บอกลากลิ่นอับในรถ กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้รถหอมสดชื่น!

Natthamon
ผู้เขียน: Natthamon Published: พฤษภาคม 26, 2025
Natthamon
Natthamon
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คะน้าใบเขียว
ตรวจทาน: คะน้าใบเขียว Last edited: มิถุนายน 16, 2025
คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct
รถมีกลิ่นอับ

หลายคนคงเคยประสบปัญหากับกลิ่นอับในรถ ไม่เพียงแต่ทำให้บรรยากาศภายในรถไม่น่าอภิรมย์แล้ว แต่ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพอีกด้วย หลายคนอาจสงสัยว่ากลิ่นอับเกิดจากอะไร และจะมีวิธีแก้กลิ่นอับในรถยนต์บ้างไหม? แล้วสาเหตุการเกิดรถเหม็นอับเกิดจากอะไรได้บ้าง 

วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาคุณไปค้นหาคำตอบ และหาวิธีดับกลิ่นในรถ เพื่อลดกลิ่นอับในรถ และทำให้รถยนต์ของคุณกลับมาหอมสดชื่นอีกครั้ง!

กลิ่นอับในรถเกิดจากอะไร?

กลิ่นอับเกิดจากอะไรกันแน่นะ? สาเหตุยอดฮิตที่ทำให้รถเหม็นอับเกิดจากอะไรได้บ้าง เรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่า

  • เกิดจากความชื้นสะสมในรถ

เรียกได้ว่า นี่คือสาเหตุอันดับหนึ่งของกลิ่นอับในรถยอดฮิตเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย โดยความชื้นที่สะสมอยู่ภายในรถ ไม่ว่าจะเป็นพรม ผ้ายาง หรือเบาะผ้าที่เปียกชื้นจากการตากฝน น้ำหก หรือการล้างรถแล้วตากไม่แห้งสนิท 

นอกจากนี้การนำรองเท้าหรือเสื้อผ้าที่เปียกโคลนหรือน้ำเข้ามาในรถ โดยเฉพาะหลังจากเล่นกีฬาหรือลุยฝน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิด กลิ่นอับในรถได้เช่นกัน โดยความชื้นเหล่านี้จะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา กลายเป็นตัวการของกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

  • ระบบปรับอากาศรถยนต์อาจกำลังมีปัญหา

หากไม่ได้ทำความสะอาดไส้กรองแอร์หรือตู้แอร์เป็นประจำ ก็อาจมีสิ่งสกปรก เชื้อรา หรือแบคทีเรียสะสมอยู่ในระบบปรับอากาศ ทำให้แอร์ปล่อยลมที่มีกลิ่นอับออกมา ดังนั้นจึงควรหมั่นทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้รถเหม็นอับนั่นเอง

  • เศษอาหารและเครื่องดื่มที่หลงเหลือในรถ

 กาทานอาหารในรถ อาจทำให้มีเศษอาหารตกหล่น หรือเครื่องดื่มหก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้รถมีกลิ่นอับได้ และเมื่อเศษอาหารเน่าเปื่อย เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย จนส่งกลิ่นเหม็นและเกิดกลิ่นอับได้ในที่สุด

  • สูบบุหรี่ในรถ

หากมีการสูบบุหรี่ในรถเป็นประจำ กลิ่นควันบุหรี่อาจจะติดกับผ้าและวัสดุต่าง ๆ ภายในรถ และเนื่องจากกลิ่นบุหรี่เป็นกลิ่นที่ติดฝังแน่น ทำให้เกิดกลิ่นอับในรถยนต์ได้ง่าย และลดกลิ่นอับในรถได้ยากมาก ดังนั้นทางแก้นั่นง่ายดายมาก เพยีงแค่ไม่บุหรี่ในรถยนต์จะดีที่สุด

  • เกิดจากกลิ่นของสัตว์เลี้ยง

หากคุณพาสัตว์เลี้ยงไปในรถบ่อย ๆ โดยไม่ได้ทำความสะอาดเบาะหรือพรม ขนและกลิ่นตัวของสัตว์เลี้ยงก็สามารถทำให้รถเหม็นอับได้เช่นกัน 

  • ฝุ่นและสิ่งสกปรกสะสม

แม้จะดูไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ฝุ่นและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ ภายในรถก็สามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

วิธีแก้กลิ่นอับในรถยนต์และดับกลิ่นในรถ

เมื่อรู้สาเหตุแล้ว ก็ถึงเวลาจัดการกับปัญหากลิ่นอับในรถกันแล้ว! มีวิธีไหนบ้างนะที่เราจะลดกลิ่นอับในรถได้บ้าง มาดูกันดีกว่า! 

หมั่นทำความสะอาดภายในรถอย่างสม่ำเสมอ

ไม่ว่าจะเป็นการดูดฝุ่นพรม เบาะ และตามซอกมุมต่าง ๆ ภายในรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อกำจัดฝุ่นละออง สิ่งสกปรก และเศษอาหาร ตามด้วยใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดสำหรับภายในรถ เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ รวมถึงคอนโซล ประตู และเบาะ จะช่วยลดสาเหตุของสิ่งสกปรกและแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ 

และถ้าหากพรมหรือเบาะผ้ามีกลิ่นอับมาก ควรนำไปซักหรือใช้บริการร้านทำความสะอาดเบาะรถยนต์ หรือนำไปซักปีละครั้ง สองครั้ง จะช่วยลดการเกิดกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี

เปิดประตูรถระบายอากาศบ้าง

หลังจากการล้างรถหรือเมื่อรถเปียกฝน ควรเปิดประตูและหน้าต่างรถทิ้งไว้สักพัก เพื่อให้อากาศถ่ายเท และไล่ความชื้นออกไปจากรถ หรืออาจใช้สารดูดความชื้นต่าง ๆ ช่วยด้วยก็ได้เช่นกัน อย่างการวางถ่านดูดกลิ่น ซองดูดความชื้น หรือเบกกิ้งโซดาในรถยนต์ ลงบนพรมหรือเบาะ ทิ้งไว้ 15-30 นาที

รวมไปถึง ใช้น้ำส้มสายชูเพื่อช่วยดูดซับความชื้นและกลิ่นอับไว้ในรถนำน้ำส้มสายชูใส่ถ้วยเล็ก ๆ วางไว้ในรถข้ามคืน กลิ่นน้ำส้มสายชูจะช่วยดูดซับดับกลิ่นในรถได้ดี หลังจากนั้น กลิ่นน้ำส้มสายชูจะจางหายไปเอง

หมั่นดูแลระบบปรับอากาศ

ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดไส้กรองแอร์ ทั้งทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองแอร์เป็นประจำ โดยทั่วไป เราควรเปลี่ยนไส้กรองแอร์ตามระยะเวลาที่กำหนดทุกครึ่งปี หรือหนึ่งปี เพราะไส้กรองแอร์อาจเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรียชั้นดีที่ทำให้เกิดรถเหม็นอับนั่นเอง และหากมีกลิ่นอับมาจากระบบแอร์โดยตรง ควรนำรถเข้าศูนย์บริการหรือร้านที่เชี่ยวชาญเพื่อล้างทำความสะอาดตู้แอร์ ซึ่งจะช่วยกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี

ใช้อุปกรณ์ดับกลิ่นช่วย

หากการทำความสะอาดยังหลงเหลือกลิ่นอยู่บ้าง หรือยังไม่มีเวลานำรถยนตืไปทำความสะอาด เปลี่ยนไส้กรองแอร์ คุณอาจจะใช้อุปกรรืดับกลิ่นอื่นก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น สเปรย์ดับกลิ่น, ถ่านดูดกลิ่น, มะกรูดหรือเปลือกส้ม จะช่วยให้รถยนต์มีกลิ่นหอมสดชื่น กลบกลิ่นอับในรถได้

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดกลิ่น 

ไม่ว่าจะเป็นการงดสูบบุหรี่ในรถ, หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีกลิ่นแรงในรถยนตื หากจำเป็น ควรเปิดหน้าต่างระบายอากาศ และทำความสะอาดทันทีหลังทานเสร็จ, ไม่นำผ้าชิ้น ๆ มาทิ้งไว้ในรถข้ามคืน หากจำเป้นต้องนำผ้าชื้น ๆ มาไว้ในรถ ควรเปิดกระตู หรือกระจกระบายความชื้นเมื่อถึงที่พัก

ดับกลิ่นในรถ

การดูแลรักษารถยนต์ให้ปราศจากกลิ่นอับในรถไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณใส่ใจและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำข้างต้น คุณก็จะมีรถที่หอมสดชื่น น่าขับ และรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ใช้งานแล้วล่ะ!

และสำหรับใครที่อยากได้ความอุ่นใจเพิ่มเติมบนท้องถนน ต้องนี่เลย ประกันรถยนต์ จาก แรบบิท แคร์ โบรกเกอร์ประกันภัยที่คุณสามารถไว้ใจได้ พร้อมบริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันรถเพื่อหาประกันรถยนตืที่เหมาะกับคุณ คลิกเลย!

สรุป

กลิ่นอับในรถนั้น เกิดจากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น เกิดจากความชื้นสะสมในรถ, ไส้กรองแอร์หรือตู้แอร์อาจมีสิ่งสกปรก เชื้อรา หรือแบคทีเรียสะสมอยู่, มีเศษอาหารและเครื่องดื่มที่หลงเหลือในรถ, มีการสูบบุหรี่เป็นประจำในรถ, เกิดจากกลิ่นของสัตว์เลี้ยง เป็นต้น โดยการลดกลิ่นอับในรถนั้น คุณควรหมั่นทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เปิดประตูระบายอากาศในรถบ้าง และพยายามหลักเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นอับ เพียงเท่านีั้ คุณก็ได้รถที่ปราศจากกลิ่นอับแล้ว!

ที่มา

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 102309

แคร์รถยนต์

เครื่องคำนวณค่าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ตัวช่วยวางแผนค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้ EV

แนะนำเครื่องคำนวณค่าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
กองบรรณาธิการ
30/06/2025
Rabbit Care Blog Image 102122

แคร์รถยนต์

ไขทุกข้อข้องใจ! แก้ยังไงถ้ารถเสียงดังเวลาวิ่ง

วันดีคืนดีขับรถอยู่ดี ๆ เจ้ารถยนต์คู่ใจก็ดันมีเสียงขึ้นมาได้เสียขึ้น สาเหตุการที่รถเสียงดังเวลาวิ่งเกิดจากอะไรกันนะ? อันตรายมากไหม? โดยพื้นฐานแล้ว
Thirakan T
17/06/2025
Rabbit Care Blog Image 101599

แคร์รถยนต์

รู้จักกับ น้ำมันเกียร์รถยนต์ เพื่อการดูแลรักษารถยนต์ที่คุณรัก

น้ำมันเกียร์รถยนต์ คือหนึ่งในของเหลวสำคัญที่หล่อเลี้ยงระบบส่งกำลังของรถยนต์ ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างราบรื่น ลดการสึกหรอ
Natthamon
28/05/2025