หน้าฝนนี้ต้องมี! อยากได้เครื่องอบผ้าไว้ที่บ้าน ต้องเลือกอย่างไรดีนะ?
หน้าฝน หน้าพายุแบบนี้ ใคร ๆ ก็คงหนีไม่พ้นปัญหาตากผ้าแล้วเหม็นอับเป็นแน่ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าหากคุณมีเครื่องอบผ้าที่บ้าน! แล้วแบบนี้เราต้องเครื่องอบผ้า แบบไหนดี? เครื่องอบผ้าราคาเท่าไหร่? กินไฟจริงไหม? ควรค่าแก่การซื้อจริง ๆ หรือเปล่า? วันนี้ แรบบิท แคร์ จะมาเปรียบเทียบเพื่อช่วยคุณตัดสินใจกัน!
รู้จักกันก่อนเลือกเครื่องอบผ้า มีกี่แบบกัน?
เบื้องต้นแล้ว เครื่องอบผ้าจะสามารถแบ่งได้ตามแต่ละประเภท ดังนี้
- เครื่องอบผ้าแบบท่อลมร้อน (Venting)
เครื่องอบผ้าประเภทนี้จะมีลักษณะการทำงานโดยการเป่าความร้อนใส่ผ้า จากนั้นระบายความร้อนผ่านท่อออกมาภายนอก ข้อดีคือช่วยให้ผ้าแห้งเร็ว สามารถเลือกได้ทั้งแบบอัตโนมัติและแบบตั้งเวลาเอง แต่เครื่องจะมีขนาดใหญ่ กินเนื้อที่มาก ไม่เหมาะกับบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด อีกทั้งยังมีขั้นตอนการติดตั้งที่ยุ่งยาก เพราะจะต้องเจาะผนังเพื่อต่อท่อระบายอากาศ
- เครื่องอบผ้าแบบควบแน่น (Condensing)
เครื่องอบผ้าประเภทนี้ มีลักษณะการทำงานจะใช้ความร้อนเป่าผ้าเพื่อดึงความชื้นของน้ำภายในตัวเครื่องอบออกมาเพื่อทำให้ผ้าแห้งนั่นเอง มีข้อดีที่ไม่ต้องต่อท่อระบายอากาศ สามารถถอดถาดรองเพื่อเทน้ำทิ้งได้ โดยจะมีเสียงแจ้งเตือนเมื่อน้ำเต็ม ไม่กินพื้นที่การตั้งวาง แต่ตัวเครื่องจะเกิดความร้อนสะสมง่าย ทำให้เหมาะกับการวางไว้ที่โล่ง มีอากาศถ่ายเทมากกว่า
- เครื่องอบผ้าระบบปั๊มความร้อน (Heat Pump)
โดยจะมีลักษณะการทำงานเป็นการปั๊มความร้อนเพื่อเพิ่มอุณหภูมิของอากาศที่หมุนเวียนภายในถังอบ มีจุดเด่นที่ผ้าแห้งเร็ว ถนอมเนื้อผ้า ประหยัดพลังงานกว่าเครื่องอบผ้าประภทอื่น ๆ แต่มีราคาค่อนข้างสูง
- เครื่องอบผ้าระบบลมร้อนแบบพกพา (Portable Venting)
เป็นอีกหนึ่งประเภทที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะราคาไม่แพง มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย แต่จะมีอายุการใช้งานที่สั้น และไม่ทนทานเท่าเครื่องอบผ้าอื่น ๆ นอกจากนี้ยังสร้างลมร้อนได้ไม่มากทำให้บางครั้งผ้าแห้งไม่สนิทด้วย
ส่วนเครื่องซักอบนั้น คือ การรวมกันของเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าไว้ในเครื่องเดียว ช่วยประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งสำหรับบ้านที่มีพื้นที่น้อย ซึ่งตัวระบบลมร้อนอาจจะต้องดูแยกกันไปตามแต่ละแบรนด์ว่าใช้ระบบข้างต้นอะไรบ้าง โดยปกติแล้วเครื่องซักอบจะมาความจุของตัวถังที่น้อยกว่าเครื่องอบผ้าทั่วไปนั่นเอง
ควรเลือกเครื่องอบผ้าแบบไหนระหว่างเครื่องอบผ้าแบบ Heat Pump หรือแบบ Condenser?
เครื่องอบผ้าแบบไร้ใบพัดนั้นมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่เครื่องอบผ้าแบบ Heat Pump และเครื่องอบผ้าแบบ Condenser อีกทั้งยังมีเครื่องซักอบแบบ 2-in-1 ที่สามารถช่วยประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งได้อย่างยอดเยี่ยม
แล้วจะเริ่มต้นเลือกเครื่องอบผ้าแบบไหนดี?
การเลือกเครื่องอบผ้าที่ดีขึ้นอยู่กับความต้องการและประสิทธิภาพที่คุณต้องการในการใช้งาน นอกจากเรื่องของระบบการอบที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรนำมาพิจารณาก่อนซื้อเครื่องอบผ้าจะมีดังนี้
- เลือกเครื่องอบผ้าที่มีขนาดเหมาะสม หรือ ความจุที่เหมาะกับปริมาณผ้าในบ้าน เพราะหากรู้ตัวว่าจำเป้นจะต้องอบผ้าเป็นปริมาณมากควรเลือกเครื่องที่มีขนาดใหญ่ หรือความจุของถังอบผ้าที่มากตามไปด้วย เบื้องต้นเครื่องอบผ้าทั่วไปจะมีขนาดตั้งแต่ 7 กก. – 9 กก. บ่งบอกถึงปริมาณของเสื้อผ้าที่สามารถนำเข้าไปอบได้ในเวลาเดียวกัน และยิ่งความจุของถังมากเท่าไรห่ จะสัมผัสกับขนาดของตัวเครื่องด้วย
- ควรเลือกเครื่องอบผ้าที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิและเวลาที่ปลอดภัย นอกจากนี้จะต้องมีระบบป้องกันการกินไฟด้วยเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในบ้านนั่นเอง
- เลือกเครื่องอบผ้าที่มีโครงสร้างที่ทนทาน เสียงเงียบ และมีระบบระบายอากาศที่ดี และอย่าลืมเช็กด้วยว่าเครื่องอบผ้าเครื่องนั้นให้เสียงรบกวนมากน้อยแค่ไหน เพราะคงไม่เหมาะแน่ถ้าเลือกเครื่องอบผ้าที่เสียงดังตั้งไว้ในห้องคอนโด
- ควรคำนึงถึงราคาและการรับประกัน เพื่อให้ได้เครื่องอบผ้าที่มีคุณภาพดี พร้อมในการใช้งานที่ดีที่สุด
ไขข้อข้องใจ เครื่องอบผ้ากินไฟจริงไหม?
ทั่วไปแล้ว เครื่องอบผ้าที่ใช้ในบ้านเราในปัจจุบันมักใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นแหล่งจ่ายพลังงานในการทำงาน ซึ่งตอบได้เลยว่ากินไฟจริง อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีเครื่องอบผ้าหลายแบรนด์ที่ได้เริ่มผลิตเครื่องอบผ้าประเภทประหยัดพลังงานออกมา เพื่อให้ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าอย่างเรา ๆ ที่กังวลว่าเครื่องอบผ้าจะกินไฟที่บ้าน
หากคุณมีพื้นที่อยู่อาศัยมากเพียงพอ แรบบิท แคร์ จะแนะนำให้เลือกเครื่องอบผ้าประเภทเครื่องอบผ้าระบบลมร้อนจะตอบโจทย์เรื่องการประหยัดไฟได้ดีที่สุด แต่ถ้าอยู่คอนโดมิเนียม หอพัก หรือมีพื้นที่จำกัดมาก ๆ ไม่สามารถต่อท่อลมร้อนได้ เครื่องอบผ้าระบบควบแน่น หรือเครื่องอบผ้าระบบปั๊มความร้อนก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจแต่ก็ต้องยอมจ่ายในราคาที่สูงกว่า
ส่วนเรื่องของการประหยัดไฟพบว่าเครื่องอบผ้าระบบปั้มความร้อนจะกินไฟน้อยที่สุด รองลงมาคือเครื่องอบผ้าระบบลมร้อน และเครื่องอบผ้าระบบควบแน่นจะกินไฟสูงที่สุด โดยสรุปแล้ว อัตราการกินไฟของเครื่องอบผ้าแต่ละระบบจะเป็นดังนี้
- เครื่องอบผ้าระบบปั้มความร้อน กินไฟประมาณ 1,000 วัตต์ /ชั่วโมง = 1.00 x 5 บาท = 5 บาท
- เครื่องอบผ้าระบบลมร้อน กินไฟประมาณ 1,650 วัตต์ /ชั่วโมง = 1.65 x 5 บาท = 8.25 บาท
- เครื่องอบผ้าระบบควบแน่น กินไฟประมาณ 2,000 วัตต์ /ชั่วโมง = 2.00 x 5 บาท = 10 บาท
นอกจากนี้ หากใช้งานเครื่องอบผ้าในปริมาณที่เหมาะสมและปฏิบัติการอย่างถูกต้อง ควรจะสามารถควบคุมค่าไฟฟ้าให้คุ้มค่าและประหยัดได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย!
เครื่องอบผ้านั้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมืออำนวยความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี แม้ในไทยเราจะไม่มีหิมะตกหนัก ยังมีแสงแดดที่ช่วยให้ผ้าแห้งตลอดเวลา แต่เราปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ในหน้าฝนนี้ เครื่องอบผ้าจะช่วยให้ทุกอย่างง่ายดายขึ้นมาก และหากแขวนเสื้อผ้าที่เพิ่งอบใหม่ดีๆ คุณอาจจะไม่จำเป้นต้องรีดผ้าเลยด้วยซ้ำ!
ดีขนาดนี้แถมตอบโจทย์คนที่ที่อยู่อาศัยมีพื้นที่น้อย มีปัญหาเรื่องแสงแดดที่ส่องไม่ถึงทำให้ผ้าแห้งยากจนเกิดปัญหาผ้าเหม็นอับชื้น การเลือกซื้อเครื่องอบผ้าไว้ติดบ้านก็ไม่ใช่อะไรที่เสียหาย แต่เครื่องอบผ้าเองก็มีราคาไม่ใช่น้อย ๆ เพราะฉะนั้นต้องนี่เลย บัตรเครดิต จาก แรบบิท แคร์ ที่มีให้คุณเลือกตามไลฟ์สไตล์ แถมยังมีโปรฯ ผ่อน 0% นานถึง 10 เดือน กับร้านค้าร่วมรายการอีกมากมาย ไม่ใช่แค่การซื้อเครื่องอบผ้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ช่วยให้ชีวิตคุณสะดวกสบายมากขึ้นด้วย คลิกเลย!
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct