เคล็ดลับดับกลิ่นรถใหม่! พร้อมวิธีทำให้รถหอมสดชื่น





กลิ่นรถใหม่… สำหรับบางคนอาจเป็นเสน่ห์เย้ายวนใจที่บ่งบอกถึงความสดใหม่ของรถยนต์คันโปรด แต่สำหรับหลาย ๆ คน กลิ่นรถใหม่กลับเป็นฝันร้ายที่ทำให้เวียนหัว คลื่นไส้ หรือแม้กระทั่งแสบตาแสบจมูก โดยกลิ่นนี้จะเกิดขึ้นจากสารเคมีระเหยที่ปล่อยออกมาจากวัสดุต่าง ๆ ภายในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก หนัง ยาง หรือกาว
หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ไม่ชื่นชอบกลิ่นรถใหม่ หรือกำลังมองหาวิธี กำจัดกลิ่นรถใหม่ อยู่ แรบบิท แคร์ นี้มีคำตอบ! เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงสาเหตุของกลิ่นรถใหม่ วิธีดับกลิ่นแบบธรรมชาติและแบบเร่งด่วน รวมถึงเคล็ดลับการดูแลรถให้หอมสดชื่นอยู่เสมอ พร้อมแนะนำ น้ำหอมดับกลิ่น ที่จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในรถของคุณให้สดใสกว่าที่เคย
วิธีดับกลิ่นรถใหม่
การ กำจัดกลิ่นรถใหม่ นั้นมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของกลิ่นและระยะเวลาที่คุณต้องการให้กลิ่นหายไป มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่เหมาะกับคุณ
- เปิดประตูและหน้าต่างระบายอากาศ : วิธีที่ง่ายที่สุดและเป็นวิธีแรกที่คุณควรทำเสมอ คือการเปิดประตูและหน้าต่างรถทิ้งไว้ เพื่อให้อากาศถ่ายเทและช่วยระบายสารเคมี VOCs ออกไป ควรทำเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ ที่กลิ่นรถใหม่ยังแรงอยู่ การเปิดระบายอากาศเป็นวิธีที่ช่วยลดความเข้มข้นของกลิ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- จอดรถตากแดด : แสงแดดและความร้อนสามารถช่วยเร่งการระเหยของสารเคมี VOCs ได้ แต่ต้องระวังไม่ให้แดดแรงเกินไปจนทำให้วัสดุภายในรถเสียหาย ควรจอดรถในที่ร่มรำไร หรือเปิดกระจกทิ้งไว้เล็กน้อย เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
- ใช้ผงฟู : ผงฟูมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ดี โรยผงฟูลงบนพรมและเบาะรถ ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออกให้หมด ผงฟูจะช่วยดูดซับกลิ่นอับและความชื้นที่สะสมอยู่ภายในรถ
- วางถ่าน Activated Carbon: ถ่าน Activated Carbon มีรูพรุนจำนวนมาก ทำให้มีพื้นที่ผิวในการดูดซับกลิ่นและสารเคมีได้ดี วางถ่าน Activated Carbon ไว้ในรถ อาจใส่ในถุงผ้าหรือกล่อง ทิ้งไว้ 2-3 วัน แล้วนำออกไปตากแดดเพื่อกำจัดกลิ่นที่ดูดซับไว้
- ใช้เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ : เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ที่มีแผ่นกรอง HEPA และ Activated Carbon จะช่วยกรองฝุ่นละออง สารก่อภูมิแพ้ และสารเคมี VOCs ในอากาศ ทำให้ กลิ่นรถใหม่ ลดลง และอากาศภายในรถสะอาดขึ้น
- ทำความสะอาดภายในรถอย่างสม่ำเสมอ : การทำความสะอาดภายในรถเป็นประจำจะช่วยลดการสะสมของฝุ่นละออง เศษอาหาร และสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจเป็นแหล่งกำเนิดของกลิ่นอับ ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ ภายในรถ รวมถึงดูดฝุ่นพรมและเบาะเป็นประจำ

ทำยังไงให้รถหอม
เมื่อกำจัดกลิ่นรถใหม่ได้แล้ว ก็ถึงเวลาเติมความหอมสดชื่นให้กับรถของคุณ มีหลากหลาย วิธีทําให้รถหอม ที่จะทำให้รถของคุณมีกลิ่นหอมที่ถูกใจ
- ใช้สเปรย์ปรับอากาศในรถยนต์
สเปรย์ปรับอากาศเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการเพิ่มความหอมให้กับรถของคุณ เลือกกลิ่นที่คุณชื่นชอบ แต่ระวังอย่าใช้มากเกินไป เพราะอาจทำให้กลิ่นฉุนเกินไปได้ ลองเลือก สเปรย์ดับกลิ่นในรถ ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อการแพ้สารเคมี
- ใช้น้ำหอมดับกลิ่นรถแบบแขวน
น้ำหอมปรับอากาศแบบแขวนเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะใช้งานง่ายและมีให้เลือกหลากหลายกลิ่น เพียงแขวนไว้ที่กระจกมองหลัง หรือช่องแอร์ ก็สามารถให้ความหอมได้ยาวนาน
- ใช้น้ำมันหอมระเหย
น้ำมันหอมระเหยมีคุณสมบัติในการบำบัดและช่วยให้ผ่อนคลาย เลือกกลิ่นที่คุณชื่นชอบ เช่น ลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส หรือเปปเปอร์มินต์ หยดน้ำมันหอมระเหยลงบนสำลีหรือแผ่น felt แล้ววางไว้ในรถ
- ใช้แผ่นน้ำหอมปรับอากาศ
แผ่นน้ำหอมปรับอากาศเป็นแผ่นกระดาษหรือพลาสติกที่เคลือบด้วยน้ำหอม สามารถวางไว้ใต้เบาะรถ หรือในช่องเก็บของ เพื่อให้กลิ่นหอมค่อย ๆ กระจายออกมา
- พับใบเตยใส่รถ
ใบเตยใส่รถ เป็นวิธีธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เมื่อนำใบเตยมาพับแล้ววางไว้ในรถ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบเตยจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น ซึ่ง วิธีพับใบเตย ก็ให้นำใบเตยมาล้างให้สะอาด แล้วนำมาพับเป็นรูปดอกกุหลาบ หรือมัดรวมกันเป็นกำเล็ก ๆ วางไว้ในรถตามจุดต่าง ๆ เช่น ใต้เบาะ ข้างประตู หรือบนคอนโซล
น้ำหอมดับกลิ่นรถ
น้ำหอมดับกลิ่น มีให้เลือกมากมายในท้องตลาด ทั้งแบบสเปรย์ แบบแขวน แบบเจล หรือแบบน้ำมันหอมระเหย การเลือกน้ำหอมดับกลิ่นรถที่เหมาะสม ควรพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- กลิ่น : เลือกกลิ่นที่คุณชื่นชอบและไม่ทำให้รู้สึกเวียนหัวหรือคลื่นไส้ ลองดมกลิ่นต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ
- ความทนทาน : เลือกน้ำหอมที่มีความทนทานและให้กลิ่นหอมได้ยาวนาน
- ความปลอดภัย : เลือกน้ำหอมที่ผลิตจากส่วนผสมที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- งบประมาณ : น้ำหอมดับกลิ่นรถมีราคาแตกต่างกันไป เลือกซื้อตามงบประมาณที่คุณตั้งไว้
ตัวอย่างน้ำหอมดับกลิ่นที่ได้รับความนิยม:
ยี่ห้อ | ประเภท | กลิ่น | จุดเด่น |
Glade | สเปรย์ | Lavender, Ocean Escape, Vanilla | ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย กลิ่นหอมสดชื่น |
Ambi Pur | แบบแขวน | Anti-Tobacco, Lavender Comfort, Citrus | ดับกลิ่นอับได้ดี กลิ่นหอมยาวนาน |
Yankee Candle | แบบเจล | Clean Cotton, Black Cherry, Vanilla Lime | กลิ่นหอมเข้มข้น หอมนาน |
Bath & Body Works | แบบติดช่องแอร์ | Mahogany Teakwood, Black Cherry Merlot | กลิ่นหอมหรูหรา มีให้เลือกหลากหลายกลิ่น |
ตารางนี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจซื้อ
เบาะรถเหม็นอับ แก้ไขอย่างไร
เบาะรถเหม็นเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในรถที่มีเบาะผ้า สาเหตุกลิ่นอับในรถเบาะผ้าหลักๆ มาจากความชื้น เหงื่อไคล คราบอาหาร หรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่สะสมอยู่ภายในเบาะ หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ อาจทำให้เกิดเชื้อราและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
วิธีแก้ไขเบาะรถมีกลิ่นเหม็น
- ทำความสะอาดเบาะรถ : เริ่มจากการดูดฝุ่นเบาะรถให้ทั่ว เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและเศษสิ่งสกปรก จากนั้นใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเบาะรถโดยเฉพาะ (สำหรับเบาะผ้าหรือเบาะหนัง) ทำความสะอาดตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์
- สำหรับเบาะผ้า : ใช้แปรงขนนุ่มขัดเบา ๆ แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดออก จะช่วยแก้ปัญหาเบาะผ้าเหม็นอับ
- สำหรับเบาะหนัง : ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดทำความสะอาด
- ใช้เครื่องอบโอโซน : เครื่องอบโอโซนสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคและดับกลิ่นอับในรถยนต์ได้ หากคุณมีเครื่องอบโอโซน สามารถนำมาอบในรถเพื่อกำจัดกลิ่นอับที่ฝังแน่นอยู่
- ใช้เบกกิ้งโซดา : โรยเบกกิ้งโซดาลงบนเบาะ ทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก เบกกิ้งโซดาจะช่วยดูดซับกลิ่นและความชื้น
- ตากแดด : นำเบาะรถไปตากแดดอ่อน ๆ เพื่อให้ความชื้นระเหยออกไป ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดจัด เพราะอาจทำให้เบาะสีซีดจาง
- ดูแลรักษาเบาะรถอย่างสม่ำเสมอ : เพื่อป้องกันไม่ให้เบาะรถกลับมาเหม็นอับอีก ควรดูแลรักษาเบาะรถอย่างสม่ำเสมอ โดยการดูดฝุ่นเป็นประจำ และเช็ดทำความสะอาดเมื่อมีคราบสกปรก
สเปรย์ดับกลิ่นในรถยี่ห้อไหนดี
การเลือก สเปรย์ดับกลิ่นในรถ ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น กลิ่นที่ชอบ ประสิทธิภาพในการดับกลิ่น และความปลอดภัยของส่วนผสม นี่คือตัวอย่างสเปรย์ดับกลิ่นรถยนต์ที่ได้รับความนิยม
- Ambi Pur Car Mini Clip สเปรย์ปรับอากาศแบบหนีบกับช่องแอร์ ช่วยดับกลิ่นอับและให้กลิ่นหอมสดชื่นยาวนาน มีหลากหลายกลิ่นให้เลือก
- Glade Auto Sport สเปรย์ปรับอากาศสำหรับรถยนต์ กลิ่นหอมสดชื่นสไตล์สปอร์ต ช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์
- Febreze Car Vent Clip สเปรย์ปรับอากาศแบบหนีบกับช่องแอร์ ช่วยขจัดกลิ่นอับและให้กลิ่นหอมสะอาดสดชื่น
- Little Trees แผ่นน้ำหอมปรับอากาศรูปต้นไม้ยอดนิยม มีให้เลือกหลากหลายกลิ่น ราคาไม่แพง
- ผลิตภัณฑ์สเปรย์ดับกลิ่นรถยนต์จากแบรนด์รถยนต์ หลายแบรนด์รถยนต์มีผลิตภัณฑ์สเปรย์ดับกลิ่นรถยนต์ของตัวเอง ซึ่งมักจะได้รับการออกแบบมาให้เข้ากับกลิ่นภายในรถของแบรนด์นั้น ๆ
คำแนะนำเพิ่มเติม
- อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนใช้งาน เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยต่อสุขภาพและไม่ทำลายวัสดุภายในรถ
- ทดสอบสเปรย์ในบริเวณเล็ก ๆ ก่อน เพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือไม่
- ฉีดสเปรย์ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปจนทำให้กลิ่นฉุน
- หลีกเลี่ยงการฉีดสเปรย์โดยตรงบนพื้นผิวที่เป็นหนังหรือพลาสติก เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายได้
การดูแลรักษารถให้มีกลิ่นหอมสดชื่นอยู่เสมอ ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพและความรู้สึกของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร การกำจัด กลิ่นรถใหม่ และกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ ลองนำวิธีที่เราแนะนำไปปรับใช้ เพื่อให้รถของคุณมีกลิ่นหอมที่ถูกใจ และสร้างบรรยากาศที่ดีในการเดินทาง
หากคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้ แรบบิท แคร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประกันรถยนต์ พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยคุณเลือกแผนประกันที่ตรงใจได้สะดวกสบาย พร้อมการคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกความต้องการ และบริการฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงจากทีมงานมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษมากมายที่คุณไม่ควรพลาด! หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณสามารถกำจัดกลิ่นรถใหม่และทำให้รถของคุณมีกลิ่นหอมสดชื่นได้ตามที่ต้องการนะ!
สรุป
กลิ่นรถใหม่ เป็นกลิ่นที่เกิดขึ้นจากสารเคมีระเหยที่ปล่อยออกมาจากวัสดุต่าง ๆ ภายในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก หนัง ยาง หรือกาว ซึ่งการดับกลิ่นนั่นสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำรถไปตากแดด ใช้ถ่านดูดกลิ่น ใช้น้ำมันหอมระเหยมาดับกลิ่นก็ได้เช่นกัน

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย