ต้นไม้ล้มทับรถ ใครรับผิดชอบ? สรุปทุกประเด็นต้นไม้ทับรถที่ต้องรู้

Thirakan T
ผู้เขียน: Thirakan T Published: มิถุนายน 9, 2025
Thirakan T
Thirakan T
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology
คะน้าใบเขียว
ตรวจทาน: คะน้าใบเขียว Last edited: มิถุนายน 8, 2025
คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct
ต้นไม้ล้ม

ในช่วงฤดูฝนที่มักจะมาพร้อมกับลมพายุ หลายคนอาจเคยพบกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด อย่างต้นไม้ล้มทับรถ ซึ่งนอกจากจะทำให้รถยนต์เสียหายแล้ว ยังนำมาซึ่งคำถามใหญ่ตามมาว่า ใครต้องเป็นคนรับผิดชอบ? และประกันรถยนต์จะช่วยหรือไม่?

บทความนี้จะช่วยคลายทุกข้อสงสัย พร้อมให้คำแนะนำเรื่องการป้องกันล่วงหน้า รวมถึงสิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงเวลาที่ต้นไม้ทับรถ ใครที่มีความเสี่ยงในการนำรถยนต์ออกไปจอดนอกบ้านบ่อยครั้ง ควรอ่านให้ครบถ้วนเผื่อเตรียมรับมือเหตุไม่คาดฝันในอนาคตได้อย่างดีที่สุด

สาเหตุที่ทำให้ต้นไม้ล้ม จนนำไปสู่ความเสียหาย

เหตุการณ์ต้นไม้หักโค่นมักมีสาเหตุหลักมาจากสภาพอากาศรุนแรง โดยเฉพาะลมพายุและฝนตกหนักที่ทำให้รากของต้นไม้ไม่สามารถยึดเกาะพื้นดินได้ดี ต้นไม้เก่าหรือที่ปลูกผิดวิธีโดยไม่มีการดูแลอย่างเหมาะสมก็มีโอกาสล้มลงได้ง่าย นอกจากนี้ ดินที่อ่อนหรือมีการก่อสร้างใกล้โคนต้นไม้จนกระทบต่อราก ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ต้นไม้ล้มลงได้

ดังนั้นหากมีต้นไม้ใกล้พื้นที่จอดรถ ควรเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม ดูแลรักษา และตรวจสอบสภาพต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน เพราะเวลาที่ต้นไม้สูง ๆ ต้องเผชิญหน้ากับลมแรง ไปจนถึงพายุฝน หากโชคดีไม่ได้เกิดเหตุการณ์ต้นไม้ล้มทับรถ ก็ยังมีโอกาสที่กิ่งไม้ขนาดเล็กถึงใหญ่ หล่นลงมาใส่รถยนต์ที่จอดอยู่ข้างใต้ต้นไม้ จนได้รับความเสียที่ไม่อาจประเมินได้เช่นกัน

กรณีต้นไม้ล้มทับรถ แบบนี้ใครรับผิดชอบกันแน่?

ต้นไม้ล้มทับรถ ใครรับผิดชอบ คำตอบขึ้นอยู่กับสถานที่และเจ้าของพื้นที่ หากต้นไม้อยู่ในที่ดินเอกชน เช่น บ้านพักอาศัย เจ้าของที่ดินมีหน้าที่ดูแล หากละเลยจนต้นไม้หักโค่นลงมาทับรถผู้อื่น อาจต้องรับผิดชอบค่าเสียหายตามกฎหมาย ในกรณีที่ต้นไม้อยู่ในพื้นที่สาธารณะ เช่น ข้างถนนหรือสวนสาธารณะ หน่วยงานท้องถิ่นที่ดูแลพื้นที่นั้นอาจต้องเป็นผู้รับผิดชอบ 

หากพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากการละเลยหน้าที่ แต่ถ้าต้นไม้ในบ้านของตัวเองล้มใส่รถของตัวเอง ก็ต้องพิจารณาว่ารถมีประกันภัยที่ครอบคลุมเหตุการณ์นี้หรือไม่ ทั้งหมดนี้ต้องมีการพิสูจน์ว่าเกิดจากความประมาทหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาความรับผิดชอบ ไปจนถึงการพิจารณาประกันรถยนต์ที่ใช้งานอยู๋ ว่าดูแลได้ครอบคลุมมากน้อยแค่ไหน

ต้นไม้ล้มทับรถ ประกันจ่ายไหม? ดูให้ชัดทุกประเภทประกันแบบเข้าใจง่าย

ต้นไม้ล้มทับรถ ประกันจ่ายไหม คำตอบ คือ ประกันที่จะจ่ายกรณีต้นไม้ล้มทับรถ มีเพียงแค่ประกันภัยชั้น 1 เท่านั้น สำหรับเหตุผลความคุ้มครองอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมถึงสาเหตุที่ทำให้ประกันรถยนต์ชั้นอื่นไม่คุ้มครอง มีดังนี้

  • ประกันภัยชั้น 1 ให้ความคุ้มครองครบถ้วน รวมถึงกรณีภัยธรรมชาติ เช่น พายุ น้ำท่วม หรือต้นไม้ล้มทับรถ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นใจสูงสุดในการป้องกันความเสียหายทุกรูปแบบ
  • ประกันภัยชั้น 2+ และ 3+ คุ้มครองในกรณีรถชนกับรถเท่านั้น ไม่ครอบคลุมต้นไม้ล้มทับรถ เว้นแต่ระบุเงื่อนไขพิเศษ ซึ่งควรอ่านเงื่อนไขในกรมธรรม์ให้ละเอียด หากมีเพิ่มเติมเรื่องภัยธรรมชาติอาจครอบคลุมได้
  • ประกันภัยชั้น 3 ธรรมดา ไม่ครอบคลุมกรณีต้นไม้หักโค่นใส่รถโดยไม่มีคู่กรณี ยกเว้นกรณีที่รถเป็นฝ่ายผิด เช่น ขับไปชนต้นไม้เอง ซึ่งต้องตรวจสอบรายละเอียดในเงื่อนไขอีกครั้ง

การเลือกประกันจึงควรคำนึงถึงความเสี่ยงรอบตัว และตรวจสอบว่ากรมธรรม์ที่ถืออยู่นั้น ครอบคลุมภัยธรรมชาติ รวมถึงกรณีต้นไม้ล้มทับรถ ประกันคุ้มครองด้วยหรือไม่ เพื่อไม่ให้พลาดการเคลมในยามจำเป็น

ต้นไม้หักโค่น

ขั้นตอนแจ้งเคลมประกัน เมื่อต้นไม้หักโค่นใส่รถ

หากเกิดเหตุการณ์ต้นไม้ล้มใส่รถของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องตั้งสติและดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้ เพื่อให้สามารถเคลมประกันได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น โดยขั้นตอนพื้นฐานมีทั้งหมด 7 ขั้นตอน ด้วยกัน ดังนี้

  1. บันทึกความเสียหาย ถ่ายภาพและวิดีโอจุดที่ได้รับความเสียหายจากต้นไม้ให้ชัดเจน รวมถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการเคลม
  2. แจ้งบริษัทประกันทันที ติดต่อบริษัทประกันภัยของคุณให้เร็วที่สุด พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ เช่น วัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ และความเสียหายที่เกิดขึ้น
  3. เตรียมเอกสารประกอบ สำเนาทะเบียนรถ, ใบขับขี่, กรมธรรม์ประกันภัย และหลักฐานจากกล้องวงจรปิดหรือพยาน (หากมี)
  4. รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันจะมาตรวจสอบความเสียหายและประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
  5. ติดตามผลการอนุมัติ หลังจากประเมินเสร็จ บริษัทประกันจะติดต่อกลับเพื่อแจ้งผลการอนุมัติการเคลม และขั้นตอนการซ่อมแซมต่อไป
  6. ตรวจสอบความคุ้มครอง ยืนยันว่ากรมธรรม์ที่คุณถืออยู่ครอบคลุมกรณี “ต้นไม้ล้มทับรถ” หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการเคลม
  7. เก็บเอกสารทั้งหมดไว้ให้ดี เพื่อเป็นหลักฐานในกรณีที่ต้องติดต่อหน่วยงานอื่นเพิ่มเติม เช่น หน่วยงานท้องถิ่นหรือเจ้าของพื้นที่ที่ต้นไม้ตั้งอยู่

คำแนะนำเพิ่มเติม หลังจากที่มีเจ้าหน้าที่ประกันภัยมาดำเนินการออกใบเคลมให้เรียบร้อยแล้ว แนะนำให้หาเวลาว่างในการนำรถยนต์เข้าซ่อมที่ศูนย์ หรืออู่บริการภายใต้เงื่อนไขความคุ้มครองอย่างรวดเร็วที่สุด เพราะใบเคลมมีอายุการใช้งานที่จำกัด รวมถึงป้องกันปัญหาความล่าช้าในการซ่อมแซมตามคิวอีกด้วย

หากไม่มีประกันภัย รถเสียหายจากต้นไม้ล้ม ต้องทำอย่างไร?

หากคุณไม่มีประกันภัยที่ครอบคลุมกรณีนี้ ยังสามารถเรียกร้องความเสียหายได้โดยการติดต่อเจ้าของพื้นที่ที่ต้นไม้ตั้งอยู่ หากอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐ ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบและเก็บหลักฐานประกอบ ในกรณีที่การเจรจาไม่สำเร็จ ควรบันทึกเหตุการณ์ไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐาน และอาจต้องปรึกษาทนายเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย โดยเฉพาะหากมีเหตุให้เชื่อว่าเจ้าของพื้นที่ละเลยในการดูแลต้นไม้

เคล็ดลับลดความเสี่ยงต้นไม้ล้มทับรถ

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การเลือกจอดรถในพื้นที่ที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการจอดใต้ต้นไม้สูงหรือต้นไม้ที่ดูทรุดโทรม จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก รวมถึงควรมีการตัดแต่งกิ่งไม้และตรวจสอบสุขภาพของต้นไม้อย่างสม่ำเสมอในช่วงฤดูฝน 

หากคุณมีต้นไม้ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน ควรตรวจสอบสภาพรากและลำต้นอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง และหากพบว่าเสี่ยง ควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือจ้างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ และหากสามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในบริเวณดังกล่าว ก็จะช่วยเพิ่มหลักฐานกรณีเกิดเหตุอีกทางหนึ่ง

ประกันภัยรถยนต์แบบไหน เหมาะกับยุคภัยธรรมชาติเยอะ?

ในยุคที่ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้ง การเลือกประกันภัยรถยนต์ควรมองไกลกว่าความคุ้มครองอุบัติเหตุบนท้องถนน ควรเลือกประกันภัยชั้น 1 ที่ครอบคลุมทุกความเสี่ยง ทั้งอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ ต้นไม้ล้ม ไฟไหม้ น้ำท่วม 

หากเลือกประกันชั้นอื่น อาจพิจารณาเพิ่มความคุ้มครองภัยธรรมชาติเข้าไป โดยจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และอย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขในกรมธรรม์อย่างละเอียด ว่ารวมถึงเหตุการณ์ต้นไม้หักโค่นหรือไม่ เพราะไม่ใช่ทุกบริษัทจะให้ความคุ้มครองในกรณีนี้ และถ้าได้รับความคุ้มครองแล้ว ทางประกันภัยจะช่วยเหลือค่าเสียหายในกรณีนี้ด้วยวงเงินเท่าไหร่ รวบรวมข้อมูลก่อนตัดสินใจเพื่อได้ประกันรถยนต์ที่คุ้มค่ามากที่สุด

ต้นไม้ล้มทับรถ ใครรับผิดชอบ? ควรป้องกันและวางแผนอย่างไร

เหตุการณ์ต้นไม้ล้มทับรถ อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันเบื้องต้น การเลือกทำประกันภัยที่ครอบคลุม รวมถึงการรู้สิทธิและหน้าที่ในการเรียกร้องความเสียหาย จะช่วยลดภาระและความเครียดลงได้มาก

สุดท้าย อย่าลืมสำรวจบริเวณรอบบ้าน ตรวจสอบต้นไม้ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เสมอ และจอดรถในจุดที่ปลอดภัย เพราะการป้องกันล่วงหน้า คือการประกันที่ดีที่สุด สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อให้คุ้มครองกรณีต้นไม้ล้มทับรถอย่างไร ให้เหมาะสมหรือดีที่สุด สามารถติดต่อหา แรบบิท แคร์ ได้ที่เบอร์ 1438 (24 ชม.) เจ้าหน้าที่พร้อมนำเสนอประกันภัยจากบริษัทชั้นนำกว่า 30 แห่งในประเทศไทย รวมถึงมีสิทธิ์รับส่วนลดสูงสุดถึง 70% ให้เป็นพิเศษ

สรุป

ประกันที่จะจ่ายกรณีต้นไม้ล้มทับรถ มีเพียงแค่ประกันภัยชั้น 1 เท่านั้น หากต้นไม้อยู่ในที่ดินเอกชน เจ้าของที่ดินมีหน้าที่ดูแลต้องรับผิดชอบค่าเสียหายตามกฎหมาย แม้จะไม่ได้ทำประกันชั้น 1 ก็จะมีคนจ่ายค่าซ่อมแซมรถ แต่ถ้าต้นไม้ในบ้านของตัวเองล้มใส่รถของตัวเอง ค่าเบิกเคลมซ่อมรถเหล่านั้นจะมาจากกรมธรรม์มราเราทำไว้นั่นเอง

ที่มา

บทความแคร์เรื่องประกันยานยนต์

Rabbit Care Blog Image 102051

แคร์เรื่องประกันยานยนต์

รถเหยียบตะปู ประกันจ่ายไหม? รวมแนวทางจัดการปัญหาอย่างเหมาะสม

รถเหยียบตะปูถือเป็นหนึ่งในปัญหา ที่ผู้ขับขี่จำนวนมากต้องเคยประสบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ระหว่างการเดินทางในชีวิตประจำวัน
Thirakan T
09/06/2025
Rabbit Care Blog Image 102022

แคร์เรื่องประกันยานยนต์

กระจกโดนสะเก็ดหิน เคลมประกันได้ไหม? คำถามต้องรู้เรื่องกระจกรถโดนหิน

ในระหว่างที่ขับรถบนท้องถนน ไม่ว่าใครก็มีโอกาสเจอปัญหา "กระจกโดนสะเก็ดหิน" ได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะหินจากล้อรถบรรทุกหรือพื้นถนนที่กระเด็นใส่กระจกหน้า
Thirakan T
09/06/2025
Rabbit Care Blog Image 101215

แคร์เรื่องประกันยานยนต์

ประกันรถบรรทุก: เกราะคุ้มภัยคู่ธุรกิจ ปกป้องทุกการเดินทางขนส่ง

รถบรรทุก ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุก 6 ล้อที่ใช้ในกิจการขนาดกลาง หรือรถบรรทุก 10 ล้อ รถหัวลากขนาดใหญ่ที่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ของประเทศ
Natthamon
09/06/2025