แคร์รถยนต์

รถประหยัดน้ํามัน 2025 แบรนด์ไหนดีจนต้องจับตามอง

ผู้เขียน : Thirakan T
Thirakan T

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology

close
linkedin icon
 
ตรวจทาน : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
Published: December 26,2024
  
 
  
Reviewed: December 25, 2024
รถประหยัดน้ํามัน 2025

อัปเดตข้อมูลรถประหยัดน้ำมันเผื่อเป็นตัวเลือก สำหรับคนที่ต้องการซื้อรถยนต์ที่ยังใช้งานเครื่องยนต์สันดาปอยู่ ยังไม่พร้อมรับมือกับสถานการณ์ของรถไฟฟ้า ทาง แรบบิท แคร์ จึงได้ลองสร้างลิสต์รายการเกี่ยวกับรถประหยัดน้ำมัน2025 ขึ้นมา เพื่อรวบรวมรุ่นรถประหยัดน้ำมันที่คิดว่ามีประสิทธิภาพตอนโจทย์เรื่องความประหยัดเป็นหลัก รวมถึงมีราคาที่จับต้องได้ง่าย เป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีการเซอร์วิสดี ใช้งานได้ยาวนาน ดูแลรักษาไม่ยากจนเกินไป ทั้งนี้ยังเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับการนำเสนอรถประหยัดน้ำมัน ด้วยการคัดเลือกรุ่นที่มีราคาไม่เกิน 6 แสนบาทมานำเสนอเพิ่มเติม นอกเหนือจากรุ่นที่น่าสนใจ และสุดท้ายกับการตามหาคำตอบว่า รถประหยัดน้ํามัน 2024 ปัจจุบันมีค่าเฉลี่ยกี่กิโลเมตรต่อลิตรบ้าง ช่วยคลายความสงสัย ถึงความประหยัดที่สัมผัสได้จริงจากการใช้งาน

10 รถประหยัดน้ํามัน

ลิสต์รายการ 10 รุ่นรถประหยัดน้ำมันที่ดีจนต้องจับตามอง ได้แก่ Mitsubishi Attrage, Toyota Yaris Ativ, Suzuki Celerio, Toyota Yaris Cross, Honda City Hatchback e:HEV, NEW Nissan Almera, Suzuki Swift, New Honda City, Mazda 2 Hatchback Skyactiv-D และ Honda HR-V e:HEV ถ้าดูจากภาพรวมของทั้งหมด 10 รุ่นที่กล่าวมา จะเป็นรถประหยัดน้ำมันแบรนด์ยอดฮิตในประเทศไทยทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถประหยัดน้ํามัน honda ที่โดดเด่นมายาวนาน กับคู่แข่งคนสำคัญ Toyota ที่สรรค์สร้างนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ ๆ ออกมาให้เราได้ชมกันเกือบทุกปีในช่วงเวลานี้ และแบรนด์อื่น ๆ ที่เข้ามาท้าชิงในตลาดรถประหยัดน้ำมันอีกหลายราย สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลที่น่าสนใจของแต่ละรุ่นเพิ่มเติมได้ดังต่อไปนี้

  • Mitsubishi Attrage: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.29 แสนบาท
  • Toyota Yaris Ativ: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 94 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.49 แสนบาท
  • Suzuki Celerio: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 20.8 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 68 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 3.38 แสนบาท 
  • Toyota Yaris Cross: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 26.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 7.89 แสนบาท
  • Honda City Hatchback e:HEV: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 27.8 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 7.29 แสนบาท
  • NEW Nissan Almera: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 100 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.49 แสนบาท
  • Suzuki Swift: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.67 แสนบาท
  • New Honda City: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 38.8 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.99 แสนบาท
  • Mazda 2 Hatchback Skyactiv-D: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 26.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร (เครื่องยนต์ดีเซล) กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 6.54 แสนบาท
  • Honda HR-V e:HEV: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 25.6 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 106 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 9.79 แสนบาท

หลาย ๆ รุ่นรถประหยัดน้ํามัน 2024 มักจะเป็นการใช้เครื่องยนต์ควบกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่สูงขึ้น กับอัตราสิ้นเปลืองพลังงานที่ประหยัดมากกว่าเดิม ดังนั้นหากมีงบประมาณเพิ่มขึ้น การตัดสินใจเลือกรถประหยัดน้ำมันที่มีระบบไฮบริด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากเช่นเดียวกัน

รถประหยัดน้ำมัน ราคาถูก ไม่เกิน 6 แสนบาท

หลังจากที่เราได้รับชมข้อมูลรถประหยัดน้ํามัน 2024 มาหลายรุ่นแล้ว ในหัวข้อนี้ แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนมาดูรุ่นรถประหยัดน้ำมันในช่วงราคาเริ่มต้นไม่เกิน 6 แสนบาท เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนอยากประหยัดงบประมาณในการออกรถ โดยจะมีนำเสนอเพิ่มเติมจากหัวข้อรถประหยัดน้ำมันด้านบน ประมาณ 5 รุ่น คือ Mazda 2, Nissan March, Nissan Note e:Power, Suzuki Ciaz และ Mitsubishi Mirage รายละเอียดรถประหยัดน้ำมันเพิ่มเติมทั้งหมดที่กล่าวมา ลองดูกันได้จากลิสต์ด้านล่างนี้เลย

  • Mazda 2: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.3 ลิตร กำลังสูงสุด 93 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.99 แสนบาท
  • Nissan March: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 20 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 4.2 แสนบาท
  • Nissan Note e:Power: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 28.8 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 82 แรงม้า (ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า อาจมีกำลังสูงสูดเพิ่มขึ้นอีก) ราคาเริ่มต้น 5.57 แสนบาท (ราคาเปิดตัวจากทางประเทศญี่ปุ่น ยังไม่รวมภาษีและราคาทางการในประเทศไทยยังไม่ได้กำหนด)
  • Suzuki Ciaz: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 20 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 3.78 แสนบาท (ปัจจุบันขายหมดแล้ว)
  • Mitsubishi Mirage: อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 22.8 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 5.09 แสนบาท

และทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมของรถประหยัดน้ำมัน ที่มีช่วงราคาไม่เกิน 6 แสนบาท และยังมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยที่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก ช่วยให้เราประหยัดได้ทั้งงบประมาณในการออกรถ กับค่าน้ำมันในอนาคตที่ต้องแบกรับ ใครที่กำลังวางแผนซื้อรถประหยัดน้ํามัน 2024 โดยที่ไม่ได้ต้องฟังก์ชัน หรือสเปกรถคันใหญ่มากนัก เหล่ารายชื่อรถประหยัดน้ำมันที่เราเสนอมาทั้งหมด รับรองเลยว่าต้องมีถูกใจกันแน่นอน

เฉลี่ยรถประหยัดน้ำมัน กี่ กิโล ต่อลิตร

สรุปข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าเฉลี่ยว่ารถประหยัดน้ํามัน กี่กิโลต่อลิตรกันแน่? คำตอบ คือ รถประหยัดน้ํามัน 2024 ที่ดี ควรจะต้องมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยตั้งแต่ 20-21 กิโลเมตร/ลิตรขึ้นไป ไม่อย่างนั้นจะถือว่าอยู่นอกเกณฑ์รถประหยัดน้ำมัน ยิ่งถ้ามีการใช้ระบบไฮบริด ควบรวมมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยแล้ว ยิ่งควรจะต้องมีประสิทธิภาพในการเป็นรถประหยัดน้ำมันที่มากขึ้นด้วย แต่ทั้งนี้ค่าตัวเลขที่หลายแบรนด์เคลมเอาไว้ อาจเป็นเพียงค่าเฉลี่ยที่ได้จากการพิสูจน์หลายรูปแบบ ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานรถยนต์ของแต่ละคนอีกทีหนึ่ง ว่าขับขี่บนท้องถนนลักษณะแบบไหน เจอการจราจรที่ติดขัดมากน้อยเพียงใด

คำแนะนำเพิ่มเติม หากต้องการรู้ว่ารถประหยัดน้ำมันที่เราใช้งานอยู่ มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยเท่าไหร่ ให้สังเกตที่หน้าปัดรถยนต์ได้เลย เพราะในรถประหยัดน้ำมันรุ่นใหม่ส่วนมาก จะมีค่าเฉลี่ยแจ้งเอาไว้แบบเรียลไทม์ตอนที่เราขับขี่ได้ระยะทางประมาณหนึ่ง หรือบางรุ่นที่มีค่าเฉลี่ยรวมการเดินทางทั้งหมดของรถ เพื่อเป็นการแจ้งตัวเลขการคำนวณของระบบที่ชัดเจน ถึงการขับขี่ของเราว่าสิ้นเปลืองมากน้อยแค่ไหน

รถประหยัดน้ำมันทำประกันคุ้มไหม

รถประหยัดน้ำมันทำประกันคุ้มไหม? คำตอบนี้ไม่ยากเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นรถประหยัดน้ำมัน2024 รุ่นใหม่ รุ่นเก่า หรือรถยนต์รุ่นอื่น ๆ การเลือกทำประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มค่าได้มากที่สุด ตามความเหมาะสมในการใช้งานรถยนต์ของเรา เช่น หากเราใช้งานรถยนต์เพื่อเดินทางไปทำงาน การเลือกทำประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองได้อย่างครอบคลุม ภายใต้ค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสม ย่อมสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้งานรถได้อย่างมหาศาลอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องสนใจว่าคุณจะใช้งานรถประหยัดน้ำมันหรือรถยนต์รุ่นไหนอยู่ หากต้องการเพิ่มความอุ่นใจ ความปลอดภัยในทุกการขับขี่ ประกันถือเป็นอีกสิ่งที่ควรพิจารณา

พออ่านมาถึงตรงนี้แล้วการตัดสินใจซื้อรถประหยัดน้ำมันของคุณ คงเป็นอะไรที่ชัดเจนมาขึ้น รวมถึงการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ด้วย แต่ถ้ายังไม่มั่นใจเรื่องประกันรถยนต์ ยังอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม อยากมีคนที่ช่วยนำเสนอในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา สามารถติดต่อหา แรบบิท แคร์ มาได้เลยที่เบอร์ 1438 (24 ชม.) เพราะเรามีตัวเลือกจากบริษัทประกันภัยชั้นนำระดับประเทศให้เลือก มากถึง 30 แห่ง และยังมีโปรโมชันส่วนลดสูงสุดถึง 70% หรือจะเลือกผ่อน 0% นานถึง 10 เดือนก็มีให้!


สรุป

สรุปบทความ

บทความนี้แนะนำให้ผู้อ่านรู้จักรถหรูและรถที่แพงที่สุดในโลกจากหลากหลายประเทศ เช่น ยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน โดยแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นด้านดีไซน์ เครื่องยนต์ และประสิทธิภาพที่น่าทึ่ง เช่น Rolls-Royce Boat Tail ที่มีราคาสูงถึง 890 ล้านบาท หรือ Ferrari 250 GTO ที่ถูกประมูลในราคากว่า 1.8 พันล้านบาท พร้อมทั้งกล่าวถึงรถหรู 4 ประตูและ 7 ที่นั่งที่แพงที่สุด รวมถึงแบรนด์เด่นในแต่ละภูมิภาค นอกจากนี้ยังเน้นให้ความสำคัญกับการดูแลรถยนต์และการเลือกประกันที่เหมาะสมเพื่อปกป้องรถคันโปรดของคุณ โดยแนะนำการบริการจากแรบบิท แคร์ เพื่อความอุ่นใจในทุกการเดินทาง…

จบสรุปบทความ

ที่มา


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 98743

แคร์รถยนต์

เบรกมือไฟฟ้า คือ อะไร มีวิธีการใช้งานอย่างไร | แรบบิท แคร์

การพัฒนาเทคโนโลยีในรถยนต์สมัยใหม่ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า เบรกมือไฟฟ้าขึ้นมาให้ผู้ขับขี่ได้ใช้งานกันสะดวกสบายมากกว่าเดิม
Natthamon
25/12/2024
Rabbit Care Blog Image 98725

แคร์รถยนต์

auto brake hold คือ อะไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง

เทคโนโลยีสุดอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่อย่าง auto brake hold ถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรถยนต์ทุกคนไม่ต้องเหยียบเบรกค้างจนเมื่อยเท้าอีกต่อไป
Natthamon
25/12/2024
Rabbit Care Blog Image 98641

แคร์รถยนต์

รถที่แพงที่สุดในโลก และยี่ห้อรถหรู ทั้งหมดที่คนรักรถควรรู้จักไว้

แรบบิท แคร์ พาชมรถที่แพงที่สุดในโลก หรือรถหรูที่จัดเต็มเรื่องความสวยงาม ตามมาด้วยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ระดับเทพ
Thirakan T
25/12/2024