การเติมลมรถยนต์สำคัญอย่างไร ทำเองยากไหม แนะนำวิธีง่าย ๆ สำหรับมือให้หัดเติม

ผู้เขียน : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
 
ตรวจทาน : คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct

close
linkedin icon
Published: November 25,2024
  
 
  
Reviewed: November 2, 2024
เติมลมรถยนต์

หนึ่งในการดูแลรถยนต์อย่าง ‘การเติมลมรถยนต์’ เป็นสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งซึ่งจำเป็นต่อการใช้งานรถยนต์ที่บางครั้งหลายคนหลงลืมที่จะดูแลไป กว่าจะรู้ตัวว่าจะต้องเติมลมรถยนต์ก็เมื่อยางแบนจนแทบจะขับไม่ไหว แล้วรู้หรือไม่ว่าการเติมลมรถยนต์นั้นมีความสำคัญอย่างไร เมื่อต้องเติมลมรถยนต์ด้วยตนเองควรที่จะเติมเท่าไหร่ มีเรื่องน่ารู้อะไรที่เกี่ยวกับการเติมลมรถยนต์ที่เจ้าของควรรู้บ้างมาดูไปพร้อมกัน!!

เติมลมรถยนต์ สำคัญอย่างไร ?

การเติมลมรถยนต์มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากการเติม ลมรถยนต์นั้นมีผลต่ออัตราการประหยัดน้ำมัน และช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยขณะขับขี่ ลดการเกิดอุบัติเหตุ (การเกิดยางรั่วยางระเบิด) นอกจากนี้การเติมลมรถยนต์แบบพอดีให้ยางมีลมยางในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยลดภาระการบรรทุกของของรถยนต์เราได้ แต่หากมีการเติมลมรถยนต์ไม่เพียงพออาจทำให้ยางมีอายุการใช้งานลดน้อยลง ทำให้ยางส่วนไหล่หรือส่วนที่ติดกับถนนเสื่อมสภาพได้ และทำให้โครงยางเสียหายและการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นด้วยอีกด้วย

ดังนั้น การเติมลมรถยนต์ให้เพียงพอและเหมาะสมถึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรใส่ใจในการดูแลรถยนต์ของเราเป็นประจำ หมั่นสังเกตสภาพยางรถยนต์ของเราทุกครั้งเมื่อขึ้น-ลงจากรถนั่นเอง

เติมลมรถยนต์ยากไหม ?

สำหรับผู้ที่เพิ่งใช้รถยนต์ของตัวเองได้ไม่นานและไม่เคยเติมลมรถยนต์อาจสงสัยอยู่บ้าง ว่าการเติมลมรถยนต์นั้นยากหรือไม่ คำตอบคือเติม ลมรถยนต์ไม่ได้ยากแต่อย่างใด เพียงหาจุดที่มีที่เติมลมให้เจอไม่ว่าใครก็สามารถเติมลมรถยนต์ด้วยตนเองได้เพราะการเติม ลมรถยนต์นั้นไม่ได้ต่างอะไรกับการเติมลม มอเตอร์ไซค์ เพียงแต่สิ่งสำคัญในการเติมลมนั้นคือเราจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงปริมาณที่เหมาะสมในการเติม ลมรถยนต์ของเราเพื่อให้ส่งผลดีต่อยางรถและการใช้งานรถยนต์ที่สุดนั่นเอง

เติมลมรถยนต์ด้วยตนเองได้หรือไม่ ?

แน่นอนว่านอกจากจะสามารถไปให้ที่ร้าน อู่ซ่อมรถ หรือศูนย์รถยนต์เติมลมให้ได้แล้ว ตัวเราเองนั้นก็สามารถเติมลมรถยนต์ด้วยตนเองได้ รวมถึงควรที่จะหมั่นเช็กสภาพยางรถและเติมลมรถยนต์ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำ และสำหรับใครที่ยังไม่ทราบวิธีการเติมลมรถยนต์ด้วยตัวเองนั้น แรบบิท แคร์ ได้นำวิธีเติมลมรถยนต์ที่ถูกต้องมาให้ในหัวข้อถัดไป

วิธีเติมลมรถยนต์

ในส่วนของคนที่ยังไม่เคยเติมลมรถยนต์ด้วยตนเองมาก่อนนั้นการเติมลมยางที่ปั๊มน้ำมันเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุดสำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ แต่สำหรับบางคนอาจไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไรในการเติมลมรถยนต์ ดังนั้นเรามาดูขั้นตอนเบื้องต้นเพื่อเติม ลมรถยนต์ที่ถูกต้องกันเลย

  • หลังจากเดินทางไปถึงปั๊มน้ำมัน ให้มุ่งหน้าไปที่ช่องเติม ลมยาง และจอดรถให้ชิดช่องเติม ลมยาง
  • ทำการหมุนถอดฝาครอบก้านวาล์วออกจากยางแต่ละเส้น
  • ใช้เกจวัดลมยางของรถเพื่อตรวจสอบแรงดันลมยาง และหากต้องการเติม ลมยาง ให้เริ่มต้นด้วยการเติม ลมยางเข้าไปทีละเส้นจนครบ
  • ตรวจสอบแรงดันลมยางอีกครั้งหลังจากเติม ลมยางเสร็จ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้เติม ลมยางมากเกินไปหรือน้อยจนเกินไป
  • เมื่อเติม ลมยางเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องอย่าลืมปิดฝาครอบวาล์วยาง

เป็นเพียง 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ไม่มีอะไรยุ่งยากที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ ทั้งนี้หลังจากเติมลมรถยนต์ไปแล้วก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรตรวจสอบเช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอ โดยควรเติมลมรถยนต์ของเราอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรืออาจมากหรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานนั่นเอง

ที่เติมลม

วิธีตรวจสอบแรงดันลมยาง ก่อนเติมลมรถยนต์

การตรวจสอบแรงดันลมยางของรถไม่ยุ่งยาก เราจะสามารถใช้เครื่องมือเกจวัดแรงดันลมยางหรือใช้เกจวัดในปั๊มน้ำมันของรถเพื่อทำการตรวจสอบได้ ซึ่งรถยนต์สมัยใหม่บางคันอาจมีระบบแสดงแรงดันลมยางบนแผงควบคุมของตัวรถ และเมื่อแรงดันลมยางต่ำลง ก็ควรที่จะทำการเติม ลมยางตามค่า PSI สูงสุดที่ระบุไว้บนแก้มยางหรือคู่มือของรถยนต์ และจำเป็นต้องเลือกใช้ค่าความดันการเติม ลมยางที่เหมาะสมสำหรับรถ เป็นปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) หรือเป็นกิโลปาสคาล (kPa)

นอกจากนี้ยังมีวิธีการสังเกตลมยางรถยนต์ด้วยตนเองขณะขับรถยนต์ คือ สามารถสังเกตได้จากยางรถยนต์ว่าอ่อนหรือแข็งเกินไปขณะขับรถ หากเรารู้สึกว่าพวงมาลัยหนักมากแสดงว่ายางอ่อนหรือการเติม ลมยางรถยนต์น้อยเกินไป ให้เติมเพิ่มประมาณ 2-3 PSI และหากเรารู้สึกว่าขับแล้วรถไม่นิ่มโดยเฉพาะตอนเจอกับพื้นถนนที่ไม่เรียบ แสดงว่ายางแข็งหรือการเติม ลมยางรถยนต์มากเกินไป ให้ลดลงประมาณ 2-3 PSI

ควรเติมลมรถยนต์เท่าไหร่ ?

สิ่งสำคัญของการเติม ลมยางรถยนต์คือ ควรเติมลมรถยนต์ตามแรงดันที่แนะนำของรถแต่ละประเภท เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการควบคุมรถ การเบรก ไปจนถึงน้ำมันรถ และหากมีการบรรทุกคนหรือของที่มากขึ้น อาจจะต้องเพิ่มแรงดันลมยางเพื่อชดเชยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนั้นด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้นั้นแนะนำให้สอบถามจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเพื่อความสบายใจในการขับขี่

สำหรับแรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเติม ลมรถยนต์รถเก๋งนั้น จะอยู่ที่ประมาณ 30-32 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) สำหรับล้อหน้าและล้อหลัง แต่ถ้าหากต้องบรรทุกน้ำหนักมาก เช่น กรณีที่มีผู้โดยสารเต็มทั้ง 5 ที่นั่ง หรือบรรทุกของด้านหลังจนเต็ม อาจเพิ่มปริมาณการเติมได้ถึง 33-35 PSI เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น

ส่วนแรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถกระบะนั้น จะค่อนข้างใช้ลมยางที่มากกว่ารถเก๋งโดยสารตามปกติ โดยสำหรับล้อหน้าแรงดันยางจะอยู่ที่ประมาณ 36-38 PSI และล้อหลังที่ 40-42 PSI แต่ถ้าหากบรรทุกของเต็มท้ายรถ ก็สามารถเพิ่มปริมาณการเติมลมเพื่อรองรับน้ำหนักได้มากถึง 47-51 PSI เลยทีเดียว

ในกรณีที่ต้องขับรถระยะทางไกล ควรเพิ่มลมยางอีกประมาณ 3-5 PSI และหากคุณต้องการทราบว่าควรเติม ลมยางรถยนต์ในปริมาณเท่าไหร่จะดีที่สุด ก็สามารถทำการตรวจสอบได้ที่มุมของประตูฝั่งคนขับโดยจะมีสติกเกอร์แสดงแรงดันลมที่เหมาะสมแปะเอาไว้นั่นเอง

เติมลม มอเตอร์ไซค์

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเติมลมรถยนต์

สำหรับคำแนะนำในการเติมลมรถยนต์ ควรทำการวัดและเติมลมในยางเมื่อยางยังคงเย็นหรือเมื่อรถได้วิ่งมาไม่เกิน 2-3 กิโลเมตร เราอาจพบว่าไม่สะดวกที่จะทำเช่นนั้นเสมอไป ให้จำไว้ว่าถ้ายางมีการวิ่งในระยะทางที่ยาวหรือในเวลานาน ค่าแรงดันลมในยางจะสูงกว่าเมื่อยางยังคงเย็นอยู่ ดังนั้นหากคุณขับรถมาจากทางไกลหรือเมื่อรถวิ่งไปไกล 30-40 กิโลเมตรแล้วต้องการเติมลมที่ปั๊มน้ำมันก่อนกลับบ้าน คุณอาจจะต้องเพิ่มความดันของลมในยางอีกประมาณ 2-4 ปอนด์ต่อตารางนิ้วนั่นเอง

เติมลมรถยนต์ได้ที่ไหน ?

สำหรับการเติมลมรถยนต์นั้นหากไม่ได้เติมที่อู่ซ่อมรถ ศูนย์รถยนต์ สถานที่ที่สามารถเติมลมรถยนต์ด้วยตนเองได้ง่ายที่สุดก็คือการเติมลมรถยนต์ที่จุดเติมลมของปั๊มน้ำมันทั่วไปนั่นเอง

หากเติมลมรถยนต์มากไปจะเป็นอย่างไร ?

  • อายุการใช้งานลดลงเนื่องจากการสึกหรออย่างรวดเร็วบริเวณตรงกลางของดอกยาง
  • การควบคุมรถเมื่อขับขี่บนท้องถนนจะยากและทำให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนที่เปียก

เติมลมรถยนต์น้อยเกินไปจะเป็นอย่างไร ?

  • ทำให้การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น
  • ทำให้ยางมีการสึกหรอเร็วขึ้นและมีความผิดปกติมากขึ้น
  • ทำให้อายุการใช้งานของยางที่เติม ลมยางน้อยกว่าปกติ 20%
  • ทำให้การควบคุมรถเมื่อขับขี่บนท้องถนนเป็นอันตรายและทำให้เกิดความร้อน ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงถึงยางระเบิดได้เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง
  • เพิ่มปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

เติมลม

ทั้งหมดนี้คือข้อมูลน่ารู้ที่เกี่ยวกับการเติมลมรถยนต์ที่ทาง แรบบิท แคร์ ได้รวบรวมมาให้ อย่าลืมว่าในการใช้รถยนต์นั้นเราจะทำเพียงใช้งานขับไปเรื่อย ๆ โดยไม่ดูแลไม่ได้ จะต้องหมั่นใส่ใจตรวจเช็กสภาพของรถและอุปกรณ์ และอะไหล่ต่าง ๆ ที่สำคัญจะต้องไม่ลืมทำประกันรถยนต์ กับ แรบบิท แคร์ เพื่อเป็นการดูแลรถยนต์อย่างรอบด้านและป้องกันความเสียหายในระยะยาว


สรุป

สำหรับคำแนะนำในการเติมลมรถยนต์ ควรทำการวัดและเติมลมในยางเมื่อยางยังคงเย็น หรือรถได้วิ่งมาไม่เกิน 2-3 กิโลเมตร โดยเราสามารถเติมลมยางได้เองด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

– หมุนถอดฝาครอบก้านวาล์วออกจากยางแต่ละเส้น
– ใช้เกจวัดลมยางของรถเพื่อตรวจสอบแรงดันลมยาง และเติมลมยางเข้าไปทีละเส้นจนครบ
– ตรวจสอบแรงดันลมยางอีกครั้งหลังจากเติมลมยางเสร็จ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้เติมลมยางมากเกินไปหรือน้อยจนเกินไป จากนั้นปิดฝาครอบวาล์วยางจนครบทุกเส้น

ที่มา


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 99531

แคร์รถยนต์

ที่จอดรถ BTS ใกล้ที่สุดของแต่ละสถานี มีจุดไหนบ้าง

สำหรับคนที่ต้องนำรถยนต์มาใช้บริการที่จอดรถ BTS หรือต้องเลือกลานจอดรถ BTS ใกล้เคียง เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางให้สะดวกสบายมากขึ้น
Natthamon
20/02/2025
Rabbit Care Blog Image 99055

แคร์รถยนต์

เปลี่ยนยางรถยนต์ ต้องพิจารณาเปลี่ยนตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ใช้เวลาเปลี่ยนนานหรือไม่

พอถึงเวลาที่เราใช้รถไปได้สักระยะ ประมาณ 2-3 ปี คำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนยางรถยนต์ หรือเปลี่ยนล้อรถยนต์จะเริ่มเข้ามากวนใจมากขึ้น ยิ่งถ้ายังเป็นรถยนต์คันแรก
Natthamon
03/02/2025
Rabbit Care Blog Image 99327

แคร์รถยนต์

รถกินน้ำมัน เกิดจากอะไร มีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยประหยัดน้ำมัน

รถกินน้ำมัน สิ่งที่ทำให้เจ้าของรถยนต์ทุกคันต่างก็ต้องกุมขมับเพราะถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเสียทรัพย์ ทั้งค่าน้ำมันที่แพงแสนแพง
Natthamon
23/01/2025