วางแผนเกษียณสุขด้วย ประกันสุขภาพผู้สูงอายุ

อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า บ้านเราขณะนี้ได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มตัว หลังจากที่ประชากรเด็กเริ่มลดน้อยลง ดังนั้นจะเห็นได้ว่า หลายคนต่างเริ่มตื่นตัวให้ความสำคัญกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการวางแผนการเงินช่วงเกษียณอายุ จะทำอย่างไรให้อยู่อย่างเกษมสันต์ แต่บางคนที่เพิ่งเริ่มวางแผนและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี วันนี้ Rabbit Care มีเคล็ดไม่ลับแบบฉบับง่ายๆ แต่ใช้ได้จริงมาฝาก ตามไปดูกันเลยค่ะ

 เทคนิควางแผนการเงินหลังเกษียณให้สุขสันต์

1.สำรวจศึกษาตนเองก่อนเริ่มวางแผน

อันดับแรกเริ่มสำรวจรายรับ-รายจ่ายที่มีอยู่ในแต่ละเดือน รวมถึงดูถึงความมั่นคงในหน้าที่การงานว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร อนาคตเป็นอย่างไร เพื่อดูว่าเราจะสามารถวางแผนลงทุนอะไรต่อได้บ้าง

เพราะในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้การลงทุนมีหลากหลายรูปแบบที่สามารถชนะเงินเฟ้อ หรือให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก แต่ก็ต้องคำนวณกันดีๆ นะคะ ศึกษากันอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเพราะผลิตภัณฑ์บางประเภทแม้ให้ผลตอบแทนที่สูง แต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน และยิ่งอายุเริ่มเข้าสูงวัยกลางคน การลงทุนอะไรที่เสี่ยงมากก็คงไม่เหมาะเท่าไหร่

เมื่อเรารู้แล้วว่า ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนหลักลบกลบหนี้ไปแล้วจะเหลือใช้ประจำวันเท่าไหร่ และเหลือเท่าไหร่ที่สามารถนำมาลงทุนได้ เช่นสมมุติว่า นางสาว ก. อายุ 45 ปี ทำงานมาแล้วประมาณ 20 กว่าปี มีเงินเดือนอยู่ที่ 25,000 บาท หลังหักค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนแล้วจะเหลือเงินเก็บที่สามารถนำไปลงทุนได้ตกเดือนละ 9,000 บาท แบบนี้เป็นต้น

2.มองหาช่องทางการลงทุนให้เงินงอกเงย

เรารู้แล้วว่าเงินก้อนนี้จะนำไปลงทุนเพื่อยามเกษียณอายุ ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายรูปแบบ เช่น

• กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) สามารถออมเงินไว้ใช้หลังวัยเกษียณ และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย แต่จะต้องมีการลงทุนแบบผูกพันระยะยาวโดยผู้ออมเงินจำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกๆ ปี โดยเว้นได้ไม่เกิน 1 ปี ติดต่อกันจนถึงอายุ 55 ปี และลงทุนมาไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยนับปีที่มีการลงทุนจริง โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเต็มที่
• กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนนี้จะนำเงินของเราที่ไปลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้ลงทุนในกองทุน LTF จะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีมากกว่าการลงทุนในกองทุนรวมทั่วไป โดยเงินลงทุนใน LTF สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทำให้ผู้ลงทุนเสียภาษีน้อยลง
• ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ปล่อยเช่า การเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรายได้ที่สามารถทำให้เรามีเงินออมไว้ใช้ในยามเกษียณอายุได้อย่างสบายๆ หรือที่เราเคยได้ยินว่า เสือนอนกิน แบบไม่ต้องทำอะไรในแต่ละเดือนก็มีรายได้จากค่าเช่าเข้ามาแบบนี้ เป็นต้น

3.ซื้อประกันสุขภาพผู้สูงอายุสร้างความคุ้มครอง

อย่างที่ได้เกริ่นไว้ก่อนหน้าแล้วว่า คนเริ่มใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันผู้สูงอายุมีอายุยืนมากขึ้น ประกันสุขภาพผู้สูงอายุจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ซึ่งเริ่มคุ้มครองตั้งแต่อายุ 45 – 80 ปี

แถมทุกวันนี้มีการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี ดังนั้นเมื่อต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน ด้วยค่าห้องที่แพงมากก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเมื่อเราทำประกันสุขภาพสูงอายุแล้ว บริษัทประกันจะช่วยเราลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้

นอกจากนี้การเลือกซื้อประกันสุขภาพผู้สูงอายุ เรายังจะได้รับความคุ้มครองในกรณีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุและโรคภัยต่างๆ ไปจนถึงอายุ 90 ปี ด้วย ซึ่งข้อดีก็คือไม่ต้องตรวจสุขภาพ และมีเบี้ยประกันคงที่ตลอดระยะเวลาการคุ้มครอง

แต่อย่างไรก็ตาม จะเลือกประกันสุขภาพทั้งที ก็ต้องดูบริษัทที่น่าเชื่อถือ และทำให้เรามั่นใจได้ว่า เมื่อเราต้องใช้บริการแล้วจะไม่ผิดหวัง แต่ถ้าตัดสินใจไม่ได้จริงๆ ว่าบริษัทไหนดี Rabbit Care ประกันสุขภาพ มีทางออกให้กับคุณ

ใบไม้ร่าเริง

มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี