เติมน้ำมันก่อนราคาขึ้นคุ้มจริงไหม? แล้วระหว่างเต็มถัง กับครึ่งถัง อะไรคุ้มกว่ากัน
เคยมีความคิดซับซ้อน หรือถามตัวเองซ้ำ ๆ กันไหมว่าในยุคที่เชื้อเพลิงแพงขนาดนี้ เราเติมน้ำมันกันยังไงให้คุ้มค่าที่สุดในแต่ละรอบ? เพราะตามช่วงเวลาทั่วไปบางคนอาจเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการบอกราคาที่ต้องการเติม หรือส่วนมากก็สั่งเติมน้ำมันเต็มถังบ้าง ครึ่งถังบ้าง แน่นอนหากเราไม่ได้เทียบเรื่องอัตราสิ้นเปลือง พร้อมคิดทบทวนเหตุผลหลาย ๆ อย่าง กับการคำนวณให้ละเอียด อาจทำให้คุณไม่สามารถทราบข้อเท็จจริงได้เลยว่าสรุปแล้วต้องเติมแบบไหนกันแน่ แรบบิท แคร์ จึงอยากเอาข้อมูลที่น่าสนใจมาแชร์ต่อหลายเรื่องราว เช่น การเลือกเติมก่อนที่ราคาจะปรับขึ้น คุ้มจริงไหม, เติมเต็มถังหรือครึ่งถังคุ้มกว่ากัน และ 5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการเติมน้ำมัน ที่ควรเข้าใจให้ถูกเสียที จะมีเรื่องไหนที่คุณยังไม่เคยรู้บ้าง มาร่วมหาคำตอบด้วยกันได้เลย!
เติมน้ำมันก่อนราคาขึ้นคุ้มหรือไม่
ปกติแล้วเวลาที่รู้ข่าวน้ำมันจะปรับราคาขึ้น หลายคนอาจรีบเดินทางไปยังปั๊มน้ำมันในเวลาว่าง เพื่อทำการเติมน้ำมันในราคาเดิมอย่างเร่งด่วน ก่อนจะต้องเจอกับกำแพงราคาที่ปรับสูงขึ้นจนน่าตกใจ ซึ่งหากมองผ่าน ๆ มันอาจดูเหมือนคุ้มค่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้คุ้มมากหรือน้อยกว่าขนาดนั้นสักเท่าไหร่ เราจะลองพามาดูโจทย์ตัวอย่าง ชวนคิดคำนวณเรื่องการไปเติมน้ำมันก่อนขึ้นราคาแบบง่าย ๆ ดังข้อมูลด้านล่างนี้
สอนคำนวณการเติมน้ำมันก่อนปรับราคา
ตัวอย่าง เติมน้ำมันก่อนราคาขึ้น 60 สตางค์ (ค่าเฉลี่ยการปรับราคาขึ้นจะอยู่ที่ประมาณ 20-60 สตางค์) ซึ่งจากเดิมยกให้เป็น 33.90 บาทต่อลิตร หากปรับขึ้นแล้วจะเป็น 34.50 บาทต่อลิตร สมมุตให้เติมเต็มถัง 40 ลิตร เป็นเงินมูลค่า 1,356 บาท แต่ถ้าเติมวันถัดไป จะเป็น 1,380 บาท จะช่วยประหยัดไปได้ 24 บาท
แต่.. ถ้าลองเฉลี่ยว่าเราอยู่ในเมือง มีผู้ใช้บริการปั๊มในช่วงเวลาเร่งด่วนจำนวนมาก อาจต้องติดเครื่องยนต์รอหน้าปั๊มเฉลี่ย 5-10 นาที สมมุตให้อัตราการเผาผลาญน้ำมันที่รอบเดินเบาอยู่ที่ 2 ลิตร ต่อ 1 ชั่วโมง แปลว่าจะสิ้นเปลืองไป 0.033 ลิตรต่อนาที
- หากจอดรอนาน 5 นาที เราจะเสียน้ำมันไปทั้งหมด 0.167 ลิตร คิดเป็นเงิน 5.66 บาท (คิดที่ค่าน้ำมัน 33.90 บาทต่อลิตร) จากเดิมประหยัด 24 บาท ลบออก 5.66 บาท เหลือเพียง 18.34 บาท
- หากจอดรอนาน 10 นาที เราจะเสียน้ำมันไปทั้งหมด 0.33 ลิตร คิดเป็นเงิน 11.18 (คิดที่ค่าน้ำมัน 33.90 บาทต่อลิตร) จากเดิมประหยัด 24 บาท ลบออก 11.18 บาท เหลือเพียง 12.82 บาท
หมายความว่าเราจะประหยัดไปเพียงหลัก 10 บาทเอง แค่นั้นยังไม่พอ ก่อนที่เราจะเข้าไปต่อคิวเพื่อเติมน้ำมันก่อนราคาขึ้น ต้องเดินทางจากที่อยู่ปัจจุบัน เพื่อไปยังปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด ไม่นับเวลายูเทิร์นรถ เวลาจอดติดไฟแดง จอดรถติด กว่าจะวนไปถึงหน้าปั๊มเพื่อเติมน้ำมัน เราอาจเสียไปมากกว่าตัวอย่างที่คำนวณด้านบนก็ได้ ดังนั้นสรุปแล้วการเติมน้ำมันก่อนราคาขึ้น คงไม่ได้คุ้มค่าสักเท่าไหร่นัก ดีไม่ดีก็ไม่คุ้มเอาเสียเลยกับเวลาที่รอ
หากรถจอดอยู่บ้าน ออกไปเติมน้ำมันอาจไม่คุ้ม
เพราะการที่รถจอดนิ่งสนิทอยู่ที่บ้าน และคาดหวังว่าจะออกไปเติมน้ำมันก่อนที่ราคาจะปรับขึ้น ยิ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่คุ้มค่าเอาเสียเวลา ลองนึกสภาพถึงการสตาร์ตเครื่อง กว่าจะขับรถออกพ้นหมู่บ้าน กว่าจะเดินทางไปถึงปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด ก็ต้องเดินทางไม่น้อยกว่า 1-2 กิโลเมตร ก็ทำให้ไม่คุ้มอยู่ดีกับมูลค่าเงินที่จะประหยัดไปในหลักสิบบาท เว้นแต่ว่าหน้าบ้านจะมีปั๊มน้ำมันอยู่ การเติมน้ำมันก่อนราคาขึ้นอาจคุ้มสำหรับคนที่อยู่ในเงื่อนไขสุดท้ายนั้น
เติมน้ำมันเต็มถัง หรือ ครึ่งถังคุ้มกว่ากัน
เติมน้ำมันเต็มถัง หรือ ครึ่งถังคุ้มกว่ากัน คำตอบ คือ เติมเต็มถังคุ้มกว่าแน่นอน และอย่าเชื่อคำกล่าวที่ว่า เวลาเติมน้ำมันอย่าบอกว่าเต็มถัง เนื่องจากความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องน้ำมันค้างสายที่ทำให้ลูกค้าถูกเอาเปรียบจากปั๊มน้ำมัน ไม่เป็นเรื่องจริง แถมการเติมแค่ครึ่งถัง จะทำให้น้ำมันเหลือต่ำบ่อย ทั้งไม่ช่วยประหยัด และยังกลายเป็นส่วนที่ทำให้ปั๊มติกเสียหายเร็วขึ้นกว่าเดิม เมื่อเทียบกับการเติมน้ำมันแบบเต็มถัง
5 ความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับการเติมน้ำมัน
5 ความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับการเติมน้ำมัน คือ เติมช่วงเช้าได้ปริมาณเยอะกว่า, ถ้าปล่อยน้ำมันเหลือน้อย ไม่ดีต่อเครื่องยนต์, น้ำมันพรีเมียมช่วยให้รถวิ่งดีขึ้น, มาตรวัดในรถบอกอัตราสิ้นเปลืองไม่ตรงความจริง และน้ำมันเครื่องบินทำให้รถวิ่งเร็วกว่าเดิม ใครเคยได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับการเติมน้ำมันในรูปแบบไหนมาบ้าง ลองมาคลายความสงสัยด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ตามหัวข้อย่อยด้านล่างด้วยกันหน่อยดีกว่า
เติมน้ำมันช่วงเช้าได้ปริมาณเยอะกว่า
เติมน้ำมันช่วงเช้าได้ปริมาณเยอะกว่า เพราะน้ำมันขยายตัวเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เป็นความคิดที่ผิดแบบเต็มประตู ในความเป็นจริงแล้วจะเติมช่วงเวลาไหน ก็เหมือนกันหมด เนื่องจากตัวถังเก็บน้ำมันของปั๊ม จะอยู่ใต้ดินทำให้มีอุณหภูมิที่ต่ำตลอดเวลา ส่งผลให้เราเติมช่วงเวลาไหนก็ไม่ต่างกันอยู่ดี
ถ้าปล่อยน้ำมันเหลือน้อย ไม่ดีต่อเครื่องยนต์
ถ้าปล่อยน้ำมันเหลือน้อย จะไม่ดีต่อเครื่องยนต์ ด้วยความเชื่อว่าเครื่องยนต์จะสูบเอาขยะกับตะกอนน้ำมันมาเผาไหม้ ทำให้ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ แต่ในความเป็นจริง ท่อจ่ายน้ำมันส่วนใหญ่ จะมีการติดตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของตัวถังอยู่แล้ว จึงสามารถดึงเอาน้ำมันก้นถังมาใช้ได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน
น้ำมันพรีเมียมช่วยให้รถวิ่งดีขึ้น
น้ำมันพรีเมียมช่วยให้รถวิ่งได้ดีขึ้น ทำให้หลายคนเลือกจ่ายเงินค่าน้ำมันแพงกว่าเดิม เพื่อเติมน้ำมันพรีเมียมเหล่านั้น เพื่อหวังประสิทธิภาพรถที่สูงกว่าปกติ ในทางกลับกันมันไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อย เพราะต่อให้น้ำมันพรีเมียมเผาไหม้ได้ยากกว่า หรือส่งผลดีต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์จริง พอเทียบกับการขับขี่ปกติธรรมดาในชีวิตประจำวัน มันไม่ได้ช่วยให้เห็นความชัดเจนในการใช้งานแต่อย่างใด
มาตรวัดในรถบอกอัตราสิ้นเปลืองไม่ตรงความจริง
มาตรวัดในรถบอกอัตราการสิ้นเปลือง ไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้แต่เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น เพราะระหว่างการขับขี่เราอาจเจออัตราการสิ้นเปลืองที่แตกต่างกันออกไป ตามระยะทางและเวลาที่ใช้เดินทาง เมื่อมาตรวัดมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นปัจจุบัน จึงมีการคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงสามารถอ้างอิงและสบายใจได้ทุกครั้งที่เราเติมน้ำมันรอบถัดไป
น้ำมันเครื่องบินทำให้รถวิ่งเร็วกว่าเดิม
น้ำมันเครื่องบินทำให้รถวิ่งเร็วกว่าเดิม ความเชื่อนี้ผิดมหันต์อย่างรุนแรง ใครกำลังจะไปหาเติมน้ำมันเครื่องบินห้ามทำอย่างเด็ดขาด เนื่องจากน้ำมันดังกล่าวจะเป็นน้ำมันก๊าซ ที่ไม่สามารถใช้งานได้กับระบบเครื่องยนต์ของรถได้ หากเผลอเติมน้ำมันดังกล่าวลงไป ต้องเสียทั้งเงินและเวลาไปกับการซ่อมแซมจนหัวเสียไม่ใช่น้อย
เติมแล้วขอใบกำกับภาษีเติมน้ำมันได้ไหม
ท่าไม้ตายลับสุดท้ายสำหรับคนที่สามารถขอใบกำกับภาษีเติมน้ำมันไปเบิกได้นั้น คุณสามารถแจ้งกับพนักงานที่เข้ามาเติมน้ำมันให้กับเราได้เลย ว่าต้องการให้ออกใบกำกับภาษีเพิ่มเติม ซึ่งทำได้ตามปกติ หรือบางครั้งอาจไปลดหย่อนภาษีในโครงการช้อปดี มีคืนของรัฐบาลในแต่ละปีได้ด้วย แต่อย่าลืมเช็กเงื่อนไให้ละเอียด พร้อมกับสอบถามความพร้อมของทางปั๊มน้ำมันให้ดีก่อนด้วย จะได้ไม่เสียเวลาคอยเก้อ
ทีนี้คงสรุปข้อมูลเกี่ยวกับการเติมน้ำมันให้คุ้มค่า รวมถึงทำความเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ให้ถูกต้องอีกครั้งไปกันครบถ้วนแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ กรณีที่พนักงานเติมให้เราผิดประเภท จนกลายเป็นเครื่องยนต์เสียหาย สิ่งเดียวที่จะช่วยผ่อนภาระหนักให้เป็นเบาได้ ต้องเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น เพราะมีการดูแลคุ้มครองเรื่องเครื่องยนต์เสียหาย และต้องแจ้งให้บริษัทประกันทราบทันทีเมื่อเกิดเหตุ ห้ามตกลงเงื่อนไขใด ๆ กับทางปั๊มด้วยตัวเองอย่างเด็ดขาด อาจทำให้ประกันไม่คุ้มครองตามเงื่อนไข กรณีที่สนใจอยากเปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์หรือสมัครประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่คุ้มค่าที่สุด ติดต่อหา แรบบิท แคร์ ได้ที่ 1438 เรามีส่วนลดพิเศษสูงสุด 70% หรือผ่อน 0% นานถึง 10 เดือนให้ด้วย
สรุป
สรุปความเชื่อต่าง ๆ มราเกี่ยวกับการเติมน้ำมันรถ มีดังนี้
- เติมน้ำมันช่วงเช้าได้ปริมาณเยอะกว่า เพราะน้ำมันขยายตัวเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เป็นความคิดที่ผิด
- ถ้าปล่อยน้ำมันเหลือน้อยจะไม่ดีต่อเครื่องยนต์ เป็นเรื่องที่ไม่จริง
- น้ำมันพรีเมียมช่วยให้รถวิ่งได้ดีขึ้น ทำให้หลายคนเลือกจ่ายเงินแพงกว่าเดิมเพื่อหวังประสิทธิภาพรถที่สูงกว่าปกติ ในทางกลับกันมันไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อย
- มาตรวัดในรถบอกอัตราการสิ้นเปลือง ไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้แต่เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
- น้ำมันเครื่องบินทำให้รถวิ่งเร็วกว่าเดิม ความเชื่อนี้ผิดมหันต์
- เติมเต็มถังคุ้มกว่าแน่นอน และอย่าเชื่อคำกล่าวที่ว่า เวลาเติมน้ำมันอย่าบอกว่าเต็มถัง
- หากปกติไม่ค่อยได้ใช้งานรถ มักจอดเฉย ๆ ที่บ้าน ไม่จำเป็นจะต้องรีบออกไปเติมน้ำมันเมื่อน้ำมันราคาปรับลง เพราะไม่คุ้มค่าเสียเวลา และน้ำมันที่เสียไป
ทั้งนี้เป็นความเชื่อบางส่วนที่สามารถพบเห็นได้เท่านั้น ยังมีความเชื่ออีกหลากหลายเกี่ยวกับการเติมน้ำมันรถยนต์อีก
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology