เช็กลิสต์ สิ่งที่ต้องระวังเมื่อเลือกซื้อประกันสุขภาพ
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า การเลือกประกันสุขภาพให้กับตัวเอง หรือบุคคลที่เรารักนั้นสำคัญมาก เพราะหลายครั้งที่ประกันสุขภาพช่วยแบ่งเบาภาระด้านการเงินเมื่อเกิดเจ็บป่วยที่ไม่คาดฝัน แต่การเลือกซื้อประกันสุขภาพที่ดี เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรานั้นมักจะมีเงื่อนไข มีปัจจัย ให้เลือกมากมาย และด้วยรายละเอียดที่มากมาย หลายครั้งการเลือกซื้อประกันสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่ยาก และอาจพลาด ได้ประกันสุขภาพที่ไม่ครอบคลุมได้
แล้วแบบนี้มีอะไรที่คนส่วนใหญ่มองข้ามไปบ้างไหมนะ? วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาคุณไปเช็กลิสต์ดูกันสิว่ามีอะไรบ้างที่ควรมีวิธีเลือกประกันสุขภาพยังไง และซื้อประกันสุขภาพ ต้องดูอะไรบ้าง? วันนี้ แรบบิท แคร์ มีคำตอบ!
เช็กที่ 1 ข้อมูลต้องครบถ้วน มีแบบแผนคุ้มครองเพียงพอ
รู้หรือไม่ การซื้อประกันสุขภาพแต่ละแบบแผนประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองไม่เหมือนกัน ดังนั้น ข้อมูลต่าง ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการตัดสินใจในการทำประกัน โดยทั่วไปแล้ว ข้อมูลที่จะใช้พิจารณาจะมีดังนี้
- รายละเอียดความคุ้มครองต่าง ๆ ว่าแต่ละแผนประกันสุขภาพคุ้มครองครอบคลุมอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็น การรักษาตัวในโรงพยาบาล, การดูแลผู้ป่วยนอก และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ค่าชดเชยเมื่อต้องหยุดงาน, ให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงอื่น ๆ เป็นต้น เพราะความคุ้มครองแต่ละแบบแผนประกันสุขภาพนั้นไม่เหมือนกัน การเลือกกรมธรรม์ที่ไม่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของเรา หรือให้ความคุ้มครองไม่เพียงพออาจทำให้เกิดภาระด้านการเงินในภายหลังได้
- รายละเอียดปลีกย่อยในกรมธรรม์ หลายคนอาจเผลออ่านข้ามรายละเอียดย่อย ๆ ไป แต่สิ่งเหล่านี้ มักจะเป็นข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น ข้อจำกัดของกรมธรรม์, ระยะเวลารอคอย, ค่าใช้จ่ายร่วม และการยกเว้นความคุ้มครอง ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลมได้ ดังนั้น อย่าลืมเช็กรายละเอียดกรมธรรม์เสมอก่อน เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของคุณนั้นเอง
- เบี้ยประกันและวงเงินในการรักษา ไม่เพียงแค่เบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายรายปีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงค่าใช้จ่ายรวมอื่น ๆ เช่น ค่าธรรมเนียม, ค่าเบิกเคลมสูงสุดในกรณีที่ต้องใช้ประกัน เพราะหากวงเงินไม่เพียงพอ อาจทำให้คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มได้โดยไม่จำเป็น
- เงื่อนไขประกันสุขภาพต่าง ๆ ในกรมธรรม์ ไม่ว่าจะเป็นการ Deductible และ Co-payment อาจทำให้หลายคนเสียเงินเพิ่มเติมโดยใช่เหตุได้ และเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ควรตรวจสอบรายละเอียดการจ่ายในกรมธรรม์อย่างรอบคอบ
- ไม่คำนึงถึงการจำกัดความรับผิด หรือ การจำกัดความรับผิดในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัย / ความรับผิดส่วนแรก ซึ่งการมองข้ามการจำกัดความรับผิดในกรมธรรม์ประกันสุขภาพ อาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดและความคุ้มครองประกันสุขภาพที่ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ กรมธรรม์มักจะมีข้อจำกัดในด้านการรักษาเฉพาะทาง ซึ่งอาจทำให้คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายเองมากขึ้นได้
- รีวิวจากลูกค้าที่ซื้อประกันฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเบิกเคลมและการบริการลูกค้า เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบ ตัดสินใจ เพราะบางแห่งแม้จะให้เบี้ยประกันที่ดี แต่รีวิวไม่ดีเอาเสียเลย ก็อย่าเสี่ยงดีกว่า
- เคลมยุ่งยากหรือไม่ เพราะบางแห่งอาจจะให้เบี้ยประกันและความคุ้มครองที่ดี แต่เบิกเคลมยาก บางครั้งต้องสำรองจ่ายเองบ่อย ๆ สำหรับคนที่มีเงินก้อนไม่มากพอ หรือไม่สะดวกจ่ายเงินก้อนไปก่อนอาจจะลำบากได้ แต่หากคุณมีเงินสำรอง
- ครอบคลุมถึงโรงพยาบาลในเครืออื่น ๆ มากน้อยแค่ไหน เพราะบางคนอาจจะต้องเดินทางไปต่างหวัด หรืออยู่ที่ต่างจังหวัด หากมีโรงพยาบาลที่สามารถเบิกเคลมได้น้อยอาจจะำลบากในการเดินทางไปรับการรักษาได้
อย่าลืมว่าการรักษาในแต่ละปี มักจะมีราคาสูงเพิ่มขึ้นตามค่าเงินเฟ้อ การเลือกประกันสุขภาพที่ครอบคลุมตั้งแต่แรก และไร้ปัญหาใด ๆ จะช่วยลดความกังวลต่าง ๆ ในเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ค่ารักษาพยาบาลสำหรับการพบแพทย์เฉพาะทาง และการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ที่อาจมีราคาสูงเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปีด้วย
เช็กที่ 2 เช็กอายุให้พร้อม เพราะอายุยิ่งน้อย เบี้ยยิ่งถูก
หลายคนติดภาพว่าประกันสุขภาพนั้นเหมาะกับคนที่มีอายุ เนื่องจากบางคนมองว่าตอนนี้ยังแข็งแรง การซื้อประกันสุขภาพอาจได้ไม่คุ้มเสีย บางปีก็จ่ายไปโดยเสียเปล่าโดยไม่มีการเบิกเคลม หรือบางคนก็ยังลังเลว่าควรซื้อประกันสุขภาพไหม เพราะที่บริษัทเองก็ได้ให้สวัสดิการประกันสุขภาพกลุ่มมาแล้ว การซื้อประกันสุขภาพส่วนตัวเพิ่มเติมอาจจะไม่จำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเจ็บป่วยนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย และการเลือกซื้อประกันสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อยจะช่วยให้คุณประหยัดได้มากกว่า!
เพราะเมื่อคุณซื้อประกันสุขภาพในตอนอายุที่มากขึ้น ความเสี่ยงต่าง ๆ ด้านสุขภาพย่อมมีมากตามไปด้วย ทำให้เบี้ยประกันสุขภาพจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง และมีโอกาสสูงที่จะโดนปฎิเสธการรับทำประกัน เนื่องจากอายุ และอาจรวมไปถึงปัญหาสุขภาพที่มีอยู่
กลับกัน หากคุณเลือกซื้อประกันตั้งแต่อายุน้อย คุณจะได้สิทธิ์จ่ายเบี้ยประกันน้อยกว่า ให้ความคุ้มครองแบบต่อเนื่อง นอกจากนี้ หลายกรมธรรม์ยังมีระยะเวลารอคอยสำหรับโรคที่เป็นมาก่อน ซึ่งอาจกินเวลา 2 – 4 ปี หากคุณซื้อประกันล่าช้า คุณอาจต้องเจอกับปัญหาข้อกำหนดเหล่านี้ ในช่วงที่คุณต้องการความคุ้มครองมากที่สุดก็ได้
นอกจากนี้ การซื้อประกันต่าง ๆ เพื่อเป็นการลดหย่อนภาษี จัดได้ว่าว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะได้ลดหย่อนภาษีรายปีแล้ว ยังได้รับความคุ้มครองอีกด้วย เพราะการเลือกซื้อประกันสุขภาพที่มีคุ้มครองมากกว่า 10 ปี ขึ้นไป จะได้รับการลดหย่อนภาษีด้วยนะ
เช็กที่ 3 ห้ามปกปิดประวัติสุขภาพ
ตามเงื่อนไขของการซื้อประกันสุขภาพ ผู้ซื้อประกันจำเป็นจะต้องบอกประวัติทางการแพทย์ หรือประวัติการรักษาต่าง ๆ แก่บริษัทฯเสมอ ทั้งนี้เพื่อใช้ในการประเมินค่าเบี้ยประกัน ประเมินถึงความเสี่ยงต่าง ๆ แต่ในบางครั้ง ผู้ทำประกันอาจมีการบอกประวัติทางการแพทย์ไม่หมด หรือมองว่าไม่จำเป็น แต่ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ ก็อาจเสี่ยงที่ทางประกันฯบอกยกเลิกกการเคลม หรือมองว่าสัญญาเป็นโมฆะได้ ซึ่งอาจทำให้คุณไม่สามารถเบิกเคลมประกันได้นั่นเอง
ดังนั้น การเปิดเผยประวัติทางการแพทย์อย่างโปร่งใสในทุกครั้งที่ทำประกัน ไม่ว่าจะเป็น ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต จะช่วยให้บริษัทประกันภัยจัดหาความคุ้มครองที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงที่จะโดนยกเลิกการเคลมประกันได้
เช็กที่ 4 เติมความคุ้มครองให้ครอบคลุม กับ สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ
หลายคนมักจะมองว่าการซื้อส่วนคุ้มครองจากประกันเพิ่มเติม หรือ ทำสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพนั้นไม่คุ้มค่า และเสียเงินมากกว่าเดิมโดยใช่เหตุ จริงอยู่ที่บางโรค ทางประกันสุขภาพจะยังคงให้ความดูแลคุ้มค่า แต่ยอดวงเงินที่เบิกได้อาจจะจำกัด การซื้อสัญญาเพิ่มเติมในประกันสุขภาพจะช่วยเพิ่มคุ้มครองให้ครอบคลุม และเพิ่มวงเงินการรักษาได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนที่ประกันสุขภาพทั่วไปคุ้มครองไม่ครอบคลุม เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือความคุ้มครองในด้านทันตกรรม
หรือในกรณีที่บริษัทฯให้สวัสดิการด้านประกันสุขภาพดี แม้ว่าประกันประเภทนี้จะสะดวกสบาย เบิกเคลมได้ง่าย แต่มักจะครอบคลุมแค่การรักษาพื้นฐานหรืออาการเจ็บป่วยทั่วไปเท่านั้น เนื่องจากถูกออกแบบมาให้ดูแลในภาพรวมเท่านั้น ประกันสุขภาพกลุ่มจึงไม่ครอบคลุมไปถึงการเจ็บป่วยเฉพาะทางต่าง ๆ และคงไม่ดีแน่ หากคุณเอาแต่พึ่งพาประกันสุขภาพที่นายจ้างจัดหาให้เพียงอย่างเดียว
เพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ในกรณีที่ต้องออกจากที่ทำงาน หรือมีโรคที่ประกันไม่คุ้มครอง การเลือกซื้อประกันสุขภาพส่วนตัวติดตัวไว้ หรือมองหาสัญญาเพิ่มเติมเสริมให้กับประกันสุขภาพที่มีอยู่ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
สำหรับการเลือกซื้อสัญญาเพิ่มเติมนั้น เบื้องต้นอาจพิจารณาจากความคุ้มครองเดิมจากประกันสุขภาพที่เลือกทำก่อนว่าขาดตกอะไรบ้าง เช่น คุณมีมมักจะต้องพบหมอฟันบ่อย ๆ , ในครอบครัวมีคนเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้าย อย่าง มะเร็ง, เบาหวาน เป็นต้น
จากนั้นลองปรึกษาเจ้าหน้าที่ฯ หรือผู้เชี่ยวชาญในการเลือกซื้อสัญญาเพิ่มเติมว่าควรซื้อสัญญาฯแบบไหน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมแล้ว!
และนี่ก็คือเซ็ตเช็กลิสต์สำหรับการซื้อประกันสุขภาพ และนี่เป็นเพียงคำแนะนำจาก แรบบิท แคร์ บางส่วนเท่านั้น สำหรับใครที่มองการแผนประกันสุขภาพพร้อมผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษา รวมถึงช่วยเปรียบเทียบประกันสุขภาพ หรือไม่รู้ต้องไปซื้อประกันสุขภาพแบบไหนดี ต้องนี่เลย! ประกันสุขภาพ จาก แรบบิท แคร์ ไม่เพียงแต่ประกันสุขภาพเท่านั้น แต่ยังมีประกันอื่น ๆ อีกมากมายที่ช่วยให้คุณหมดกังวลได้ทั้งเรื่องสุขภาพ การเดินทาง หรือแม้แต่ด้านการเงิน คลิกเลย!
สรุป
สรุปแล้ว เช็กลิสต์ในการเลือกซื้อประกันสุขภาพมีดังนี้
– ข้อมูลต้องครบถ้วน มีแบบแผนคุ้มครองเพียงพอ เช่น รายละเอียดความคุ้มครองต่าง ๆ , เงื่อนไขประกันสุขภาพต่าง ๆ ในกรมธรรม์ , รีวิวการเบิกเคลมและการใช้บริการจากผู้ทำประกันตัวจริง เป็นต้น
– เช็กอายุตัวเองก่อนทำ ยิ่งอายุน้อย ยิ่งมีโอกาสได้เบี้ยประกันที่ถูกลง และมีโอกาสที่บริษัทฯจะรับทำประกันมากกว่า
– ไม่ควรปกปิดประวัติสุขภาพ เนื่องจากส่งผลต่อการหาแบบแผนประกันสุขภาพที่เหมาะสม, เสี่ยงต่อโดนยกเลิกค่าสินไหมต่าง ๆ
– เติมความคุ้มครองที่ขาดไปจากประกันสุขภาพที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพกลุ่ม ประกันสุขภาพส่วนตัวที่ซื้อมา หรือประกันสังคม หากขาดตกความคุ้มครองใดไป การซื้อสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพจะช่วยให้คุณหมดกังวลกับอาการเจ็บป่วยเฉพาะทางได้เป็นอย่างดี
ที่มา
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct