ซ้อมเป็นเศรษฐี ถ้าถูกหวยต้องทำยังไงบ้าง ?
ซ้อมเป็นเศรษฐี ถ้าถูกหวยต้องทำยังไงบ้าง ?
ตั้งสติ แล้วเตรียมเอกสาร และจองคิว
บุญหล่นทับขนาดนี้ ไม่มีใครที่ไม่ดีใจแน่นอน! แต่เมื่อดีใจจนพอใจแล้ว สิ่งแรกที่คุณควรทำคือ การตั้งสติ นั่นเอง เพราะจากข่าวดังในอดีต ลุงจรูญ และ ครูปรีชา ที่แย่งชิงสิทธิ์การเป็นเจ้าของเงินรางวัลหวย 30 ล้านบาท ที่ชวนสับสน เป็นคดีฟ้องร้องใหญ่โต ทำให้เราไม่ควรประมาท หากไม่อยากเเกิดกรณีดั่งกล่าวขึ้น
ยิ่งถ้าคุณถูกลอตเตอร์รี่รางวัลที่มากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งต้องมีสติมากเท่านั้น ดังนั้น ขั้นแรกที่ควรทำ คือ การเขียนชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร ที่ด้านหลังสลากเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ หากมีลายเซ็นกำกับไว้ยิ่งดี และอย่าดีใจจนลืมตัว แชร์ลงโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ เชียว
ที่สำคัญ อย่าลืม ใช้ถ่ายรูปลอตเตอรี่ (สลากกินแบ่งรัฐบาล) หรือถ่ายเอกสาร ทั้ง ด้านหน้า-ด้านหลัง เอาไว้ให้ชัดเจน ขอแค่ถ่ายให้เห็นสลาก และตัวเลขชัดๆ ก็เพียงพอแล้ว สำหรับใครที่อยากได้ความอุ่นใจเพิ่มมากขึ้น สามารถไปที่สถานีตำรวจ ลงบันทึกประจำวัน เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ป้องกันคนแอบอ้างในอนาคตได้!
เมื่อดำเนินการต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ใครที่พร้อมจะไปรับรางวัล สามารถเตรียมหลักฐานพกไปติดตัวไปด้วย ดังนี้
- ลอตเตอรี่ฉบับจริงที่ถูกรางวัล
- บัตรประจำตัวประชาชน (ต้องเป็นบุคคลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ยกเว้น ผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส)
- บัญชีธนาคารที่ไปขึ้นเงินรางวัล (สำหรับใครที่ไปขึ้นเงินรางวัลที่ธนาคาร หรือไปขึ้นเช็คเงินจากกองสลากฯ)
และเนื่องจากปัจจุบัน ที่โลกเผชิญสถานการณ์ โควิด-19 ในกรณีที่คุณต้องการไปขึ้นเงินรางวัลโดยตรงที่กองสลากฯ จะต้องมีการจองคิวล่วงหน้าเสียก่อน
โดยคุณสามารถจองคิวได้ที่ เว็บไซต์ https://echannel.glo.or.th/Pay/PayTable.php เลือกได้วันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 07.30 – 14.00 น.
ใครที่ใจร้อน กลัวว่าจะต้องจองคิวนานเกินไป ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะสำหรับการไปขึ้นเงินรางวัลนั้น ทางกองสลากฯให้ผู้ถูกรางวัล สามารถติดต่อขอรับรางวัลได้ภายใน 2 ปี นับจากวันออกรางวัล แต่ถ้าใครลืมไปขึ้นเงินรางวัล จนเกินระยะเวลา 2 ปี เงินรางวัลทั้งหมดจะเป็นโมฆะ เงินจะตกเป็นของแผ่นดินทันที
ขึ้นรางวัลได้ที่ไหนได้บ้างนะ
นักเสี่ยงโชคมือใหม่ หรือมือเก๋า ที่ยังไม่เคยถูกรางวัล อาจจะสงสัยว่า เราสามารถไปขึ้นเงินรางวัลที่ไหนได้บ้างนะ ? ต้องขึ้นแค่ที่กองสลากฯหรือเปล่า แล้วการไปขึ้นเงินรางวัลที่อื่นแตกต่างกันยังไง ? โดยหลักๆ การขึ้นเงินรางวัล คุณสามารถไปขึ้นเงินรางวัลได้ ตามสถานที่เหล่านี้
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (สนามบินน้ำ)
ที่ตั้ง : 359 ถนนนนทบุรี ตำบลท่าทราย อำเภอเมืงนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000
เวลาทำการ : วันจันทร์-ศุกร์ (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 08.30 น. – 15.00 น. (ไม่หยุดพักกลางวัน)
สามารถขึ้นเงินได้ทุกรางวัลที่ถูกเลยตั้งแต่เลขท้าย 2 ตัว ยันรางวัลที่ 1 โดยจะถูกหักเพียงค่าอากรแสตมป์อัตรา 0.5% ของเงินรางวัล เช่น ถูกเลขท้าย 3 ตัว ได้ 4,000 บาท หักค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของรางวัลเป็นเงิน 20 บาท จะได้เงินกลับบ้าน 3,980 บาท
ในกรณีที่ถูกรางวัลไม่เกิน 20,000 บาท จะได้รับเงินสดไป แต่ถ้ามากกว่า 20,000 บาท ขึ้นไป จะได้เป็นเช็คไปแทน
สำหรับใครที่อยากไปขึ้นเงินรางวัลโดยตรง ตอนนี้มีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ดังนั้น อย่าลทมกดจองคิวก่อนที่เว็บไซต์กองสลากก่อนไปที่กองสลากฯด้วยล่ะ
ธนาคารที่ให้บริการ
สำหรับธนาคารเอง ก็ใช้คุณขึ้นเงินรางวัลได้เหมือนกัน! โดยเปิดให้บริการให้ขึ้นเงินรางวัลทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.), ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย
สำหรับการขึ้นเงินรางวัลผ่านธนาคาร สามารถขึ้นได้งวดชนงวดเท่านั้น เช่น ถูกงวด 16 เม.ย. 2564 ก็สามารถมาขึ้นเงินได้เลยเวลา 18:00 น. เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 1 พ.ค. 2564 เวลา 12:00 น. โดยสามารถขึ้นได้ทุกรางวัล ยกเว้นรางวัลที่ 1 ที่ต้องไปที่กองสลากเท่านั้น
และในการขึ้นรางวัลที่ธนาคารนั้น นอกจากจะมีการหักค่าอากรแสตมป์ 0.5% สำหรับกองสลากฯ แล้ว จะมีค่าธรรมเนียมรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 1% สำหรับธนาคารด้วย โดยคุณอาจจะต้องเตรียมสมุดบัญชีของธนาคารนั้นๆ มาเผื่อสำหรับการขึ้นเงินด้วย เพื่อความรวดเร็ว
เช่น ถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว ได้ 4,000 บาท หักค่าธรรมเนียม 40 บาท ค่าอากรแสตมป์ 20 บาท รวม 60 บาท จะได้เงินกลับบ้าน 3,940 บาท
แผงค้าลอตเตอรี่ ร้านทอง ร้านค้า หรือบุคคลที่รับซื้อรางวัล
ไปซื้อหวย ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลทีไหร่ หลายคนน่าจะเห็นได้บ่อย ที่แผงขายลอตเตอรี่ ร้านทอง โรงรับจำนำ หรือร้านค้าต่างๆ ผ่านตากันบ้าง ไม่มากก็น้อย
โดยร้านเหล่านี้ จะรับซื้อลอตเตอรี่ เพื่อแลกกับค่าดำเนินการต่างๆ โดยค่าดำเนินการจะแตกต่างกันออกไป ส่วนมากจะเก็บค่าดำเนินการต่างๆ ที่ 2-3% ของเงินรางวัล
เช่น ถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว ได้ 4,000 บาท หากไปร้านรับซื้อเหล่านี้ จะหักค่าดำเนินการต่างๆ 80 บาท – 120 บาท ประมาณแล้ว จะได้เงินกลับบ้านราวๆ 3,920 บาท – 3,880 บาท
จะเห็นได้ว่า แต่ละแห่งมีการหักค่าดำเนินการต่างๆ ไม่เท่ากัน คุณสามารถไปเลือกขึ้นเงินรางวัลได้ตามความสะดวก โดยประเมินจากค่าเดินทางต่างๆ ก็ได้
เช่น ถ้าได้เงินรางวัลมาไม่มาก และคุณไม่สะดวกกับการเดินทางไกลๆ หรือ เป็นคนต่างจังหวัด ที่ไม่สะดวกมายังกองสลากฯ ก็อาจจะเลือกการขึ้นเงินรางวัลตามธนาคาร หรือ ร้านรับซื้อรางวัล แทน เพราะนอกจากไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางแล้ว เฉลี่ยรวมๆ อาจจะประหยัดค่าเดินทางมากกว่า
แต่ในกรณีที่ถูกรางวัลใหญ่ๆ มีจำนวนเงินมูลค่ามากๆ การสละเวลาสักนิด เพื่อมาขึ้นเงินรางวัลด้วยตัวเองโดยตรง อาจจะคุ้มค่ากว่า ได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่า
นอกจากนี้ การมาขึ้นเงินที่กองสลากฯ ยังเหมาะมากๆ สำหรับใครที่ลืมนำสลากกินแบ่งฯของตนเองไปขึ้นเงินที่ธนาคาร เนื่องจาก ธนาคารจะให้ระยะเวลาเพียงแค่ งวดชนงวด เท่านั้น แต่ที่กองสลากฯ สามารถขึ้นย้อนหลังได้มากถึง 2 ปี เลย
แบบนี้ต้องเสียภาษีหรือเปล่า
รางวัลเล็กๆ น้อยๆ หลายคนอาจจะรู้สึกไม่กังวลใจอะไร แต่สำหรับใครที่ดันถูกรางวัลเป็นเงินก้อนโตเนี่ยสิ ที่อาจจะเริ่มกังวลขึ้นมา โดยเฉพาะการถูกเงินรางวัลหลักหมื่น หลักล้าน แบบนี้เราต้องเสียภาษีอะไรเพิ่มเติมไหมนะ แล้วจะถูกนับรวมไปกับการเสียภาษีส่วนบุคคลประจำปีไหม ?
เราบอกได้เลยว่า นักเสี่ยงโชคทุกคนโล่งใจได้ เพราะเงินที่ถูกรางวัล หรือเงินรางวัลที่ได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาลเหล่านี้ เป็นข้อยกเว้น ต่อให้ถูกเงินรางวัลเป็นล้านๆ ก็ไม่ต้องนำไปยื่นภาษีประจำปีแต่อย่างใด
แต่ทั้งนี้ ก็ใช่ว่าเราจะไม่ต้องเสียภาษีเลย เพราะทันทีที่เราปขึ้นเงินรางวัล ก็จะมีการหักภาษีกับเงินรางวัลเหล่านั้นอยู่แล้ว ดังนี้
สลากแบบธรรมดา จะโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 0.5% ของเงินรางวัล เช่น เงินรางวัล 6,000,000 บาท จะถูกหักภาษี 30,000 บาท รวมๆ แล้ว จะได้เงินกลับบ้าน 5,970,000 บาท
สลากการกุศลชุดพิเศษ จะโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ของเงินรางวัล เช่น เงินรางวัล 6,000,000 บาท จะถูกหักภาษี 60,000 บาท รวมๆ แล้ว จะได้เงินกลับบ้าน 5,940,000 บาท
และในกรณีที่ไม่ใช่รางวัลที่ 1 และนำไปขึ้นเงินรางวัลตามธนาคารที่ให้บริการ อย่าลืมนะว่า จะมีค่าธรรมเนียมรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 1% สำหรับธนาคารเพิ่มเข้าไปด้วยล่ะ
ถูกรางวัลไปแล้ว ไม่ว่าจะกี่บาทก็ตาม ใครที่อยากจะจัดสรร ปันส่วน เงินรางวัลให้เกิดประโยชน์ ก็ต้องนี่เลย ประกันเพื่อการเกษียณอายุ อีกหนึ่งประกันที่ให้ทั้งความคุ้มครองชีวิต และช่วยให้คุณวางแผนบั้นปลายชีวิตหลังเกษียณได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย กับ Rabbit Care โบรกเกอร์ประกันที่ไว้ใจได้ พร้อมบริการประกันอีกหลากหลายให้คุณได้เลือกสรร คลิกเลย!
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct