เลือก “เครื่องขัดสีรถยนต์” สำหรับใช้งานที่บ้านอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
เครื่องขัดสีรถยนต์ หรือที่ขัดสีรถยนต์สำหรับใช้งานเองภายในบ้าน สามารถช่วยให้รอยขีดข่วนบนรถหายไป หรือจางลง จนผิวรถของเรากลับมาสวยเหมือนใหม่ แต่ถ้าหากเป็นสมัยหลายปีก่อน การจะพารถไปเจอกับที่ขัดสีรถยนต์ เราต้องเข้ารับบริการคาร์แคร์ พร้อมเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการขัดสี ทว่าปัจจุบันนี้ทุกคน มีโอกาสเลือกซื้อเครื่องขัดสีรถยนต์ด้วยตัวเอง ทำให้ แรบบิท แคร์ อยากนำเสนอหัวข้อเกี่ยวกับการเลือกเครื่องขัดสีรถยนต์ เพื่อมาใช้งานเองที่บ้านแบบง่าย ๆ สำหรับกรณีการลบรอยขีดข่วนบาง ๆ ไม่ลึกมากนัก
แต่ถ้าเกิดมีรอยที่ลึกจนเข้าไปในเนื้อพลาสติกของเฟรมรถ ไม่สามารถขัดให้สีกลับมาเหมือนเดิมได้ ทั้งนี้เรายังสามารถเคลมผ่านประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้ และอาจต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นค่า Excess อีกเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าแลกกับการให้รถของเรากลับมาสวย ไร้ริ้วรอยจนเหมือนใหม่ ก็ถือว่าค่อนข้างคุ้มเลยทีเดียว อยากลองรับคำปรึกษาด้านประกันรถยนต์ พร้อมเปรียบเทียบเพิ่มเติมได้ที่ rabbitcare.com หรือโทร 1438 (ติดต่อได้ 24 ชั่วโมง)
รวมวิธีเลือกเครื่องขัดสีรถยนต์ให้ตอบโจทย์ที่สุด
เพื่อให้การใช้งานเครื่องขัดสีรถยนต์เกิดความคุ้มค่า และเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานมากที่สุด เราจะแนะนำวิธีการเลือกที่ขัดสีรถยนต์ สำหรับใช้งานเองที่บ้านแบบลงรายละเอียดให้สามารถใช้อ้างอิงในการเลือกชอปเครื่องขัดสีรถยนต์ได้ดีที่สุด
1.รู้จักประเภทเครื่องขัดสีรถยนต์ก่อน
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเครื่องขัดสีรถยนต์ มีให้เลือกอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน คือ ระบบ RO (Rotary) และระบบ DA (Dual Action) ซึ่งความแตกต่างจะอยู่ที่ระบบการทำงาน จึงส่งผลให้ความเหมาะสมในด้านการใช้งานของที่ขัดสีรถยนต์ทั้ง 2 แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยรายละเอียดเกี่ยวกับระบบการสามารถอ่านได้จากหัวข้อต่อไปนี้
เครื่องขัดสีรถยนต์ระบบ RO (Rotary)
ระบบที่ 1 เครื่องขัดสีรถยนต์แบบ Rotary จะเป็นการหมุนแบบจุดเดียว (Circular Motion) ทำให้ที่ขัดสีรถยนต์ตัวนี้สามารถลบรอยขีดข่วนได้อย่างรวดเร็ว เพราะเกิดความร้อนสะสมบนผิวรถยนต์ตามจุดหมุนได้ค่อนข้างเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเครื่องขัดสีรถยนต์ระบบดังกล่าว ควรใช้งานโดยผู้ที่มีความชำนาญการด้านขัดสีอยู่แล้ว หากมือใหม่ใช้งานอาจคาดการณ์เวลาขัดสีได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก จนสุดท้ายทำให้สีรถพอง หรืออาจเกิดรอยไหม้ได้นั่นเอง
คำแนะนำเพิ่มเติม กรณีมีมือให้เลือกเครื่องขัดสีรถยนต์ระบบ RO (Rotary) มาใช้งาน คือ เลือกที่ขัดสีรถยนต์ที่สามารถปรับรอบการหมุนได้ค่อนข้างละเอียด จากนั้นลองใช้งานจากรอบต่ำที่สุดดูก่อน ใช้งานจนกว่าจะเริ่มเคยชิน ค่อยปรับรอบหมุนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม
เครื่องขัดสีรถยนต์ระบบ DA (Dual Action)
ระบบที่ 2 เครื่องขัดสีรถยนต์ DA (Dual Action) จะเป็นเครื่องที่เหมาะกับมือใหม่มากเป็นพิเศษ ด้วยการทำงานของที่ขัดสีรถยนต์ระบบนี้ จะเพิ่มลูกตุ้มน้ำหนัก ให้เกิดการหมุนเหวี่ยงของระบบ เพื่อกระจายความร้อนได้อย่างดี จึงส่งผลให้ไม่เกิดความร้อนสะสมบนผิวรถยนต์ ป้องกันสีพองหรือผิวรถไหม้ รวมถึงยังสามารถใช้งานในการเคลือบเงา ลงแวกซ์ได้ด้วย แต่ทั้งนี้ด้วยระบบที่ใช้งานง่าย อาจทำให้การขัดสีรถยนต์ไม่สามารถทำได้ลึกเท่าระบบ RO (Rotary) ที่ลบรอยลึกได้ดีกว่า
ดังนั้นเครื่องขัดสีรถยนต์ระบบ DA (Dual Action) จึงค่อนข้างเหมาะกับมือใหม่ บวกกับรถยนต์ไม่ค่อยมีรอยขีดข่วนลึกมากเท่าไหร่ หากวัตถุประสงค์ตรงกับข้อมูลที่เราให้ไป ก็สามารถเลือกซื้อได้อย่างสบายใจแน่นอน
2.เลือกแป้นเครื่องขัดสีรถยนต์ให้ดี
นอกเหนือจากการเลือกระบบเครื่องขัดสีรถยนต์แล้ว ยังต้องคำนึงถึงการเลือก “แป้น” ที่ขัดสีรถยนต์ด้วยเช่นกัน โดยแต่ละแบรนด์จะมีเทคโนโลยีการผลิตแป้นที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การเลือกใช้งานมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย เช่น
- แป้นพลาสติก: จะมีความแข็งแรง คงทน แต่ไม่ค่อยยืดหยุ่นมากเท่าไหร่นัก
- แป้นยูรีเทน: มีความทนทาน และเพิ่มเติมเข้ามาด้วยความยืดหยุ่นแบบพิเศษ สามารถบิดงอ โค้งไปได้ตามพื้นผิวที่เราขัด
- แป้นที่มีระบายอากาศ: ช่วยลดความร้อนสะสมที่เกิดขึ้นบนตัวฟองน้ำ ช่วยให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น
ถ้าตอนนี้คุณสามารถเลือกระบบเครื่องขัดสีรถยนต์ ที่เหมาะสมกับการใช้งานได้แล้ว อย่าลืมพิจารณาตัวแป้นเพิ่มเติมเข้าไปด้วย เพื่อที่จะช่วยให้อายุการใช้งานที่ขัดสีรถยนต์ของเรา มีอายุยืนยาว อยู่ช่วยเหลือเราในการลบรอยขีดข่วนได้อย่างคุ้มค่า
3.เลือกเครื่องขัดสีแบบมีสายหรือไร้สายตามพื้นที่การใช้งาน
สิ่งสำคัญอีกหนึ่งข้อที่ห้ามข้ามเด็ดขาด คือ การเลือกรูปแบบการใช้งานของเครื่องขัดสีรถยนต์ ว่าต้องการใช้แบบมีสายในพื้นที่จำกัด ไม่ได้ใช้งานแบบต้องลากสายไปไกลมากนัก เราก็สามารถเลือกที่ขัดสีรถยนต์แบบมีสายได้ตามปกติ แต่ถ้าบ้านใครมีรถยนต์หลายคัน โรงจอดรถกว้าง ลากสายไฟลำบาก การเลือกใช้เครื่องขัดสีรถยนต์ไร้สาย ย่อมตอบโจทย์ได้ดีกว่าอยู่แล้ว
หากต้องการเลือกเครื่องขัดสีรถยนต์ไร้สาย ต้องมีการซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย โดยเฉพาะ แบตเตอรี่สำหรับที่ขัดสีรถยนต์ มีความจุให้เลือกหลายขนาด และแท่นชาร์จเฉพาะรุ่นที่มีให้เลือกหลายประเภท ส่วนใหญ่ที่มีให้เลือกมากในท้องตลาด จะเป็นแท่นชาร์จสำหรับแบตเตอรี่ 1-2 ก้อน
สรุปข้อควรรู้ทั้งหมดอีกครั้งก่อนซื้อเครื่องขัดสีรถยนต์
ตอนนี้เชื่อว่าทุกคนคงมีเครื่องขัดสีรถยนต์อยู่ในใจกันเรียบร้อยแล้ว เพื่อไม่ให้ต้องพลาดพลั้งเผลอซื้อที่ขัดสีรถยนต์แบบไม่ถูกใจเข้ามาใช้งาน เราลองมาทบทวนสิ่งสำคัญเกี่ยวกับข้อควรรู้ทั้งหมดอีกครั้งไปพร้อมกัน ด้วยเช็กลิสต์ทั้งหมด 7 ข้อดังนี้
- คำนึงถึงการใช้งานด้านกายภาพ: การจับถือที่เราต้องทำได้อย่างถนัดมือ ลักษณะความยาวและสั้นของตัวเครื่องขัดสีรถยนต์ หรือจะเลือกแบบที่มีแถบยางกันลื่นด้วยก็ดีเหมือนกัน
- น้ำหนักของที่ขัดสีรถยนต์: เพราะเราต้องถือเครื่องขีดสีรถยนต์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน หากมีน้ำหนักเฉลี่ยที่ประมาณ 2 กิโลกรัม จะถือว่าอยู่ในช่วงที่ค่อนข้างดี ลดอาการเมื่อยล้าได้มาก
- แป้นเครื่องขัดสีรถยนต์: อย่างที่เราได้แนะนำไปแล้วว่าแป้นมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ลองเลือกตามความเหมาะสมด้านทักษะ และการใช้งานของเราอีกทีหนึ่ง
- ฟังก์ชั่นเสริมที่แตกต่างกัน: ยกตัวอย่างเช่น บางรุ่นมีระบบระบายความร้อน, ระบบควบคุมความเร็วรอบ, ระบบลูกตุ้มถ่วงน้ำหนักที่ทำให้ขัดไม่สะเทือนมือมากนัก และอื่น ๆ อีกหลายฟังก์ชั่น
- แบบมีสายหรือไร้สาย: หากใช้งานพื้นที่แคบ ไม่ต้องเดินหรืออ้อมไกล การเลือกใช้แบบมีสายยังถือว่าเหมาะสมอยู่ แต่กรณีที่ต้องเดินไกล มีรถยนต์เยอะ ควรเลือกใช้เครื่องขัดสีรถยนต์ไร้สายจะดีที่สุด
- มอเตอร์กับระบบเฟือง: ข้อนี้ผู้ใช้งานเครื่องขัดสีรถยนต์เองที่บ้าน อาจไม่ซีเรียสมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากการเลือกมอเตอร์กับระบบเฟือง จะเป็นทางด้านคาร์แคร์ที่ควรโฟกัสมากที่สุด เพราะต้องใช้งานที่ขัดสีรถยนต์อย่างต่อเนื่อง จึงต้องใช้ระบบที่ทนทานกว่าเท่านั้นเอง
- เรื่องการรับประกัน และการดูแลหลังการขาย: บางครั้งเราลงทุนซื้อเครื่องขัดสีรถยนต์มาในราคาค่อนข้างสูง เราจึงต้องใส่ใจเรื่องการรับประกัน เผื่อเอาไว้ในกรณีที่เกิดความเสียหายนอกเหนือจากการใช้งาน และยังรวมถึงการดูแลหลังการขาย ที่จะช่วยให้คำปรึกษาการใช้งาน หรือการซ่อมแซมได้ด้วย
อ่านจนครบจบมาถึงตอนนี้แล้วยังไงก็อย่าลืม นำคำแนะนำทั้งหมด ไปพิจารณาก่อนเลือกซื้อเครื่องขัดสีรถยนต์กันอย่างจริงจัง จะได้มีที่ขัดสีรถยนต์ใช้ประจำที่บ้าน ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยขีดข่วนในอนาคตอีกต่อไป ส่วนใครที่อยากลงทุนซื้อที่ขัดสีรถยนต์แบบครั้งเดียวจบ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นมีสาย หรือเครื่องขัดสีรถยนต์ไร้สายที่ราคาค่อนข้างสูง ก็สามารถช้อปสนั่นไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใด ด้วยบัตรเครดิตหลากโปรโมชันจาก แรบบิท แคร์ สมัครวันนี้พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษอีกเพียบ ลองเปรียบเทียบความสนใจได้ที่ฟีเจอร์ด้านล่างนี้เลย
นักเขียนบทความด้านประกันยานยนต์ รถยนต์ การเคลมประกันรถยนต์ ที่ Rabbit Care และ Asia Direct ตั้งใจเขียนงานให้ได้เกินครึ่งจากช่วงเวลาที่หาข้อมูล ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก