ตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ JDM เป็นประเภทรถแบบไหน ทำไมกลุ่มคนแต่งรถถึงชอบและยังได้รับความนิยมอยู่
แม้คำว่า JDM อาจไม่ได้เป็นที่แพร่หลายสำหรับคนทั่วไปมากเท่าไหร่นัก แต่ในวงการคนแต่งรถชื่อสั้น ๆ อย่างรถ JDM กลับดังกระฉ่อนจนไม่ว่าใครก็ต้องเคยได้ยินกันมาบ้าง ถึงต่อให้ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงถึงคำ JDM ย่อมาจากคำเต็มคำไหน แต่ทุกคนจะสามารถเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันได้เลยว่า รถ JDM คือ รถรูปแบบไหน ต้องแต่งให้ได้รูปลักษณ์ รูปทรงประมาณไหนถึง เพราะรถJDMคือหนึ่งในประเภทที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ซึ่ง แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปเจาะดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถประเภทนี้
JDM คืออะไร
JDM คือ รถยนต์ที่ใช้งานชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตขึ้นตามกฎหมาย หรือสอดคล้องเข้ากับระเบียบรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงกรณีที่มีการหยิบเอาอะไหล่ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ญี่ปุ่น มาตกแต่งกับรถของตัวเอง เพื่อให้ได้รูปลักษณ์ใกล้เคียงกัน ก็สามารถเรียกว่าเป็นรถJDM ได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากJDM car คือ รถยนต์ ชิ้นส่วน ที่ผลิตภายในประเทศเท่านั้น เมื่อมีการส่งออกไปขายยังต่างประเทศ ส่วนมากจะมีการเปลี่ยนโฉม เปลี่ยนรูปแบบชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความแตกต่างมากขึ้น
JDM ย่อมาจากอะไร
JDM แปลว่า Japanese Domestic Market ซึ่งแปลได้ตรงตัวว่าเป็นรถที่ผลิตขึ้นในญี่ปุ่นเท่านั้น ตามที่เราได้อธิบายไปด้านบน มันจึงทำให้มีกลิ่นอายดูออกอย่างชัดเจน เมื่อมีรถยนต์คันหนึ่งแต่งแนวแบบ JDM ปรากฎขึ้นมา เราจะสามารถแยกออกได้ด้วยตาเปล่า พร้อมบ่งชี้ว่านี่แหละสไตล์ รถ JDM ในนิยาม
ข้อมูลเพิ่มเติม ปัจจุบันรถยนต์แนว JDM ของญี่ปุ่นสุดคลาสสิกไม่ได้มีการผลิตเพิ่มเติมแล้ว หากต้องการแต่งรถในสไตล์นี้ เราจะต้องตามหาอะไหล่มือสอง หรือสั่งทำอะไหล่เทียบจากผู้ผลิตทางต้นสังกัดแต่ละแบรนด์อีกทีหนึ่ง เพื่อนำเข้ามาตกแต่งรถยนต์ของเราให้ได้ในแบบฉบับที่ต้องการ ยิ่งถ้าหากเป็นรถสไตล์นี้แต่งครบ มือ 2 จากญี่ปุ่นโดยตรง จะมีราคาค่อนข้างสูง ยิ่งมาในสภาพเดิมที่ยังสวยกริบเหมือนย้อนเวลา ราคาจะสูงมากขึ้นไปอีกหลายเท่า
แต่งรถแนว JDM ต้องเป็นอย่างไร
ถึงแม้เราจะไม่สามารถนิยมได้อย่างชัดเจนว่า รถแนว JDM ต้องเป็นอย่างไร? แต่เราสามารถให้คำตอบได้ว่า การแต่งรถสไตล์นี้ ต้องใช้งานอะไหล่ที่มาจากการดีไซน์ของทางญี่ปุ่น ภายใต้ระเบียบและมาตรฐานการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศเท่านั้น จากนั้นการตกแต่ง ดีไซน์ ขึ้นอยู่กับความคิดของเจ้าของรถ ว่าจะเลือกใช้ชิ้นส่วนองค์ประกอบแต่ละชิ้น มารวมเข้ากับรถยนต์อย่างไรได้บ้าง เพราะพื้นฐานการดีไซน์อะไหล่ ชิ้นส่วน องค์ประกอบ มักให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น เป็นรถJDM ได้ดีมากอยู่แล้วนั่นเอง
รถ JDM ต้องแต่งสไตล์ไหน
รถ JDM ต้องแต่งสไตล์ไหนกันแน่ ถึงจะถูกเรียกด้วยชื่อนี้ การจะเป็นสไตล์ JDM ได้นั้นต้องมีการตกแต่งด้วยชุดอุปกรณ์ที่เหมือนกับ Original ในประเทศญี่ปุ่นให้มากที่สุด โดยประเทศไทยตัวรถยนต์ที่ได้รับเข้ามาในตลาดมีสเปกที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับรถยนต์ในญี่ปุ่นอยู่แล้ว ตั้งแต่อดีตผู้คนจึงนิยมอย่างมากที่จะพยายามหาอะไหลแต่ง JDM เข้ามาประกอบกับตัวรถยนต์ที่มีอยู่ เพื่อให้ออกมาเป็นสไตล์รถ JDM ตามที่ต้องการ
คำแนะนำเพิ่มเติม ด้วยกาลเวลาที่ผ่านมายาวนาน ทำให้ปัจจุบันนี้อะไหล่แต่งรถ JDM ถือว่าหากยากขึ้นหลายเท่าตัว บางชิ้นถึงขั้นมีความแรร์จนสามารถพิสูจน์ได้เลยว่า ในประเทศไทยมีเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น มันจึงกลายเป็นความสนุกของคนที่แต่งรถสไตล์นี้ ที่ต่อให้มีเงินทองมากมายแค่ไหน ก็อาจจะไม่สามารถแต่งรถยนต์ด้วยอุปกรณ์ที่ตนเองอยากได้เสมอไป
รถ JDM มีอะไรบ้างที่โดดเด่น
ความโดดเด่นของรถ JDM นอกเหนือจากการตกแต่งที่สวยงามมีเอกลักษณ์ ได้แก่ ความน่าเชื่อถือด้านคุณภาพ มาตรฐาน, มูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามช่วงเวลา และพละกำลังของเครื่องยนต์ พอเรามีโอกาสได้รู้ข้อมูลทั้ง 3 ด้านเพิ่มขึ้น จะเห็นภาพรวมเกี่ยวกับแก่นแท้ของ JDM ได้มากกว่าเดิม เพราะแท้จริงในอดีตกว่าจะออกมาเป็นรถ JDM สักคัน ต้องผ่านการพัฒนาหลาย ๆ ด้าน เพื่อแข่งขันในช่วงเวลาแห่งการพัฒนา แถมยังต้องดีไซน์ให้โดดเด่นอีกต่างหาก
- ความน่าเชื่อถือด้านคุณภาพ มาตรฐาน: เพราะ Japanese Domestic Market ตั้งแต่อดีต มีมาตรฐานที่ค่อนข้างสูงมาก ทั้งในแง่ของคุณภาพด้านการผลิต วัสดุต้นทุนสูงที่เลือกใช้งาน การบำรุงรักษาต่อไปในอนาคตมีทิศทางที่ดีมากกว่า
- มูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามช่วงเวลา: ดังเช่นตัวอย่างที่เราพูดถึงบ้างแล้วในหลาย ๆ ส่วน ว่ากาารแต่งรถสไตล์ JDM ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก ยิ่งอนาคตที่มีคนนิยมมากขึ้น แต่สินค้ากลับมีน้อยลงเรื่อย ๆ ยิ่งเป็นโอกาสให้ราคาปัจจุบันที่มีตอนนี้ อาจเพิ่มสูงขึ้นได้หลายเท่าตัว
- พละกำลังของเครื่องยนต์: ปกติแล้วเวลาเราพูดถึง รถJDM อาจมองแค่ว่าภายนอกหน้าตาเป็นอย่างไร ตกแต่งแบบไหน กลับกันทางญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับขุมพลังในห้องเครื่องมาก ว่าพวกเขาจะสามารถปลดลิมิตขีเจำกัดของเครื่องยนต์ ด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยียานยนต์แบบไหนบ้าง
ฉะนั้นใครที่กำลังอินเกี่ยวกับข้อมูลรถJDM มาก ๆ แนะนำเลยว่าตอนนี้ควรจะต้องเริ่มต้นการเก็บอะไหล่ ชิ้นส่วนที่เราอยากนำมาแต่งรถในฝันให้ครบโดยเร็ว ก่อนที่จะไม่สามารถตามหาได้ครบ หรือมีความลำบากเกี่ยวกับกฎหมายนำเข้าสินค้ามากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นกำแพงที่เราไม่อาจข้ามไปได้
พาชม 5 รถ JDM ที่เห็นแล้วรู้ทันที
พาชม 5 รถยนต์ JDM ที่เห็นแล้วสามารถเข้าใจได้ทันทีเลยว่านี่แหละ สไตล์รถ JDM ของแท้ เช่น Toyota Supra, Subaru BRZ, Honda Cibic EG 3 Door, Nissan GTR-R32 Skyline และ Mazda RX-8 รถยนต์เหล่านี้ถ้าหากนับตามระยะเวลาการเปิดตัวจริง ไม่มีคันไหนเลยที่มีอายุน้อยกว่า 10 ปี ด้วยความเก่า ความ Old School และความคลาสสิคในแบบฉบับดั้งเดิมของ JDM นี่แหละ ที่ทำให้รถยนต์เหล่านี้มีเอกลักษณ์ มีคนคอยตามหาเพื่อหวังจะครอบครองกันอยู่ตลอดเวลา
Toyota Supra
Toyota Supra รถสปอร์ตสไตล์ JDM ระดับตำนานที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1970 แถมชื่อแรกที่ใช้งานยังตั้งว่า Toyota Celica XX (Double-X) แทนที่จะเป็น Supra อีกต่างหาก ซึ่งตอนแรกยังไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไหร่นัก จนกระทั่งได้มีการเปลี่ยนผ่านของนวัตกรรม และดีไซน์ที่โดดเด่นอย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้ Toyota Supra รุ่นปี 1990 กลายเป็นรถยนต์สไตล์ JDM ที่ฮิตที่สุดเลยก็ว่าได้
ราคา Toyota Supra รุ่นปัจจุบัน เริ่มต้นที่ 5.19 ล้านบาท
ราคา Toyota Supra รุ่นปี 1990-2010 เฉลี่ยประมาณ 2-4 ล้านบาท
Subaru BRZ
Subaru BRZ รถยนต์สไตล์ JDM ที่อาจจะยังอายุไม่เยอะเท่าไหร่นัก แต่พอเทียบกับรถรุ่นพี่ระดับตำนานทั้งหลาย การตกแต่งของ BRZ นับว่ามีเอกลักษณ์ที่สื่อถึงความเป็นรถ JDM ได้อย่างชัดเจนที่สุดคันหนึ่งเลยทีเดียว
ราคา Subaru BRZ รุ่นปัจจุบัน เริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
ราคา Subaru BRZ รุ่นปี 2012-2022 เฉลี่ยประมาณ 1.5-2.4 ล้านบาท
Honda Civic EG 3 Door
Honda Civic EG 3 Door รถยนต์ JDM ในซีรีส์สุดคลาสสิคที่หากคนนอกวงการเข้ามาเห็น ใครจะเชื่อว่าลักษณะนี้ คือ รุ่น Civic เพราะในอดีตรุ่นนี้เป็นรถยนต์ 3 ประตูรุ่น ๆ แรกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในมุมมองการตกแต่งให้ส่วยงาน ประสิทธิภาพการขับขี่ตั้งแต่ระดับชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการใช้งานเต็มประสิทธิภาพความเร็ว แถมอะไหล่แต่งสไตล์ JDM แท้ ๆ สำหรับตัวนี้บางส่วนหาไม่ได้แล้วด้วย
ราคา Honda Civic EG 3 Door มือสอง เฉลี่ยประมาณ 1-4 แสนบาท (ขึ้นอยู่กับการดูแล การตกแต่ง และการเพิ่มเติมอะไหล่ของแต่ละคัน)
Nissan GTR Skyline
Nissan GTR Skyline สไตล์ JDM ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคันนี้ น่าจะเป็นรถยนต์คลาสสิคที่มีคนรู้จักมากที่สุดแล้วทั่วโลก เพราะเป็นรถยนต์ที่มีขุมพลังระดับเทพ เคยสร้างชื่อเสียงในสนามแข่งขันระดับโลกมาแล้วหลายต่อหลายสนาม จนถึงขั้นได้รับฉายาว่า “Godzilla” เลยทีเดียว แถมการพื้นฐานที่ไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มเติมแต่ดูวินเทจ และมีเสน่ห์สุด ๆ
ราคา Nissan GTR Skyline รุ่นปัจจุบัน เริ่มต้น 10 ล้านบาท
ราคา Nissan GTR มือสอง เฉลี่ยประมาณ 3-5 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย การตกแต่ง และการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยอะไหล่ต่าง ๆ ของแต่ละคัน)
Mazda RX-8
Mazda RX-8 รถสปอร์ตสไตล์ JDM 4 ที่นั่งที่ฮิตกันได้ทุกยุคสมัย ด้วยอายุนับตั้งแต่การเปิดตัวในช่วงปี 2001 จึงยังไม่เก่ามากเท่ากับรถยนต์รุ่นพี่คันอื่น ๆ ทำให้พอจะหามาเป็นเจ้าของได้ในราคาที่เอื้อมถึงไม่ลำบากมาก แถมด้วยสไตล์การตกแต่งแบบมาตรฐานเดิม ก็ทำให้ตัวรถดูเป็นสไตล์ JDM แบบเต็มพิกัดอยู่แล้ว ไหนจะความแรงระดับที่สูสีกับรถยนต์ในปัจจุบันหลาย ๆ รุ่น ทำให้ยังซิ่งได้ไม่น้อยหน้าใคร
ราคา Mazda RX-8 มือสอง เฉลี่ยประมาณ 5-8 แสนบาท (ขึ้นอยู่กับปีรถและการตกแต่งเพิ่มเติม)
นอกเหนือจากทั้ง 5 รุ่นที่กล่าวมา ยังมีรถ JDM อีกมากมายที่ปัจจุบันได้รับความนิยมสูง เช่น Mitsubishi Lancer Evo, Honda NSX, Toyota Trueno (AE86) และ Toyota MR-2 เป็นต้น ซึ่งถ้ารถยนต์รุ่นไหนได้รับความนิยมสูงมาก ทางค่ายรถอาจมีการพัฒนาต่อจนกลายเป็นรุ่นปัจจุบันเพื่อสืบทอดตำนานต่อมา เช่น Nissan GT-R Premium Luxury หรือ Toyota GR-86 แต่ด้วยการผสมผสานเข้ากับดีไซน์สมัยใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น อาจทำให้รู้สึกถึงความเป็น JDM เบาบางลงบ้าง จึงค่อนข้างเหมาะกับคนที่ได้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมาแทนการดีไซน์ หรือสไตล์การแต่งรถเป็นหลัก
นอกจากแนวรถ JDM แล้วมีแบบไหนอีกที่น่าสนใจ
นอกจากแนวรถสไตล์ Japanese Domestic Market ที่เราแนะนำไปแล้ว ยังมีการแต่งรถอีกหลายแบบที่น่าสนใจ เช่น VIP Style, Flush Style, USDM Style และ Street Weapon ซึ่งจุดเด่นของสไตล์การแต่งรถที่นำเสนอเพิ่มเติม จะมีดังนี้
- VIP Style: สไตล์ที่เน้นการตกแต่งความหรูหรา อลังการณ์ รวมถึงการโหลดในระยะที่ต่ำมาก มีล้อขนาดใหญ่ มีองศามิติที่กว้างออกไป พร้อมกับจัดออพชันภายในรถให้เยอะที่สุดไว้ก่อน
- Flush Style: รูปแบบนี้ยังคงเน้นเรื่องล้อมากเป็นพิเศษเช่นเดิม ให้ขนาดของล้อไม่ใหญ่เกินมิติตัวถังของรถ มีระยะโหลดต่ำ ให้ล้อรถและซุ้มล้อมีระยะที่ใกล้กันมากขึ้น แต่สำหรับส่วนของแม็กจะมีชนาดใหญ่เกินล้อออกมาเล็กน้อย
- USDM Style: หรือ United Standard Domestic Market เน้นการตกแต่งที่ดูสะอาดตา โหลดต่ำ ใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์จากทางอเมริกา เปรียบเสมือนคู่แข่งกับ Japanese Domestic Market เลยก็ว่าได้
- Street Weapon: สไตล์ที่เพิ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาได้ไม่นาน เพราะเน้นรูปลักษณ์ให้เหมือนกับรถสนามแข่งมี Rear Wing ขนาดใหญ่ ภาพรวมออกมาให้ดูดุดัน ยางบวมหนาเป็นพิเศษ
พอเห็นตัวเลือกอื่น ๆ เกี่ยวกับสไตล์การแต่งรถนอกจาก Japanese Domestic Market แล้ว ถือว่าเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับคนที่ชอบแต่งรถ หากอนาคตได้มีแบบ Japanese Domestic Market ที่ชอบสักคันแล้ว ยังสามารถงอกชิ้นส่วนแต่งรถอื่น ๆ เพิ่มเติมได้อย่างไร้ขีดจำกัดมากขึ้น
รถ JDM ควรทำประกันรถยนต์ชั้นไหน
สำหรับรถ Japanese Domestic Market ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายภายในประเทศญี่ปุ่นและมักมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง รวมถึงมีมูลค่าทางการตลาดที่สูงขึ้นในปัจจุบัน การเลือกทำประกันรถยนต์ควรคำนึงถึงความคุ้มครองที่ครอบคลุมเป็นพิเศษ เนื่องจากรถ Japanese Domestic Market มีทั้งมูลค่าที่สูงกว่ารถทั่วไป และอะไหล่ที่อาจหาได้ยากหรือมีราคาสูง ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหาย
สำหรับรถ Japanese Domestic Market แนะนำให้เลือก ประกันชั้น 1 เป็นหลัก เนื่องจากให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกกรณี ทั้งความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบมีและไม่มีคู่กรณี ไฟไหม้ สูญหาย และความเสียหายอื่นๆ ที่ไม่คาดคิด การทำประกันชั้น 1 จะช่วยป้องกันความเสี่ยงทางการเงินจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อาจสูงเนื่องจากราคาอะไหล่และความหายาก
ประกันชั้น 2+ อาจเป็นทางเลือกเสริมสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง และต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกัน แต่การคุ้มครองจะไม่ครอบคลุมกรณีที่เกิดความเสียหายแบบไม่มีคู่กรณี
ทั้งนี้ รถ Japanese Domestic Market สามารถทำ ประกันชั้น 2, ประกันชั้น 3+ หรือประกันชั้น 3 ได้ แต่มีข้อควรพิจารณาเนื่องจากความคุ้มครองของประกันชั้น 2, ประกันชั้น 3+ หรือประกันชั้น 3 อาจไม่ครอบคลุมทุกความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถซึ่งมีมูลค่าสูงและหาอะไหล่ได้ยากกว่ารถทั่วไป เนื่องจากประกันเหล่านี้จะไม่ครอบคลุมกรณีที่เกิดความเสียหายแบบไม่มีคู่กรณี อีกทั้งบางแบบประกันยังไม่ครอบคลุมความเสียหายจากไฟไหม้ กรณีสูญหาย หรือความเสียหายจากภัยธรรมชาติอีกด้วย
รถเก่าต้องเลือกทำประกันรถยนต์อย่างไร
หลังจากที่ได้เห็นอายุรถยนต์ JDM หลาย ๆ รุ่นโดยเฉพาะมือ 2 ที่เป็นตัวคลาสสิคออกกันมาตั้งแต่ปี 199x ไปจนถึง 201x ก็มีอายุร่วมเกิน 10 ปีแล้ว การเลือกทำประกันรถยนต์จึงค่อนข้างละเอียดอ่อนอย่างมาก เพราะหากเป็นรถยนต์ JDM คลาสสิคที่มีราคาแพง หลายคนอาจต้องการเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุม แต่ในความเป็นจริงแล้วประกันชั้น 1 มีเงื่อนไขทำได้เฉพาะรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี หากเกินกว่านั้นอาจต้องไปพิจารณาเป็นประกันชั้นอื่น เช่น ชั้น 2+ หรือ 3+ แทน
ซึ่งใครที่เป็นเจ้าของรถยนต์สไตล์ JDM คันใหม่เพิ่งถอยมาสด ๆ ร้อน ๆ แล้วอยากทำประกันรถยนต์เผื่อเอาไว้ในกรณีฉุกเฉิน ลองติดต่อสอบถามจาก แรบบิท แคร์ เพื่อขอคำแนะนำโดยตรงได้ที่เบอร์ 1438 (เบอร์นี้โทรได้ 24 ชั่วโมง) เพราะเราเป็นศูนย์รวมบริษัทประกันภัยชั้นนำมากกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ ทั้งยังการันตีเรื่องความคุ้มค่า ความรวดเร็วในการเปรียบเทียบที่ใช้แค่ไม่กี่วินาทีก็รู้ผล และหากตัดสินใจเป็นลูกค้ากับ แรบบิท แคร์ เรายินดีมอบส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 70% พร้อมเลือกผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือน
สรุป
บทความนี้กล่าวถึงรถยนต์สไตล์ JDM (Japanese Domestic Market) ซึ่งหมายถึงรถยนต์และอะไหล่ที่ผลิตในญี่ปุ่นและสอดคล้องกับมาตรฐานท้องถิ่น โดยมีความโดดเด่นในด้านคุณภาพ มูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามเวลา และพละกำลังเครื่องยนต์ รถ JDM มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น Toyota Supra, Subaru BRZ, Honda Civic EG 3 Door, Nissan GTR Skyline และ Mazda RX-8 ซึ่งได้รับความนิยมจากนักสะสมทั่วโลก การแต่งรถสไตล์ JDM ต้องใช้อะไหล่จากญี่ปุ่นเพื่อคงความดั้งเดิม การทำประกันชั้น 1 แนะนำสำหรับรถ JDM เนื่องจากมูลค่าและความหายากของอะไหล่ ทั้งนี้ รถยนต์ JDM ที่เก่าเกิน 15 ปีอาจต้องพิจารณาประกันชั้นอื่น เช่น 2+ หรือ 3+ เพื่อความคุ้มครองที่เหมาะสม
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
