รถมีปัญหา แบตหมด ประตูรถเปิดไม่ได้ ทำยังไงดี?





ปัญหาจุกจิกกวนใจของคนใช้รถที่มักพบเจออยู่บ่อยครั้งหนีไม่พ้นเรื่อง แบตเตอรี่รถยนต์หมด และ ประตูรถเปิดไม่ได้ทั้งจากด้านนอกและด้านใน ซึ่งอาจทำให้หลายคนรู้สึกตกใจและทำอะไรไม่ถูก รถล็อค เปิดประตูไม่ได้ แล้วแบบนี้จะรับมือกับสถานการณ์ดั่งกล่าวอย่างไรดีนะ?
แต่ไม่ต้องกังวลไป! เพราะวันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาคุณไปสำรวจถึงสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นกัน เรื่องแบบนี้ต้องนำรถคู่ใจไปเข้าอู่ซ่อมรถไหม? ไปดูกันเลยดีกว่า
ทำไมประตูรถเปิดไม่ได้ ทั้ง นอกและ ใน พร้อมวิธีแก้ไข
ปัญหาประตูรถเปิดไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นจากด้านในหรือด้านนอกเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในรถยนต์ทุกชนิด ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ปัญหาทางกลไกไปจนถึงระบบไฟฟ้า โดยสาเหตุ และวิธีแก้ไขจะมีดั่งนี้
เพราะ Child Lock กำลังทำงานอยู่
เรียกได้ว่า Child Lock เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดหากเกิดเหตุการณ์เปิดประตูรถจากด้านในไม่ได้ โดยฟังก์ชันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ เปิดประตูรถโดยไม่ตั้งใจขณะเดินทาง ซึ่งสวิตช์หรือตัวล็อกนี้มักจะอยู่บริเวณขอบประตู เมื่อคุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวขณะทำความสะอาดหรือใช้งานรถ ก็อาจทำให้ปิดประตูแล้ว คุณจะไม่สามารถเปิดประตูจากด้านในได้นั่นเอง
วิธีแก้ : ลองเช็กว่าสลัก Child Lock ที่ขอบประตูว่าอยู่ในตำแหน่งล็อกหรือไม่ หากใช่ ให้ปลดล็อกออก เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถกลับมาใช้งานประตูบานนั้นได้ปกติแล้ว
กลไกภายในประตูอาจเกิดปัญหา
อาจเกิดจากกลไกของตัวล็อกประตูชำรุดเสียหาย หรือทำงานผิดปกติ การเชื่อมต่อระหว่างตัวล็อกกับกลไกประตูอาจไม่สมบูรณ์ หรือบางครั้งชิ้นส่วนโลหะภายในประตูอาจเกิดสนิมทำให้กลไกติดขัด ซึ่งจะพบได้บ่อยในรถยนต์มาเป็นระยะนาน ๆ หรือรถยนต์มีอายุการใช้งานนาน
วิธีแก้ : ชิ้นส่วนกลอนประตูหรือสายเคเบิลที่เชื่อมต่อกับกลไกการล็อกอาจชำรุด หลวม หรือติดขัด ลองปรึกษาช่างซ่อมรถเพื่อเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการซ่อมขึ้นอยู่กับอะไหล่ของรถยี่ห้อและรุ่นนั้น ๆ
ปัญหาของระบบไฟฟ้า
สำหรับรถยนต์ที่ใช้ระบบล็อกประตูไฟฟ้า อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบไฟ หรือการที่แบตเตอรี่รถยนต์หมด อาจส่งผลให้มอเตอร์ล็อกประตูเสีย ในกรณีแบตเตอรี่รีโมทรถยนต์หมด อาจทำให้ระบบล็อกทำงานไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้คุณไม่สามารถเปิดประตูรถจากภายนอก หรือปลดล็อกด้วยรีโมทรถยนต์ได้
วิธีแก้ : หากกดรีโมทแล้วไม่มีสัญญาณตอบรับหรือไฟเลี้ยวไม่กะพริบ อาจเป็นที่รีโมทเสียหรือถ่านหมด ให้ลองเปลี่ยนถ่านรีโมทก่อน โดยราคาเริ่มต้น 100 บาท หรือหากคุณใช้รีโมทเปิดประตูไม่ได้ ลองใช้กุญแจสำรองไขกุญแจด้วยมือโดยตรงไปก่อน
ในกรณีที่กดรีโมทแล้วมีสัญญาณตอบรับ (ไม่มีไฟเลี้ยวกะพริบ) แต่ประตูไม่คลายล็อก อาจเกิดจากมอเตอร์ที่ควบคุมการล็อกประตูเสีย และหากแบตเตอรี่รถหมด ทำให้ประตูรถเปิดไม่ได้ อาจจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ซึ่งราคาเริ่มต้นประมาณ 1,500 บาท
อาจเกิดจากประตูรถยนต์ได้รับความเสียหาย
ปัญหานี้มักจะพบในกรณีที่รถประสบอุบัติเหตุ ทำให้ระบบล็อกประตูได้รับความเสียหาย หรือโครงสร้างของประตูผิดรูป ส่งผลให้ประตูรถเปิดไม่ได้ ทั้ง นอกและ ในได้
วิธีแก้ : นำรถยนต์ไปซ่อมแซมกับช่างโดยตรง เนื่องจากปัญหาอยู่ที่ตัวโครงสร้างรถยนต์โดยตรง นอกจากนี้การจอดรถในที่ที่มีอากาศหนาวเย็นหรือมีความชื้นสูงจนเกินไป เพราะจะทำให้ชิ้นส่วนภายในที่เป็นโลหะกลายเป็นสนิทและติดขัดได้
นอกจากนี้ หากประตูเปิดไม่ได้จากด้านนอก หรือจากด้านหนึ่ง ลองเปิดจากอีกด้านหนึ่ง เพราะบางครั้งกลไกอาจทำงานผิดพลาดเพียงด้านเดียว หรือหากคุณอยู่ในรถและประตูเปิดไม่ได้จากด้านใน ลองกดปุ่มปลดล็อกที่แผงควบคุมประตูหลาย ๆ ครั้ง ก็จะช่วยได้ในขั้นพื้นฐาน
แต่หากลองทุกวิธีแล้วยังไม่ได้ผลเปิดประตูรถจากด้านนอกไม่ได้ คุณอาจโทรเรียกช่าง หรืออู่ซ่อมรถบริเวณใกล้เคียงเพื่อเป็นการขอความช่วยเหลือได้ หรือเป็นกรณีฉุกเฉินที่ไม่สามารถรอความช่วยเหลือ การทุบกระจกรถอาจเป็นทางเลือกสุดท้ายได้เช่นกัน
สาเหตุ ประตูรถล็อคไม่ได้ พร้อมวิธีแก้
นอกจากปัญหารถล็อค เปิดประตูไม่ได้ หรือ ประตูรถเปิดไม่ได้ ทั้ง นอกและ ใน อีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้กับเจ้าของรถอีกปัญหาก็คงหนีไม่พ้นประตูรถล็อคไม่ได้นี่แหละ เพราะส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของรถยนต์และทรัพย์สินภายในรถได้! แล้วสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ ตามมาดูสาเหตุและวิธีแก้้ไขกันดีกว่า
- แบตเตอรี่รีโมทรถยนต์หมด หรือ รีโมทเสีย
นี่คือสาเหตุที่พบบ่อยและแก้ไขได้ง่ายที่สุด หากคุณกดรีโมทแล้วไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ เช่น ไฟเลี้ยวไม่กะพริบ หรือไม่มีเสียง “คลิก” จากระบบล็อก นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า แบตเตอรี่ในกุญแจรีโมทอ่อนหรือหมด, รีโมทเสียหรือชำรุด
วิธีแก้ : เปลี่ยนแบตเตอรี่ในกุญแจรีโมทแบตอ่อน หรือหากเปลี่ยนแล้วยังไม่เป็นผล อาจจะต้องนำไปซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่
- มอเตอร์ระบบล็อกประตูไฟฟ้าเสีย หรือทำงานผิดปกติ
สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่ใช้ระบบล็อกประตูไฟฟ้า หากคุณกดรีโมทแล้วมีสัญญาณตอบรับ (เช่น ไฟเลี้ยวกะพริบ หรือมีเสียง) แต่ประตูไม่ยอมคลายล็อกหรือล็อก ไม่ว่าจะเป็นบางบานหรือทุกบาน นั่นอาจเป็นเพราะ
มอเตอร์ควบคุมการล็อกประตูเสีย ทำให้ไม่สามารถขยับกลไกเพื่อล็อกหรือปลดล็อกได้ หรืออาจเกิดจากสายไฟหรือวงจรไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับมอเตอร์มีปัญหา สายไฟเกิดการขาด การลัดวงจร หรือการเชื่อมต่อหลวม ทำให้มอเตอร์ไม่ได้รับกระแสไฟฟ้าที่เพียงพอ
- กลไกภายในประตูมีปัญหา หรือชำรุดเสียหาย
ปัญหาทางกลไกเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญ โดยเฉพาะในรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานนาน หรือผ่านการใช้งานหนักมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ชิ้นส่วนประตูชำรุด หัก หลวม ขาด หรือสึกหรอ ทำให้กลไกการล็อกไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์ รวมไปถึง ฝุ่น สิ่งสกปรก หรือสนิมที่สะสมอยู่ภายในกลไกประตู อาจทำให้การเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนต่าง ๆ ติดขัด และไม่สามารถล็อกได้
- ประตูรถปิดไม่สนิท
ยางขอบประตูที่เสื่อมสภาพ บวม หรือมีสิ่งของติดอยู่ อาจทำให้ประตูไม่สามารถปิดเข้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ และเมื่อมีประตูบานใดบานหนึ่งปิดไม่สนิท ก็จะส่งผลให้ตัวเซ็นเซอร์ที่ทำหน้าที่ตรวจจับการปิดประตูอาจเสียหรือทำงานผิดปกติ ทำให้ระบบเข้าใจว่าประตูยังเปิดอยู่ แม้จะปิดแล้วก็ตาม
- ระบบเซ็นทรัลล็อกรวน
ระบบเซ็นทรัลล็อกอาจมีปัญหา ทำให้ประตูไม่สามารถล็อกพร้อมกันทั้งหมด หรือถ้าประตูไม่ปิดสนิท
ระบบอาจตรวจจับได้และไม่ยอมให้ล็อกให้ หรือล็อกได้เพียงบางบานเท่านั้น นอกจากนี้การลัดวงจร หรือสายไฟขาดในระบบเซ็นทรัลล็อกก็อาจทำให้เกิดปัญหานี้ได้เช่นกัน ทั้งนี้ คุณควรนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ เพื่อบำรุงรักษาและตรวจเช็กระบบล็อกประตูให้สามารถเปิดปิดได้ตามปกติ

สัญญาณเตือน แบตรถหมดดูยังไง?
ก่อนที่รถของคุณจะสตาร์ทไม่ติดเพราะแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง มักจะมีสัญญาณเตือนบางอย่างที่คุณสามารถสังเกตได้ เพื่อจะได้นำรถเข้าตรวจเช็กก่อนจะเกิดปัญหาขึ้น
- รถสตาร์ทติดยาก โดยเฉพาะตอนเช้า หรือหลังจากจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ เสียงสตาร์ทจะลากยาวกว่าปกติ
- ระบบไฟฟ้าในรถทำงานผิดปกติ เช่น ไฟหน้าสว่างน้อยลง กระจกไฟฟ้าขึ้น-ลงช้า แตรเสียงเบาลง หรือไม่ดัง
- ไฟเตือนแบตเตอรี่ หรือไฟรูปเครื่องยนต์บนแผงหน้าปัดโชว์ขึ้นมา
แรบบิท แคร์ แนะนำว่า เราควรหมั่นตรวจเช็กแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้าในรถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาการล็อกประตูที่เกิดจากระบบไฟฟ้า นอกจากจะช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับประตูรถและแบตเตอรี่เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ใช้รถทุกคน
การรู้สัญญาณเตือนและวิธีแก้ไขเบื้องต้นจะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที หมดปัญหารถดับกลางทางอย่างแน่นอน

แบตรถยนต์หมด ทําไง? วิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถสตาร์ทไม่ติด
หากรถสตาร์ทไม่ติดและคาดว่าเกิดจากแบตเตอรี่หมด รถแบตเตอรี่หมด ทํายังไง สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติ และคุณอาจเลือกพ่วงแบตเตอรี่จากรถยนต์ด้วยกันเองได้ โดยพยายามจอดรถให้ใกล้กันที่สุด และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์ของรถทั้งสองคันดับสนิท ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดภายในรถ จากนั้นต่อสายพ่วงแบตเตอรี่ โดยปฎิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้
- นำสายพ่วงแบตเตอรี่สีแดง (ขั้วบวก) หนีบเข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่รถคันที่แบตหมดก่อน
- นำสายพ่วงแบตเตอรี่สีแดงอีกด้านหนึ่งหนีบเข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่รถคันที่มาช่วย
- นำสายพ่วงแบตเตอรี่สีดำ (ขั้วลบ) หนีบเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่รถคันที่มาช่วย
- นำสายพ่วงแบตเตอรี่สีดำอีกด้านหนึ่งหนีบเข้ากับโครงโลหะที่ไม่ทาสีของรถคันที่แบตหมด พยายามหลีกเลี่ยงการหนีบที่ขั้วลบของแบตเตอรี่โดยตรง
เมื่อพ่วงแบตเตอรี่แล้ว ให้สตาร์ทเครื่องยนต์ของรถคันที่มาช่วยทิ้งไว้ 2-3 นาที จากนั้นลองสตาร์ทเครื่องยนต์ของรถคันที่แบตหมด และเมื่อรถสตาร์ทติดแล้ว ให้ถอดสายพ่วงแบตเตอรี่ออก โดยเริ่มจากสายสีดำของรถคันที่แบตหมดก่อน แล้วจึงถอดสายสีดำของรถคันที่มาช่วย ตามด้วยสายสีแดงของรถคันที่มาช่วย และสายสีแดงของรถคันที่แบตหมด
หรือหากไม่มีรถยนต์คันอื่นให้คุณพ่วงแบตเตอรี่ หรือไม่มั่นใจในการพ่วงแบตเตอรี่เอง การเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากลองแก้ไขเบื้องต้นแล้วปัญหายังไม่คลี่คลาย หรือไม่มั่นใจในการแก้ไขด้วยตนเอง ควรนำรถเข้าศูนย์บริการหรือปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบและแก้ไขอย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งานรถของคุณ
ปัญหาประตูรถเปิดไม่ได้ ทั้ง นอกและ ใน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นปัญหากลไกภายในประตู ระบบไฟฟ้า หรือจากผู้ใช้งานเอง การแก้ไขเบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยการตรวจสอบและซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
แต่หากเป็นปัญหาที่ซับซ้อน ควรนำรถไปให้ช่างมืออาชีพตรวจเช็กและซ่อมแซม และอย่าลืมว่าการบำรุงรักษาและการตรวจสอบระบบต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดโอกาสที่ปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้
หากสาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุ เช่น การชน หรือการกระแทกจนทำให้ประตูรถเปิดไม่ได้ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมแซมให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซม หรือการเปลี่ยนอะไหล่ที่เสียหาย ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น
งั้นต้องที่นี้เลย แรบบิท แคร์ ที่นี้นอกจากจะดูแลคุณทั้งก่อนและหลังการขาย พร้อมบริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันให้คุณได้เลือกประกันที่โดนใจ ไม่ว่าจะประกันชั้น 1 หรือประกันชั้นอื่น ๆ ที่นี้มีให้คุณอย่างครบครัน คลิกเลย!
สรุป
การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงบ่อย ๆ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น และมีอายุการใช้งานสั้นลง ทำให้ระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ในรถเสียหาย โดยเฉพาะในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่มีการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงอาจทำให้ข้อมูลเหล่านี้สูญหายได้ ดังนั้นการหมั่นตรวจเช็กสภาพรถยนต์และแบตเตอรี่สม่ำเสมอจะช่วยให้ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และหากรถแบตหมดกลางทาง ควรตั้งสติให้ดี รวมถึงควรมีอุปกรณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น สายพ่วงแบตเตอรี่ หรือเครื่องจั๊มสตาร์ท ติดรถยนต์เอาไว้ จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย