เวย์ที่เปิดให้วิ่งฟรี มีกี่สาย?

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ นอกจากมีทางด่วนฟรีแล้วก็ยังมีมอเตอร์เวย์ที่เปิดให้วิ่งฟรีมี 4 สาย คือ

1. ปากช่อง – สี่คิ้ว – ขามทะเลสอ – เลี่ยงเมืองนครราชสีมา

ระยะทางรวมทั้งสิน 77 กิโลเมตร โดยคุณสามารถเข้าได้ ณ จุด M6 ทล.2 ที่ กม.65 โดยจุดเข้าออก มีอยู่ทั้งหมด 3 จุด ดังนี้

• จุดที่ 1 – มอเตอร์เวย์ M6 ทล.2 ที่ กม.65 บริเวณศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดฯ
• จุดที่ 2 – มอเตอร์เวย์ M6 ทล.201 ที่ กม.5+500 บริเวณหนองรี ตำบล สีคิ้ว
• จุดที่ 3 – มอเตอร์เวย์ M6 ทล.2068 ที่ กม.8+607 บริเวณพวงพยอม ตำบลขามทะเลสอ

โดยมีจุดอำนวยการบริหารจราจรทั้งหมด 4 จุด และ มีจุดบริการห้องน้ำ 2 จุด 

* ทางด่วนฟรีในช่วงสงกรานต์จะเปิดให้วิ่ง ในวันที่ 11 – 14 เมษายน(ขาออก), และวันที่ 15 – 17 เมษายน(ขาเข้า)

2. กรุงเทพ – พัทยา

สำหรับมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพ – พัทยา หรือทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ค่าผ่านทางจะคิดตามระยะทางจริง ไม่มีค่าแรกเข้า โดยมีรายละเอียดดังนี้

• รถ 4 ล้อ: ค่าผ่านทางสูงสุดจะอยู่ที่ 105 บาทตลอดทั้งเส้นทาง
• รถ 6 ล้อ: ค่าผ่านทางสูงสุดจะอยู่ที่ 170 บาทตลอดทั้งเส้นทาง
• รถ มากกว่า 6 ล้อ: ค่าผ่านทางสูงสุดจะอยู่ที่ 245 บาทตลอดทั้งเส้นทาง
• จุดพักรถมอเตอร์เวย์ บางปะกง (ขาเข้า – ขาออก) เป็นหนึ่งในจุดพักรถยอดนิยมมาก ๆ สำหรับใครที่กำลังเดินทางจากกรุงเทพ ไปชลบุรี-พัทยา 

* ทางด่วนฟรีในช่วงสงกรานต์จะเปิดให้วิ่ง ในวันที่ 11 – 17 เมษายน

3. บางปะอิน – บางพลี 

มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน – บางพลี หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เป็นถนนที่มีเส้นทางเชื่อมต่อกันเป็นวงแหวนล้อมรอบตัวเมืองกรุงเทพมหานคร ซึ่งเส้นทางมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 168 กิโลเมตร มีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางทั้งหมด 4 ด่าน ได้แก่ ทับช้าง1, ทับช้าง2, ธัญบุรี1, และธัญบุรี2 โดยทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 จะแบ่งออกทั้งหมด 3 ช่วง ได้แก่ ถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออก, ถนนกาญจนาภิเษกด้านใต้, กาญจนาภิเษกด้านตะวันตก

* ทางด่วนฟรีในช่วงสงกรานต์จะเปิดให้วิ่ง ในวันที่ 11 – 17 เมษายน

4. บางใหญ่-กาญจนบุรี

มอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี หรือสายนครปฐมฝั่งตะวันตก-ด่านกาญจนบุรี เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 มีระยะทางทั้งหมด 50 กิโลเมตร มีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางทั้งหมด 8 ด่าน ได้แก่ ด่านบางใหญ่, ด่านนครชัยศรี, ด่านศรีษะทอง, ด่านนครปฐมฝั่งตะวันออก, ด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก, ด่านท่ามะกา, ด่านท่าม่วง และด่านกาญจนบุรี โดยปัจจุบัน มอเตอร์เวย์สายนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองใช้งาน

* ทางด่วนฟรีในช่วงสงกรานต์จะเปิดให้วิ่ง ในวันที่ 11 – 17 เมษายน

ถ้าเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน เคลมประกันรถยนต์แต่ละชั้นอย่างไรได้บ้าง

เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน การเคลมประกันรถยนต์สามารถทำได้แตกต่างกันตามชั้นของประกันที่คุณทำไว้ โดยแต่ละชั้นของประกันจะมีเงื่อนไขและการคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 – คุ้มครองเต็มรูปแบบทุกกรณี

• ขั้นตอนการเคลม: หลังเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน ให้โทรแจ้งบริษัทประกันทันที บริษัทประกันจะส่งเจ้าหน้าที่สำรวจภัย (เซอร์เวย์เยอร์) มายังที่เกิดเหตุเพื่อประเมินความเสียหาย
• ความคุ้มครอง: คุ้มครองรถของผู้เอาประกันและคู่กรณี ทั้งในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก รวมถึงกรณีที่ไม่มีคู่กรณี เช่น การชนสิ่งกีดขวางบนทางด่วน หรือรถเสียหายจากการเบรคฉุกเฉินแล้วชนกับสิ่งของ
• ขั้นตอนการเคลมกรณีไม่มีคู่กรณี: หากคุณชนสิ่งของหรือไม่มีคู่กรณี สามารถเคลมประกันได้ แต่คุณอาจต้องจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรก (Deductible) ตามเงื่อนไขของประกัน
• ค่าซ่อมแซม: ประกันชั้น 1 จะรับผิดชอบค่าซ่อมแซมทั้งหมดของรถคุณและรถคู่กรณี รวมถึงค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

2. ประกันรถยนต์ชั้น 2+ – คุ้มครองเฉพาะกรณีมีคู่กรณี

• ขั้นตอนการเคลม: โทรแจ้งบริษัทประกันทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน หากมีคู่กรณี บริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่มาที่เกิดเหตุเพื่อประเมินความเสียหาย และช่วยจัดการเคลมประกัน
• ความคุ้มครอง: คุ้มครองเฉพาะกรณีที่เกิดอุบัติเหตุมีคู่กรณีเท่านั้น เช่น การชนกับรถคันอื่นบนทางด่วน จะครอบคลุมค่าซ่อมแซมรถของคุณและรถคู่กรณี
• กรณีไม่มีคู่กรณี: หากเกิดอุบัติเหตุโดยไม่มีคู่กรณี (เช่น ชนสิ่งของหรือเสียหลักบนทางด่วน) ประกันชั้น 2+ จะไม่ครอบคลุมความเสียหาย

3. ประกันรถยนต์ชั้น 2 – คุ้มครองเฉพาะความเสียหายของคู่กรณี

• ขั้นตอนการเคลม: โทรแจ้งบริษัทประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน โดยบริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรถคู่กรณี
• ความคุ้มครอง: คุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณีในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และความเสียหายต่อทรัพย์สินของคู่กรณี
• ไม่คุ้มครองรถของคุณ: รถของคุณจะไม่ได้รับการซ่อมแซมจากประกันชั้น 2 ในกรณีอุบัติเหตุบนทางด่วน

4. ประกันรถยนต์ชั้น 3+ – คุ้มครองเฉพาะกรณีมีคู่กรณี

• ขั้นตอนการเคลม: หากเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนที่มีคู่กรณี ให้โทรแจ้งบริษัทประกันทันที บริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งกับรถคุณและรถคู่กรณี
• ความคุ้มครอง: คุ้มครองเฉพาะกรณีที่เกิดอุบัติเหตุกับยานพาหนะที่มีคู่กรณี เช่น ชนกับรถคันอื่นบนทางด่วน ประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมแซมทั้งรถคุณและรถคู่กรณี
• กรณีไม่มีคู่กรณี: หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ชนสิ่งกีดขวาง ประกันชั้น 3+ ราคาประหยัด จะไม่คุ้มครองค่าเสียหาย

5. ประกันรถยนต์ชั้น 3 – คุ้มครองเฉพาะความเสียหายของคู่กรณี

• ขั้นตอนการเคลม: โทรแจ้งบริษัทประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน หากคุณเป็นฝ่ายผิด ประกันภัยชั้น 3 จะคุ้มครองเฉพาะค่าซ่อมแซมรถคู่กรณีเท่านั้น
• ความคุ้มครอง: คุ้มครองเฉพาะความเสียหายของรถคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือความเสียหายทางร่างกายของบุคคลภายนอก
• ไม่คุ้มครองรถของผู้เอาประกัน: รถของคุณจะไม่ได้รับการซ่อมแซม ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด

หากคุณมีแพลนจะเดินทางกลับบ้านในเทศกาลวันสงกรานต์เพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ถึงแม้จะมีทางด่วนฟรีแต่เชื่อว่าปริมาณรถก็อาจมีความหนาแน่นบ้างในบางพื้นที่

ดังนั้น อย่าลืมขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน  อย่างไรก็ตามอย่าลังเลที่จะซื้อประกันภัยรถยนต์ติดตัวไว้สักฉบับ เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนน เรามีเจ้าหน้าที่ที่พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนอีกด้วย มีแผนประกันรถยนต์มากมายให้คุณได้เลือกจากบริษัทประกันชั้นนำ โทรเลย 1438