รถเทสไดร์ฟ หรือรถ test drive คือ อะไร ทำไมมีราคาถูกกว่ารถปกติ

ทำความรู้จักกับการเทสไดร์ฟ และรถ test drive ว่าทำไมในปัจจุบัน ผู้คนจำนวนมากที่ต้องการออกรถถึงหันมาสนใจเรื่องนี้มาเป็นพิเศษ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่วงการรถยนต์ สามารถอ่านเก็บข้อมูลจากบทความที่ แรบบิท แคร์ เตรียมมาให้ก่อนได้เลย เนื่องจากเราจะพาไปรู้จักกันตั้งแต่การเทสไดร์ฟ เทสรถ ไปจนถึงวิเคราะห์ว่ารถที่ถูกนำมาทดสอบนั้นดีไหม หากต้องการซื้อมาใช้งาน หาซื้อได้ที่ไหน และมีวิธีดูอย่างไร ให้เราได้รับรถที่คุ้มค่ามากที่สุด

เทสไดร์ฟ คือ อะไร?

การเทสไดร์ฟ หรือ test drive คือ กระบวนการที่ค่ายรถยนต์ในแต่ละแห่ง เลือกนำรถยนต์รุ่นที่วางจำหน่ายจริง มาให้คนที่สนใจได้มาทดลองขับด้วยตัวเอง เพื่อให้สามารถเข้าถึงประสิทธิภาพ หรือฟังก์ชันต่าง ๆ ของตัวรถยนต์ได้จริงก่อนตัดสินใจซื้อ ยิ่งปัจจุบันรถยนต์ที่ออกใหม่ ล้วนแล้วแต่มีนวัตกรรมที่น่าสนใจสูงมาก เช่น ระบบไฮบริดที่มีความเสถียรภาพสูงขึ้น, ตัวเลือกรถยนต์ EV รุ่นใหม่จำนวนมาก, ฟังก์ชันพิเศษที่ถูกอัพเกรดจากโมเดลเดิม และอื่น ๆ อีกมากมาย 

ดังนั้นเมื่อเข้าแล้วว่าการ test drive คืออะไร ก่อนที่จะเลืกซื้อรถยนต์มาใช้งานจริงจังสักคัน ก็ควรไปเทสรถ ทดลองขับจนมั่นใจ ถึงความเหมาะสมต่อการใช้งาน และตอบโจทย์ได้ตรงใจอย่างแท้จริง

รถ test drive คือ รถอะไร

รถ test drive หมายถึง รถยนต์ที่ถูกนำเป็นรถสำหรับการทดลองขับขี่ประจำศูนย์ โดยส่วนมากแล้วค่ายรถแต่ละแบรนด์ มักจะเลือกเอารุ่นใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่าย หรือรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาด มาเป็นรถ test drive หลัก ๆ ของศูนย์บริการ เพราะเมื่อผู้ที่สนใจในรถรุ่นนั้น ๆ ได้มาเทสรถ ทดลองใช้งานจริงก่อน จะถือเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสตัดสินใจให้เลือกซื้อง่ายมากขึ้นนั่นเอง

รถ test drive ดีไหม

รถ test drive นับว่ายังเป็นรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพดี เหมือนกับรถใหม่ป้ายแดง เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้ได้มีการเทสรถทดลองขับขี่ไปบ้างแล้ว ตามโอกาสการใช้งานของแต่ละศูนย์รถยนต์ ตามปกติการทดสอบขับขี่รถยนต์ในแต่ละรุ่น มักจะใช้ในระยะทางสั้น ๆ นั่นหมายความว่าเต็มที่แล้ว เลขไมล์ของรถ test drive อาจขยับขึ้นมาเป็นหลักพันต้น ๆ เท่านั้น รวมถึงยังได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนกับรถยนต์ทั่วไป เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการออกรถได้ดีทีเดียว

คำแนะนำเพิ่มเติม การตัดสินใจซื้อรถยนต์ที่ผ่านการเทสไดร์ฟมาแล้ว ล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคนอีกทีหนึ่ง ว่ายอมรับในสภาพที่เจอหรือไม่ เพราะบางคนอาจต้องการรถใหม่ 100% ที่ไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน แต่บางคนอาจมองเป็นตัวรถที่สนใจ หากผ่านการใช้งานมาบ้างเล็กน้อย แลกกับส่วนลดสูง ช่วยประหยัดได้ก็ดูคุ้มค่าตามแต่ละมุมมอง 

ทำไมรถ test drive ราคาถูก 

เหตุผลที่ทำให้รถ test drive มีราคาที่ถูกกว่ารถยนต์ป้ายแดงปกติ เพราะรถคันนั้นผ่านการใช้งานจริงมาแล้ว ถึงแม้จะเป็นเพียงการเทสรถตามกำหนด ในระยะทางที่ไม่ไกล ไม่ได้มีการใช้งานหนักหน่วง แต่ก็นับเป็นการใช้งานจริง ทำให้แต่ละศูนย์จำหน่ายรถยนต์ ทำโปรโมชั่นลดราคาเพื่อขายรถที่ผ่านการเทสไดร์ฟได้ออกมาน่าสนใจ โดยเฉพาะการออกส่วนลดหลัก 100,000-150,000 บาท ที่สามารถหาดูได้ในหลาย ๆ ศูนย์

ซื้อรถ test drive ที่ไหน

ซื้อรถ test drive สามารถหาได้จากศูนย์จำหน่ายรถยนต์ของแต่ละค่ายได้เลย หากที่ไหนมีโปรแกรมให้เข้าไปเทสรถ อาจจะลองสอบถามไปยังเซลล์ที่เข้ามาดูแลได้เช่นกัน ว่าที่ศูนย์ ณ เวลานั้นมีขายไหม หรือบางช่วงเวลาของการจัด Motor Expo อาจมีการขายรถ test drive ได้เหมือนกัน ถ้าหากสนใจรถยนต์ของค่ายไหนอยู่ ให้ลองติดตามช่องทางออนไลน์ไว้อีกทีหนึ่ง เผื่อมีการโปรโมทเราจะได้ไม่พลาดโอกาส

รถ test drive ดูยังไง

รถยนต์ test drive เราจะสังเกตด้วยตัวเองง่าย ๆ ตั้งแต่แรกเมื่อดูที่เลขไมล์บนหน้าปัด หากไม่ใช่ที่เลข 0 นั่นแปลว่ารถยนต์คันนี้ผ่านการใช้งานมาแล้วแน่นอน และถ้าเป็นการออกรถจากศูนย์จำหน่าย ก็เป็นได้อย่างเดียวว่านี่คือรถสำหรับ test drive 100% หรือถ้าไม่มั่นใจ ให้ลองสอบถามเซลล์ถึงรายละเอียดของรถยนต์ที่มีโปรโมชั่นไม่เหมือนกัน หากคันไหนได้ลดราคามากกว่า สันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่าอาจเป็นรถที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว ไม่ก็เป็นรถ display

รถ display คืออะไร ต่างจากรถยนต์ test drive ยังไง

สำหรับรถ display หรือรถ demo จะเป็นการเรียกรถยนต์ที่ถูกนำมาเป็น “ตัวโชว์” เท่านั้น ซึ่งจะไม่ได้ถูกเทสอย่างการทดลองขับจริงเหมือนรถสำหรับ test drive ทำให้ดูใหม่กว่า เพราะรถประเภทนี้มักจะถูกจอดไว้เฉย ๆ เพื่อให้ผู้คนได้เข้ามานั่ง มาเปิดเช็กระบบต่าง ๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น มากที่สุดอาจเป็นการขับเคลื่อนเพื่อเปลี่ยนสถานที่โชว์รถเท่านั้น เลขไมล์จึงอาจขึ้นได้ถึงหลักพันนิด ๆ หรือน้อยกว่าได้

เหตุผลที่ควรทดสอบขับขี่ก่อนซื้อจริง

เหตุผลที่ทำให้เราควรเข้าไปทดลองขับก่อนซื้อจริง คือ เข้าถึงประสบการณ์ใช้งานจริง, พิจารณาว่าเหมาะกับเราไหม และทดสอบระบบความปลอดภัย ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมของเหตุผลทั้ง 3 ข้อ ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการทดสอบได้มากขึ้น มีดังนี้

• เข้าถึงประสบการณ์ใช้งานจริง เวลาที่เราได้ขับไปบนท้องถนน ได้สัมผัสแบบไหนบ้าง ความนุ่มของช่วงล่าง ความนิ่งของตัวรถยนต์ ฟังก์ชันที่ใส่เข้ามาได้มีโอกาสใช้งานมากน้อยแค่ไหน 
• พิจารณาว่าเหมาะกับเราไหม เปรียบเทียบประสบการณ์ที่เราได้รับจากการทดสอบ กับชีวิตประจำวันของเรา ว่าถ้านำมาใช้งานจริง ในราคาที่เจอ คุ้มค่าหรือไม่
• ทดสอบระบบความปลอดภัย เพราะรถยนต์สมัยใหม่มีนวัตกรรมที่พัฒนามาเป็นอย่างดี หากมีความปลอดภัยสูง ก็นับว่าคุ้มค่ามากทีเดียวที่จะตัดสินใจซื้อมาใช้งานประจำวัน

สรุปแล้วซื้อรถ test drive ดีไหม

สรุปแล้วการตัดสินใจซื้อรถ test drive ดีไหม? ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละคน ถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่ได้ซีเรียส ว่ารถยนต์ที่ผ่านการใช้งานทดลองขับขี่มาก่อนหน้านี้ เป็นระยะทางเท่าไหร่ มีส่วนไหนสึกหรอไปบ้าง ซึ่งแลกมาด้วยส่วนลดที่สูง ก็อาจเป็นดีลที่คุ้มค่า แต่ทางด้านคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องงบการออกรถ แนะนำให้ข้ามไปก่อน แล้วหันไปหารถใหม่เลยจะดีต่อความต้องการมากที่สุด

ซื้อรถ test drive ทำประกันรถยนต์ได้ไหม?

หลังจากที่เราซื้อรถ test drive มาแล้ว จะสามารถดำเนินการทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจได้อย่างแน่นอน เพราะต่อให้เป็นรถยนต์มือ 2 ที่มีอายุมาก ประกันรถยนต์ของแต่ละบริษัทก็ยังให้ความคุ้มครอง ซื้อประกันได้ตามปกติ ยิ่งถ้าเป็นรถสำหรับ test drive ที่ผ่านการใช้งานมาไม่มากเท่าไหร่นั้น ถือว่าเป็นรถใหม่ ที่ทำประกันรถยนต์ได้ทุกประเภท ตั้งแต่ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+, ประกันชั้น 2, ประกันชั้น 3+ และ ประกันชั้น 3

โดยทาง แรบบิท แคร์ ขอแนะนำว่าหากซื้อรถที่ผ่านการ test drive มา ควรพิจารณาเลือกประกันรถเป็นชั้น 1 เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนเสาร์ไฟฟ้า ชนกำแพง ชนต้นไม้ และเบียดกับสิ่งกีดขวาง เป็นต้น เหตุเหล่านี้สามารถเคลมประกันเพื่อรับการซ่อมแซมได้ทั้งหมด ตามเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์

แต่ถ้ายังตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะเลือกประกันรถยนต์ประเภทไหน แรบบิท แคร์ ยินดีให้คำปรึกษา เพียงโทรเข้ามาที่เบอร์ 1438 (โทรได้ตลอดเวลา) เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้บริการ ผ่านตัวเลือกบริษัทประกันภัยชั้นนำกว่า 30 แห่งในประเทศไทย และยังมอบส่วนลดให้สูงสุดถึง 70%

Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย