ติดฟิล์มรถยนต์ รับหน้าร้อน เลือกแบบไหนให้โดนใจสุด ๆ
ประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อนอยู่แล้ว ยิ่งมาถึงช่วงเวลาของหน้าร้อนเข้าไปอีก ยิ่งทวีความฮอตปรอทแตกให้กับอากาศในบ้านเรา ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ก็หลีกเลี่ยงที่จะเจอกับความร้อนระอุและแสงแดดจ้า ที่แบกเอาความเสี่ยงอันตรายจากรังสี UV มาฝากคุณด้วย
หลายคนที่ต้องขับรถหน้าร้อนแบบนี้ ก็คงต้องเคยประสบปัญหารถยนต์ร้อน หรือแสงแดดจ้าที่รบกวนสายตาตอนขับรถ ทั้งแสบตา แสบผิว และรู้สึกรำคาญใจใช่ไหมล่ะ?
เจอแบบนี้ต้องขอแนะนำให้ติดฟิล์มรถยนต์กันดีกว่า หลายคนอาจมองว่าฟิล์มแผ่นบาง ๆ จะช่วยได้ดีแค่ไหนกันเชียว แต่ต้องบอกเลยว่านวัตกรรมสมัยนี้เจ๋งมาก ๆ เพราะมีการพัฒนาฟิล์มติดรถยนต์ออกมาหลายรูปแบบ มีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันได้ดี มีคุณภาพสูง และราคาไม่แพงด้วย ถ้าเลือกติดฟิล์มให้เหมาะสมกับการใช้งานรถยนต์ ก็ถือว่าช่วยได้มากอย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว บทความนี้จะขอพาคุณมารู้จักกับฟิล์มติดรถยนต์และแนะนำการติดฟิล์มที่เวิร์ก โดนใจคนใช้รถยนต์
เลือกฟิล์มติดรถยนต์แบบไหน ให้รถดูดี พร้อมช่วยปกป้องแสงแดดได้ดี
จะติดฟิล์มรถยนต์ทั้งที ก็ต้องเลือกแบบที่ดี ๆ กันหน่อย แต่จะเลือกแบบไหนให้เข้ากับรถยนต์ของคุณที่สุด ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักกับฟิล์มแต่ละประเภทกันก่อนเลย
ฟิล์มกรองแสงแบบย้อมสี
ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์แบบย้อมสี เป็นฟิล์มธรรมดาที่ถูกนำไปย้อมสีให้เข้มขึ้น เมื่อนำมาใช้งานก็จะช่วยในการกรองแสงที่จะผ่านเข้ามาให้อ่อนลง หรือลดความเข้มข้นของแสงลง แต่ไม่มีการป้องกันรังสี UV หรือลดความร้อนลง กล่าวคือฟิล์มชนิดนี้ไม่ได้มีคุณสมบัติในการป้องกันอันตรายจากแสงแดด ทำได้เพียงแค่ลดความแรงของแสงแดดที่ส่องเข้ามาเท่านั้น ตัวเนื้อฟิล์มจะเสื่อมสภาพและกลายเป็นสีม่วงเร็ว ยิ่งถ้าต้องขับรถหรือจอดรถกลางแดดบ่อย ๆ ก็จะยิ่งทำให้ฟิล์มชนิดนี้มีอายุการใช้งานที่สั้นลงไปอีก แต่ข้อดีก็คือเป็นฟิล์มติดรถยนต์ที่มีราคาถูก ใช้งบประมาณไม่สูงก็สามารถติดได้รอบคันรถ เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อย แต่ต้องการติดฟิล์มเพื่อพรางตาไม่ให้คนภายนอกมองเห็นภายในรถชัดมากจนเกินไป เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนในรถได้
ฟิล์มกรองแสงลดความร้อน
ฟิล์มติดรถยนต์ชนิดนี้จะแตกต่างจากแบบแรก โดยจะมีการผสมสารป้องกันรังสี UV และสารอันตรายอื่น ๆ ที่มากับแสงแดด กระบวนการผลิตจะเพิ่มรายละเอียดมากขึ้น เพราะมีการเคลือบสารโลหะชนิดพิเศษ ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันรังสีและป้องกันความร้อน โดยจะแบ่งออกมาเป็นหลายรูปแบบ เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ดังต่อไปนี้
ฟิล์มปรอท
ฟิล์มปรอท หรือเรียกอีกอย่างว่าฟิล์มเคลือบโลหะ เป็นฟิล์มที่โดดเด่นเรื่องการช่วยลดความร้อนที่จะเข้าภายในรถยนต์ ลักษณะของกระจกรถที่ติดฟิล์มปรอท คือจะมีเงาสะท้อนคล้าย ๆ แสงสีรุ้ง แต่มองไม่เห็นภายในห้องโดยสารของรถเลย
ฟิล์มรถยนต์แบบนิรภัย
เป็นฟิล์มที่เน้นติดเพื่อป้องกันการแตกของกระจก มีทั้งแบบที่สามารถทนความร้อนได้ และแบบไม่ทนความร้อน เนื้อฟิล์มมีความหนาและเหนียว เพื่อช่วยยึดเกาะตัวกระจกไม่ให้แตกร้าวได้ง่าย และช่วยยึดกระจกไม่ให้เกิดเป็นเกล้ดกระจกเล็ก ๆ กระจายออกมาทำอันตรายกับคนที่อยู่รอบ ๆ ด้วย
ฟิล์มอินฟราเรด
ฟิล์มที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม ตัวฟิล์มจะช่วยตัดรังสีอินฟราเรดที่จะเข้ามาเพิ่มความร้อน จึงช่วยให้ภายในรถเย็นขึ้น ส่วนเรื่องของราคาฟิล์มก็ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแบบอื่น ๆ
ฟิล์มนาโน
ฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่มีเนื้อใส ไม่ทึบแสง แต่มีคุณสมบัติที่ช่วยลดความร้อนในห้องโดยสารได้ดี พร้อมทั้งช่วยป้องกันรังสี UV อีกด้วย เป็นฟิล์มที่ไม่ทำให้เกิดเงาสะท้อนจะแสงแดด แต่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
ฟิล์มเซรามิก
เป็นฟิล์มที่ใช้อนุภาคนาโนเคลือบบนผิวฟิล์มแทนการเคลือบด้วยโลหะหรือการย้อมสี ซึ่งวิธีการเคลือบด้วยอนุภาคนาโนจะทำให้ได้เนื้อฟิล์มที่คุณภาพเยี่ยม คมชัด ไม่สะท้อนแสงให้รำคาญใจ มองจากภายนอกจะเป็นสีดำสนิท ไม่เห็นด้านน ส่วนมุมมองด้านในนั้นจะมีความสว่างชัดเจน ไม่ทำให้รถมืด และที่สำคัญยังมีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนและรังสี UV ได้ดีเยี่ยม ใช้งานได้ดีทั้งเวลากลางวันและกลางคืน เป็นฟิล์มที่นิยมใช้งานกันในปัจจุบัน เพราะมีคุณภาพที่ดีสมกับราคา
ติดฟิล์มรถยนต์ยังไงให้ดีงาม โดนใจ ใช้ได้นาน
เลือกฟิล์มติดรถยนต์
ก่อนที่จะติดฟิล์ม ควรประเมินความต้องการของผู้ใช้งานรถยนต์ดูก่อน ว่ารถยนต์คันนี้เหมาะกับฟิล์มติดรถยนต์รูปแบบไหนมากที่สุด และพิจารณาคุณสมบัติจากเปอร์เซ็นในการช่วยลดความร้อน, เปอร์เซ็นการลดรังสียูวี, เปอร์เซ็นที่ชวยลดการสะท้อนแสง และคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ระบุไว้กับตัวฟิล์มแต่ละชนิด โดยจะมีเปอร์เซ็นที่สูง-ต่ำ และราคาติดฟิล์มรถยนต์ที่ต่างกันออกไป พิจารณาได้ตามความเหมาะสมเลย
การรับประกันสินค้า
คงไม่มีใครอยากจะเสียเวลามาติดฟิล์มรถยนต์กันบ่อย ๆ เพราะฉะนั้น การเลือกฟิล์มที่มีคุรภาพดีไปเลยตั้งแต่แรกก็จะช่วยได้ โดยเลือกพิจารณาจากการรับประกันคุณภาพสินค้าของฟิล์มแต่ละชนิด โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ 7-10 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกัน
ช่างติดฟิล์มฝีมือดี
ต่อให้ได้ฟิล์มคุณภาพดีแค่ไหน แต่ถ้ามาเจอกับช่างติดฟิล์มที่ฝีมือไม่เนี้ยบ ก็อาจจะเกิดปัญหาในภายหลังได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟองอากาศในฟิล์ม รอยขีดข่วนบนกระจก หรือการติดไปเต็มแผ่น มีรอยรั่ว ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณต้องเสียเวลามากขึ้นกับการแก้ไข เพราะฉะนั้น ควรเลือกร้านที่ติดฟิล์มรถยนต์ถูกต้อง เชื่อถือได้ โดยค้นดูจากรีวิวในอินเทอร์เน็ต หรือลองสอบถามกับคนใกล้ตัว เพื่อให้ได้ช่างติดฟิล์มที่มีความชำนาญ และติดฟิล์มให้กับรถยนต์ของคุณได้อย่างน่าพึงพอใจที่สุด
ฟิล์มติดรถยนต์เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ เพื่อให้การขับขี่ดำเนินไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการเช็กสภาพรถยนต์สม่ำเสมอ, เคารพกฎจราจร และอย่าลืมเช็คราคาประกันรถยนต์ และทำประกันให้พร้อมดูแลทุกคนบนรถอยู่เสมอ
เรื่องน่าสนใจอื่น ๆ
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology