แคร์รถยนต์

ที่ปัดน้ำฝน อุปกรณ์ชิ้นสำคัญ รวมสาระควรรู้ที่ห้ามพลาด

ผู้เขียน : ใบไม้ร่าเริง
ใบไม้ร่าเริง

มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี

close
แก้ไขโดย : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
 
Published: October 22,2020
  
Last edited: August 12, 2024
ที่ปัดน้ำฝน

ที่ปัดน้ำฝน หรือ ใบปัดน้ำฝน อุปกรณ์ติดรถชิ้นสำคัญที่มีมาให้ในรถทุกรุ่น ถ้าคุณมีปัญหาจากทัศนวิสัยการมองเห็นระหว่างขับรถที่เข้าขั้นแย่ ไม่ว่าจะเป็นจากน้ำ น้ำฝน หรือฝุ่นต่าง ๆ ที่ปัดน้ำฝนนี้แหละคือตัวช่วยที่จะเข้ามาจัดการกับปัญหานี้

ซึ่งในแต่ละวันเราจะต้องใช้งานเจ้าที่ปัดน้ำฝนกันอย่างแน่นอน ก็ถือเป็นเรื่องดีที่น้องแคร์จะขอถือโอกาสนี้แนะนำให้กับเพื่อน ๆ ที่ใช้รถทุกท่านได้รู้จักกับที่ปัดน้ำฝนกันให้มากขึ้น พาไปดูกันว่าก้านปัดน้ำฝนมีวิธีการดูและรักษาอย่างไร อะไรเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง วิธีการเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน รวมไปถึงตอบคำถามอย่างใบปัดน้ำฝน ยี่ห้อไหนดี? และอีกนานสาระความรู้มากมายที่จะทำให้ทุกคนได้รู้จักกับอุปกรณ์อย่างที่ปัดน้ำฝนกันให้มากขึ้น

ที่ปัดน้ำฝนทำหน้าที่อะไร

ที่ปัดน้ำฝน คือ อุปกรณ์มาตราฐานที่ติดอยู่บนตัวรถ โดยที่ปัดน้ำฝนหรือใบปัดน้ำฝนมีหน้าที่ในการปัดน้ำ ปัดน้ำฝน ปัดฝุ่นละออง เศษใบไม้ สิ่งสกปรกและคราบต่าง ๆ ที่เกาะติดอยู่บนกระจกรถด้านหน้า รวมไปถึงรถบางรุ่นที่มีใบปัดน้ำฝนติดอยู่ด้านหลัง โดยเป็นการเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

ส่วนประกอบและประเภทของที่ปัดน้ำฝน

เพื่อเป็นการทำความรู้จักกับที่ปัดน้ำฝนให้ดียิ่งขึ้น เราจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับโครงสร้างและส่วนประกอบของที่ปัดน้ำฝน ว่าใน 1 ชิ้นประกอบไปด้วยชิ้นส่วนใดบ้าง และพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับใบปัดน้ำฝนที่มีการแบ่งออกเป็นไว้รุ่นต่าง ๆ ด้วยกัน

ส่วนประกอบของที่ปัดน้ำฝน

  • โครง : ก้านใบหรือแขนใบพัด ทำหน้าที่เป็นตัวยึด และที่ติดแผ่นยาง
  • ยาง : ทำหน้าที่กวาดผิวหน้ากระจกให้สะอาดเพิ่มการมองเห็น
  • ตัวล็อก : ยึดระหว่างแขนกับก้านปัดน้ำฝน
  • ชุดสปริงแผ่น : หรือที่เรียกว่าแหนบ ช่วยกดให้แผ่นยางแนบสนิทกับกระจก

ประเภทของที่ปัดน้ำฝน

  • ใบปัดน้ำฝนแบบมีโครงเหล็ก (Conventional Wiper Blade) :

เป็นที่ปัดแบบที่เป็นโครงเหล็กยึดกับตัวแผ่นยาง ทนทานสูง ประสิทธิภาพการปัดน้ำฝนจะขึ้นอยู่กับคุณภาพยาง และจุดข้อต่อบนโครง ยุ่งจุดมากยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพไๆด้ดี

  • ใบปัดน้ำฝนแบบซ่อนแขนใบพัด (Semi Concealed Wiper Blade) :

โครงสร้างคล้ายแบบแรก เพิ่มประสิทธิภาพ มีที่ครอบโครงเพิ่มความสวยงาม

  • ใบปัดน้ำฝนแบบไร้โครงเหล็ก (Flat Blade) :

ไร้โครงหรือแขนใบพัด แต่เพิ่มการกระจายน้ำหนักได้ดีขึ้น เป็นที่ปัดน้ำฝนที่มีน้ำหนักเบาและลดการต้านลมในขณะที่ขับรถด้วยความเร็วสูง

ขับรถ ขณะที่ปัดน้ำฝนทำงาน

วิธีบำรุงดูแลที่ปัดน้ำฝนยืดอายุการใช้

เพิ่มยืดอายุการใช้งานให้กับที่ปัดน้ำฝนให้มีการใช้งานที่ยาวนานขึ้น สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1. จอดรถในที่ร่ม

ความร้อนเป็นศัตรูตัวร้ายของยาง เพื่อลดการเสริมสภาพควรจอดรถในที่ร่ม

2. หมั่นทำความสะอาดที่ปัดน้ำฝนและกระจกรถ

ทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง โดยน้ำผ้าชุบน้ำสะอาดบิดให้หมาด จากนั้นเช็ดตัวก้านไปในทางเดียว พร้อมกับเช็กสภาพของตัวยาง นอกจากนี้ให้ทำความสะอาดกระจกบังลมทั้งหน้าและหลังให้สะอาด ขจัดสิ่งสกปรก ลดภาระของก้านปัดโดยเลือกใช้น้ำยาเฉพาะเพื่อถนอมตัวยางปัดน้ำฝน

3. หลีกเลี่ยงการโดนน้ำยาล้างรถ

ในน้ำยางล้างรถอาจมีสารบางอย่างที่ทำให้ยางของที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพได้

4. หลีกเลี่ยงการใช้ที่ปัดน้ำฝนโดยไม่มีน้ำ

ก้านปัดน้ำฝนถูกออกแบบมาให้ใช้ในสภาพเปียกมีน้ำ หากใช้แบบแห้งไม่มีน้ำจะส่งผลต่อการเสื่อมสภาพได้

5. หมั่นตรวจเช็กสภาพของที่ปัดน้ำฝน

ตรวจสอบภาพโดยรวมของที่ปัดรวมไปถึงยางว่าอยู่ในสภาพดีไหม เพราะที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพนอกจากจะใช้งานไม่ดีแล้วยังอาจทำให้กระจกเสียหายได้ด้วย สามารถเช็กได้ด้วยตา การสัมผัส หรือจะส่งให้ศูนย์หรืออู่รถชั้นนำ

6. ห้ามยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นมาตากแดด

หนึ่งในความเชื่อผิด ๆ อย่างการยกใบปัดน้ำฝนจากแดดเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะนอกจากอาจจะทำให้ยางเสื่อมสภาพแล้ว ยังอาจส่งผลให้สปริงที่ยึดอยู่เสื่อมสภาพด้วย

สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนได้แล้ว

หลาย ๆ คนอาจเกิดคำถามขึ้นว่าแล้วเมื่อไหรจึงจะเป็นเวลาที่ควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน ลองเช็กจากสัญญาณเตือนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อก้านปัดน้ำฝนสื่อมสภาพดังนี้

  • ใบปัดทำงานไม่เป็นจังหวะ มีอาการกระตุกขณะใช้งาน
  • ที่ปัดน้ำฝนมีเสียงขณะเสียดสีกับกระจก
  • ปัดฝนแล้วเกิดเป็นริ้ว ปาดได้ไม่เรียบ ปัดแล้วไม่สะอาด
  • มีรอยแยกระหว่างการปัดน้ำฝน

อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ

เมื่อมีการใช้งานที่ปัดน้ำฝนเป็นประจำก็หลีกเลี่ยงการเสื่อมสภาพไปไม่ได้ โดยปัจจัยของการเสื่อมสภาพนั้นมีหลายอย่างด้วยกัน ไปดูกันว่าสาเหตุในการเสื่อมสภาพของใบปัดน้ำฝนจะมีอะไรบ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อยืดอายุการใช้งาน

1. การเสื่อมสภาพจากการใช้งานตามกาลเวลา

เรียกได้ว่าเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้น ต่อให้เราดูแลที่ปัดน้ำฝนดีแค่ไหนก็ต้องเสื่อมตามกาลเวลาเป็นเรื่องปกติ โดยที่ปัดน้ำฝนจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 6 เดือน – 1 ปี

2. ความร้อน

ความร้อนส่งผลกระทบโดยตรงกับยางที่ก้านปัดน้ำฝน ซึ่งจะเป็นตัวเร่งให้กับยางนั่นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

3. สารเคมีบางอย่าง

น้ำยาที่มีส่วนผสมของแอลอฮอล์เป็นอีกหนึ่งตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ โดยอาจจะพบได้ในน้ำยาล้างรถบางสูตร ดังนั้นหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างรถกับที่ปัดน้ำฝนไว้จะดีที่สุด

4. สิ่งสกปรกต่าง ๆ 

ฝุ่น ดินโคลน กิ่งไม้ เศษหิน แมลง รวมไปถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพได้ โดยสิ่งพวกนี้อาจจะทำให้ตัวยาง ก้านใบพัด หรือกระจกเกิดความเสียหายเมื่อมีการใช้งานปัดน้ำฝนแล้วสิ่งสกปรกต่าง ๆ เกิดการเสียดสี เราจึงควรทำความสะอาดคราบสกปรกให้หมดไปนั่นเอง

ช่างเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน

วิธีเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนแบบง่าย ๆ 

สำหรับใครที่เช็กสภาพที่ปัดน้ำฝนแล้วดูท่าทางว่าจะต้องเปลี่ยนแล้วล่ะก็ วันนี้แคร์จะมาแนะนำวิธีเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนแบบง่าย ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็สามารถทำตามได้อย่างแน่นอน ถ้าทุกคนพร้อมแล้วมาดูกันได้เลย

เปลี่ยนใบปัดน้ำฝน

  • ยกก้านปัดน้ำฝนตั้งขึ้นมา
  • หมุนใบปัดน้ำฝนให้เป็นรูปตัว T ทำมุม 90 องศากับก้านปัด
  • บีบตัวล็อกพร้อมกับดึงใบปัดน้ำฝนออกมา
  • เปลี่ยนนำเอาใบปัดน้ำฝนอันใหม่เสียบเข้าไปแทนที่ที่ก้านปัด 
  • จัดใส่ที่ล็อกให้เรียบร้อย

เปลี่ยนยางปัดน้ำฝน

  • ยกก้านขึ้น หมุนก้าน ปลอดล็อกแล้วถอดใบปัดออกมา
  • ถอดยางปัดน้ำฝนออก
  • ดึงแท่งเหล็กออกมาจากยางปัดน้ำฝนอัน
  • ใส่ยางใหม่กับที่ปัดน้ำฝน
  • ใส่แท่งเหล็ก กลับเข้าไปในยางปัดน้ำฝนชิ้นใหม่
  • ตัดยางส่วนเกินออกมาจากที่ปัดน้ำฝน 
  • ประกอบก้านปัดน้ำฝนเข้ากลับที่เดิม

วิธีเลือกซื้อที่ปัดน้ำฝน

สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนอันใหม่แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี เรามีทริคการเลือกซื้อก้านปัดน้ำฝนแบบง่าย ๆ มาฝาก ไปดูกันว่าวิธีการเลือกซื้อจะเป็นอย่างไรบ้าง

1. เลือกซื้อให้ตรงรุ่น

อย่างแรกที่ต้องดูในการเลือกซื้อที่ปัดน้ำฝนเลยก็คือเรื่องของขนาด เนื่องจากในรถแต่ละรุ่นมีขนาดกระจกบานหน้าที่ต่างกัน การเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนจึงควรเลือกซื้อให้เหมาะกัน

2. วัสดุที่ใช้

เลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน ยืดหยุ่นสูง สามารถทนต่อการใช้งาน รวมถึงทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี

3. คุณภาพของยาง

ยางต้องรับเข้ากับความโค้งของกระจก เลือกยางสูตรที่เหมาะกับประเทศในเขตร้อน สามารถทนทั้งความร้อนและรังสี UV ได้ดี

4. ซื้อกับแบรนด์ใหญ่ได้คุณภาพ

การซื้อกับแบรนด์ใหญ่เป็นเครื่องยืนยันได้ดีในเรื่องของคุณภาพ ความมีมาตรฐานในการผลิตที่สูง และยังมาพร้อมกับบริการหลังการขายที่ดีอีกด้วย

ซื้อใบปัดน้ำฝน ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะซื้อใบปัดน้ำฝน ยี่ห้อไหนดีอยู่ล่ะก็ เราได้รวบรวมเอาแบรนด์และรุ่นของใบปัดน้ำฝนที่มีคุณภาพมาไว้ให้ทุกคนแล้ว จะมีรุ่นไหนที่ไหนที่น่าสนใจบ้างไปดูกันได้เลย

  • 3M™ ใบปัดน้ำฝน รุ่นก้านสแตนเลส
  • 3M™ ใบปัดน้ำฝน รุ่น เฟรมเลส
  • Bosch Rear
  • Bosch Advantage
  • Bosch Clear Advantage
  • Bosch Aerotwin
  • Michelin Hydroedge Hybrid
  • BLAUPUNKT Premium Wiper Blade
  • BLAUPUNKT Velocity Wiper Blade
  • DENSO Wiper blade
  • Waca Q9
  • Guide Beyond

ห้ามพลาด! ประกันรถชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 1,000.-/เดือน

รถของคุณยี่ห้ออะไร

< กลับไป
< กลับไป

ระบุยี่ห้อรถของคุณ

ระบุปีผลิตรถของคุณ

ที่ปัดน้ำฝนเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ที่ช่วยในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นให้ยิ่งขึ้น การดูแลรักษาก็ไม่ได้มีความยุ่งยากอย่างที่ทุก ๆ คนคิด ดังนั้นเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น อย่าลืมทำตามคำแนะนำที่เราได้ให้ไว้

และใครอยากซื้อรถยนต์ เข้าไปอัปเดตรถยนต์ใหม่ ราคาดี และซื้อขายสะดวกสบาย ที่ one2car.com สนับสนุนบทความดี ๆ โดย Autospinn อย่าลืมติดตามเรื่องรถใหม่-รถมือสองก่อนใครที่นี่ และพบกับประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ข้อเสนอสุดพิเศษจาก แรบบิท แคร์

โดยที่ตัวประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้มีติดรถกันไว้เพราะว่านี้เป็นประกันภัยรถยนต์ที่มอบความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุดทั้งคุณและคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวคนขับหรือรถยนต์ก็ตาม ให้ความคุ้มครองจากภัยพิบัติ ไฟไหม้รถ และรถถูกขโมย โดยยังมาพร้อมกับบริการสุดพิเศษอย่างบริการช่วยเหลือฉุกเฉินอย่างรถยก-รถสไลด์ตลอด 24 ชั่วโมง หากสนใจก็สามารถสมัครง่าย ๆ ได้ที่แรบบิท แคร์


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 96528

แคร์รถยนต์

น้ำหยดใต้ท้องรถ เกิดจากอะไร? แบบไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ

เคยสังเกตกันไหมว่าเวลาที่เราจอดรถยนต์นิ่งสนิท บางครั้งจะมีน้ำหยดใต้ท้องรถลงมาด้วย ซึ่งจะมากหรือน้อยเราไม่อาจคาดเดาได้เลยหากไม่ทำความเข้าใจ
Natthamon
19/11/2024
Rabbit Care Blog Image 97244

แคร์รถยนต์

เอารถเข้าศูนย์ เช็คระยะ ทำยังไง ต้องจองล่วงหน้าไหม ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเท่าไหร่

หลังจากที่ออกรถมาใหม่ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับการเอารถเข้าศูนย์ เพื่อเช็กระยะตามที่ทางศูนย์ได้กำหนดเอาไว้
Natthamon
11/11/2024
Rabbit Care Blog Image 96140

แคร์รถยนต์

กุญแจรถแบตหมดกระทันหัน แก้ไขปัญหาได้ด้วยวิธีไหน

กลัวไหมกับการที่กุญแจรถแบตหมดแบบกระทันหัน โดยที่เราไม่ได้ตั้งตัว จนเกิดความกังวลว่ามันจะทำให้เราไม่สามารถเปิดรถได้ตามปกติ หรือสตาร์ทรถไปไหนไม่ได้เลย
Natthamon
29/10/2024