ก่อนซื้อประกันรถยนต์ ต้องเข้าใจอะไรบ้าง
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาการซื้อประกันรถยนต์ ที่สามารถตอบโจทย์คุณได้ทุกความต้องการของคุณ โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับก็คงอาจจะยังสงสัยว่า จะต้องเลือกอย่างไร และมีรายละเอียดอะไรบ้างที่เราต้องรู้ นอกจากได้จะได้รับความคุ้มครองจากอุบัติเหตุจากสิ่งที่เราไม่คาดฝันแล้ว ซึ่งวันนี้ Rabbit Care มีข้อมูลที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์มาฝากกัน
ประกันรถยนต์มีแบบไหนบ้างที่คนขับรถต้องรู้
-
ประกันรถยนต์ภาคบังคับ
หรือที่ที่เรารู้จักกันดีในนามอีกชื่อหนึ่งก็คือ พรบ.รถยนต์ ซึ่งทางกฎหมายได้มีการบังคับให้รถยนต์ทุกประเภทต้องทำประกันภัยรถยนต์ ซึ่งจะคุ้มครองเบื้องต้นขั้นพื้นฐานเมื่อประสบอุบัติเหตุจะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น จทันทีภายใน 7 วัน โดยไม่จำเป็นต้องรอพิสูจน์ความผิด ส่วนการดูแลรักษาพยาบาล กรณีบาดเจ็บตามความเป็นจริงจะได้รับวงเงินคุ้มครอง 30,000 บาท หรือกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพอย่างถาวร วงเงินที่ได้รับความคุ้มครองอยู่ที่คนละ 35,000 บาท เป็นต้น ซึ่งจะได้รับการชดเชยในรูปแบบของค่ารักษาพยาบาลที่ที่กฎหมายได้กำหนดไว้ หรือชดเชยในรูปแบบของเงินชดเชย
ส่วนค่าสินไหมทดแทนจะคุ้มครองให้เฉพาะรถยนต์คันที่เป็นฝ่ายถูกเท่านั้น ถึงจะได้รับความคุ้มครอง กรณีบาดเจ็บ ได้รับค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ วงเงินที่ 80,000 บาท ส่วนกรณีสูญเสียอวัยวะ โดยสูญเสียนิ้วตั้งแต่ข้อนิ้วขึ้นไป จะได้รับความคุ้มครองวงเงิน 200,000 บาท ขณะที่กรณีสูญเสียอวัยวะ โดยสูญเสียมือ, แขนเท้า ขา สายตา หนึ่งข้าง หูหนวก เป็นใบ้ หรือลิ้นขาด หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ฯลฯ วงเงินที่ได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 250,000 บาท นอกจากนี้กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพอย่างถาวร วงเงินที่ได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 500,000 บาท จากเดิมแค่ 300,000 บาท และกรณีรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ได้รับค่าชดเชยรายวันแต่ไม่เกิน 20 วัน เป็นจำนวนเงิน 200 บาท หรือวงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท
-
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ
เป็นประเภทประกันรถยนต์ที่เจ้าของรถยนต์เป็นผู้ซื้อเอง หรือเป็นการซื้อประกันเพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นมากจากกประกันรถยนต์ภาคบังคับ ซึ่งจะสามารถแบ่งออกได้เป็นประเภทต่าง ๆ เป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 2+ ชั้น 3+ ชั้น 3 ซึ่งให้ความคุ้มครองและเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้
- ประกันรถยนต์ชั้น 1
เป็นประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมและการตอบรับเป็นอย่างดี จากรถใหม่ หรือมือใหม่หัดขับ หรือรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี โดยจะให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของรถที่ทำประกันชั้น 1 น้ันจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก เช่น อุบัติเหตุรถชน รถหาย รถโดนโจรกรรม รถโดนไฟไหม้ หรือรถโดนน้ำท่วม สามารถเคลมประกันได้เต็มที่ทั้งหมด แต่ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ประเภทนี้จะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประกันประเภทอื่น ๆ
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2
ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล การประกันตัวผู้ขับขี กรณีรถยนต์สูญหาย รถยนต์ไฟไหม้ รถยนต์ถูกโจรกรรม รวมถึงคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก และความรับผิดต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก
- ประกันรถยนต์ชั้น 2+
ให้คุ้มครองกรณีที่รถมีการชนกันเกิดขึ้นเนื่องจากอุบัติเหตุที่มีการพลิกคว่ำ เฉี่ยว ชน กับยานพาหนะทางบก เท่านั้น รวมถึงรถยนต์สูญหาย รถถูกไฟไหม้ รวมถึงกรณีความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว หรือภัยจากลูกเห็บ เป็นต้น และความรับผิดชอบความเสียหายต่อบุคคลภายนอก เช่น ต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัย ความเสียหายต่อทรัพย์สิน และค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้โดยสารและผู้ขับขี่
- ประกันรถยนต์ชั้น 3
คุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินคู่กรณี และชีวิตร่างกายอนามัยของบุคคลภายนอกและภายในรถ และค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ซึ่งประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองที่มากกว่าประกันรถยนต์ภาคบังคับไม่มากนัก
- ประกันรถยนต์ชั้น 3+
คุ้มครองเฉพาะรถชนกับพาหนะทางบกจากอุบัติเหตุที่มีการเฉี่ยว ชน หรือ พลิกคว่ำ รวมถึงรถยนต์สูญหาย รถยนต์ถูกไฟไหม้ และชีวิตร่างกายอนามัยของบุคคลภายนอกและภายในรถ
ซื้อประกันรถยนต์ต้องเปรียบเทียบดูอะไรบ้าง
-
เช็คเบี้ยประกันเปรียบเทียบ
ค่าเบี้ยประกันแต่ละบริษัทนั้นย่อมมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งก่อนที่จะทำการซื้อประกันรถยนต์ต้องต้่องทำการตรวจสอบอย่างน้อย 4 – 5 บริษัทขึ้นไป เพื่อให้เจ้าของรถได้ประกันรถยนต์ที่ดีและสามารถตอบโจทย์ตัวเองได้มากที่สุด และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราอาจเช็คประกันรถยนต์ผ่านทางออนไลน์ หรือคลิกเข้ามาที่เวบไซด์ Rabbit Care ช่องทางออนไลน์ที่จะทำให้คุณเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้
-
เช็คบริษัทประกันรถยนต์
จะเลือกซื้อประกันรถยนต์ทั้งทีอย่ามองแค่ชื่อแบรนด์ แต่ต้องเลือกบริษัทที่มีความมั่นคง และมีความน่าเชื่อถือ โดยอาจจะลองค้นหาข้อมูลในเวบไซด์ว่า บริษัทที่เราจะซื้อมีปัญหาด้านการเงิน หรือประสบกับภาวะเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง รวมถึงมีการีวิว ว่ามีการพูดถึงเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจได้ไม่ยากสักเท่าไร
-
เช็คซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่
ประกันรถยนต์บางบริษัทจะมีระบุสัญญาชัดเจนว่า เจ้าของรถหรือผู้ขับขึ่สามารถนำรถยนต์เข้าส่งซ่อมได้ที่ใดบ้าง บางบริษัทอาจจะซ่อมที่ศูนย์บริการแบรนด์รถยนต์ของผู้เอาประกันนั้น ๆ หรือบางบริษัทอาจจะส่งซ่อมที่อู่รถยนต์ทั่วไป โดยอู่ซ่อมรถจะแบ่งออกมาเป็นอู่นอกและอู่ใน ซึ่งก็ต้องทำการพิจารณาให้ถี่ถ้วน
-
เช็คความสะดวกในการติดต่อ
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เจ้าของรถยนต์อาจจะต้องการขอความช่วยเหลือจากบริษัทประกันเป็นการเร่งด่วน ถ้าหากติดต่อยากลำบากอาจทำให้เราไม่ค่อยสบายใจมากนัก ในเวลาคับขัน จึงเป็นอีกหนึ่งข้อที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อประกันรถยนต์ด้วย
สนใจซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ที่ Rabbit Care
มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี