รู้ก่อนซื้อแอร์ วิธีคำนวณ BTU แอร์ ขนาดห้องเท่านี้ ต้องซื้อแอร์ขนาดไหน ?
แอร์ เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสามัญประจำบ้านที่สำคัญยิ่งสำหรับประเทศไทยที่ร้อนตับแตก โดยเฉพาะในเมืองที่หากไม่มีแอร์แล้วก็แทบจะอยู่ไม่ได้เลย ฉะนั้นก่อนจะซื้อแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศ ทุกคนควรรู้จัก BTU และวิธีการคำนวณ BTU แอร์ง่าย ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดห้อง ทำให้การใช้งานแอร์มีประสิทธิภาพ จะได้ใช้แอร์ได้แบบนาน ๆ กันไปเลย
BTU คืออะไร ?
BTU คือหน่วยวัดค่าพลังงานความร้อนตามมาตรฐานสากล ย่อมาจาก British Thermal Unit อธิบายง่าย ๆ คือหน่วยวัดค่าความเย็นของแอร์ นั่นเอง ยิ่ง BTU แอร์สูงมากเท่าไหร่ ยิ่งสร้างความเย็นจากแอร์ได้มากขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นค่า BTU จึงมักจะถูกนำมาใช้คำนวณขนาดของห้องว่าห้องที่มีขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ควรจะใช้งานแอร์ที่มีหน่วย BTU เท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม ก่อนซื้อแอร์จะต้องคำนวณ BTU แอร์
หากคำนวณ BTU แอร์ผิดแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ?
กรณีคำนวณ BTU แอร์เกินจากขนาดห้อง : เสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เรื่อง ตั้งแต่ค่าราคาแอร์ ค่าไฟ นอกจากนั้นแอร์อาจให้ความเย็นที่มากเกินไป หรือไม่ได้ระดับอุณหภูมิที่คุณต้องการ
กรณีคำนวณ BTU แอร์น้อยกว่าขนาดห้อง : แอร์ไม่เยอะ หรือเย็นช้า ไปจนถึงแอร์จะต้องทำงานหนักอย่างมาก ในการที่จะทำให้ห้องเย็นทั่วถึง ฉะนั้นแอร์อาจเสียเร็วกว่าปกติได้ หรือแอร์ไม่เย็น อาจมาจากอีกหลาย ๆ สาเหต อยากทราบ คลิกอ่านต่อได้เลย
วิธีคำนวณ BTU แอร์
คิดก่อนว่าจะติดแอร์ในห้องอะไร ?
ดูเสียหน่อยว่าแอร์ที่เราต้องการจะซื้อใหม่ มีวัตถุประสงค์ในการใช้อย่างไร? ใช้ในห้องไหน? โดยหากเป็นแอร์ที่ใช้ในห้องนอน สามารถใช้มาตรการการเทียบ BTU แบบทั่วไปได้ แต่หากเป็นห้องทำงาน หรือห้องทานอาหาร ที่เราอาจจะต้องทำกิจกรรมเยอะ เราอาจจะต้องเผื่อ BTU ให้ใหญ่กว่าขนาดห้องทั่วไปขึ้นมาสักเล็กน้อย เพราะห้องนั้น ๆ อาจใช้ทำกิจกรรมเยอะ และห้องอาจมีความร้อนกว่าห้องนอน จึงควรคำนวณ BTU แอร์เพื่อให้มีขนาดใหญ่เกินกว่าห้องทั่วไปเสียหน่อย นอกจากนั้นจะต้องคิดเผื่อกรณีวัสดุในห้อง หากมีกระจกที่หันสู่พระอาทิตย์เยอะ ก็อาจต้องคำนวณ BTU แอร์เผื่อปัจจัยนี้เข้าไปด้วย
ดูทิศทางลม และแสงแดด
หากห้องหันหน้าเข้าสู่ทิศทางแดด โดยเฉพาะเป็นฝั่งที่เป็นกระจก โดยเฉพาะแดดตอนเช้า หรือแดดตอนเที่ยง ไปจนถึงบ่าย จะยิ่งทำให้อุณหภูมิห้องร้อนมาก ๆ ควรที่จะนำปัจจัยเรื่องแสงแดดเข้ามาคำนวณ BTU แอร์ด้วย หากห้องเจอแดดย่อย อาจต้องคำนวณ BTU แอร์ขึ้นไปเล็กน้อย เพื่อให้ห้องไม่ร้อนจนเกินไป
วัดขนาดห้องของเราให้ดี
ใช้ตลับเมตรวัดจุดที่กว้าง และจุดที่ยาวที่สุดของห้อง จากนั้นเอา ความกว้าง X ความยาว และจึงจะได้ขนาดห้อง โดยใช้หน่อยตารางเมตร เพราะเป็นหน่วยมาตรวัดที่เป็นสากลที่สุด โดยอาจไม่ต้องได้ขนาดห้องที่แม่นยำมาก ให้คำนวณ BTU แอร์คร่าว ๆ
ดูตามตารางว่า ขนาดห้อง เท่านี้ ควรซื้อแอร์ BTU เท่าไหร่ ?
ขนาด BTU แอร์ | ขนาดห้องนอน | ขนาดห้องทำงาน | ขนาดห้องทานข้าว |
5,000 BTU | 5-9 ตร.ม. | 4-8 ตร.ม. | 3-7 ตร.ม. |
9,000 BTU | 10-14 ตร.ม. | 9-13 ตร.ม. | 7-11 ตร.ม. |
12,000 BTU | 14-18 ตร.ม. | 13-16 ตร.ม. | 11-15 ตร.ม. |
15,000 BTU | 18-22 ตร.ม. | 16-20 ตร.ม. | 15-18 ตร.ม. |
18,000 BTU | 22-26 ตร.ม. | 20-23 ตร.ม. | 18-21 ตร.ม. |
20,000 BTU | 25-29 ตร.ม. | 23-26 ตร.ม. | 21-23 ตร.ม. |
22,000 BTU | 29-31 ตร.ม. | 26-28 ตร.ม. | 23-25 ตร.ม. |
24,000 BTU | 31-34 ตร.ม. | 28-30 ตร.ม. | 25-27 ตร.ม. |
30,000 BTU | 35-42 ตร.ม. | 31-37 ตร.ม. | 30-34 ตร.ม. |
ยกตัวอย่างวิธีการคำนวณ BTU แอร์
ห้องนอน ความกว้าง 4 เมตร ยาว 7 เมตร
ขนาด 4×7 = 28 ตารางเมตร
ฉะนั้นควรที่จะซื้อแอร์ขนาด 20,000 BTU
ห้องทำงาน ความกว้าง 4 เมตร ยาว 7 เมตร
ขนาด 4×5 = 20 ตารางเมตร
เป็นห้องที่ต้องทำงานในช่วงกลางวัน ซึ่งจะโดนแดดเต็ม ๆ
ฉะนั้นควรที่จะซื้อแอร์ ไม่ขนาด 15,000 BTU ก็ 18,000 BTU
แต่ด้วยความที่ห้องโดนแดด ก็อาจซื้อเผื่อไปเลย 18,000 BTU
จะเห็นได้ว่าการคำนวณ BTU แอร์ อาจไม่ต้องยึดหลักที่ตายตัว หากแต่เป็นค่าที่ต้องอาศัยการดูจากหลากหลายปัจจัยประกอบด้วย หรือไปปรึกษาพนักงานเพื่อให้ได้ขนาดแอร์ที่มีความเหมาะสมกับห้องมากที่สุด
กรณีห้องเพดานสูง ต้องคำนวณ BTU แอร์อย่างไร ?
ต้องนำความสูงเข้ามาคิดคำนวณ BTU แอร์ด้วย ทำให้อาจไม่สามารถใช้สูตรเดียวกับห้องที่เพดานต่ำได้ โดยจะต้องใช้สูตร
กว้าง (เมตร) X ยาว (เมตร) X สูง (เมตร) / 3
ยกตัวอย่างวิธีการคำนวณ BTU แอร์ ห้องเพดานสูง
ห้องนอน กว้าง 5 เมตร ยาว 5 เมตร สูง 5 เมตร
คำนวณ BTU แอร์ 5 x 5 x 5 / 3 = 41.6
ฉะนั้นควรที่จะซื้อแอร์ขนาด 30,000 BTU
หากคำนวณ BTU แอร์ผิด แล้วซื้อมาแล้ว จะมีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไร ?
ในกรณีที่คำนวณ BTU แอร์ใหญ่กว่าขนาดห้องก็อาจจะไม่มีวิธีการแก้ปัญหาที่ดีไปกว่าการพยายามควบคุมอุณหภูมิของแอร์ให้ไม่สูงเกินไป หรือเปิดแอร์เพียงช่วงจังหวะที่รู้สึกร้อนเกินไป แต่หากเป็นกรณีที่คำนวณ BTU แอร์เล็กจนเกินไป จะเป็นกรณีที่ต้องรีบแก้ไขมากกว่า เพราะแอร์อาจเสียได้อย่างรวดเร็วจากการใช้งานหนักจนเกินไป โดยมีวิธีการแก้ปัญหาดังนี้
- ลองกั้นห้องด้วยฉากกั้นห้อง : กรณีที่ห้องใหญ่จนเกินไปจนแอร์เข้าไม่ถึง เราอาจลองกั้นห้องด้วยฉาก หรือประตูบานเลื่อน และเมื่อจะเปิดแอร์เราจึงค่อยปิดฉากกั้นนั้น ๆ เพื่อไม่ทำให้แอร์รั่วไหลไปสู่โซนอื่น เพื่อเป็นการไม่ทำให้แอร์ทำงานหนักจนเกินไป
- ใช้พัดลม : หากแอร์เย็นไม่ทั่วถึงทั้งห้อง เราควรใช้พัดลมช่วยพัดลมเย็นให้เข้าถึงในมุมอื่น ๆ ของห้องด้วย โดยหลาย ๆ คนอาจคิดว่าเป็นวิธีการที่เปลืองแอร์ แต่หากไม่ทำ แล้วแอร์จะต้องทำงานหนักจนเสียเร็ว ก็จะเป็นสิ่งที่ทำร้ายสภาพแวดล้อม และสิ้นเปลืองทุนทรัพย์มากเสียยิ่งกว่าการใช้พัดลมคู่กับแอร์เสียอีก
- ติดผ้าม่านหนา กันแดดและอุ้มความเย็นได้ดี : นอกจากนั้นวิธีการทำให้ห้องเย็นได้เร็ว และง่ายขึ้นอีกวิธีคือการติดตั้งผ้าม่าน ที่มีความสามารถในการกันแดด พร้อมมีฉนวนกักเก็บความเย็น
หวังว่าทุกคนคงจะได้วิธีคิดคำนวณ BTU แอร์ที่เที่ยงแท้มากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วเราจะต้องสอบถามผู้เชี่ยวชาญ ผู้รู้อีกที เพราะการซื้อแอร์ ก็เป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างใหญ่ ควรซื้อให้ถูกต้อง มีขนาดที่เหมาะสม และใช้งานไปได้ให้เต็มที่อายุการใช้งานเลย ให้มองการซื้อแอร์เปรียบเหมือนกับการลงทุนที่ชาญฉลาด ฉะนั้นใครอยากซื้อแอร์ใหม่ แต่ไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอ แรบบิท แคร์ แนะนำ สินเชื่อส่วนบุคคล ของ่าย ไม่ต้องค้ำประกัน มีข้อเสนอดี ๆ เพียง ใครสนใจ คลิกเลย
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct