ที่ปัดน้ำฝน อุปกรณ์ชิ้นสำคัญ รวมสาระควรรู้ที่ห้ามพลาด
ที่ปัดน้ำฝน หรือ ใบปัดน้ำฝน อุปกรณ์ติดรถชิ้นสำคัญที่มีมาให้ในรถทุกรุ่น ถ้าคุณมีปัญหาจากทัศนวิสัยการมองเห็นระหว่างขับรถที่เข้าขั้นแย่ ไม่ว่าจะเป็นจากน้ำ น้ำฝน หรือฝุ่นต่าง ๆ ที่ปัดน้ำฝนนี้แหละคือตัวช่วยที่จะเข้ามาจัดการกับปัญหานี้
ซึ่งในแต่ละวันเราจะต้องใช้งานเจ้าที่ปัดน้ำฝนกันอย่างแน่นอน ก็ถือเป็นเรื่องดีที่น้องแคร์จะขอถือโอกาสนี้แนะนำให้กับเพื่อน ๆ ที่ใช้รถทุกท่านได้รู้จักกับที่ปัดน้ำฝนกันให้มากขึ้น พาไปดูกันว่าก้านปัดน้ำฝนมีวิธีการดูและรักษาอย่างไร อะไรเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง วิธีการเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน รวมไปถึงตอบคำถามอย่างใบปัดน้ำฝน ยี่ห้อไหนดี? และอีกนานสาระความรู้มากมายที่จะทำให้ทุกคนได้รู้จักกับอุปกรณ์อย่างที่ปัดน้ำฝนกันให้มากขึ้น
ที่ปัดน้ำฝนทำหน้าที่อะไร
ที่ปัดน้ำฝน คือ อุปกรณ์มาตราฐานที่ติดอยู่บนตัวรถ โดยที่ปัดน้ำฝนหรือใบปัดน้ำฝนมีหน้าที่ในการปัดน้ำ ปัดน้ำฝน ปัดฝุ่นละออง เศษใบไม้ สิ่งสกปรกและคราบต่าง ๆ ที่เกาะติดอยู่บนกระจกรถด้านหน้า รวมไปถึงรถบางรุ่นที่มีใบปัดน้ำฝนติดอยู่ด้านหลัง โดยเป็นการเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
ส่วนประกอบและประเภทของที่ปัดน้ำฝน
เพื่อเป็นการทำความรู้จักกับที่ปัดน้ำฝนให้ดียิ่งขึ้น เราจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับโครงสร้างและส่วนประกอบของที่ปัดน้ำฝน ว่าใน 1 ชิ้นประกอบไปด้วยชิ้นส่วนใดบ้าง และพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับใบปัดน้ำฝนที่มีการแบ่งออกเป็นไว้รุ่นต่าง ๆ ด้วยกัน
ส่วนประกอบของที่ปัดน้ำฝน
- โครง : ก้านใบหรือแขนใบพัด ทำหน้าที่เป็นตัวยึด และที่ติดแผ่นยาง
- ยาง : ทำหน้าที่กวาดผิวหน้ากระจกให้สะอาดเพิ่มการมองเห็น
- ตัวล็อก : ยึดระหว่างแขนกับก้านปัดน้ำฝน
- ชุดสปริงแผ่น : หรือที่เรียกว่าแหนบ ช่วยกดให้แผ่นยางแนบสนิทกับกระจก
ประเภทของที่ปัดน้ำฝน
- ใบปัดน้ำฝนแบบมีโครงเหล็ก (Conventional Wiper Blade) :
เป็นที่ปัดแบบที่เป็นโครงเหล็กยึดกับตัวแผ่นยาง ทนทานสูง ประสิทธิภาพการปัดน้ำฝนจะขึ้นอยู่กับคุณภาพยาง และจุดข้อต่อบนโครง ยุ่งจุดมากยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพไๆด้ดี
- ใบปัดน้ำฝนแบบซ่อนแขนใบพัด (Semi Concealed Wiper Blade) :
โครงสร้างคล้ายแบบแรก เพิ่มประสิทธิภาพ มีที่ครอบโครงเพิ่มความสวยงาม
- ใบปัดน้ำฝนแบบไร้โครงเหล็ก (Flat Blade) :
ไร้โครงหรือแขนใบพัด แต่เพิ่มการกระจายน้ำหนักได้ดีขึ้น เป็นที่ปัดน้ำฝนที่มีน้ำหนักเบาและลดการต้านลมในขณะที่ขับรถด้วยความเร็วสูง
วิธีบำรุงดูแลที่ปัดน้ำฝนยืดอายุการใช้
เพิ่มยืดอายุการใช้งานให้กับที่ปัดน้ำฝนให้มีการใช้งานที่ยาวนานขึ้น สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1. จอดรถในที่ร่ม
ความร้อนเป็นศัตรูตัวร้ายของยาง เพื่อลดการเสริมสภาพควรจอดรถในที่ร่ม
2. หมั่นทำความสะอาดที่ปัดน้ำฝนและกระจกรถ
ทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง โดยน้ำผ้าชุบน้ำสะอาดบิดให้หมาด จากนั้นเช็ดตัวก้านไปในทางเดียว พร้อมกับเช็กสภาพของตัวยาง นอกจากนี้ให้ทำความสะอาดกระจกบังลมทั้งหน้าและหลังให้สะอาด ขจัดสิ่งสกปรก ลดภาระของก้านปัดโดยเลือกใช้น้ำยาเฉพาะเพื่อถนอมตัวยางปัดน้ำฝน
3. หลีกเลี่ยงการโดนน้ำยาล้างรถ
ในน้ำยางล้างรถอาจมีสารบางอย่างที่ทำให้ยางของที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพได้
4. หลีกเลี่ยงการใช้ที่ปัดน้ำฝนโดยไม่มีน้ำ
ก้านปัดน้ำฝนถูกออกแบบมาให้ใช้ในสภาพเปียกมีน้ำ หากใช้แบบแห้งไม่มีน้ำจะส่งผลต่อการเสื่อมสภาพได้
5. หมั่นตรวจเช็กสภาพของที่ปัดน้ำฝน
ตรวจสอบภาพโดยรวมของที่ปัดรวมไปถึงยางว่าอยู่ในสภาพดีไหม เพราะที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพนอกจากจะใช้งานไม่ดีแล้วยังอาจทำให้กระจกเสียหายได้ด้วย สามารถเช็กได้ด้วยตา การสัมผัส หรือจะส่งให้ศูนย์หรืออู่รถชั้นนำ
6. ห้ามยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นมาตากแดด
หนึ่งในความเชื่อผิด ๆ อย่างการยกใบปัดน้ำฝนจากแดดเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะนอกจากอาจจะทำให้ยางเสื่อมสภาพแล้ว ยังอาจส่งผลให้สปริงที่ยึดอยู่เสื่อมสภาพด้วย
สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนได้แล้ว
หลาย ๆ คนอาจเกิดคำถามขึ้นว่าแล้วเมื่อไหรจึงจะเป็นเวลาที่ควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน ลองเช็กจากสัญญาณเตือนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อก้านปัดน้ำฝนสื่อมสภาพดังนี้
- ใบปัดทำงานไม่เป็นจังหวะ มีอาการกระตุกขณะใช้งาน
- ที่ปัดน้ำฝนมีเสียงขณะเสียดสีกับกระจก
- ปัดฝนแล้วเกิดเป็นริ้ว ปาดได้ไม่เรียบ ปัดแล้วไม่สะอาด
- มีรอยแยกระหว่างการปัดน้ำฝน
อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ
เมื่อมีการใช้งานที่ปัดน้ำฝนเป็นประจำก็หลีกเลี่ยงการเสื่อมสภาพไปไม่ได้ โดยปัจจัยของการเสื่อมสภาพนั้นมีหลายอย่างด้วยกัน ไปดูกันว่าสาเหตุในการเสื่อมสภาพของใบปัดน้ำฝนจะมีอะไรบ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อยืดอายุการใช้งาน
1. การเสื่อมสภาพจากการใช้งานตามกาลเวลา
เรียกได้ว่าเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้น ต่อให้เราดูแลที่ปัดน้ำฝนดีแค่ไหนก็ต้องเสื่อมตามกาลเวลาเป็นเรื่องปกติ โดยที่ปัดน้ำฝนจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 6 เดือน – 1 ปี
2. ความร้อน
ความร้อนส่งผลกระทบโดยตรงกับยางที่ก้านปัดน้ำฝน ซึ่งจะเป็นตัวเร่งให้กับยางนั่นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
3. สารเคมีบางอย่าง
น้ำยาที่มีส่วนผสมของแอลอฮอล์เป็นอีกหนึ่งตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ โดยอาจจะพบได้ในน้ำยาล้างรถบางสูตร ดังนั้นหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างรถกับที่ปัดน้ำฝนไว้จะดีที่สุด
4. สิ่งสกปรกต่าง ๆ
ฝุ่น ดินโคลน กิ่งไม้ เศษหิน แมลง รวมไปถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพได้ โดยสิ่งพวกนี้อาจจะทำให้ตัวยาง ก้านใบพัด หรือกระจกเกิดความเสียหายเมื่อมีการใช้งานปัดน้ำฝนแล้วสิ่งสกปรกต่าง ๆ เกิดการเสียดสี เราจึงควรทำความสะอาดคราบสกปรกให้หมดไปนั่นเอง
วิธีเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนแบบง่าย ๆ
สำหรับใครที่เช็กสภาพที่ปัดน้ำฝนแล้วดูท่าทางว่าจะต้องเปลี่ยนแล้วล่ะก็ วันนี้แคร์จะมาแนะนำวิธีเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนแบบง่าย ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็สามารถทำตามได้อย่างแน่นอน ถ้าทุกคนพร้อมแล้วมาดูกันได้เลย
เปลี่ยนใบปัดน้ำฝน
- ยกก้านปัดน้ำฝนตั้งขึ้นมา
- หมุนใบปัดน้ำฝนให้เป็นรูปตัว T ทำมุม 90 องศากับก้านปัด
- บีบตัวล็อกพร้อมกับดึงใบปัดน้ำฝนออกมา
- เปลี่ยนนำเอาใบปัดน้ำฝนอันใหม่เสียบเข้าไปแทนที่ที่ก้านปัด
- จัดใส่ที่ล็อกให้เรียบร้อย
เปลี่ยนยางปัดน้ำฝน
- ยกก้านขึ้น หมุนก้าน ปลอดล็อกแล้วถอดใบปัดออกมา
- ถอดยางปัดน้ำฝนออก
- ดึงแท่งเหล็กออกมาจากยางปัดน้ำฝนอัน
- ใส่ยางใหม่กับที่ปัดน้ำฝน
- ใส่แท่งเหล็ก กลับเข้าไปในยางปัดน้ำฝนชิ้นใหม่
- ตัดยางส่วนเกินออกมาจากที่ปัดน้ำฝน
- ประกอบก้านปัดน้ำฝนเข้ากลับที่เดิม
วิธีเลือกซื้อที่ปัดน้ำฝน
สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนอันใหม่แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี เรามีทริคการเลือกซื้อก้านปัดน้ำฝนแบบง่าย ๆ มาฝาก ไปดูกันว่าวิธีการเลือกซื้อจะเป็นอย่างไรบ้าง
1. เลือกซื้อให้ตรงรุ่น
อย่างแรกที่ต้องดูในการเลือกซื้อที่ปัดน้ำฝนเลยก็คือเรื่องของขนาด เนื่องจากในรถแต่ละรุ่นมีขนาดกระจกบานหน้าที่ต่างกัน การเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนจึงควรเลือกซื้อให้เหมาะกัน
2. วัสดุที่ใช้
เลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน ยืดหยุ่นสูง สามารถทนต่อการใช้งาน รวมถึงทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี
3. คุณภาพของยาง
ยางต้องรับเข้ากับความโค้งของกระจก เลือกยางสูตรที่เหมาะกับประเทศในเขตร้อน สามารถทนทั้งความร้อนและรังสี UV ได้ดี
4. ซื้อกับแบรนด์ใหญ่ได้คุณภาพ
การซื้อกับแบรนด์ใหญ่เป็นเครื่องยืนยันได้ดีในเรื่องของคุณภาพ ความมีมาตรฐานในการผลิตที่สูง และยังมาพร้อมกับบริการหลังการขายที่ดีอีกด้วย
ซื้อใบปัดน้ำฝน ยี่ห้อไหนดี ปี 2023
สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะซื้อใบปัดน้ำฝน ยี่ห้อไหนดีอยู่ล่ะก็ เราได้รวบรวมเอาแบรนด์และรุ่นของใบปัดน้ำฝนที่มีคุณภาพมาไว้ให้ทุกคนแล้ว จะมีรุ่นไหนที่ไหนที่น่าสนใจบ้างไปดูกันได้เลย
- 3M™ ใบปัดน้ำฝน รุ่นก้านสแตนเลส
- 3M™ ใบปัดน้ำฝน รุ่น เฟรมเลส
- Bosch Rear
- Bosch Advantage
- Bosch Clear Advantage
- Bosch Aerotwin
- Michelin Hydroedge Hybrid
- BLAUPUNKT Premium Wiper Blade
- BLAUPUNKT Velocity Wiper Blade
- DENSO Wiper blade
- Waca Q9
- Guide Beyond
ที่ปัดน้ำฝนเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ที่ช่วยในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นให้ยิ่งขึ้น การดูแลรักษาก็ไม่ได้มีความยุ่งยากอย่างที่ทุก ๆ คนคิด ดังนั้นเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น อย่าลืมทำตามคำแนะนำที่เราได้ให้ไว้
และใครอยากซื้อรถยนต์ เข้าไปอัปเดตรถยนต์ใหม่ ราคาดี และซื้อขายสะดวกสบาย ที่ one2car.com สนับสนุนบทความดี ๆ โดย Autospinn อย่าลืมติดตามเรื่องรถใหม่-รถมือสองก่อนใครที่นี่ และพบกับประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ข้อเสนอสุดพิเศษจาก แรบบิท แคร์
โดยที่ตัวประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้มีติดรถกันไว้เพราะว่านี้เป็นประกันภัยรถยนต์ที่มอบความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุดทั้งคุณและคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวคนขับหรือรถยนต์ก็ตาม ให้ความคุ้มครองจากภัยพิบัติ ไฟไหม้รถ และรถถูกขโมย โดยยังมาพร้อมกับบริการสุดพิเศษอย่างบริการช่วยเหลือฉุกเฉินอย่างรถยก-รถสไลด์ตลอด 24 ชั่วโมง หากสนใจก็สามารถสมัครง่าย ๆ ได้ที่แรบบิท แคร์
มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี