รถกินน้ำมัน เกิดจากอะไร มีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยประหยัดน้ำมัน

ผู้เขียน : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
 
ตรวจทาน : คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct

close
linkedin icon
Published: January 23,2025
  
 
  
Reviewed: January 16, 2025
รถกินน้ำมัน

รถกินน้ำมัน สิ่งที่ทำให้เจ้าของรถยนต์ทุกคันต่างก็ต้องกุมขมับเพราะถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเสียทรัพย์ ทั้งค่าน้ำมันที่แพงแสนแพง และค่าซ่อมแซมในกรณีที่รถกินน้ำมันเกิดมาจากสาเหตุของการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในตัวรถ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรถกินน้ำมัน เบนซิน หรือรถกินน้ำมัน ดีเซลต่างก็มีสาเหตุของการกินน้ำมันด้วยกันทั้งนั้น วันนี้ แรบบิท แคร์ จึงได้นำข้อมูลสาเหตุของการที่ทำให้รถกินน้ำมันที่สามารถเกิดขึ้นได้มากฝากกัน เพื่อให้ทุกคนลองสำรวจหาสาเหตุเผื่อจะได้แก้ไขได้อย่างตรงจุด และไม่ต้องประสบกับปัญหารถกินน้ำมันอีกต่อไปนั่นเอง

รถกินน้ำมัน

รถกินน้ำมัน หมายถึง การที่รถยนต์ของเรามีการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าปกติเมื่อเทียบกับรถยนต์ประเภทเดียวกัน โดยสาเหตุของการที่รถกินน้ำมันอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย จากทั้งการที่รถรุ่นดังกล่าวมีอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงมากอยู่แล้วเป็นทุนเดิม พฤติกรรมการใช้งานรถยนต์ของแต่ละบุคคล การเสื่อมสภาพของรถ และปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ อีกหลายประการ ซึ่งจะมีการกล่าวถึงอย่างละเอียดในหัวข้อถัด ๆ ไป

วิธีสังเกต รถกินน้ำมันผิดปกติ

การสังเกตว่ารถยนต์ของเรากินน้ำมันผิดปกติหรือไม่นั้นสามารถทำได้โดยการสังเกตอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในชีวิตประจำวัน โดยจะมีวิธีการสังเกตดังนี้

  • รถกินน้ำมันเมื่อต้องเติมน้ำมันบ่อยกว่าปกติ หากสังเกตเห็นว่าต้องเติมน้ำมันบ่อยกว่าปกติ แม้ว่าจะใช้เส้นทาง หรือขับในระยะทางเท่าเดิม อาจเป็นสัญญาณว่ารถกินน้ำมันผิดปกติ
  • รถกินน้ำมันผิดปกติเมื่อวิ่งได้น้อยลงกว่าเดิม หากเติมน้ำมันจนเต็มถังแต่รถวิ่งได้น้อยลงกว่าเดิม อาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงปัญหาการสิ้นเปลืองน้ำมันที่มากกว่าปกติ
  • รถกินน้ำมันผิดปกติอาจมีควันดำ หรือกลิ่นน้ำมัน หากสังเกตเห็นควันดำออกจากท่อไอเสีย หรือมีกลิ่นน้ำมันแรงผิดปกติ แสดงว่าเครื่องยนต์อาจทำงานไม่สมบูรณ์ และมีการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์
  • รถกินน้ำมันผิดปกติหากเครื่องยนต์ตอบสนองช้าลง เครื่องยนต์มีการตอบสนองช้าลง หรือรู้สึกว่าต้องใช้แรงเหยียบคันเร่งมากขึ้นเพื่อให้รถเคลื่อนที่ในความเร็วที่ต้องการ อาจเป็นสัญญาณบอกความผิดปกติ
  • มีไฟเตือนเครื่องยนต์ (Check Engine) หากไฟเตือนเครื่องยนต์บนหน้าปัดติดขึ้น อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบเครื่องยนต์ หรือการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ผิดปกติได้

สาเหตุ รถกินน้ำมัน มากกว่า เดิม

รถกินน้ำมัน เกิดจากอะไร สาเหตุ รถกินน้ำมัน

รถกินน้ำมัน สาเหตุเกิดขึ้นจากอะไร จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าความจริงแล้วรถกินน้ำมันสามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุหลากหลายประการด้วยกัน โดยอาจมีสาเหตุมาจากเครื่องยนต์ที่เสื่อมสภาพ ระบบจุดระเบิดทำงานผิดปกติ การบรรทุกน้ำหนักเกินกำหนด หรือการขับขี่ที่ใช้รอบเครื่องยนต์สูงต่อเนื่อง

นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น การไม่บำรุงรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ การใช้ยางที่ไม่เหมาะสม หรือการไม่ตรวจเช็กแรงดันลมยางก็สามารถส่งผลให้รถมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน 

ทั้งนี้การที่รถกินน้ำมันไม่เพียงแต่เพิ่มค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันเพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้น เจ้าของรถจึงควรนำรถเข้าตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ตามระยะเวลาที่กำหนด และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ เช่น การใช้ความเร็วที่เหมาะสม และการลดการเร่งหรือเบรกอย่างรุนแรง เพื่อช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันนั่นเอง

สาเหตุ รถกินน้ำมัน มากกว่าเดิมจากความผิดปกติภายในเครื่องยนต์ 

นอกจากสาเหตุของการที่รถกินน้ำมันดังที่ได้กล่าวไปในหัวข้อก่อนหน้าแล้ว การเกิดความผิดปกติของเครื่องยนต์ในส่วนต่าง ๆ ก็ยังถือเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้รถยนต์ของเรานั้นกินน้ำมันด้วยเช่นกัน โดยสาเหตุที่เกิดจากความผิดปกติที่มักพบได้บ่อย จะมีดังต่อไปนี้

  • รถกินน้ำมันจากไส้กรองอากาศสกปรก ไส้กรองอากาศที่มีสิ่งสกปรก หรืออุดตันจะทำให้อากาศไหลเข้าสู่เครื่องยนต์ได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เกิดควันดำ หรือกลิ่นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปลายท่อไอเสีย และกินน้ำมันมากขึ้น
  • รถกินน้ำมันจากหัวเทียนเสื่อมสภาพ (สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ติดแก๊ส)  หัวเทียนที่หมดสภาพจะทำให้การจุดระเบิดในเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เครื่องยนต์มีกำลังลดลง อัตราเร่งด้อยลง และรถกินน้ำมัน หรือแก๊สมากกว่าปกติ
  • รถกินน้ำมันจากหัวฉีดอุดตัน หัวฉีดน้ำมันที่มีสิ่งอุดตันจะฉีดน้ำมันออกมาไม่เป็นฝอยละออง ทำให้การเผาไหม้ในเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ กินน้ำมันมากขึ้น โดยเฉพาะในเครื่องยนต์ดีเซลที่มักเห็นได้ชัดจากควันดำ
  • รถกินน้ำมันจากคอยล์จุดระเบิดเสื่อมสภาพ (สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ติดแก๊ส) หากคอยล์จุดระเบิดเสื่อมจะทำให้เครื่องยนต์สั่น เดินเบาไม่เรียบ สตาร์ทรถยาก และเร่งความเร็วได้ไม่ดี หัวเทียนจะเสื่อมสภาพเร็ว และการเผาไหม้เชื้อเพลิงจะไม่สมบูรณ์ รถกินน้ำมันมากขึ้น
  • รถกินน้ำมันจากระบบระบายความร้อนบกพร่อง หากน้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำเสื่อมสภาพหรือมีสนิม จะทำให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป การเผาไหม้เร็วเกินจำเป็น และส่งผลให้รถกินน้ำมันมากขึ้น

ดังนั้นเพื่อไม่ให้รถของเรากินน้ำมันจนต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมโดยไม่จำเป็นจึงควรตรวจสอบ และบำรุงรักษาอุปกรณ์เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน รวมถึงลดค่าใช้จ่ายจากการใช้น้ำมันที่มากเกินไปนั่นเอง

สาเหตุ รถกินน้ำมัน

พฤติกรรมที่ทำให้รถกินน้ำมัน

  • เหยียบคันเร่งหรือเบรกบ่อยเกินไป
  • เร่งเครื่องขณะรถจอดรถหยุดนิ่ง
  • ขับรถด้วยความเร็วเกิน หรือช้ากว่าที่เหมาะสม
  • ไม่บำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ
  • บรรทุกของหนักเกินความจำเป็น
  • เติมลมยางไม่เหมาะสม
  • การใช้เกียร์ไม่เหมาะสม
  • เปิดแอร์แรงเกินไป
  • ไม่ดับเครื่องยนต์เมื่อจอดรถนาน
  • ใช้น้ำมันที่ไม่เหมาะสมกับเครื่องยนต์

วิธีแก้ รถกินน้ำมัน

ทราบถึงสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้รถกินน้ำมันกันไปแล้ว ตอนนี้ก็มาถึงคำตอบของคำถามที่ว่ารถกินน้ำมัน ทำ อย่างไร จะมีวิธีแก้ไขปัญหารถกินน้ำมัน หรือช่วยประหยัดน้ำมันในการขับขี่ได้อย่างไรบ้าง โดยวิธีที่จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มีดังต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกอย่างกระทันหัน การเบรกบ่อยครั้งส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ และเพิ่มการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง โดยการเบรกบ่อยเกินไปอาจเพิ่มการใช้น้ำมันได้ถึง 40% ดังนั้นควรขับรถด้วยความระมัดระวัง มีสติ และสังเกตสิ่งรอบข้าง จะช่วยลดความจำเป็นในการเบรกบ่อยครั้ง อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของยาง และผ้าเบรกได้อีกด้วย
  • รักษาความเร็วคงที่ (60-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) การขับรถด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอ และเหมาะสมช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รถยนต์แต่ละคันมีช่วงความเร็วที่ประหยัดน้ำมันที่สุดแตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปควรรักษาความเร็วระหว่าง 60-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 
  • ตรวจเช็กเครื่องยนต์ตามคำแนะนำของคู่มือรถ การบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะที่กำหนดช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ 3-9% ควรตรวจสอบส่วนสำคัญ เช่น ไส้กรองอากาศ ระบบระบายความร้อน หัวเทียน และระบบการเผาไหม้เชื้อเพลิงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
  • เช็กลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การเติมลมยางตามมาตรฐานที่กำหนดไม่เพียงช่วยประหยัดน้ำมัน แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย ยางที่ลมอ่อนเกินไป หรือแข็งเกินไปจะเพิ่มภาระการทำงานของเครื่องยนต์ และส่งผลต่อความสิ้นเปลืองน้ำมัน
  • ลดการบรรทุกของที่ไม่จำเป็น น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนัก ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น การลดน้ำหนักสิ่งของที่ไม่จำเป็นภายในรถช่วยลดภาระเครื่องยนต์ และประหยัดน้ำมันได้
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามรอบที่เหมาะสมช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งรถยนต์ที่ไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นเวลานานจะสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติ

ข้อมูลเหล่านี้คือข้อมูลน่ารู้ที่เกี่ยวกับการดูแลอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงของรถยนต์ของเรา ซึ่งรวมทั้งสาเหตุที่ทำให้รถกินน้ำมัน รวมถึงวิธีแก้ไขต่าง ๆ ไว้ให้อย่างครบครัน ทั้งนี้นอกจากการดูแลเรื่องรถกินน้ำมันแล้ว เจ้าของรถยนต์ทุกคันต้องไม่ลืมที่จะทำประกันรถยนต์เพื่อดูแลรถยนต์ของตนเองอย่างรอบด้าน

รถกินน้ำมัน เกิดจากอะไร

สำหรับใครที่ต้องการจะมองหาประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับตนเองทั้งในแง่ของความคุ้มครอง และราคา สามารถเปรียบเทียบประกันรถยนต์จากบริษัทประกันชั้นนำต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว สะดวกสบาย กับ แรบบิท แคร์ ได้เลย โดยความคุ้มครองของประกันรถยนต์ประเภทต่างๆ จะแตกต่างกันดังนี้

ประกันรถชั้น 1
ครอบคลุมทุกกรณี เช่น อุบัติเหตุ การชน พลิกคว่ำ ไฟไหม้ น้ำท่วม และรถหาย พร้อมทั้งคุ้มครองบุคคลภายนอกในกรณีเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และร่างกาย นอกจากนี้ยังครอบคลุมการซ่อมแซมรถ แม้ไม่มีคู่กรณี เช่น รอยขีดข่วนหรือชนสิ่งกีดขวาง

ประกันรถชั้น 2+
ให้ความคุ้มครองรถเฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะทางบก (ต้องมีคู่กรณี) รวมถึงกรณีไฟไหม้ น้ำท่วม และรถหาย พร้อมคุ้มครองบุคคลภายนอกในด้านชีวิต ทรัพย์สิน และร่างกาย

ประกันรถชั้น 3+
คุ้มครองรถของผู้เอาประกันเฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะทางบก (ต้องมีคู่กรณี) และให้ความคุ้มครองบุคคลภายนอกในเรื่องชีวิต ทรัพย์สิน และร่างกาย

ประกันรถชั้น 2
ให้ความคุ้มครองกรณีไฟไหม้และรถหายสำหรับรถของผู้เอาประกัน พร้อมคุ้มครองบุคคลภายนอกในด้านชีวิต ทรัพย์สิน และร่างกาย

ประกันรถชั้น 3
คุ้มครองเฉพาะบุคคลภายนอกในกรณีความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และร่างกาย โดยไม่มีความคุ้มครองรถของผู้เอาประกันเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับคุณได้ที่ แรบบิท แคร์ ที่ช่วยให้คุณเปรียบเทียบแผนประกันจากบริษัทชั้นนำในที่เดียว พร้อมบริการครอบคลุมอุบัติเหตุ การซ่อมแซม และภัยธรรมชาติ พร้อมบริการหลังการขาย 24 ชั่วโมง ให้คุณอุ่นใจทุกการเดินทาง!


สรุป

รถกินน้ำมันเกิดขึ้นได้จากสาเหตุหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ที่เสื่อมสภาพ, ระบบจุดระเบิดทำงานผิดปกติ, การบรรทุกน้ำหนักเกินกำหนด, การขับขี่ที่ใช้รอบเครื่องยนต์สูงต่อเนื่อง รวมไปถึงการไม่บำรุงรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ, การใช้ยางที่ไม่เหมาะสม หรือการไม่ตรวจเช็กแรงดันลมยางก็สามารถส่งผลให้รถมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน

ที่มา


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 99539

แคร์รถยนต์

รถเทสไดร์ฟ หรือรถ test drive คือ อะไร ทำไมมีราคาถูกกว่ารถปกติ

ทำความรู้จักกับการเทสไดร์ฟ และรถ test drive ว่าทำไมในปัจจุบัน ผู้คนจำนวนมากที่ต้องการออกรถถึงหันมาสนใจเรื่องนี้มาเป็นพิเศษ
Natthamon
25/02/2025
Rabbit Care Blog Image 99578

แคร์รถยนต์

รถเย็นสบายใจ คู่มือดูแลแอร์รถยนต์ให้เย็นฉ่ำ พร้อมวิธีรับมือเมื่ออากาศเย็น รถสตาร์ทไม่ติด​

อากาศร้อนอบอ้าวในประเทศไทย ทำให้ "รถเย็น" กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาเมื่อต้องเดินทางด้วยรถยนต์ การมีแอร์รถยนต์ที่เย็นฉ่ำ
Natthamon
24/02/2025
Rabbit Care Blog Image 99531

แคร์รถยนต์

ที่จอดรถ BTS ใกล้ที่สุดของแต่ละสถานี มีจุดไหนบ้าง

สำหรับคนที่ต้องนำรถยนต์มาใช้บริการที่จอดรถ BTS หรือต้องเลือกลานจอดรถ BTS ใกล้เคียง เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางให้สะดวกสบายมากขึ้น
Natthamon
20/02/2025