
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ช่วงต้นปีแบบนี้ เป็นช่วงที่ทุกคนกำลังเฉลิมฉลองและยินดีกับเทศกาลช่วงปีใหม่ เป็นนิมิตรหมายอันดีในการเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น
จะเห็นได้ว่าช่วงต้นปีแบบนี้ การวางแผนเก็บเงิน ก็เป็นสิ่งน่าสนใจ เพราะในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ การมีเงินเก็บจะช่วยให้เราอุ่นใจขึ้น วันนี้ Rabbit Care จึงขอแชร์วิธีวางแผนเก็บเงินหลากหลายแบบ ให้คุณลองนำไปลองทำดู จะได้มีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคต
เชื่อว่าในปีที่ผ่านมา คุณคงจะเคยประสบปัญหาเงินไม่พอใช้ หรือมีเงินใช้แบบเดือนชนเดือน โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเงินมันหายไปไหนหมด ขอแนะนำให้ทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย เพื่อจดบันทึกการใช้จ่ายของตัวคุณเองในแต่ละวัน ว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้าง
บันทึกรายรับ – รายจ่าย จะช่วยให้คุณรู้ว่าเงินส่วนใหญ่ของคุณหมดไปกับอะไร และมีรายจ่ายใดบ้างที่ไม่จำเป็น เมื่อเห็นแล้วก็จะได้ควบคุมการใช้เงินของตนเองให้รัดกุมกว่าเดิม
การลงทุนผ่านกองทุนรวม เป็นแนวทางการออมเงินเก็บเงินสำหรับคนที่ไม่อยากฝากเงินในบัญชีเพื่อรอกินดอกเบี้ยเฉยๆ แต่เป็นการลงทุนระยะยาวที่อาจให้ผลตอบแทนแก่คุณในอนาคต นอกจากนี้คุณยังได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีอีกด้วย
หากคุณสนใจที่จะวางแผนการเงินด้วยการลงทุนผ่านกองทุน ลองศึกษาข้อมูลของกองทุนที่เหมาะกับคุณ หรือปรึกษาธนาคารเจ้าของกองทุนได้เลย ปัจจุบันมีกองทุนหลายรูปแบบที่ให้ผลตอบแทนดีและเงื่อนไขสบายๆ ลองเลือกแบบที่ชอบได้เลย แต่ก็อย่ามองข้ามความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะต้องเจอด้วยนะคะ
การเก็บเงินอย่างมีเป้าหมาย จะช่วยให้คุณมีแรงผลักดันในการเก็บเงินมากกว่าการเก็บเงินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง
โดยอาจจะเริ่มจากการตั้งเป้าหมายระยะสั้น เป็นเป้าหมายเล็กๆ ก่อน เช่นการเก็บเงินไปเที่ยว หรือเก็บเงินเพื่อซื้อของที่อยากได้ แล้วค่อยๆ เริ่มตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้น เช่น เก็บเงินซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์
การออมเงินผ่านประกันสะสมทรัพย์ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการรักษาวินัยในการออมเงิน เพราะประกันชีวิตจะมีการกำหนดวันชำระเบี้ยประกันภัยเอาไว้ จึงช่วยสร้างวินัยทางการเงินได้มากกว่าการออมเงินแบบตามใจตนเอง
ข้อดีของการทำประกันสะสมทรัพย์ก็คือ นอกจากจะได้รับผลประโยชน์จากเงินที่ออมไว้แล้ว ยังได้รับความคุ้มครองชีวิตในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันกับผู้เอาประกันภัย เรียกได้ว่ามีเงินเก็บแล้วยังมีคนช่วยดูแลชีวิตอีกด้วย
ขอแนะนำ โครงการเมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟวิ่ง 14/7 จาก เมืองไทยประกันชีวิต ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ที่ตอบโจทย์รอบด้าน ทั้งการออมเงิน ความคุ้มครองชีวิต และเบี้ยประกันภัยยังสามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับข้อเสนอดีๆ จากโครงการเมืองไทย ซุปเปอร์เซฟวิ่ง 14/7 อันได้แก่
ชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 7 ปี แต่ให้ความคุ้มครองชีวิตอย่างต่อเนื่องนานถึง 14 ปี
ในทุกสิ้นปีกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินคืน รวมสูงสุดถึง 51%(1)
เมื่อชำระเบี้ยประกันภัยอย่างต่อเนื่องจนครบกำหนดสัญญา ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินครบกำหนดสัญญากลับคืน 135%(1)
รับความคุ้มครองชีวิตเป็นเวลา 14 ปี ด้วยวงเงินความคุ้มครอง 145%(1) และสามารถเลือกชำระเบี้ยประกันภัยได้ทั้งแบบรายเดือน, ราย 3 เดือน, ราย 6 เดือน หรือ รายปี
การวางแผนออมเงินเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับคนในยุคปัจจุบัน เพราะการใช้ชีวิตประจำวันท่ามกลางความเสี่ยงหลากหลายรูปแบบ การมีเงินสำรองเอาไว้เผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็ถือว่าเป็นการวางแผนที่ดี เมื่อเกิดอะไรขึ้นในอนาคตจะได้เตรียมตัวรับมือได้ทัน
(1) เป็น % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา
– เงื่อนไขและข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
– การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
– โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครองและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
บทความแคร์การเงิน
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ผ่อนบอลลูน คือ อะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสมกับใครมากที่สุด
ไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ ต้องเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน