รอบเครื่องยนต์ คือ อะไร เกี่ยวยังไงกับปัญหาเครื่องยนต์สั่น
ขณะที่เท้าของเรากำลังเหยียบคันเร่ง เคยสังเกตไหมว่าทำไมรอบเครื่องยนต์ถึงขึ้นลงแตกต่างกันอย่างรวดเร็ว? ยิ่งถ้าเป็นมือใหม่เพิ่งหัดขับ อาจสงสัยมากกว่าเดิมว่ารอบเครื่องยนต์ มันคืออะไร หมายถึงอะไร แล้วมีผลอย่างไรต่อการขับขี่ของเรา เพื่อช่วยทลายความงข้องใจที่เกิดขึ้น แรบบิท แคร์ เลยจัดทำเนื้อหาเกี่ยวกับรอบเครื่องยนต์เอาไว้หมดแล้ว ตั้งแต่ความหมาย, วิธีการดูรอบเครื่องยนต์, รอบเครื่องยนต์ที่ดีควรสูงประมาณเท่าไหร่ และรอบเดินเบา เครื่องยนต์สั่น รถไม่นิ่ง มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร สามารถเกิดจากสาเหตุไหนได้บ้าง มีวิธีแก้ปัญหายังไง แม้ดูเผิน ๆ จะเป็นเกล็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ในทางเดียวกัน มันจะช่วยให้เราขับขี่ได้อย่างมีพื้นฐานความเข้าใจที่ดี และสามารถขับขี่ได้ดีเช่นเดียวกัน
รอบเครื่องยนต์ หมายถึงอะไร
รอบเครื่องยนต์ หมายถึง ความเร็วรอบรถยนต์ที่จะเป็นการวัดความเร็วในการหมุนของเครื่องยนต์ 1 รอบ โดยสิ่งที่เกิดขึ้นในระบบการหมุนเครื่องยนต์ก็จะมีการดูด อัด และคาย ซึ่งทั้งหมดจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราทำการเหยียบคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็ว ตัวเครื่องยนต์ก็จะหมุนวนทำงานตามระบบดังกล่าว ส่วนหน่วยวัดต่อรอบจะเป็น จำนวนรอบต่อนาที (RPM: Revolutions per Minute)
ดูรอบเครื่องยนต์ตรงไหน
เราสามารถสังเกตรอบเครื่องยนต์ได้จากที่หน้าปัดรถยนต์ บริเวณที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับไมล์บอกความเร็ว หากเป็นไมล์แบบ Analog จะมีตัวเลขตั้งแต่ 1-10 ซึ่ง 1 หน่วยจะแทน 1,000 รอบ ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพเครื่องยนต์ของรถยนต์แต่ละรุ่น ถ้าหากเป็นไมล์แบบ Digital ก็จะปรากฎขึ้นมาเป็นตัวเลขให้เราได้รับรู้ทันที ว่าปัจจุบันตามความเร็วที่เรากำลังขับขี่ รถยนต์ทำงานกี่รอบต่อนาที จะแสดงเป็นเลขหลักหน่วยเช่นเดียวกัน ในขณะที่ 1 จะเท่ากับ 1,000 รอบ
ข้อมูลน่าสนใจเพิ่มเติม รอบเดินเบาของเครื่องยนต์เมื่อสตาร์ต หรือหยุดรถอยู่กับที่ จะเฉลี่ยที่ประมาณ 0.5-0.8 รอบ หรือก็คือ 500-800 รอบต่อนาที หากเกินกว่านั้นถือว่าสูงมากกว่าปกติ ยิ่งไปกว่านั้นจะมีโซนที่ตัวเลขหรือมีแถบสีแดงกำกับอยู่ นั่นคือโซนรอบเครื่องยนต์สูงสุดที่รถคันนั้นสามารถทำได้ หากเราใช้งานไปจนถึงจุดดังกล่าวเป็นเวลานานบ่อย ๆ จะทำให้เครื่องยนต์สึกเร็วมากขึ้น ถ้าฝืนใช้งานหนักมากอาจทำให้เครื่องยนต์พังได้เลย (รถรุ่นใหม่บางรุ่นจะมีระบบตัดรอบ เพื่อป้องกันการใช้งานรอบที่สูงเกินไป)
รอบเครื่องยนต์ที่ดีควรสูงเท่าไหร่
รอบเครื่องยนต์ที่ดีควรสูงเท่าไหร่? สำหรับรถยนต์ที่เป็นเครื่องเบนซินรอบเครื่องปกติควรอยู่ในระหว่าง 2,000-3,000 รอบต่อนาทีเวลาที่เราเดินทางไหล ส่วนในช่วงเปลี่ยนเกียร์ควรอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,000 รอบต่อนาที หากเป็นรถยนต์ที่ใช้งานเกียร์อัตโนมัติ ช่วงเวลาการเหยียบคันเร่งควรเติมแรงเข้าไปอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรกระชากหรือ Kick Down อย่างรุนแรง เพราะมันจะส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก จนรอบเครื่องยนต์เร่งสูงมากเกินไป อาจเกิดความสึกหรอภายในเครื่องยนต์ได้เร็ว
รอบเดินเบา เครื่องยนต์สั่น รถไม่นิ่ง เกิดจากอะไร
ปัญหารอบเครื่องยนต์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เช่น รอบเดินเบา จนรู้สึกว่าเครื่องยนต์สั่น เครื่องยนต์ไม่นิ่ง เป็นเพราะอะไร? วันนี้ แรบบิท แคร์ หาคำตอบมาให้แล้ว พร้อมกับสาเหตุอื่น ๆ เพิ่มเติมเมื่อเกิดเหตุเครื่องยนต์สั่นที่ไม่ได้มาจากรอบเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว ได้แก่ กรณีที่ลิ้นปีผีเสื้อสกปรก, เซนเซอร์ลิ้นปีผีเสื้อมีปัญหา, ท่อแวคคั่มรั่ว และหัวเทียนบอด โดยรายละเอียดทั้งหมดที่ทำให้เครื่องยนต์สั่นมีดังนี้
มอเตอร์เดินเบาสกปรก
มอเตอร์เดินเบาสกปรก จะเป็นปัญหาที่แสดงผลอย่างชัดเจนเมื่อรอบเครื่องยนต์ของเราอยู่ในช่วงเดินเบา (ไม่เกิน 1,000 รอบต่อนาที) เนื่องจากมอเตอร์ตัวนี้มีหน้าที่ควบคุมเครื่องยนต์ให้คงที่ ถ้าเกิดภายในสกปรกมากกว่าปกติ มันก็จะทำงานได้ไม่ราบรื่น ต้องมีการแกะออกมาเพื่อทำความสะอาดอย่างถูกต้อง ถึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้
ลิ้นปีกผีเสื้อสกปรก
ลิ้นปีกผีเสื้อสกปรก เกิดจากมีเขม่าดำ หรือคราบเหนียวเข้าไปติดในชิ้นส่วนอุปกรณ์ ส่งผลให้อากาศไม่ถ่ายเทเข้าไปในระบบ จนไม่สามารถช่วยให้เกิดการเผาไหม้ได้ มีผลทำให้รอบเครื่องยนต์ช่วงเดินเบาไม่นิ่ง รอบเครื่องยนต์ต่ำจนรถดับ หรือมีอาการสั่นตอนเร่ง แปลว่าถึงเวลาที่อุปกรณ์ชิ้นนี้ควรได้รับการตรวจเช็ก พร้อมทำความสะอาดแล้ว
คำแนะนำเพิ่มเติม ตามปกติแล้วชิ้นส่วนที่ถูกเรียกว่า ลิ้นปีกผีเสื้อ (Air Throttle) ต้องได้รับการตรวจเช็กพร้อมทำความสะอาดทุก ๆ 20,000 – 30,000 กิโลเมตร ซึ่งจะสามารถป้องกันปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
เซนเซอร์ลิ้นปีกผีเสื้อมีปัญหา
เซนเซอร์ลิ้นปีผีเสื้อมีปัญหา จากการสกปรกและคราบฝังแน่นเช่นเดียวกัน จนมันไม่สามารถทำหน้าที่วัดปริมาณของอากาศที่ผ่านเข้าไปในท่อได้ตามปกติ ส่งผลให้รอบเครื่องยนต์เบามีโอกาสทำเครื่องดับได้ เพราะเกิดระบบการเผาไหม้ไม่ปกติ ต้องผ่านการทำความสะอาดด้วยน้ำยาหรือสเปรย์เฉพาะทาง ถึงจะกลับมาทำงานได้ตามปกติ
ท่อแวคคั่มรั่ว
ท่อแวคคั่มรั่ว ทำให้ไม่สามารถช่วยเร่งไฟในการจุดระเบิดได้ตามปกติ จึงกลายเป็นสาเหตุเมื่อรอบเครื่องยนต์อยู่ในช่วงเดินเบา เครื่องยนต์สั่น ไม่นิ่ง ทำงานแบบไม่มีประสิทธิภาพ หากจอดนิ่ง ๆ นานเกินอาจทำให้รถดับได้ ต้องได้รับการตรวจเช็กท่อทั้งหมดไล่ไปทีละสาย จนกว่าจะเจอต้นเหตุแล้วทำการแก้ไขตามความเหมาะสม
ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับคนที่ใช้งานรถยนต์ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา อาจไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้อีกต่อไปแล้ว เพราะท่อแวคคั่มจะอยู่ในเฉพาะเครื่องยนต์แบบจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด หรือคาบูเรเตอร์ ที่จะมีท่อนี้เป็นจำนวนมากภายในระบบการทำงานของเครื่องยนต์
หัวเทียนบอด
หัวเทียนบอด จะส่งผลให้ไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้าช่วยเรื่องการจุดระเบิดได้ตามปกติ เป็นเหตุให้เกิดอาการรดเมหือนจะดับเวลารอบเครื่องยนต์สวิงต่ำ ถ้าเหยียบคันเร่งเครื่องยนต์จะสั่น กระตุก แก้ไขได้แค่ทางเดียว คือ การเปลี่ยนหัวเทียนใหม่เท่านั้น
เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเครื่องยนต์สั่นเกิดขึ้นมา เราควรนำรถยนต์เข้าเช็กระยะที่ศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อได้รับการตรวจสอบที่มีมาตรฐาน รวมถึงการมีความรู้เรื่องรอบเครื่องยนต์ จะเป็นตัวช่วยเราได้อย่างดีเมื่อบอกอาการที่ผิดสังเกตุให้กับช่างผู้เชี่ยวชาญรับทราบ เช่น ถ้าช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำรถยนต์สั่น มีอาการไม่นิ่ง ช่างจะรู้ได้ทันทีว่าควรเริ่มต้นจากจุดไหน แต่ถ้าเราบอกว่ารถยนต์สั่นเฉย ๆ ก็จะเพิ่มความยากในการหาต้นเหตุของปัญหาให้กับช่าง และอาจใช้เวลาในการตรวจสอบนานขึ้นด้วย
เครื่องยนต์มีปัญหาเคลมได้ไหม
ถ้าหากเครื่องยนต์มีปัญหาจากการเกิดอุบัติเหตุ เราสามารถเคลมค่าเสียหายได้อย่างครบถ้วน ตามวงเงินหรือเงื่อนไขกรมธรรม์ของเราแน่นอน แต่ถ้าหากเครื่องยนต์มีปัญหาจากการเสื่อมสภาพ หรือการใช้งานตามปกติ ดังเช่นปัญหาเครื่องยนต์สั่นเมื่อรอบเครื่องยนต์เดินเบา หรือปัญหาอื่น ๆ ที่เรากล่าวมา ล้วนแล้วแต่เป็นอาการเสื่อมสภาพของระบบหรืออุปกรณ์เท่านั้น ประกันรถยนต์จึงไม่สามารถให้ความคุ้มครองได้ คุณต้องเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง ฉะนั้นพยายามตรวจเช็กระยะให้สม่ำเสมอ จะดีที่สุด
แต่เพื่อป้องกันไม่ให้ช่วงเวลาที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เราต้องแบกรับภาระหนักอยู่คนเดียว การเลือกทำประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองได้อย่างครอบคลุม จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะเดินทางในช่วงเวลาไหน ประกันรถยนต์พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งถ้าเลือกประเภทที่มีบริการฉุกเฉินบนท้องถนน ยิ่งช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้หลายเท่าตัว และถ้าหากคุณยังไม่มีคำตอบ เกี่ยวกับการเลือกใช้บริการประกันรถยนต์ของตัวเอง สามารถติดต่อหา แรบบิท แคร์ ได้ที่เบอร์ 1438 (24 ชั่วโมง) เพื่อสอบถามตัวเลือกข้อมูลประกันรถยนต์ และรับข้อเสนอส่วนลดพิเศษสูงสุด 70% หรือผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือน
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย