สัญญาณร้าย รีบแก้! ก่อนธุรกิจเจ๊ง
เชื่อว่าหลายคนกำลังพยายามประคองธุรกิจของตัวเองให้รอดพ้นจากสถานการณ์ช่วงนี้กันอยู่ แล้วมีสัญญาณร้ายอะไรที่เตือนให้เราระมัดระวังมากกว่าเดิมไหมนะ? ลองมาเช็กกันดีกว่าว่าธุรกิจของคุณกำลังเข้าข่ายหรือเปล่า?
สัญญาณร้าย รีบแก้ก่อนธุรกิจเจ๊ง
เริ่มไม่ตอบโจทย์ลูกค้า
การทำธุรกิจก็เหมือนกับการแข่งขันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าตลอดเวลา ถ้าโจทย์สินค้าที่เคยเป็นจุดแข็ง จุดขาย แต่ทำยอดได้ไม่ดีเหมือนที่เป็นมา คุณอาจจะต้องพิจารณาแล้วว่ามีปัญหาเกิดขึ้นตรงไหนบ้าง ทำไมลูกค้าหายไป ทั้งที่เราก็ยังค้าขายหรือให้บริการเช่นเดิม
สัญญาณร้ายข้อนี้ หากไม่รีบหาต้นตอ และแก้ไข อาจจะบานปลาย จนทำให้ธุรกิจเจ๊ง หรือล่มไม่เป็นท่าก็ได้นะ
การหาทางออกให้ปัญหานี้ก็มีหลายวิธี เช่น การเลือกปรับปรุงสินค้า บริการ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้กลับมา และพัฒนาให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น หรือเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติม เป็นต้น ที่สำคัญคือการศึกษาลูกค้า ตามเทรนด์ และปรับตัวให้ทัน
ไม่มีการวางแผนในกรณีที่แย่ที่สุด
การทำธุรกิจควรมีการวางแผนเสมอ และถ้าให้ดี เราควรมีการวางแผนเผื่อกรณีที่แย่ที่สุดเอาไว้ด้วย เพราะหากเรารอให้ปัญหาเกิดขึ้น โดยไม่มองหาลู่ทางเอาไว้ก่อน ธุรกิจอาจจะเจ๊งชนิดที่ยื้อไม่อยู่ก็ได้
ถ้าคุณไม่รู้จะวางแผนยังไง บางแห่งมีบริการปรึกษาแผนธุรกิจอยู่ โดยคุณอาจจะหาที่ปรึกษาทางธุรกิจ โดยเฉพาะคนที่เคยสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแล้ว มาให้ทำแนะนำ แต่อย่าลืมว่า เมื่อปรึกษาหรือวางแผน อย่าลืมมองหลักตามความเป็นจริงว่ามันเข้ากับธุรกิจของเราหรือไม่ แล้วจึงนำมาปรับใช้ นอกจากนี้ คุณควรศึกษาแผนธุรกิจหลาย ๆ โมเดล เพื่อหาจุดเด่น-จุดด้อย แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
ขายดี แต่ขาดทุน
คุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง กับคำว่าขายดีจนเจ๊ง บอกเลยว่าโอกาสแบบนี้มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้ ต่อให้ขายดีแค่ไหน ถ้าคุณขาดทุนคุณก็เจ๊งอยู่ดี เพราะต้องไม่ลืมว่า รายได้ไม่ใช่กำไร คุณต้องจับตามองกำไรของธุรกิจตัวเองให้ดี เพราะกำไรคือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจเติบโต และอยู่รอดต่อไปได้
ลองเช็กบัญชีกันให้ดี ๆ ลูกค้าเราอาจจะเยอะก็จริง ขายดีมาก แต่ยอดต่าง ๆ ที่ได้กลับคืนมาหักลบแล้วมีกำไรหรือไม่ พอจะประคองธุรกิจได้อีกหรือไม่ ช่วงนี้อาจจะไม่เหมาะกับการขยายธุรกิจ คุณอาจจะเลือกเก็บออมเงินที่จะขยายธุรกิจเอาไว้เป็นทุนสำรองก่อน ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น หรือความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ก็มาวางแผนขยับขยายกันอีกที
เงินสำรองเริ่มไม่เพียงพอ
ในการทำธุรกิจ หลายคนจะมีการสำรองเงินไว้สำหรับการทำธุรกิจอยู่แล้ว แต่ถ้ารู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ นอกจากจะขาดทุนแล้ว เงินสำรองที่ตระเตรียมไว้ก็เริ่มน้อยลง หมุนเงินได้ยาก และถ้าขาดสภาพคล่อง นั่นคือสัญญาณเตือนว่าธุรกิจของคุณอาจจะสะดุด
เพราะการตลาดเปรียบเสมือนสมอง การเงินก็เปรียบได้ดั่งหัวใจ ในยามที่ธุรกิจสะดุด หากเงินสำรองไม่เพียงพอ เงินสดมักจะขาดมือ คุณอาจจะต้องตัดสินใจว่าจะยอมเลิกธุรกิจก่อนจะบาดเจ็บหนักไปมากกว่านี้ หรือจะสู้ต่อด้วยการขอสินเชื่อเพื่อยื้อธุรกิจต่อไป ก็ต้องพิจารณาให้ดี ๆ ถ้าเลือกจะสู้ก่อน ก็อย่าลืมวางแผนให้รอบคอบด้วยนะ
เศรษฐกิจในช่วงนี้ อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ จริงอยู่ที่เราควรตื่นตัวอยู่เสมอ แต่อย่ากังวลมากเกินพอดีจนส่งผลต่อสุขภาพจิต เพราะนั่นอาจจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย ๆ
การทำธุรกิจนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะทำพลาด คิดว่าเสียว่าเป็นเรื่องธรรมดาของธุรกิจ แต่สิ่งที่คุณต้องมีคือสติ มีการวางแผนที่ดี ตระเตรียมเงินทุนสำรองไว้เสมอจะดีกว่า และสำหรับใครมองหาทุนสำรองฉุกเฉิน ต้องการเงินหมุนเวียนด่วนชั่วคราว ต้องนี่เลย บัตรกดเงินสด จาก Rabbit Care ที่ให้คุณมีเงินก้อนไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน สมัครง่าย อนุมัติเร็ว คลิกเลย!
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct