ที่บังแดดรถยนต์แบบไหนดี? เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน? และมีราคาเท่าไหร่บ้าง?
สำหรับเจ้าของรถยนต์ที่มีเหตุจำเป็นต้องจอดรถตากแดดบ่อยครั้ง การมีที่บังแดดรถยนต์ติดตั้งเสริมเอาไว้ เพื่อช่วยปกป้องห้องโดยสารจากความร้อนของแสงแดด แต่ต้องเลือกอย่างไร ที่บังแดดรถยนต์มีทั้งหมดกี่รูปแบบ วัสดุที่ใช้มีกี่ประเภท มีวิธีเลือกอย่างไรให้เหมาะสม มีราคาเท่าไหร่บ้างในปัจจุบัน?
สุดท้ายสรุปภาพรวมว่า ที่บังแดดรถยนต์แบบไหนดีกับใคร? หรือเหมาะสมกับการใช้งานรูปแบบไหนบ้าง? ถ้าคุณเป็นคนรักรถ ไม่อยากจอดตากแดดเอาไว้เฉย ๆ แรบบิท แคร์ เตรียมข้อมูลความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ชิ้นนี้มานำเสนอให้ได้อ่านกันอย่างครบถ้วนแล้ว!
ที่บังแดดรถยนต์ สำคัญอย่างไร?
ความสำคัญของที่บังแดดรถยนต์ หรือม่านบังแดดเป็นอุปกรณ์ป้องกันความร้อน ซึ่งสามารถช่วยปกป้องห้องโดยสารจากแสงแดดที่ส่องเข้ามาผ่านกระจก ทำให้มีส่วนในการช่วยลดอุณหภูมิลงเป็นอย่างมาก เพราะรถยนต์บางคันอาจมีการติดฟิล์มกรองแสงไม่หนามากเท่าไหร่นัก ทำให้อาจจะยังช่วยปกป้องรถจากแสงแดดไม่ดีมากเท่าไหร่นัก ดังนั้นวัสดุส่วนใหญ่ของที่บังแดดรถยนต์ มักถูกสร้างขึ้นโดยใช้วัสดุสะท้อนแสงเป็นหลักนั่นเอง
ที่บังแดดรถยนต์มีทั้งหมดกี่รูปแบบ?
ที่บังแดดรถยนต์มีทั้งหมด 5 แบบหลัก ได้แก่ แบบพับ, แบบม่าน, แบบผ้าคลุม, แบบร่ม และแบบตาข่าย ในแต่ละแบบของที่บังแดดรถยนต์ จะมีวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ก่อนซื้อควรจะทำความรู้จักอย่างละเอียดก่อน เพื่อให้เราสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด ลองอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับที่บังแดดแต่ละรูปแบบ ได้จากหัวข้อย่อยดังต่อไปนี้
- แบบพับ: มักจะมาในลักษณะแบบสี่เหลี่ยมหรือวงกลม มีขนาดใหญ่ ได้รับความนิยมในการใช้งานติดกับกระจกด้านหน้าหรือหลัง ส่วนที่รับแสงแดดเยอะมากที่สุด และด้านหนึ่งจะถูกเคลือบด้วยสารกันฉนวน เพื่อทำหน้าที่กันความร้อน
- แบบม่าน: มีลักษณะแบบม้วนเก็บได้ มีหลายขนาด สามารถเลือกซื้อใช้งานได้ตามความเหมาะสมของบริเวณที่ต้องการกันแดดได้ ซึ่งทำจาก Polyester ที่เคลือบสารป้องกันรังสี UV ทั้งสองด้านไว้กันความร้อนเป็นหลัก
- แบบผ้าคลุม: มีให้เลือกหลายขนาด เริ่มตั้งแต่ที่สามารถคลุมได้ทั่วทั้งคันรถ หรือแบบที่คลุมได้เพียงแค่ครึ่งคันเท่านั้น ส่วนวัสดุจะมีการเลือก PVC และ ผ้า Polyester มาใช้งาน โดยภายนอกจะถูกเคลือบด้วยฉนวนกันรังสี UV
- แบบร่ม: มีลักษณะพื้นฐานคล้ายกับเต็นท์ที่สามารถกางภายในรถ และติดตั้งเพื่อกันแดดได้อย่างง่ายดาย ส่วนวัสดุจะมี ผ้า Polyester ผ้า Oxford ที่มีคุณสมบัติป้องกันแดด และรังสี UV ได้ดี ปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งสามารถกางได้อัตโนมัติ ไปจนถึงแบบกางด้วยมือ
- แบบตาข่าย: ที่บังแดดชั่วคราวมีให้เลือกหลายขนาด ใช้วัสดุหลัก ๆ เป็นผ้าตาข่าย ช่วยกรองแสง ทำให้ไม่สามารถป้องกันแสงแดดได้ดีมากเท่าไหร่นัก
เบื้องต้นรูปแบบของที่บังแดดรถยนต์ที่มีขายอยู้ในท้องตลาด จะมีตามทั้งหมดที่เพิ่งแนะนำไปในลิสต์รายการด้านบน กรณีที่ยังไม่เคยใช้งานมาก่อน สามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้จากรูปแบบที่เหมาะสมกับรถยนต์ของเรา หรือพอดีกับขนาดกระจกที่ต้องการปกป้องจากแสงแดด แต่ทั้งนี้แนะนำให้อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัสดุ ที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตที่บังแดดรถยนต์ รวมถึงวิธีเลือกให้เหมาะสมก่อนดีกว่า
วัสดุที่บังแดดรถยนต์มีกี่ประเภท?
วัสดุที่บังแดดรถยนต์มีทั้งหมดท 6 ประเภทด้วยกัน คือ ผ้าไทเวค ดูปองท์, ผ้าซิลเวอร์โค้ด, ผ้าไนล่อนดำ, ผ้าไนล่อนเงิน, PVC สุญญากาศ และผ้าฟอยล์ ในแต่ละวัสดุจะมีหน้าที่ปกป้องแสงแดดแต่งต่างกันออกไป รวมถึงคุณสมบัติการดูแลเพิ่มเติม ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ลองไปทำความรู้จักเพิ่มเติมไปพร้อมกันได้เลย
ผ้าไทเวค ดูปองท์
ผ้าไทเวค ดูปองท์ มักถูกนิยมมาที่บังแดดรถยนต์ทำให้มีลวดลายสวยงาม มีลักษณะภายนอกคล้ายกับผิวของกระดาษสา สามารถสะท้อนรังสี UV ได้ประมาณ 90% ทั้งยังมีคุณสมบัติป้องกันความชื้น กันแดด กันน้ำ ทึบแสง น้ำหนักเบา และมีความทนทานที่สูงมาก
ผ้าซิลเวอร์โค้ด
ผ้าซิลเวอร์โค้ด ถูกทำมาจาก ผ้า Polyester อีกทั้งยังมีการเคลือบสารซิลเวอร์ 25% ทำให้ลักษณะภายนอกของที่บังแดดรถยนต์จากวัสดึชิ้นนี้ เป็นผ้าร่มสีเงิน สามารถป้องกันรังสี UV ได้ประมาณ 70% มีคุณสมบัติกันน้ำ กันแดด น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง เก็บได้ง่าย
ผ้าไนล่อนดำ
ผ้าไนล่อนดำที่ถูกทอขึ้นเป็นแบบตาข่ายละเอียด สามารถสะท้องรังสี UV ได้ประมาณ 70% มักเป็นที่บังแดดรถยนต์ที่ถูกสกรีนโลโก้ไว้ พร้อมกับขนาดสามัญทั่วไปจะค่อนข้างเล็ก เนื่องจากถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานกระจกด้านข้างมากกว่า
ผ้าไนล่อนเงิน
ผ้าไนล่อนสีเงินมีคุณสมบัติพื้นฐานเหมือนกับผ้าไนล่อนดำ เพียงแต่มีการนำไปเคลือบสารซิลเวอร์ภายนอก ทำให้กลายเป็นที่บังแดดรถยนต์ที่สามารถสะท้อนรังสี UV ได้ดีมากกว่าผ้าไนล่อนดำนั่นเอง
PVC สุญญากาศ
PVC สุญญากาศเป็นที่บังแดดรถยนต์มีเนื้อผ้าเป็นพลาสติก PVC แบบเจาะรูทั่วตัวที่บังแดด ส่วนใหญ่ออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก เพียงพอต่อการติดเข้ากับกระจกด้านข้าง เมื่อติดแล้วจะแนบเนียนไปกับผิวกระจก สามารถใช้งานกระจกเลื่อนขึ้นลงได้เหมือนเดิม
ผ้าฟอยล์
ผ้าฟอยล์ถูกนิยมนำมาใช้งานในการผลิตที่บังแดดรถยนต์ เนื่องจากฟอยล์มีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นดี มีฉนวนกันความร้อน จัดเก็บได้ง่าย ทำความสะอาดได้ง่าย ด้วยความสามารถในการสะท้อนรังสี UV และการกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพ
เพราะที่บังแดดรถยนต์ที่ผลิตออกมาหลายรูปแบบ ทั้งยังมีการเลือกใช้วัสดุที่หลากหลาย ส่งผลให้การเลือกใช้งานแตกต่างกันออกไปมากพอสมควร ฉะนั้นก่อนเลือกซื้อต้องอย่าลืมวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็นหลัก กับคุณสมบัติที่เราต้องการให้ดีกอ่นด้วย
วิธีเลือกที่บังแดดรถยนต์ให้เหมาะสม
วิธีเลือกที่บังแดดรถยนต์ให้เหมาะสมนั้น ต้องดูจากปัจจัยที่หลากหลาย คือ ความต้านทานรังสี UV, ขนาด และประเภทวัสดุที่ใช้ รายละเอียดมีดังนี้
- ความต้านทานรังสี UV: อย่างที่ได้กล่าวแนะนำไปในข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ผลิตที่บังแดด ว่ามีคุณสมบัติต้านทานรังสีแตกต่างกันออกไป ควรเลือกให้เหมาะสมต่อการใช้งานจริง
- ขนาด: พิจารณาว่าเราต้องการนำที่บังแดดไปติดไว้ตรงไหน ติดกระจกหน้าหลังที่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุด หรือกระจกด้านข้างที่มีขนาดเล็กรองลงมา ไปจนถึงการเลือกแบบผ้าคลุมทั่วทั้งคันรถ
- ประเภทวัสดุที่ใช้งาน: นอกเหนือจากการต้านทานรังสี UV ยังมีคุณสมบัติด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นด้วย
ก่อนการเลือกซื้อที่บังแดดรถยนต์ ถ้าเราสามารถตัดสินใจจากปัจจัยเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน ก็จะเป็นการใช้งานที่บังแดดได้อย่างคุ้มค่า และถูกต้องตามวัตถุประสงค์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว
ที่บังแดดรถยนต์ ราคาเท่าไหร่?
ที่บังแดดรถยนต์ ราคาเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับขนาด และวัสดุในการใช้งาน ทำให้มีราคาหลายช่วง เริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยเพียง 200-300 บาท ไปจนถึงหลักพันต้น ๆ ก็มีเช่นเดียวกัน
ที่บังแดดรถยนต์แบบไหนดี?
สรุปแล้วเลือกที่บังแดดรถยนต์ แบบไหนดี คำตอบ คือ ต้องเลือกตามปัจจัยทั้ง 3 ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นนำไปใช้งานจริงว่าได้ประสิทธิภาพตามที่เราต้องการหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ตอนแรกอาจคิดว่าใช้ตัวที่สะท้อนรังสี UV ไม่ต้องเยอะมาก แต่พอไปใช้งานจริงแดดแรงขึ้นทุกวัน จึงต้องใช้การสะท้อนรังสีที่มากขึ้น รวมถึงต้องใช้แบบวัสดุที่ทนความร้อน เนื่องจากต้องจอดตากแดดเป็นเวลานาน ฉะนั้นถ้าเลือกได้อย่างเหมาะสมตั้งแต่ทีแรก จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายและดูแลรักษารถยนต์ของเราได้ดีมากที่สุด
นอกเหนือจากการดูแลรถด้วยที่บังแดดรถยนต์แล้ว ยังมีการพิจารณาเรื่องประกันรถยนต์เพิ่มเติมไว้ด้วยจะดีกว่า เพราะถ้าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรืออุบัติเหตุเล็กน้อยที่ทำให้รถยนต์ของเรามีริ้วรอย ประกันรถยนต์นี่แหละที่จะเข้ามาช่วยดูแลรักษา พร้อมครอบคลุมการคุ้มครองผู้โดยสาร ทรัพย์สิน และอื่น ๆ อย่างครบถ้วน โดยทาง แรบบิท แคร์ มีประกันรถยนต์ให้คุณได้เลือกเช็คประกันรถยนต์จากเหล่าบริษัทชั้นนำระดับประเทศมากถึง 30 ราย และยังมีส่วนลดสุดพิเศษสูงสุดถึง 70% อีกด้วย อยากสัมผัสบริการด้านประกันรถยนต์ที่ดีที่สุด ติดต่อเข้ามาได้เลยที่เบอร์ 1438 (โทรได้ 24 ชั่วโมง)
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology