จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่นำรถเช็กระยะตามกำหนด

ผู้เขียน : คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct

close
linkedin icon
แก้ไขโดย : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
 
Published: January 20,2021
  
Last edited: August 12, 2024
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่นำรถเช็กระยะตามกำหนด

หลายคนสงสัยว่าจำเป็นต้องนำรถเข้าเช็กระยะตามกำหนดไหม ถ้าไม่เช็กระยะจะเกิดปัญหาอะไรบ้างไหมนะ?  วันนี้เรามีคำตอบ

 

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่นำรถเช็กระยะตามกำหนด 

 

ตามหลักแล้ว เราควรจะนำรถไปเช็กระยะทางตามกำหนด มิฉะนั้นจะมีผลกับการรับประกัน หากไม่ทำ นอกจากนี้ ยังเป็นการทำเพื่อเป็นการป้องกันอาการสีกหรอ เสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ ภายในรถยนต์ เพราะหากเดิดอะไรขึ้น จะได้แก้ไขได้ทัน

ดังนั้น การนำรถเข้าเช็กระยะตามกำหนด จึงเป็นอีกหนทางที่ช่วยให้มั่นใจในการใช้รถยนต์ในการขับขี่ให้ปลอดภัยมากขึ้น นั้นเอง 

โดยปกติรถใหม่มีกำหนดการนำรถเข้าศูนย์เพื่อ เช็กระยะ ทุกๆ 6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร จนครบกำหนด เช็กระยะ ตามคู่มือ คือ 100,000 กิโลเมตร และเมื่อนำรถเข้ารับบริการตามกำหนด ทางศูนย์บริการจะทำการตรวจเช็กสภาพรถ 

 

ซึ่งการเช็กระยะแต่ละครั้ง ควรมีการตรวจสอบและเปลี่ยนอะไหล่ต่างๆ เพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์  ซึ่งสิ่งที่ต้องตรวจสอบส่วนต่างๆ เช่น 

 

น้ำมันเครื่อง ล้วนมีอายุการใช้งาน ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจะช่วยให้เครื่องยนต์สะอาดขึ้น ช่วยลดการสึกหรอและทำให้การหล่อลื่นของชิ้นส่วนต่างๆ ดีขึ้น

ไส้กรองระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์, ไส้กรองอากาศแอร์, ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งต่างก็มีกำหนดในการเปลี่ยน เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดการสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิงนั่นเอง

ระดับของเหลวและการรั่วซึมของระบบต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ได้แก่ น้ำมันเกียร์, น้ำมันเฟืองท้าย, น้ำมันเบรก, น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์, น้ำยาหม้อน้ำ, น้ำยาฉีดล้างกระจก เป็นต้น โดยไม่มีสีหรือกลิ่นที่ผิดปกติ และไม่เกิดการรั่วซึมตามท่อทางเดิน

ยางปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจก ว่ายังทำงานปกติ ไม่เสื่อมสภาพ เพราะธรรมชาติของยางปัดน้ำฝน แม้จะไม่ได้ใช้งาน แต่ก็ชำรุดและเสื่อมโทรมได้ ทางที่ดีควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝน ปีละ 1 ครั้ง

ระบบไฟส่องสว่าง เพราะการทำงานของสัญญาณไฟต่าง ถ้ามีความพร้อมในการใช้งาน จะทำให้การขับขี่ราบรื่น และปลอดภัยมากขึ้น

 

สายพานเสื่อมสภาพ

 

สภาพของสายพานว่าไม่มีเสื่อมสภาพ เพราะหากเกิดเสื่อมสภาพ และไม่ทำการเปลี่ยน จะส่งผลทำให้เกิดเสียงดังหรือขาดได้ จึงควรตรวจเช็กให้มีความตึงในระดับที่เหมาะสม พร้อมใช้งานเสมอ

แบตเตอรี่ ควรทำการตรวจสอบว่าแบตเตอรี่ยังอยู่ในสภาพดีสม่ำเสมอ โดยสังเกตจากการสตาร์ทรถ

ระบบเบรก โดยทั่วไปแล้วช่างจะทำการเช็กว่าเบรกยังอยู่ในสภาพดีไหม ความหนาของผ้าเบรกเหลือน้อยแล้วหรือยัง ซึ่งตามมาตรฐานแล้วผ้าเบรกควรเปลี่ยนเมื่อความหนาของผ้าเบรกอยู่ที่ 3 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า ที่สำคัญควรเช็กรอยรั่วซึมของท่อทางน้ำมันเบรก

สภาพยาง ยางที่มีประสิทธิภาพการใช้งานที่เหมาะสม ควรมีความลึกมากกว่า 3 มม. ไม่รั่วซึมหรือเกิดการสึกหรอใดๆ และควรปรับแรงดันลมยางตามมาตรฐานกำหนด 

ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว เพื่อให้รถสามารถทรงตัวได้ดี ทำให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจมากขึ้น โดยช่างจะทำการตรวจสอบการรั่วซึมและการทำงานของโช๊คอัพ การสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ลูกหมาก, ลูกปืนล้อ ยางหุ้มเพลา เป็นต้น

 

จะเห็นได้ว่า การตรวจสภาพรถยนต์นั้น นอกจากจะช่วยในเรื่องการต่อประกันภัยต่างๆ แล้ว ยังช่วยให้การขับขี่นั้นปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

 

อัปเดทรถยนต์ใหม่ ราคาโดน ๆ พร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ต้องนึกถึง one2car.com และ ประกันรถยนต์สุดเจ๋ง จาก Rabbit Care

สนับสนุนบทความดี ๆ โดย Autospinn และติดตามเรื่องรถใหม่ก่อนใคร


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 99055

แคร์รถยนต์

เปลี่ยนยางรถยนต์ ต้องพิจารณาเปลี่ยนตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ใช้เวลาเปลี่ยนนานหรือไม่

พอถึงเวลาที่เราใช้รถไปได้สักระยะ ประมาณ 2-3 ปี คำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนยางรถยนต์ หรือเปลี่ยนล้อรถยนต์จะเริ่มเข้ามากวนใจมากขึ้น ยิ่งถ้ายังเป็นรถยนต์คันแรก
Natthamon
03/02/2025
Rabbit Care Blog Image 99327

แคร์รถยนต์

รถกินน้ำมัน เกิดจากอะไร มีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยประหยัดน้ำมัน

รถกินน้ำมัน สิ่งที่ทำให้เจ้าของรถยนต์ทุกคันต่างก็ต้องกุมขมับเพราะถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเสียทรัพย์ ทั้งค่าน้ำมันที่แพงแสนแพง
Natthamon
23/01/2025
Rabbit Care Blog Image 99317

แคร์รถยนต์

รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง ทำความเข้าใจอีกครั้งในทุกเรื่องที่ควรรู้!

ทุกคนต่างรู้ดีว่าส่วนมากรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง เป็นยานพาหนะที่ถูกใช้งานมากที่สุดบนท้องถนน ถึงแม้จะมีรถยนต์ที่ใช้งานพลังไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาก็ตามที
Natthamon
22/01/2025