เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
Toggle
อากาศร้อนอบอ้าวในประเทศไทย ทำให้ “รถเย็น” กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาเมื่อต้องเดินทางด้วยรถยนต์ การมีแอร์รถยนต์ที่เย็นฉ่ำ ไม่เพียงแต่ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบาย แต่ยังช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการจราจรที่ติดขัด การดูแลรักษาระบบแอร์รถยนต์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แต่ก็มีหลายครั้งที่เราอาจเจอปัญหาแอร์ไม่เย็น หรือแม้แต่รถสตาร์ทไม่ติดเมื่ออากาศเย็น ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความปวดหัวให้กับเจ้าของรถได้ไม่น้อย
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “รถเย็น” ตั้งแต่การปรับแอร์รถให้เย็นฉ่ำ วิธีดูแลรักษาระบบแอร์รถยนต์ การตั้งค่าอุณหภูมิแอร์ที่เหมาะสม ไปจนถึงวิธีรับมือเมื่อรถจอดตากแดดแล้วแอร์ไม่เย็น หรือเมื่อรถสตาร์ทไม่ติดในสภาพอากาศหนาวเย็น พร้อมทั้งเคล็ดลับการบำรุงรักษารถยนต์เพื่อยืดอายุการใช้งาน และช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างสบายใจทุกเส้นทาง
วิธีปรับแอร์รถให้เย็นฉ่ำ
การปรับแอร์รถยนต์ให้เย็นฉ่ำ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เราเข้าใจหลักการทำงานของระบบแอร์ และรู้วิธีปรับตั้งค่าที่ถูกต้อง ก็สามารถทำให้ภายในรถยนต์ของคุณเย็นสบายได้แม้ในวันที่อากาศร้อนระอุ
ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม การตั้งอุณหภูมิแอร์ที่ต่ำเกินไป ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เย็นเร็วขึ้น แต่กลับเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ โดยรถยนต์บางรุ่นจะมีแผงควบคุมได้ถึงอุณหภูมิ โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในรถยนต์ คือ 23-25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สบายตัวและไม่ทำให้ร่างกายปรับตัวมากเกินไป การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย
เปิดพัดลมแรง เมื่อเริ่มเปิดแอร์ใหม่ ๆ ควรเปิดพัดลมในระดับแรง เพื่อช่วยระบายความร้อนภายในรถออกไปได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจึงค่อยปรับลดระดับความแรงของพัดลมลงตามความต้องการ การเปิดพัดลมแรงในช่วงแรกจะช่วยลดภาระการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ และทำให้รถเย็นลงได้เร็วยิ่งขึ้น
ใช้ระบบหมุนเวียนอากาศภายใน หลังจากที่รถเย็นลงแล้ว ให้เปลี่ยนมาใช้ระบบหมุนเวียนอากาศภายในรถยนต์ เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนจากภายนอกเข้ามา ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้น ระบบหมุนเวียนอากาศภายในจะช่วยรักษาอุณหภูมิภายในรถให้คงที่ และทำให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปิดช่องลมที่ไม่จำเป็น หากมีผู้โดยสารนั่งมาเพียงคนเดียว ควรปิดช่องลมแอร์ที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ลมเย็นไปรวมอยู่ที่บริเวณคนขับ ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายมากยิ่งขึ้น และยังช่วยลดภาระการทำงานของแอร์อีกด้วย
วิธีดูแลแอร์รถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน
การบำรุงรักษาแอร์รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งการดูแลแอร์รถยนต์มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
ตรวจเช็คและเติมน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการทำความเย็น ควรตรวจเช็คระดับน้ำยาแอร์เป็นประจำ และเติมเมื่อพบว่าระดับน้ำยาแอร์ลดลง การที่น้ำยาแอร์ไม่เพียงพอ อาจทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนัก และทำให้แอร์ไม่เย็นเท่าที่ควร การเติมน้ำยาแอร์ควรทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมและถูกต้อง
ทำความสะอาดแผงคอยล์ร้อนและคอยล์เย็น แผงคอยล์ร้อนและคอยล์เย็นเป็นส่วนที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนความร้อน หากมีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกเกาะอยู่ จะทำให้การระบายความร้อนทำได้ไม่ดี และส่งผลให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้น ควรทำความสะอาดแผงคอยล์ทั้งสองอย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เปลี่ยนกรองแอร์เป็นประจำ กรองแอร์มีหน้าที่กรองฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกจากภายนอก หากไม่เปลี่ยนกรองแอร์เป็นประจำ จะทำให้ฝุ่นละอองสะสม และส่งผลให้แอร์ไม่เย็น อีกทั้งยังทำให้เกิดกลิ่นอับในรถยนต์ได้อีกด้วย ควรเปลี่ยนกรองแอร์ทุก 6 เดือน หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อให้ระบบแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ภายในรถยนต์มีอากาศที่สะอาด
เปิดแอร์ไล่ความชื้น เมื่อจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ควรเปิดแอร์ไล่ความชื้นประมาณ 5-10 นาที เพื่อลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียในระบบแอร์ การทำเช่นนี้จะช่วยลดปัญหากลิ่นอับในรถยนต์ และยังช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้จากเชื้อราอีกด้วย
หมั่นทำความสะอาดภายในรถ การทำความสะอาดภายในรถยนต์เป็นประจำ จะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่จะเข้าไปในระบบแอร์ได้ ควรดูดฝุ่น และเช็ดทำความสะอาดเบาะ พรม และแผงคอนโซลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ภายในรถยนต์สะอาดและถูกสุขอนามัย
แอร์รถยนต์เปิดกี่องศาถึงจะดี
การตั้งอุณหภูมิแอร์รถยนต์ที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณรู้สึกสบาย แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานของระบบแอร์ได้อีกด้วย
อุณหภูมิที่แนะนำ อุณหภูมิที่แนะนำสำหรับการเปิดแอร์รถยนต์ คือ 23-25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สบายตัวและไม่ทำให้ร่างกายปรับตัวมากเกินไป การตั้งอุณหภูมิที่สูงกว่านี้ อาจทำให้รู้สึกร้อนเกินไป ส่วนการตั้งอุณหภูมิต่ำกว่านี้ อาจทำให้ร่างกายเย็นเกินไปและอาจทำให้ไม่สบายได้
ปรับตามสภาพอากาศ ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจจำเป็นต้องปรับอุณหภูมิให้ต่ำลงเล็กน้อย แต่ไม่ควรต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันไม่ให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนักเกินไป และควรปรับระดับพัดลมให้แรงขึ้นในช่วงแรก เพื่อช่วยระบายความร้อนออกจากรถได้อย่างรวดเร็ว
ปรับตามความรู้สึก นอกจากอุณหภูมิที่แนะนำแล้ว คุณสามารถปรับอุณหภูมิแอร์ตามความรู้สึกส่วนตัวได้ หากรู้สึกว่าอุณหภูมิที่ตั้งไว้ยังไม่สบาย สามารถปรับขึ้นลงได้เล็กน้อย เพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณ
ไม่ควรตั้งอุณหภูมิต่ำเกินไป การตั้งอุณหภูมิแอร์ให้ต่ำเกินไป ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เย็นเร็วขึ้น แต่กลับเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ และอาจทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนักเกินไป จนทำให้แอร์เสียได้
จอดรถตากแดดแอร์ไม่เย็นทำอย่างไร
สำหรับกรณีรถจอดตากแดดแอร์ไม่เย็นนั้น การจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน อาจทำให้ภายในรถร้อนจัด และเมื่อสตาร์ทรถแล้วแอร์ไม่เย็น ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเจอ นี่คือวิธีรับมือกับปัญหานี้
เปิดหน้าต่างระบายความร้อน ก่อนเปิดแอร์ ควรเปิดหน้าต่างรถทั้ง 4 บาน หรือเปิดประตูรถ เพื่อระบายความร้อนที่สะสมอยู่ภายในรถออกไปก่อน การทำเช่นนี้จะช่วยลดภาระการทำงานของแอร์ และทำให้รถเย็นลงได้เร็วยิ่งขึ้น
เปิดพัดลมแรง เมื่อเริ่มเปิดแอร์ใหม่ ๆ ควรเปิดพัดลมในระดับแรง เพื่อช่วยระบายความร้อนที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในรถ การเปิดพัดลมแรงจะช่วยให้อากาศร้อนถูกไล่ออกไปได้เร็วขึ้น และทำให้รถเย็นลงได้เร็วขึ้น
ใช้ระบบหมุนเวียนอากาศภายนอก ในช่วงแรกของการเปิดแอร์ ควรใช้ระบบหมุนเวียนอากาศจากภายนอก เพื่อช่วยนำอากาศเย็นจากภายนอกเข้ามาในรถ เมื่อรถเย็นลงแล้วจึงค่อยเปลี่ยนมาใช้ระบบหมุนเวียนอากาศภายใน
จอดรถในที่ร่ม หากเป็นไปได้ ควรพยายามจอดรถในที่ร่ม หรือในที่ที่มีหลังคา เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิภายในรถ และทำให้แอร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ติดฟิล์มกรองแสง การติดฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพ จะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ส่องเข้ามาในรถ ซึ่งจะช่วยลดภาระการทำงานของแอร์ และทำให้ภายในรถเย็นสบายยิ่งขึ้น
ถ้าอากาศเย็น รถสตาร์ทไม่ติด ทำอย่างไร
ปัญหา รถสตาร์ทติดยากตอนเครื่องเย็น หรือ รถเครื่องเย็นสตาร์ทไม่ติด เป็นปัญหาที่พบบ่อยในช่วงอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้า หรือช่วงฤดูหนาว สำหรับวิธีแก้ไขเบื้องต้นสำหรับรถเครื่องเย็น สตาร์ทติดยาก สามารถทำได้ดังนี้
สาเหตุหลัก วิธีแก้ไขเบื้องต้น แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ตรวจสอบระดับไฟแบตเตอรี่, หากเสื่อมควรเปลี่ยนใหม่ หัวเทียนเสื่อมสภาพ ตรวจสอบสภาพหัวเทียน, หากเสื่อมควรเปลี่ยนใหม่ น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เพียงพอ หรือคุณภาพต่ำ เติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอ, เลือกใช้น้ำมันที่มีคุณภาพ ระบบไฟมีปัญหา ตรวจสอบฟิวส์, สายไฟ, และส่วนประกอบของระบบไฟอื่น ๆ ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานผิดปกติ ตรวจสอบปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบสตาร์ทมีปัญหา (ไดสตาร์ท) ตรวจสอบไดสตาร์ทและระบบสตาร์ทอื่น ๆ สภาพอากาศเย็นจัด ให้ความร้อนเครื่องยนต์ด้วยการบิดกุญแจสตาร์ทค้างไว้เล็กน้อย หรือสตาร์ทสลับ ๆ 2-3 ครั้ง
วิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่ออากาศเย็น รถสตาร์ทติดยาก
ตรวจสอบแบตเตอรี่ ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่มีไฟเพียงพอหรือไม่ หากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
ตรวจเช็คระบบไฟ ตรวจสอบฟิวส์ และส่วนประกอบอื่นๆ ในระบบไฟ หากมีปัญหา อาจต้องปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ
สตาร์ทสลับ ๆ พยายามสตาร์ทรถ 2-3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งให้สตาร์ทค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาที แล้วปล่อยพักสักครู่ ก่อนสตาร์ทใหม่ การทำเช่นนี้อาจช่วยให้เครื่องยนต์ติดได้
ใช้สายพ่วงแบตเตอรี่ ถ้ารถเย็น สตาร์ทไม่ติด หากมีรถยนต์คันอื่นอยู่ใกล้เคียง สามารถใช้สายพ่วงแบตเตอรี่เพื่อช่วยสตาร์ทรถได้
ตรวจสอบหัวเทียน หากหัวเทียนเสื่อมสภาพ อาจทำให้รถสตาร์ทติดยาก ควรตรวจสอบและเปลี่ยนหัวเทียนตามระยะเวลาที่กำหนด
ตรวจเช็คน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจสอบว่าน้ำมันเชื้อเพลิงมีเพียงพอหรือไม่ หรืออาจต้องเปลี่ยนไปใช้น้ำมันที่มีคุณภาพดีขึ้น
การดูแลรักษารถยนต์ให้มีระบบปรับอากาศที่เย็นฉ่ำ และพร้อมใช้งานในทุกสภาพอากาศ ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ และหมั่นตรวจสอบระบบต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ การดูแลระบบแอร์รถยนต์ที่ดี จะช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในระยะยาวอีกด้วย
นอกจากนี้ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีแก้ไขเมื่อรถสตาร์ทไม่ติดในอากาศเย็น ก็จะช่วยให้คุณรับมือกับปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณดูแลรถยนต์ของคุณได้อย่างดีเยี่ยม และเดินทางได้อย่างมีความสุขกับ “รถเย็น” คู่ใจของคุณดูแลแอร์รถยนต์ของคุณให้เย็นฉ่ำอยู่เสมอแล้ว
อย่าลืมเลือกประกันรถที่เหมาะกับรถยนต์ของคุณได้ที่ แรบบิท แคร์ ที่นี้ นอกเหนือจากจะมาพร้อมบริการเปรียบเทียบประกันรถยนต์แล้ว ยังมาพร้อมประกันรถชั้น 1 ประกันรถชั้น 2+ ประกันรถชั้น 3 และส่วนลดสุดพิเศษสำหรับลูกค้าแรบบิท แคร์ อีกมากมาย คลิกเลย!
สรุป
การปรับแอร์รถยนต์ให้เย็นฉ่ำ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้
– ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมจะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยประหยัดน้ำมันได้
– เมื่อเริ่มเปิดแอร์ใหม่ ๆ ควรเปิดพัดลมในระดับแรง เพื่อช่วยระบายความร้อนภายในรถออกไป
– หลังจากที่รถเย็นลงแล้ว ให้เปลี่ยนมาใช้ระบบหมุนเวียนอากาศภายในรถยนต์
– ควรปิดช่องลมแอร์ที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ลมเย็นไปรวมอยู่ที่บริเวณที่เราต้องการให้เย็น
นอกจากนี้ การทำให้รถเย็น แอร์เย็นฉ่ำได้นั้นจะขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นการหมั่นเติมน้ำยาแอร์ ทำความสะอาดบ่อย ๆ เป็นต้น
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย