ทุนประกันคืออะไร สำคัญอย่างไร ? หลักการคำนวณทุนประกันรถยนต์
ทุนประกัน หรือทุนประกันรถยนต์ คืออะไร ? หลายคนที่กำลังเริ่มเข้าสู่วงการการซื้อประกันภัยหรือกำลังเริ่มพิจารณาการซื้อประกันรถยนต์ควรที่จะรู้จักไว้ ทั้งในด้านความสำคัญของทุนประกันภัย สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับทุนประกันภัย วิธีการคำนวณทุนประกันรถยนต์ ความแตกต่างระหว่างทุนประกันภัยและเบี้ยประกันเป็นอย่างไร ลองศึกษาข้อมูลกันไว้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับตนเอง!
ทุนประกันคืออะไร ?
ปัจจุบันนั้นผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญในด้านการวางแผนการเงินรวมถึงหาหลักประกันต่าง ๆ เพื่อป้องกันโอกาสในการสูญเสียเงินจำนวนมากจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต การทำประกันก็เป็นหนึ่งในวิธียอดนิยมที่ง่าย คุ้มค่า และหลายคนเลือกใช้ ซึ่งสำหรับคนที่ซื้อประกันภัยไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันรถยนต์ ก็จำเป็นที่จะต้องรู้จักหรือทราบว่า ทุนประกัน คืออะไร ?
ทุนประกันคือ ค่าชดเชยหรือจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ทางบริษัทประกันที่ผู้ซื้อประกันได้ทำการเลือกซื้อประกันเอาไว้จะจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามเงื่อนไขที่ได้ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์รถยนต์นั่นเอง เช่น ค่าชดเชยเมื่อเสียชีวิต ของผู้เอาประกันของประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกันสุขภาพ ค่าซ่อมแซมรถยนต์ ของผู้เอาประกันรถยนต์ หรือที่มักเรียกกันว่าทุนประกันรถยนต์นั่นเอง
ทั้งนี้ผู้ซื้อประกันภัยนั้นก็สามารถที่จะเลือกวงเงินได้ภายใต้เงื่อนไขที่ทางบริษัทประกันได้กำหนดเอาไว้ โดยทุนประกันที่จะได้รับก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละเงื่อนไขสัญญาหรือเงื่อนไขกรมธรรม์ที่เลือกทำ และจะมีรายละเอียดระบุอย่างชัดเจนว่าวงเงินคุ้มครองแต่ละกรณีนั้นจะมีวงเงินสูงสุดจำนวนเท่าไหร่ จะสามารถได้รับเงินได้ในกรณีไหน และต้องไม่ลืมว่ายิ่งเลือกซื้อแผนประกันที่มีวงเงินสูงมากเท่าไหร่ก็จะทำให้ค่าเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
ทุนประกันสำคัญอย่างไร ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าเจ้าทุนประกันนั้นสำคัญหรือไม่ สำคัญอย่างไร แรบบิท แคร์ ขอตอบได้เลยว่าทุนประภัยนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะในการตัดสินใจจะซื้อประกันภัยแต่ละครั้งนั้น เราต่างก็ต้องการได้รับผลประโยชน์ การชดเชยค่าเสียหาย ความคุ้มครองต่าง ๆ ตอบแทนเงินที่ตัดสินใจลงทุนซื้อประกันไปจากทุนประกันนั่นเอง
- ให้ความคุ้มครอง : เป็นสิ่งที่มอบหลักประกันทางการเงินให้แก่ผู้เอาประกันภัยกรณีเกิดความเสียหายหรือเกิดเหตุไม่คาดฝันซึ่งอยู่ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์ ในรูปแบบการจ่ายสินไหมทดแทน
- เป็นตัวกำหนดค่าเบี้ยประกัน : เมื่อความคุ้มครองมากขึ้น แน่นอนว่าค่าเบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่มีงบจำกัด การเลือกทุนประกันภัยที่เหมาะสมกับตัวเองในอัตราค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไหวจึงเป็นสิ่งสำคัญมากเลยทีเดียว
- ช่วยจัดการความเสี่ยง : อย่างที่กล่าวถึงไปแล้วว่าการเลือกซื้อประกันภัยนั้น คือการวางแผนป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้นการเลือกซื้อประกันซึ่งมีวงเงินคุ้มครองที่สามารถป้องกันความเสี่ยงหรือดูแลครอบคลุมความเสี่ยงหลังจากที่ได้พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ของตนเองแล้วจึงเป็นการจัดการความเสี่ยงในอนาคต
กล่าวได้ว่าสำหรับคนที่กำลังเลือกซื้อประกันประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต นอกจากจะต้องศึกษาเงื่อนไขกรมธรรม์ที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดแล้ว อีกสิ่งที่เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจก็คือเงื่อนไขของทุนประกันนั่นเอง
ประเภทของทุนประกัน
สำหรับประเภทของทุนประกันนั้นโดยทั่วไปจะมีทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน คือ
- จำนวนเงินจำกัดความรับผิดชอบ : คือการกำหนดจำนวนเงินสูงสุดที่บริษัทประกันภัยจะจ่ายให้สำหรับการเคลมประกัน เช่น ความคุ้มครองความเสียหายสูงสุดต่อรถยนต์ 400,000 บาท
- ผู้เอาประกันจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก : คือการที่คุณต้องทำการจ่ายค่าเสียหายส่วนหนึ่งก่อนที่ทางบริษัทประกันจะจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ เช่น กรณีมีความเสียหายเกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ 6,000 บาท และมีค่าใช้จ่ายส่วนแรก 1,000 บาท คุณต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท จากนั้นบริษัทประกันจะออกอีก 5,000 ที่เหลือให้
- วงเงินจำกัดความรับผิดรวม : คือจำนวนเงินสูงสุดที่กรมธรรม์ประกันภัยจะจ่ายให้ในช่วงเวลาที่กำหนดตามเงื่อนไขกรมธรรม์
- วงเงินจำกัดความรับผิดต่อครั้ง : คือจำนวนเงินสูงสุดที่บริษัทประกันจะจ่ายสำหรับเหตุการณ์แต่ละครั้งที่เกิดเหตุภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์
ทุนประกันรถยนต์ คืออะไร ?
หลังจากทราบข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับทุนประกันไปแล้ว ทีนี้เรามาเจาะลึกในส่วนของทุนประกันรถยนต์ สำหรับผู้ที่กำลังสนใจในการซื้อประกันรถยนต์กันบ้าง โดยสำหรับทุนประกันรถยนต์นั้นก็คือวงเงินความคุ้มครองที่ทางบริษัทประกันภัยจะต้องทำการจ่ายให้กับผู้เอาประกันภัยตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสำหรับทุนประกันรถยนต์นั้นก็จะให้ความคุ้มครองทั้งในส่วนของความเสียหายของตัวรถ ความเสียหายของทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ความเสียหายต่อการบาดเจ็บ หรือค่าชดเชยในกรณีที่มีการเสียชีวิตเกิดขึ้น
ทั้งนี้ลักษณะและวงเงินของทุนประกันรถยนต์นั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามการเลือกซื้อหรือทำประกันรถยนต์แบบต่าง ๆ เช่น พ.ร.บ. (ประกันรถยนต์ภาคบังคับ) และประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ประกันรถยนต์ชั้น 3 และประกันรถยนต์ชั้น 3+ เป็นต้น
ควรเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่มีทุนประกันรถยนต์ เท่าไหร่ดี ?
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาประกันรถยนต์สำหรับรถยนต์ของคุณและไม่ทราบว่าจะต้องเลือกซื้อแผนประกันที่มีทุนประกันรถยนต์เท่าไหร่แล้ว โดยทั่วไปแล้วแม้ว่าจะสามารถเลือกซื้อแผนประกันที่ให้วงเงินทุนประกันรถยนต์สูงตามที่ต้องการได้ แต่ความจริงแล้วก็มีหลักเกณฑ์ที่คนส่วนใหญ่ใช้เพื่อประกอบการพิจารณาเลือกซื้อ ดังนี้
วงเงินหรือความคุ้มครองนั้นมักถูกกำหนดขึ้นจากมูลค่ารถยนต์ของผู้ซื้อประกันภัยเนื่องจากต้องนำปัจจัยด้านความเสี่ยงหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์มาพิจารณาร่วมด้วยเพื่อให้ได้ทุนประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆ คือ หากเป็นรถยนต์ป้ายแดงนั้นมักจะเลือกซื้อแผนประกันที่มีวงเงินคุ้มครองสูงสุดที่ 80-85% ของราคารถยนต์ และสำหรับรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วหรือไม่ใช่รถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด ก็จะต้องคำนวณจากราคากลางของยี่ห้อ-รุ่นรถยนต์ในปีนั้น ๆ นั่นเอง
นอกจากในส่วนของการพิจารณาทุนประกันรถยนต์จากราคาของรถยนต์แล้ว ปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วยก็คือ ลักษณะการใช้รถ ความเสี่ยงที่พิจารณาจากพฤติกรรมการขับขี่ จุดประสงค์การใช้รถยนต์ของผู้เอาประกันภัย หากนำปัจจัยเหล่านี้มาพิจารณาร่วมด้วยก็จะทำให้สามารถเลือกทุนประกันรถยนต์ที่สามารถดูแลครอบคลุมได้มากที่สุดและเหมาะสมที่สุด
ทุนประกันรถยนต์ คิดยังไง
หากจะสรุปวิธีการคำนวณทุนประกันรถยนต์ที่ควรนำไปซื้อให้เข้าใจง่าย ๆ ก็จะมีวิธีการการคำนวณหรือพิจารณาทุนประกันรถยนต์ ดังนี้
- นำราคา 80-85% ของรถยนต์ป้ายแดง หรือราคากลางของรถยนต์ของคุณ ณ ปีนั้น ๆ มาคำนวณรวมกับปัจจัยความเสี่ยงในการใช้รถยนต์ ค่าซ่อม ค่าอะไหล่ ค่าช่างเฉพาะทาง และพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้รถ และนำมาตัดสินใจวงเงินคุ้มครองที่ต้องการ
เพียงเท่านี้ก็จะได้วงเงินทุนประกันรถยนต์ที่เหมาะสมและครอบคลุม ตัดปัญหาหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันในอนาคตและไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันที่แพงเกินความจำเป็นได้ และหากเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ต้องมีการคืนทุนประกันจะได้ไม่เป็นภาระของเจ้าของรถยนต์
สำหรับใครที่รู้สึกกังวลว่าจะไม่สามารถคำนวณทุนประกันรถยนต์ให้กับตัวเองได้ หรือยังคงลังเลใจว่าควรเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้นไหน สามารถติดต่อสอบถามเพื่อนรับคำแนะนำจาก แรบบิท แคร์ ได้ เรามีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยสแตนด์บายตอบทุกข้อสงสัยและให้บริการ
การคํานวณทุนประกันที่เหมาะสม มีวิธีอะไรบ้าง
ทุนประกันภัยจะถูกคำนวณตามกรมธรรม์ที่คุณเลือกซื้อ สำหรับประกันสุขภาพ ทุนประกันภัยจะพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น อายุของผู้เอาประกันภัย สถานะสุขภาพ โรคประจำตัว และประวัติทางการแพทย์ รวมถึงตัวเลือกความคุ้มครองที่คุณเลือก สำหรับประกันรถยนต์ ทุนประกันภัยจะพิจารณาจากรุ่นและยี่ห้อของรถ ค่าซ่อมรถโดยประมาณ ค่าอะไหล่และปริมาณอะไหล่ ข้อมูลของผู้ขับขี่ และปัจจัยอื่น ๆ
ทุนประกันลดลงปีละเท่าไหร่ ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าทุนประกันรถยนต์นั้นจะลดลงปีละเท่าไหร่ คำตอบก็คือในการซื้อประกันรถยนต์นั้น ทุนประกันจะมีการปรับลดลงเรื่อย ๆ ปีละ 10% หรือตามราคากลางของรถยนต์ในปีนั้น ๆ
ทุนประกัน vs เบี้ยประกัน ต่างกันอย่างไร ?
แน่นอนว่าทุนประกันและเบี้ยประกันรถยนต์คือ 2 สิ่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังมักมีคนที่สับสนว่าเบี้ยประกันและทุนประกันคือสิ่งเดียวกันหรือไม่ วันนี้ แรบบิท แคร์ จึงมาสรุปให้ ว่าทั้ง 2 อย่างนี้ต่างกันอย่างไรให้เข้าใจชัดเจนไปพร้อม ๆ กัน
ทุนประกัน หมายถึงอะไร
- ทุนประกัน : คือ เงินที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับจากบริษัทประกันทั้งในกรณีที่ครบกำหนดสัญญา เกิดอุบัติเหตุ หรือมีเหตุอันตรงตามเงื่อนไขกรมธรรม์เกิดขึ้น
เบี้ยประกันรถยนต์คืออะไร
- เบี้ยประกัน : เงินที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายให้ทางบริษัทประกันเพื่อซื้อความคุ้มครองตามเงื่อนไข ซึ่งอาจทำการจ่ายเป็นงวด ๆ รายเดือน หรือรายปี ตามข้อตกลงและเงื่อนไขการชำระเบี้ยที่ทำกับบริษัทประกันจนกว่าจะครบกำหนดสัญญา
คืนทุนประกันคืออะไร
การคืนทุนประกันรถยนต์ คือ การจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์ในวงเงินเต็มจำนวนที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ดังนั้น ทุนประกันรถจะหมายถึงจำนวนความรับผิดชอบต่อรถยนต์ โดยบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินในกรณีเกิดอุบัติเหตุไม่เกินจำนวนที่กำหนด การคำนวณทุนประกันเริ่มจากราคาขายรถในปัจจุบันและหักค่าเสื่อมราคา 20% ของทุกปี ส่วนการซ่อมรถนั้น บริษัทประกันภัยจะจัดให้อยู่ที่ 70% ของทุนประกัน แต่หากความเสียหายเกิน 70% บริษัทประกันจะให้เราเลือกว่า จะซ่อมรถและจ่ายส่วนต่างหรือจะรับทุนประกันคืน 100% แล้วขายซากรถให้กับบริษัทประกันนั่นเอง
ขั้นตอนการคืนทุนประกันรถยนต์
โดยปกติแล้ว เพื่อการเรียกคืนทุนประกันในจำนวนเต็ม ผู้ถือกรรมสิทธิ์ (ซึ่งอาจเป็นเจ้าของรถหรือบริษัทไฟแนนซ์ในกรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด) จะต้องทำการโอนกรรมสิทธิ์ของตัวรถและทะเบียนของรถที่เกิดอุบัติเหตุให้กับบริษัทประกัน ซึ่งจะส่งผลให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์สิ้นสุดลงทันที หรือสามารถมองว่าเป็นการขายคืนซากรถที่ติดไฟแนนซ์ได้
ในทางตรงกันข้าม หากไม่ต้องขายซากรถให้กับบริษัทประกัน ผู้เอาประกันจะได้รับค่าสินไหมที่ลดลงจากเดิม และสามารถนำซากรถไปจัดการได้ด้วยตนเอง โดยความคุ้มครองตามกรมธรรม์ก็จะสิ้นสุดลงเช่นกัน
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology