อัปเดตรถราคาถูก 2024 จากการปรับราคาครั้งยิ่งใหญ่ของแต่ละแบรนด์
โอกาสทองของคนที่วางแผนหารถราคาถูกมาถึงแล้ว! เพราะในปี 2024 นี้มีหลายแบรนด์ หลายบริษัท ประกาศปรับราคารถยนต์ของตัวเองให้ถูกลงกว่าเดิมจนน่าตกใจ ไม่ใช่ลดราคากันเพียงแค่หลักหมื่น แต่บางคันมีการปรับให้รถราคาถูกลงหลายแสนบาท ตั้งแต่ 100,000 บาท ไปจนถึง 300,000 บาทก็มีให้เห็นกันมาแล้ว สงสัยไหมว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ ถึงทำให้ตลาดรถยนต์เกิดการปรับราคามากขนาดนั้น
เดี๋ยววันนี้ แรบบิท แคร์ มีคำตอบดี ๆ มาแชร์ให้ได้ลองอ่าน พร้อมกับทำการวิเคราะห์ไปตามกัน ถึงสาเหตุที่ทำให้รถราคาถูกลงจนน่าตกใจ และจะพลาดไม่ได้เลยกับการแชร์ต่อรถราคาถูก 2024 ที่ไม่เกินงบ 600,000 บาท หรือจะเป็นตัวเลือกที่น่าพิสมัยอย่างรถราคาถูก ประหยัดน้ำมัน จากการเปรียบเทียบอัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ยมาให้ได้ชมกันหลายรุ่น เอาละใครสนใจข้อมูลเรื่องไหนอยู่ เริ่มต้นหาคำตอบได้เลย!
ทำไมรถราคาถูกลงจนน่าตกใจ
คาดการณ์เหตุผลที่ทำให้ปัจจุบันรถราคาถูกลงจนน่าตกใจ เริ่มต้นมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่างก้าวกระโดด การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่หลายรุ่น ที่มีราคาถูกหรือใกล้เคียงกับรถยนต์เครื่องสันดาปในตลาด จึงทำให้เกิดการแข่งขันสูงระหว่างผู้จัดจำหน่าย จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนฐานราคาในหลายรุ่น ๆ ถึงขั้นหลายแสนบาท เพื่อให้รถยนต์รุ่นเดิม ๆ ในตลาดสามารถสู้ราคารถรุ่นใหม่ได้บ้าง รวมถึงทิศทางความสนใจรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยกระดับการแข่งขันสูงมากขึ้นไปอีก และแน่นอนว่าผู้ได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ ก็คงต้องเป็นคนที่กำลังวางแผนออกรถในปีนี้ หรือปีหน้าเพื่อหารถราคาถูกโดนใจนั่นเอง
รถราคาถูก 2024 ไม่เกิน 6 แสน
สำหรับรถราคาถูก 2024 ไม่เกิน 6 แสนที่น่าสนใจมีให้เลือกหลายรุ่นมากในปีนี้จากการปรับลดราคา ได้แก่ Suzuki Ciaz, Suzuki Celerio, Mitsubishi Mirage, Neta V, MG 5, Wuling Air EV, POCCO, Mitsubishi Attrage, MG 3 และ Toyota Yaris รักใครชอบใคร ชอบรถแนวไหนแบบไหน ยังไงลองติดตามอ่านข้อมูลคร่าว ๆ ของรถราคาถูกที่น่าสนใจกว่า 10 รุ่นได้จากข้อมูลดังต่อไปนี้
- Suzuki Ciaz จากเดิมราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 528,000 บาทสำหรับรุ่นย่อยตัวแรกสุด แต่ปัจจุบันมีการปรับให้เริ่มต้นเพียงแค่ 378,000 บาทเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันรุ่นแรกขายหมดแล้ว เหลือแต่รุ่นถัดมาที่ราคาเพียง 414,000 บาท เป็นตัวเกียร์อัตโนมัติ CVT และตามมาด้วยระบบพื้นฐานครบถ้วน เช่น ช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ, ลำโพง 6 จุด และอื่น ๆ
- Suzuki Celerio ตัวเริ่มต้นเพียงแค่ 338,000 บาท ถือเป็นรถที่มีขนาดกระทัดรัด เป็นรถราคาถูกที่เอื้อมถึงได้ง่าย มีระบบความปลอดภัยตามมาตรฐาน หากต้องการเพิ่มฟังก์ชันอื่น ๆ ก็มีรุ่นย่อยให้เลือกเพิ่มเติม ในราคาน่าคบหา เพราะตัว Top สุดยังอยู่ที่ราคา 451,000 บาทเท่านั้นเอง
- Mitsubishi Mirage ราคาเริ่มต้นที่ 508,000 บาท อาจจะราคาสูงสักหน่อยเมื่อเทียบกับ 2 รุ่นด้านบน แต่เจ้า Mirage ตัวรุ่นย่อยแรกสุด ก็มาพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่าขั้นพื้นฐาน เช่น ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน หรือ ระบบป้องกันการลื่นไถล เป็นต้น ทั้งยังมีหน้าจอมัลติมีเดียขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อได้ทั้ง Car Play และ Android Auto ได้ด้วย
- Neta V รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่มีการปรับลดราคาเหลือเพียง 499,000 บาท มีระบบควบคุมต่าง ๆ ผ่านหน้าจออินโฟเทนเมนท์ สามารถวิ่งได้ในระยะทางสูงสุด 384 กิโลเมตรต่อหนึ่งรอบชาร์จนับว่าเป็นรถราคาถูกในประเภท B-Segment ที่น่าสนใจทีเดียว
- MG 5 รถเก๋งสปอร์ตซีดานคันใหม่จาก MG ที่ราคาเริ่มต้นเพียง 585,000 บาท ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง จึงได้มาซึงตัวถังในสไตล์คูเป้ซีดาน พร้อมเทคโนโลยี นวัตกรรมแบบจัดเต็มตามสไตล์ และการออกแบบที่โดนใจใครหลายคนภายใต้ราคาที่เข้าถึงง่าย
- Wuling Air EV รถไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีราคา 395,000 บาท ในตัวเริ่มต้นนั้นจะสามารถวิ่งได้ในระยะ 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตหนึ่งครั้ง ส่วนรอีกรุ่นจะมีราคาที่ 465,000 บาท วิ่งได้ในระยะ 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ตัวถังจะออกแบบมาเป็น 2 ที่นั่ง 3 ประตู Hatchback เหมาะมากกับคนที่อยากได้รถใช้งานในเมืองง่าย ๆ ขับขี่คล่องตัว ประหยัดค่าน้ำ
- POCCO อีกหนึ่งรุ่นกับรถไฟฟ้าขนาดเล็กที่ราคาเพียง 429,000 บาท ซึ่งเจ้า POCCO มีรุ่นย่อยให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกัน แต่ราคาแพงสุดกลับหยุดที่ 499,000 บาท เป็นรถที่ออกแบบมาในคอนเซปต์มัลติฟังก์ชัน ใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย มี 4 ที่นั่ง แต่แบตเตอรี่ยังถือว่าไม่มากเท่าไหร่นัก
- Mitsubishi Attrage กลับมาที่รถราคาถูกสไตล์ Eco Car กันบ้าง ตัวนี้ราคาเริ่มต้นที่ 529,000 บาท เป็นรถเก๋งที่มีตัวถังขนาดใหญ่ขึ้นมาจากตัวที่แนะนำไปก่อนหน้า มีระบบความปลอดภัยที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน แตกต่างกันตรงที่ดีไซน์ภายใน และตัวถัง ขึ้นอยู่กับความชอบ หรือความต้องการของผู้เลือกอีกทีหนึ่ง
- MG 3 ราคาเริ่มต้น 519,000 บาท รถยนต์สไตล์ Hatchback สุดจี๊ดที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ของ MG มาให้แบบไม่มีหวง ไหนจะมี Sunroof เข้ามาช่วยเพิ่มความเก๋ไก๋ให้ตัวรถที่ราคาไม่เกิน 600,000 บาทรุ่นนี้ มีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย (Sunroof จะมีเฉพาะในรุ่น X ราคาเริ่มต้น 589,000 บาท)
- Toyota Yaris ชื่อนี้การันตี ครองใจผู้คนรักรถสไตล์ Hatchback ในตลาดมานาน ราคาเริ่มต้น 559,000 บาท ผ่านการไมเนอร์เชนจ์มาหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายใน ได้รับการอัปเดตให้ดูทันสมัยแทบจะตลอดเวลา รวมถึงนวัตกรรม หรือระบบความปลอดภัยที่ทาง Toyota พยายามเพิ่มเติมเข้ามาให้อย่างน่าสนใจ มีประสิทธิภาพที่ช่วยให้ขับขี่ได้สบาย และคล่องตัวอย่างมาก
อัดแน่นรุ่นรถราคาถูกไม่เกิน 600,000 บาทไปมากถึง 10 รุ่นขนาดนี้ หลายคนคงพอมีโอกาสได้ไปค้นหาข้อมูล หรือดูดีไซน์ตัวรถที่ถูกใจง่ายขึ้นกว่าเดิมแล้ว และแน่นอนว่าหากตัดสินใจได้แล้วว่าจะเอารถรุ่นไหน ลองติดต่อสอบถามศูนย์บริการใกล้บ้านก่อน ถึงโปรโมชันของรถราคาถูกที่เราเล็งไว้ เนื่องจากบางแห่งอาจมีของแถม หรือการทำโปรโมชันที่เงื่อนไขต่างกันออกไป ควรเช็กให้มากที่สุด เพื่อสิทธิประโยชน์ของตัวเราเอง
รถราคาถูก ประหยัดน้ำมัน
คราวนี้ลองมาดูรถราคาถูก ประหยัดน้ำมันกันบ้าง มีทั้งหมด 5 รุ่นน่าสนใจ คือ Mazda 2 Hatchback, Toyota Yaris Ativ, Nissan Almera, Suzuki Swift และ Honda City ซึ่งในความเป็นจริงแล้วรถราคาถูกที่กล่าวมา สามารถจัดเป็นรถที่มีราคาเริ่มต้นไม่เกิน 600,000 บาทได้เหมือนกัน เพียงแต่รุ่นที่คัดแยกออกมานี้ มีอัตราการสิ้นเปลืองที่ค่อนข้างน่าสนใจเป็นพิเศษ จะเป็นอย่างไรต้องติดตามจากหัวข้อย่อยกันอีกที
Mazda 2 Hatchback
ตัว Mazda 2 Hatchback เป็นรถราคาถูกที่เริ่มต้นเพียง 599,000 บาท เฉียด 600,000 บาทไปนิดหน่อยแต่ถือว่ายังอยู่ในราคาที่พอได้ หากเทียบฟังก์ชัน การดีไซน์ และการพัฒนามาโดยตลอดของซีรีย์ Mazda 2 และที่น่าสนใจคงต้องเป็นอัตราการสิ้นเปลืองที่เฉลี่ยแล้วสามารถทำได้ถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร นับเป็นตัวในหมวด Top สุดของ Eco Car เลยก็ว่าได้
Toyota Yaris Ativ
Toyota Yaris Ativ เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่กี่ปี ก็โดนใจตลาดรถยนต์ประเทศไทยค่อนข้างมาก ด้วยสไตล์การออกแบบที่โฉบเฉี่ยว เป็นรถราคาถูกที่เข้าถึงง่าย มีประสิทธิภาพรอบด้านที่เหมาะสมกับราคา เริ่มต้นเพียง 539,000 บาท โดยอัตราการสิ้นเปลืองจัดว่าอยู่ในระดับเดียวกันรุ่นด้านบน คือ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ทั้งราคาถูกและประหยัดอย่างน่าทึ่ง
Nissan Almera
Nissan Almera รถราคาถูกที่เริ่มต้น 549,000 บาท เพิ่งได้รับการไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อช่วงปี 2023 ตัวเครื่องยนต์เบนซินที่พ่วงมาด้วยเทอร์โบทำให้รถมีกำลังมากขึ้น กระฉับกระเฉงจนทำให้ขับขี่ได้คล่องตัวมากกว่าเดิม แม้จะใช้งานเทอร์โบ เจ้า Almera ก็ยังเป็นรถราคาถูกที่ทำอัตราสิ้นเปลืองได้อย่างยอดเยี่ยมที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
Suzuki Swift
Suzuki Swift รถราคาถูกขวัญใจสาวกสไตล์ Hatchback ที่กระแสไม่เคยตก ทั้งการดีไซน์ที่ดูเรียบหรู สวยงาม การโปรโมท การตลาดที่เพอร์เฟคกับยุคสมัย และแน่นอนว่าตัวประสิทธิภาพ นวัตกรรม ฟังก์ชันรถยนต์เองก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด ทั้งยังมาด้วยราคาเริ่มต้น 567,000 บาท คู่กับอัตราการสิ้นเปลืองแค่ 23 กิโลเมตร/ลิตร
Honda City
สุดท้าย Honda City ที่ถึงแม้ตัว Top สุดของรุ่นจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ตัวเริ่มต้นจะมีราคาที่ 599,000 บาทเท่านั้น ยังถือว่าเป็นรถราคาถูก ที่มีความประหยัดน้ำมันตามสไตล์ Honda ไว้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมเพิ่มเติมระบบใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ และระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง เป็นต้น ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองถือว่าใช้ได้ที่ 20 กิโลเมตร/ลิ้ตร แต่ต่ำกว่ารุ่นที่แนะนำมาทั้งหมดสักเล็กน้อย
ได้ตัวทั้งตัวเลือกรถราคาถูกประจำปี 2024 และรถราคาถูก ประหยัดน้ำมันกันไปแบบครบเครื่อง ถือว่าตอนนี้ทุกคนมีลิสต์รายการรถอยู่ในมือกว่า 15 รุ่นแล้ว จะตัดสินใจเลือกตัวไหน ก็ห้ามลืมเด็ดขาดเลยว่าถึงแม้เป็นรถราคาถูก ก็ควรต้องพิจารณาเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมต่อการใช้งาน เพื่อคุ้มครองให้เกิดความอุ่นใจทุกการขับขี่ หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันรถยนต์ ติดต่อหา แรบบิท แคร์ ได้ตลอดเวลาที่เบอร์ 1438
สรุป
สำหรับรถราคาถูก และไม่เกินงบ 6 แสนบาท ประจำปี 2024 ที่น่าสนใจนั้น แรบบิท แคร์ มองว่ามีให้เลือกหลายรุ่นมาก เนื่องจากในปีนี้ หลายแบรนด์มีการปรับลดราคาลง โดยรุ่นที่ทางเราแนะนำ จะได้แก่ Suzuki Ciaz, Suzuki Celerio, Mitsubishi Mirage, Neta V, MG 5, Wuling Air EV, POCCO, Mitsubishi Attrage, MG 3 และ Toyota Yaris
นอกจากนี้ ยังมีรถราคาถูก ประหยัดน้ำมันที่น่าสนใจ จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่นที่น่าสนใจ คือ Mazda 2 Hatchback, Toyota Yaris Ativ, Nissan Almera, Suzuki Swift และ Honda City
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology