ขายซากรถเก่าทำอย่างไร? วิธีขายซากรถเก่ายากไหม? มีเรื่องไหนบ้างที่ควรรู้ก่อน?
พอถึงเวลาที่เราต้องตัดสินใจขายซากรถเก่าที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ ต้องมีหลายอย่างที่เตรียมพร้อม หรือควรรู้ให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจขายซากรถจริงจัง หรือแม้กระทั่งการประสบอุบัติเหตุหนัก ไม่สามารถซ่อให้รถยนต์กลับมาเหมือนเดิมได้ ก็ต้องตัดสินใจขายซากรถ ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่ทำได้ แรบบิท แคร์ ได้ลองรวมรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการขายซากรถ และการขายซากมาให้ได้อ่านกันหลาย ๆ มุมมอง ตั้งแต่เรื่องการขายแบบมีหรือไม่มีเล่มทะเบียน, ราคาประมาณเท่าไหร่, กรณียังผ่อนไม่หมด, ทะเบียนขาด, ขายได้ที่ไหน, มีกี่ขั้นตอน และสรุปเรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจขายรถยนต์ที่เป็นซากของเรา
ขายซากรถ พร้อมเล่มทะเบียน
ขายซากรถเก่า มีเล่มทะเบียน จะได้ราคาดีมากกว่า โดยเฉพาะซากรถเก่าที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้นาน ซ่อมแล้วไม่คุ้มกับเจ้าของเดิม เพราะคนที่รับซื้ออาจมีช่างที่สามารถซ่อมแซมได้ในต้นทุนที่ประหยัดกว่า และสามารถนำไปขายต่อได้ราคามากขึ้นนั่นเอง รวมถึงการตัดสินใจขายซากรถเก่า หรือซากจริง ๆ ก็ควรไปแจ้งยกเลิกป้ายภาษีให้เรียบร้อยก่อน ไม่อย่างนั้นอาจมีความเสี่ยงถูกสวมทะเบียนเอาไปใช้งานได้ ซึ่งถือเป็นอันตรายทางด้านกฎหมาย หากอนาคตมีปัญหาอะไรขึ้นมา เราอาจต้องยังเป็นผู้รับผิดชอบอยู่นั่นเอง
ขายซากรถ ไม่มีเล่ม
ขายซากรถเก่า ไม่มี เล่ม หรือการขายซากรถ ไม่มี เล่ม ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะการที่รถยนต์คันหนึ่งไม่มีเล่มทะเบียน ต่อให้เก่ามากแค่ไหน ทางร้านรับซื้อ รวมถึงในทางกฎหมายของประเทศไทย รถยนต์คันนั้นอาจเปรียบเสมือนรถยนต์ที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่ารถยนต์คันนั้นเป็นรถที่ถูกขโมยมา รถที่ถูกคดีความ ซึ่งอนาคตหลังจากการขายไปแล้ว มีโอกาสสูงที่จะมีปัญหาตามมาภายหลัง
ขายซากรถ ราคาประมาณเท่าไหร่
ปัจจุบันขายซากรถเก่า ราคาจะเฉลี่ยสูงต่ำที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ขึ้นอยู่กับสภาพที่ต้องการขายซากรถว่าอยู่ในขั้นไหน เช่น หากเป็นซากรถยนต์ที่ชนมา ยังมีส่วนที่พังยับเยิน อาจได้ราคาช่วงหลักหมื่นต้น ๆ ไม่เกินครึ่งแสน ประมาณ 20,000 – 50,000 บาท เว้นแต่กรณีที่เสียหายแค่บริเวณตัวถัง อุปกรณ์ภายในยังอยู่ครบถ้วน อาจได้ราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่เรานำเสนอมา ส่วนการขายซากที่ไม่ได้ใช้งาน แต่ยังสามารถใช้งานได้ อาจมีราคาที่ค่อนข้างสูง ตั้งแต่ 60,000 – 100,000 บาท ซึ่งหลักแสนอาจจะยาก แต่ค่อนข้างไปถึงราคาเกือบแสน ทั้งนี้ต้องประเมินสภาพโดยรวม กับรุ่นปีของตัวรถยนต์คันนั้นเพิ่มเติมด้วย
คำแนะนำเพิ่มเติม ขายซากรถ พร้อมเล่มทะเบียน ราคาจะสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นการขายซากรถเก่า หรือซากรถที่ชนยับก็ตาม เพราะการขายซากรถ ไม่มีเล่ม ราคาจะตกลงมาก เนื่องจากที่มาของรถยนต์คันนั้นดูคลุมเครือ จึงต้องเน้นราคาที่ออกง่ายไปไว
ขายซากรถ แต่ยังผ่อนไม่หมด
ขายซากรถ ติดไฟแนนซ์ ยังผ่อนไม่หมด เราไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากเจ้าของรถยนต์ตัวจริงจะยังคงเป็นไฟแนนซ์อยู่ ดังนั้นหากเราต้องการขายซากรถจริง ๆ ต้องแจ้งไปทางไฟแนนซ์เพื่อเตรียมประสานเรื่องอีกทีหนึ่ง
ขายซากรถเก่า ทะเบียนขาด
กรณีที่อยากขายซากของรถยนต์คันเก่าที่ทะเบียนขาด ถือว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะการตัดสินใจขายซากของรถยนต์ไม่ว่าจะในสภาพไหนก็ตาม เราต้องทำการติดต่อกรมขนส่งเพื่อขอยกเลิกภาษีรถยนต์อยู่แล้ว เพื่อป้องกันการนำทะเบียนไปสวมรอยใช้งานต่อโดยที่ผู้ขายไม่ทราบ
ขายซากรถ ได้ที่ไหนบ้าง
การติดต่อขายซากรถเก่า จะสามารถทำได้จากการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ว่ามีที่ไหนรับซื้อบ้าง หรืออาจค้นหาตามอู่รถยนต์ใกล้บ้าน แต่ทั้งนี้หลังจากที่เราได้ผู้รับซื้อแล้ว ควรนัดกันมาดูสภาพรถ ประเมินราคา จัดการเรื่องเอกสารต่อหน้ากัน เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในเรื่องต่าง ๆ
ขายซากรถ กระบะ
ขายซากรถ กระบะ ถือเป็นซากรถยนต์ที่ค่อนข้างมีความนิยมมากกว่ารถยนต์ทั่วไป เพราะชิ้นส่วนของรถกระบะที่มีอยู่หลากหลาย สามารถนำไปซ่อมใช้งานได้ง่ายกว่ารถยนต์แบบรถเก๋งทั่วไป ที่หากเกิดความยับเยินขึ้นมาแล้ว ต้องใช้อะไหล่ชิ้นใหม่เข้ามาทดแทนมากกว่าการซ่อมแซมให้กลับมาเหมือนเดิม
ขั้นตอนการขายซากรถ
ขั้นตอนการขายซากรถจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ กรณีที่ผ่อนหมดแล้ว กับผ่อนยังไม่หมด เจ้าของยังเป็นไฟแนนซ์ รายละเอียดขั้นตอนเบื้องต้นจะมีดังนี้
- ขายซากกรณีที่ผ่อนรถหมดแล้ว: เราสามารถรวบรวมเอกสารเบื้องต้น แล้วติดต่อสถานที่รับซื้อเพื่อให้เข้ามาประเมินสภาพรถ และส่งมอบเอกสาร ตกลงราคาขายให้เรียบร้อยได้ด้วยตัวเอง
- ขายซากกรณีที่ยังผ่อนรถไม่หมด: ให้ทำการติดต่อไปยังไฟแนนซ์ที่เราผ่อนส่งรถยนต์คันนั้นอยู่ เพื่อปรึกษาหารือ และดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ กับทางไฟแนนซ์อีกทีหนึ่ง
คำแนะนำเรื่องการเตรียมเอกสารสำหรับขายซาก ได้แก่ เล่มทะเบียนรถยนต์, สัญญาการซื้อขาย, เอกสารการโอนรถยนต์ และหนังสือการมอบอำนาจ (กรณีที่เจ้าของรถไม่ได้ดำเนินการเอง) เพียงเท่านี้ก็พร้อมที่จะตกลงการขายซากเรียบร้อยแล้ว
รถชนหนัก ต้องขายซากรถ
หากรถชนมาหนักแล้วต้องการขายซาก มีเรื่องที่ควรรู้และห้ามมองข้ามทั้งหมด 5 ข้อด้วยกัน คือ จะขายซากต้องมีเล่มทะเบียน, ซากรถที่ต้องการขายมีการประเมินราคาต่างกันกับสิ่งที่เจอ ระหว่างรถที่เจออุบัติเหตุกับน้ำท่วม, รถติดไฟแนนซ์ เราไม่สามารถขายเองได้, รถที่มีประกันรถยนต์กับไม่มีต่างกัน และเอกสารที่ต้องเตรียมให้ครบ ตามที่เราแนะนำเอาไว้ด้านบน
สรุป 7 ข้อต้องรู้กับการขายซากรถเก่า
7 ข้อที่ต้องรู้ก่อนการขายซาก ได้แก่ มีประกันรถยนต์กับไม่มีต่างกันมาก, เช็กขั้นตอนการขายให้ดี, ภาษี ทะเบียนรถ หมดหรือยังต้องเช็ก, เอกสารที่ต้องเตรียมพร้อม, ระวังเรื่องการโอนลอย, ตรวจสอบการประเมินราคา และราคาซากรถน้ำท่วมกับประสบอุบัติเหตุราคาต่างกันมาก สำหรับรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดดูได้ที่หัวข้อย่อยด้านล่าง
- มีประกันรถยนต์กับไม่มีต่างกันมาก เพราะซากรถที่มีประกันอุบัติเหตุ ต้องติดต่อทางตัวแทนประกัน เพื่อดำเนินการตามเงื่อนไขคุ้มครอง แต่ถ้าไม่มีเราดำเนินการได้เองทั้งหมดเลย
- เช็กขั้นตอนการขายให้ดี เพื่อป้องกันการขาดตกบกพร่องข้อมูลสำคัญไป
- ภาษี ทะเบียนรถ หมดหรือยังต้องเช็ก ถ้าหากยังมีอยู่ ต้องไปแจ้งยกเลิก เพื่อป้องกันความเสี่ยงการสวมรอยในอนาคต
- เอกสารที่ต้องเตรียมพร้อม มีทั้งหมด 4 รายการ เล่มทะเบียนรถยนต์, สัญญาการซื้อขาย, เอกสารการโอนรถยนต์ และหนังสือการมอบอำนาจ (กรณีไม่ได้ดำเนินการเอง)
- ระวังเรื่องการโอนลอย ถึงแม้ในทางความเป็นจริงจะสามารถทำได้ แต่ทางด้านกฎหมายเราต้องเช็กความพร้อมให้ละเอียดก่อน
- ตรวจสอบการประเมินราคา เนื่องด้วยราคาแตกต่างกันออกไปแต่ละรุ่น หากไม่รีบ ควรพิจารณาโดยละเอียดรอบคอย
- ราคาซากรถน้ำท่วมกับประสบอุบัติเหตุราคาต่างกันมาก ซากรถที่ถูกน้ำท่วมซ่อมง่ายกว่า อะไหล่ อุปกรณ์ ชิ้นส่วนที่อยู่ครบ รถที่ประสบอุบัติเหตุซ่อมยาก ต้องเบิกอะไหล่ใหม่หลายส่วน
ขายซากรถเก่าแล้ว สามารถเปลี่ยนประกันรถยนต์ที่คุ้มครองอยู่ไปรถคันใหม่ได้ไหม
ถ้าหากขายซากรถยนต์เก่าแล้ว แต่ยังมีประกันรถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ การเปลี่ยนรถคันที่คุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์สามารถทำได้ แต่จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันและประเภทของกรมธรรม์ที่คุณทำไว้ รายละเอียดการเปลี่ยนรถคันที่คุ้มครองในประกันแต่ละชั้นมีดังนี้
- ประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันชั้น 1 สามารถขอเปลี่ยนรถคันที่คุ้มครองได้ หากคุณมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนรถยนต์ โดยบริษัทประกันมักจะขอตรวจสอบสภาพรถคันใหม่ ก่อนที่จะอนุมัติการเปลี่ยนคันในกรมธรรม์ เนื่องจากประกันชั้น 1 มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมและให้ความคุ้มครองกับรถที่อาจมีมูลค่าสูง ถ้าหากรถคันใหม่มีมูลค่าสูงกว่าเดิม เบี้ยประกันอาจถูกปรับเพิ่มตามราคาประเมินของรถคันใหม่ - ประกันรถยนต์ชั้น 2 และ 2+
ประกันรถชั้น 2 และ 2+ ก็สามารถขอเปลี่ยนรถคันที่คุ้มครองได้เช่นกัน โดยบริษัทประกันอาจพิจารณาความคุ้มค่าและเงื่อนไขของกรมธรรม์ เพื่อให้แน่ใจว่ารถคันใหม่อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมกับความคุ้มครอง โดยเฉพาะกับประกันชั้น 2+ ซึ่งคุ้มครองกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการชนกับยานพาหนะอื่นก็อาจมีการปรับค่าเบี้ยประกันตามรุ่นและปีของรถคันใหม่ - ประกันรถยนต์ชั้น 3 และ 3+
ประกันชั้น 3 และ 3+ ก็สามารถขอเปลี่ยนรถคันที่คุ้มครองได้ โดยมีขั้นตอนคล้ายกับประกันชั้นอื่น ๆ และอาจต้องมีการปรับปรุงข้อมูลกรมธรรม์ เนื่องจากประกันชั้น 3 และประกันชั้น 3+ มีความคุ้มครองเฉพาะในกรณีความเสียหายที่เกิดกับบุคคลภายนอกและการชนที่มีคู่กรณี การพิจารณาของบริษัทประกันจึงมักไม่เข้มงวดเท่าชั้น 1 และ 2 ขณะที่เบี้ยประกันก็อาจมีการปรับตามความเหมาะสมของรถคันใหม่ แต่โดยทั่วไปจะมีการเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าประกันชั้นอื่นๆ
ขั้นตอนการเปลี่ยนรถคันที่ประกันคุ้มครอง
- ติดต่อบริษัทประกัน เพื่อแจ้งความประสงค์ในการเปลี่ยนรถคันที่คุ้มครอง
- ส่งเอกสารประกอบ เช่น สำเนาทะเบียนรถคันใหม่, กรมธรรม์ฉบับเดิม, และบัตรประชาชน
- ตรวจสอบสภาพรถคันใหม่ โดยบางกรณีอาจต้องให้บริษัทประกันตรวจสภาพรถคันใหม่ก่อนฃ
- ชำระค่าเบี้ยประกันเพิ่มเติมหากมีการปรับเบี้ยประกันเนื่องจากมูลค่าหรือรุ่นรถที่เปลี่ยน
ฉะนั้นก่อนตัดสินใจขายซากของรถยนต์ที่มีอยู่ ต้องเช็กทั้งหมด 3 เรื่องหลัก ๆ เป็นเล่มทะเบียนรถยนต์, ภาษี และประกันรถยนต์ เมื่อเช็กทั้งหมดเรียบร้อยค่อยดำเนินการอยากถูกต้องตามขั้นตอนที่เราแนะนำไปทั้งหมด สำหรับคนที่ใช้งานรถยนต์อยู่ตามปกติ ยังไม่ถึงเวลาขายซาก อาจลองพิจารณาเลือกสมัครประกันรถยนต์เพิ่มเติม เพื่อช่วยสร้างโอกาสการดูแลคุ้มครอง หากอนาคตเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา จนถึงขั้นต้องการขายซาก ก็ยังมีประกันรถยนต์คอยช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด สามารถติดต่อเข้ามารับคำปรึกษาโดยตรงกับทาง แรบบิท แคร์ ได้ที่เบอร์ 1438 เบอร์นี้โทรได้ตลอดเวลา พร้อมข้อเสนอพิเศษ ส่วนลดสูงสุด 70% หรือผ่อน 0% ได้นาน 10 เดือน
สรุป
การขายซากรถเก่ามีสองแบบหลัก: ขายพร้อมเล่มทะเบียนและขายแบบไม่มีเล่มทะเบียน ซึ่งมีขั้นตอนและข้อกำหนดต่างกัน เช่น การเตรียมเอกสาร การตรวจสอบสถานที่รับซื้อ และการประเมินราคา โดยราคามักต่างกันขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของเอกสาร หากรถยังผ่อนไม่หมดหรือทะเบียนขาด จำเป็นต้องจัดการข้อกฎหมายและเอกสารก่อนขายเพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย