ใช้ผ้าคลุมรถดีไหม? ปกป้องรถจากแดดและฝุ่นได้หรือไม่

หลายคนอาจเคยสงสัยว่าการใช้ ผ้าคลุมรถดีไหม โดยเฉพาะเมื่อต้องจอดรถกลางแจ้งท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนแรง หรืออาจจะกังวลว่าการคลุมผ้าจะทำให้รถเป็นรอยหรือไม่ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยและให้ข้อมูลแบบเจาะลึก เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าการใช้ผ้าสำหรับคลุมรถเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าหรือไม่ เราจะพาไปดูข้อดี ข้อเสีย ประเภทของผ้าสำหรับคลุมรถ วิธีการดูแลรักษา รวมถึงตอบคำถามยอดฮิตอย่าง จอดรถตากแดด คลุมผ้าดีไหม และ ผ้าคลุมรถกันแดดได้ไหม เพื่อให้คุณได้เข้าใจและเลือกใช้ผ้าสำหรับคลุมรถได้อย่างถูกต้องเหมาะสมที่สุด

การดูแลรักษารถยนต์คู่ใจ ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษาเครื่องยนต์ การทำความสะอาด หรือการปกป้องสีรถจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป การเลือกใช้ผ้าสำหรับคลุมรถถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันแสงแดดแล้ว ยังช่วยป้องกันฝุ่นละออง รอยขีดข่วน รวมถึงสิ่งสกปรกอื่น ๆ ได้อีกด้วย 

แต่ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อผ้าสำหรับคลุมรถ เรามาทำความเข้าใจถึงข้อดี ข้อเสีย และวิธีการดูแลรักษาผ้าสำหรับคลุมรถให้ถูกต้องกันก่อน เพื่อให้รถของคุณได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่กันดีกว่า

ใช้ผ้าคลุมรถดีไหม? ข้อดีและข้อเสียที่ต้องรู้

การตัดสินใจว่าจะ ใช้ผ้าคลุมรถดีไหม นั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล การทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียของการใช้ผ้าสำหรับคลุมรถ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและมั่นใจยิ่งขึ้น

ข้อดีของการใช้ผ้าสำหรับคลุมรถ

• ปกป้องสีรถจากแสงแดดและความร้อน แสงแดดและความร้อนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สีรถซีดจางและเสื่อมสภาพ การใช้ผ้าสำหรับคลุมรถตากแดดจะช่วยลดความร้อนที่สัมผัสกับตัวรถโดยตรง ทำให้สีรถดูสดใสและเงางามได้นานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อสีรถได้อีกด้วย
  
• ป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง เศษใบไม้ และสิ่งสกปรกต่าง ๆ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากเมื่อต้องจอดรถกลางแจ้ง การคลุมผ้าจะช่วยป้องกันสิ่งเหล่านี้ไม่ให้สัมผัสกับตัวรถโดยตรง ลดความถี่ในการล้างรถ และรักษาความสะอาดของรถได้มากขึ้น
  
• ป้องกันรอยขีดข่วน การคลุมผ้าจะช่วยลดโอกาสที่รถจะเกิดรอยขีดข่วนจากสิ่งต่าง ๆ เช่น กิ่งไม้ เศษหิน หรือแม้แต่จากสัตว์เลี้ยง
  
• ช่วยลดความร้อนภายในรถ แสงแดดที่ส่องเข้ามาในรถจะทำให้อุณหภูมิภายในรถสูงขึ้น การคลุมผ้าจะช่วยลดความร้อนที่สะสมภายในรถ ทำให้เมื่อคุณเข้าไปในรถจะไม่รู้สึกร้อนอบอ้าวมากจนเกินไป
  
• ช่วยรักษาความสะอาดของห้องเครื่อง ผ้าสำหรับคลุมรถบางประเภทสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองหรือน้ำเข้าไปในห้องเครื่องได้ ทำให้ห้องเครื่องสะอาดและลดความเสี่ยงของปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
  
• ป้องกันขี้นก ขี้นกเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนต้องเจอเมื่อจอดรถกลางแจ้ง การคลุมผ้าจะช่วยป้องกันไม่ให้ขี้นกสัมผัสกับสีรถโดยตรง ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาล้างออก และป้องกันสีรถไม่ให้ด่าง
  
• เพิ่มความเป็นส่วนตัว การคลุมผ้าจะช่วยปกปิดภายในรถ ทำให้ผู้ที่เดินผ่านไปมาไม่สามารถมองเห็นสิ่งของมีค่าที่อยู่ภายในรถได้ ช่วยลดความเสี่ยงในการถูกโจรกรรม

ข้อเสียของการใช้ผ้าสำหรับคลุมรถ

• อาจทำให้เกิดรอยขนแมว หากเลือกใช้ผ้าสำหรับคลุมรถที่ไม่ดี หรือคลุมผ้าขณะที่รถสกปรก อาจทำให้เกิดรอยขนแมวบนสีรถได้ ดังนั้นจึงควรเลือกผ้าสำหรับคลุมรถที่ทำจากวัสดุที่อ่อนนุ่ม และทำความสะอาดรถก่อนคลุมผ้าเสมอ
  
• การคลุมผ้าอาจเสียเวลา การคลุมและถอดผ้าสำหรับคลุมรถอาจใช้เวลามากกว่าที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งรีบ
  
• ต้องมีที่จัดเก็บผ้าคลุม เมื่อไม่ได้ใช้งาน จะต้องมีที่จัดเก็บผ้าสำหรับคลุมรถให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกะกะและป้องกันไม่ให้ผ้าคลุมสกปรก
  
• อาจมีปัญหาเรื่องความชื้น หากคลุมผ้าในขณะที่รถยังเปียก อาจทำให้เกิดความชื้นและทำให้เกิดเชื้อราได้ ดังนั้นควรเช็ดรถให้แห้งก่อนคลุมผ้าเสมอ
  
• อาจถูกขโมย ผ้าสำหรับคลุมรถบางชนิดอาจมีราคาแพง ทำให้เป็นที่หมายตาของมิจฉาชีพได้ ดังนั้นควรเลือกผ้าสำหรับคลุมรถที่มีคุณภาพดี และควรมีที่เก็บที่ปลอดภัย

จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าการใช้ผ้าสำหรับคลุมรถนั้นมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย หากเลือกใช้ผ้าสำหรับคลุมรถที่เหมาะสมและดูแลรักษาอย่างถูกต้อง จะช่วยปกป้องรถของคุณได้เป็นอย่างดี

จอดรถตากแดด คลุมผ้าดีไหม? คำถามยอดฮิตที่ต้องตอบ

รถตากแดด ใช้ผ้าคลุมรถดีไหม​? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย และคำตอบก็คือ “คลุมผ้าดีกว่าไม่คลุม” การจอดรถตากแดดโดยไม่มีอะไรป้องกัน จะทำให้รถได้รับผลกระทบจากแสงแดดและความร้อนโดยตรง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อรถของคุณหลายประการ

• ความร้อนสะสม อุณหภูมิภายในรถจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในห้องโดยสาร และส่งผลต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถ เช่น แผงคอนโซล เบาะหนัง หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ นอกจากนี้ความร้อนยังอาจทำให้สารเคมีที่อยู่ในวัสดุต่าง ๆ ระเหยออกมา ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
  
• สีรถซีดจาง แสงแดดโดยเฉพาะรังสี UV เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สีรถซีดจางและเสื่อมสภาพ การจอดรถตากแดดเป็นเวลานานจะทำให้สีรถดูหมองคล้ำ ไม่สดใส และอาจเกิดรอยด่างได้
  
• ยางรถเสื่อมสภาพ ความร้อนจะทำให้ยางรถเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น เนื่องจากยางจะสูญเสียความยืดหยุ่นและอาจเกิดรอยแตกได้
  
• อุปกรณ์ภายในรถเสียหาย ความร้อนที่สะสมในรถอาจทำให้อุปกรณ์ภายในรถ เช่น แบตเตอรี่ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เสียหายได้
  
• ความเสียหายต่อชิ้นส่วนพลาสติก ชิ้นส่วนพลาสติกภายในรถ เช่น แผงคอนโซล หรือแผงประตู อาจกรอบหรือแตกได้เมื่อได้รับความร้อนเป็นเวลานาน

การคลุมผ้าจะช่วยลดผลกระทบจากแสงแดดและความร้อนได้ แม้ว่าจะไม่ได้ป้องกันได้ 100% แต่ก็ช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับรถของคุณได้มากทีเดียว นอกจากนี้ยังช่วยรักษาความสะอาดของรถ และป้องกันรอยขีดข่วนได้อีกด้วย

ปัจจัย	ผลกระทบเมื่อไม่คลุมผ้า	ผลกระทบเมื่อคลุมผ้า
แสงแดดและความร้อน	สีรถซีดจาง, ความร้อนสะสมในรถ, ยางรถเสื่อมสภาพ, อุปกรณ์ภายในเสียหาย	ลดความร้อนสะสม, ปกป้องสีรถจากรังสี UV, ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ
ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก	ฝุ่นเกาะติดรถ, ต้องล้างรถบ่อย	ป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก, ลดความถี่ในการล้างรถ
รอยขีดข่วน	รถเป็นรอยจากกิ่งไม้ เศษหิน หรือสัตว์เลี้ยง	ป้องกันรอยขีดข่วน
ขี้นก	อาจทำให้สีรถด่าง	ป้องกันขี้นกไม่ให้สัมผัสสีรถ
ความเป็นส่วนตัว	ภายในรถถูกมองเห็นได้ง่าย	เพิ่มความเป็นส่วนตัว ป้องกันการโจรกรรม
ความชื้น (เมื่อคลุมขณะรถยังเปียก)	อาจทำให้เกิดเชื้อรา	หากคลุมขณะรถแห้ง ไม่มีปัญหาเรื่องความชื้น แต่ต้องทำความสะอาดผ้าคลุมเป็นประจำเพื่อป้องกันเชื้อรา
การดูแลรักษาผ้าคลุม	ต้องดูแลรักษาและทำความสะอาด	ต้องดูแลรักษาและทำความสะอาด

ข้อควรระวังในการคลุมผ้า

• เช็ดรถให้แห้งก่อนคลุม หากคลุมผ้าขณะที่รถยังเปียก อาจทำให้เกิดความชื้นและทำให้เกิดเชื้อราได้
  
• เลือกผ้าคลุมที่เหมาะสม ควรเลือกผ้าสำหรับคลุมรถที่ทำจากวัสดุที่อ่อนนุ่ม และมีขนาดที่พอดีกับรถ
  
• ทำความสะอาดผ้าคลุมสม่ำเสมอ ควรทำความสะอาดผ้าสำหรับคลุมรถเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกสะสม
  
• ระมัดระวังในการคลุมและถอด ควรคลุมและถอดผ้าสำหรับคลุมรถอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนบนสีรถ

ดังนั้นหากคุณต้องจอดรถตากแดดเป็นประจำ การคลุมผ้าถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการไม่คลุมแน่นอน แต่ก็ต้องเลือกใช้ผ้าคลุมที่เหมาะสมและดูแลรักษาอย่างถูกต้องด้วย

ผ้าคลุมรถกันแดดได้ไหม​? คุณสมบัติที่ควรรู้

ผ้าคลุมรถกันแดดได้ไหม​? คำตอบคือ “ได้” แต่ต้องเลือกผ้าสำหรับคลุมรถที่มีคุณสมบัติในการกันแดดโดยเฉพาะ ซึ่งผ้าสำหรับคลุมรถที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกันจะมีคุณสมบัติในการกันแดดที่แตกต่างกันไปด้วย

คุณสมบัติของผ้าสำหรับคลุมรถที่ช่วยกันแดด

• วัสดุ : ผ้าสำหรับคลุมรถที่ทำจากวัสดุที่มีความหนาแน่นสูง เช่น โพลีเอสเตอร์ หรือไวนิล จะสามารถกันแดดได้ดีกว่าผ้าสำหรับคลุมรถที่ทำจากวัสดุที่บางกว่า นอกจากนี้ผ้าสำหรับคลุมรถบางประเภทจะมีการเคลือบสารป้องกัน UV เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกันแดด
  
• สี : ผ้าสำหรับคลุมรถสีอ่อน เช่น สีขาว สีเงิน หรือสีเทา จะช่วยสะท้อนความร้อนได้ดีกว่าผ้าสำหรับคลุมรถสีเข้ม เช่น สีดำ หรือสีน้ำเงิน เพราะสีเข้มจะดูดความร้อน ทำให้ผ้าคลุมและรถมีอุณหภูมิสูงขึ้น
  
• ความหนา : ผ้าสำหรับคลุมรถที่หนาจะช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้ดีกว่าผ้าสำหรับคลุมรถที่บาง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนจากแสงแดดสัมผัสกับตัวรถโดยตรง
  
• การเคลือบสาร : ผ้าสำหรับคลุมรถบางประเภทจะมีการเคลือบสารป้องกัน UV หรือสารสะท้อนความร้อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกันแดดได้มากขึ้น

ผ้าสำหรับคลุมรถที่เหมาะกับการกันแดด

• ผ้าสำหรับคลุมรถแบบไวนิล ผ้าสำหรับคลุมรถชนิดนี้มีความทนทาน กันน้ำ กันแดดได้ดี แต่มีน้ำหนักมากและระบายอากาศไม่ดี
  
• ผ้าสำหรับคลุมรถแบบโพลีเอสเตอร์ ผ้าสำหรับคลุมรถชนิดนี้มีน้ำหนักเบา กันแดดได้ดี ระบายอากาศได้ปานกลาง แต่ไม่กันน้ำ
  
• ผ้าสำหรับคลุมรถแบบ PEVA ผ้าสำหรับคลุมรถชนิดนี้ราคาถูก กันน้ำ กันแดดได้ดี แต่ไม่ทนทานและระบายอากาศไม่ดี

ข้อควรระวังในการใช้ผ้าสำหรับคลุมรถ

• ผ้าสำหรับคลุมรถที่ไม่กันแดด ผ้าสำหรับคลุมรถบางประเภท เช่น ผ้าสำหรับคลุมรถที่ทำจากผ้าฝ้าย หรือผ้าสปันบอนด์ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกันแดดโดยเฉพาะ ดังนั้นหากต้องการผ้าสำหรับคลุมรถที่กันแดดได้จริง ควรเลือกผ้าสำหรับคลุมรถที่ทำจากวัสดุที่กล่าวมาข้างต้น
  
• ผ้าสำหรับคลุมรถที่เสื่อมสภาพ เมื่อใช้ผ้าสำหรับคลุมรถไปนาน ๆ อาจทำให้ผ้าคลุมเสื่อมสภาพ คุณสมบัติในการกันแดดอาจลดลง ดังนั้นควรตรวจสอบผ้าสำหรับคลุมรถเป็นประจำ และเปลี่ยนเมื่อผ้าคลุมเสื่อมสภาพ
  
• ผ้าสำหรับคลุมรถสีเข้ม ถึงแม้ผ้าสำหรับคลุมรถสีเข้มจะมีความสวยงาม แต่ผ้าสำหรับคลุมรถสีเข้มจะดูดความร้อนมากกว่าผ้าสำหรับคลุมรถสีอ่อน ทำให้รถมีอุณหภูมิสูงขึ้นได้

การเลือกผ้าสำหรับคลุมรถที่เหมาะสมกับการใช้งาน จะช่วยป้องกันแสงแดดและความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นควรศึกษาคุณสมบัติของผ้าสำหรับคลุมรถแต่ละประเภทก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้ผ้าสำหรับคลุมรถที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด

ล้างผ้าคลุมรถ​ ทำอย่างไร? การดูแลรักษาที่ถูกวิธี

การดูแลรักษา ผ้าสำหรับคลุมรถ ให้สะอาดอยู่เสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม การปล่อยให้ผ้าสำหรับคลุมรถสกปรกไม่เพียงแต่จะทำให้ผ้าคลุมดูไม่น่าใช้ แต่ยังอาจเป็นสาเหตุให้เกิดรอยขีดข่วนบนสีรถได้อีกด้วย ดังนั้นการ ล้างผ้าคลุมรถ​ อย่างถูกวิธี จึงเป็นสิ่งที่เราควรใส่ใจ

ขั้นตอนการล้างผ้าคลุมรถ

1. เตรียมอุปกรณ์ เตรียมน้ำสะอาด, น้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาทำความสะอาดผ้าสำหรับคลุมรถ, แปรงขนนุ่ม, และถังสำหรับแช่ผ้า
   
2. สลัดฝุ่นและสิ่งสกปรก ก่อนล้าง นำผ้าสำหรับคลุมรถมาสลัดเบาๆ เพื่อเอาเศษฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ออกให้ได้มากที่สุด
   
3. แช่ผ้าคลุม นำผ้าสำหรับคลุมรถแช่ในน้ำที่ผสมน้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาทำความสะอาดผ้าคลุมรถ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้คราบสกปรกหลุดออกง่ายขึ้น
   
4. ขัดเบา ๆ ใช้แปรงขนนุ่มขัดเบาๆ บริเวณที่มีคราบสกปรกฝังแน่น ระวังอย่าใช้แปรงที่แข็งเกินไป เพราะอาจทำให้ผ้าคลุมเสียหายได้
   
5. ล้างน้ำสะอาด ล้างผ้าคลุมรถด้วยน้ำสะอาดจนหมดฟอง และไม่เหลือน้ำยาซักผ้า
   
6. ตากให้แห้ง นำผ้าคลุมรถไปตากในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด เพราะอาจทำให้ผ้าคลุมเสื่อมสภาพได้ ควรตากให้แห้งสนิทก่อนนำไปใช้ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา
   
7. จัดเก็บให้เรียบร้อย เมื่อผ้าคลุมรถแห้งสนิทแล้ว ควรพับหรือม้วนเก็บให้เรียบร้อย ไม่ควรทิ้งไว้ในที่ที่มีความชื้น

เคล็ดลับในการดูแลรักษาผ้าคลุมรถ

• หลีกเลี่ยงการซักผ้าคลุมรถด้วยเครื่องซักผ้า การซักผ้าคลุมรถด้วยเครื่องซักผ้า อาจทำให้ผ้าคลุมเสียรูปทรง หรือทำให้เกิดความเสียหายได้ ควรซักด้วยมือจะดีกว่า
  
• ไม่ควรใช้น้ำยาฟอกขาว น้ำยาฟอกขาวอาจทำให้สีของผ้าคลุมรถซีดจางได้
  
• ไม่ควรใช้น้ำร้อน น้ำร้อนอาจทำให้ผ้าคลุมรถหดตัวหรือเสียรูปทรงได้
  
• ควรซักผ้าคลุมรถอย่างสม่ำเสมอ ควรซักผ้าคลุมรถอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือเมื่อเห็นว่าผ้าคลุมสกปรก เพื่อรักษาความสะอาดและยืดอายุการใช้งาน
  
• ตรวจสอบสภาพผ้าคลุมรถ ควรตรวจสอบสภาพผ้าคลุมรถเป็นประจำ หากพบว่าผ้าคลุมชำรุด หรือมีรอยขาด ควรเปลี่ยนใหม่ทันที

การดูแลรักษาผ้าคลุมรถอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผ้าคลุมรถของคุณสะอาดและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้ผ้าคลุมรถเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณได้

ผ้าคลุมรถ มีกี่ประเภท? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งาน

ผ้าคลุมรถ มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งาน ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของผ้าคลุมรถ จะช่วยให้คุณเลือกซื้อผ้าคลุมรถที่เหมาะสมกับความต้องการและลักษณะการใช้งานของคุณได้มากยิ่งขึ้น

ประเภทของผ้าคลุมรถ

ผ้าคลุมรถแบบผ้า​ (Fabric Cover)

• คุณสมบัติ : ทำจากวัสดุที่หลากหลาย เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือผ้าสปันบอนด์ มีน้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี ราคาไม่แพง
• ข้อดี : น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ราคาถูก ระบายอากาศได้ดี
• ข้อเสีย : ไม่กันน้ำ ไม่ทนทาน ไม่กันแดดได้ดีเท่าวัสดุอื่น ๆ
• เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการผ้าคลุมรถราคาประหยัด ใช้คลุมรถในที่ร่ม หรือใช้คลุมรถเพื่อป้องกันฝุ่นละออง

ผ้าคลุมรถแบบไวนิล (Vinyl Cover)

• คุณสมบัติ : ทำจากวัสดุไวนิล มีความหนาแน่นสูง ทนทาน กันน้ำ กันแดดได้ดี
• ข้อดี : ทนทาน กันน้ำ กันแดดได้ดี ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี
• ข้อเสีย : น้ำหนักมาก ระบายอากาศไม่ดี ราคาแพงกว่าผ้าคลุมรถแบบผ้า
• เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการผ้าคลุมรถที่ทนทาน ป้องกันแสงแดดและน้ำฝนได้ดี

ผ้าคลุมรถแบบโพลีเอสเตอร์ (Polyester Cover)

• คุณสมบัติ : ทำจากวัสดุโพลีเอสเตอร์ มีน้ำหนักเบา กันแดดได้ดี ระบายอากาศได้ปานกลาง
• ข้อดี : น้ำหนักเบา กันแดดได้ดี ระบายอากาศได้ดีกว่าผ้าคลุมรถแบบไวนิล ราคาปานกลาง
• ข้อเสีย : ไม่กันน้ำ
• เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการผ้าคลุมรถที่กันแดดได้ดี และมีน้ำหนักเบา

ผ้าคลุมรถแบบ PEVA (Polyethylene Vinyl Acetate Cover)

• คุณสมบัติ : ทำจากวัสดุ PEVA เป็นพลาสติกชนิดหนึ่ง มีราคาถูก กันน้ำได้ดี กันแดดได้ปานกลาง
• ข้อดี : ราคาถูก กันน้ำ กันแดดได้ปานกลาง
• ข้อเสีย : ไม่ทนทาน ระบายอากาศไม่ดี อาจทำให้เกิดความชื้นสะสมได้
• เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการผ้าคลุมรถราคาประหยัด และใช้คลุมรถเพื่อป้องกันน้ำฝน

ผ้าคลุมรถแบบหลายชั้น (Multi-Layer Cover)

• คุณสมบัติ : ทำจากวัสดุหลายชนิด มีคุณสมบัติในการกันน้ำ กันแดด กันรอยขีดข่วน และระบายอากาศได้ดี
• ข้อดี : ป้องกันได้รอบด้าน มีความทนทานสูง
• ข้อเสีย : ราคาสูงกว่าผ้าคลุมรถประเภทอื่น ๆ
• เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการผ้าคลุมรถที่มีคุณภาพสูง และต้องการการปกป้องรถอย่างเต็มที่

ประเภทของผ้าคลุมรถตามส่วนของรถ

• ผ้าคลุมหลังคารถ​

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นการป้องกันเฉพาะส่วนหลังคา ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดดและความร้อนมากที่สุด

• ผ้าคลุมฝากระโปรงรถ​

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นการป้องกันเฉพาะส่วนฝากระโปรง ซึ่งเป็นส่วนที่อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย

• ผ้าคลุมกระโปรงหน้ารถ​

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นการป้องกันเฉพาะส่วนกระโปรงหน้ารถ ซึ่งเป็นส่วนที่อาจได้รับความเสียหายจากเศษหิน หรือสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย

ตารางเปรียบเทียบประเภทผ้าคลุมรถ

ประเภทผ้าคลุมรถ	วัสดุหลัก	การกันแดด	การกันน้ำ	การระบายอากาศ	ความทนทาน	ราคา
ผ้าคลุมรถแบบผ้า	ผ้าฝ้าย, โพลีเอสเตอร์, สปันบอนด์	ต่ำ	ต่ำ	สูง	ต่ำ	ต่ำ
ผ้าคลุมรถแบบไวนิล	ไวนิล	ดี	ดี	ต่ำ	ดี	สูง
ผ้าคลุมรถแบบโพลีเอสเตอร์	โพลีเอสเตอร์	ดี	ปานกลาง	ปานกลาง	ปานกลาง	ปานกลาง
ผ้าคลุมรถแบบ PEVA	PEVA	ปานกลาง	ดี	ต่ำ	ต่ำ	ต่ำ
ผ้าคลุมรถแบบหลายชั้น	วัสดุหลายชนิด	ดี	ดี	ดี	ดี	สูง

คำแนะนำในการเลือกผ้าคลุมรถ

• พิจารณาจากสภาพอากาศ หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีแดดจัดและฝนตกบ่อย ควรเลือกผ้าคลุมรถที่กันแดดและกันน้ำได้ดี
  
• พิจารณาจากงบประมาณ ผ้าคลุมรถมีหลายราคา ควรเลือกผ้าคลุมรถที่อยู่ในงบประมาณของคุณ และมีคุณภาพที่เหมาะสมกับการใช้งาน
  
• พิจารณาจากความสะดวกในการใช้งาน หากคุณต้องการผ้าคลุมรถที่พกพาสะดวก ควรเลือกผ้าคลุมรถที่มีน้ำหนักเบา
  
• อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง การอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง จะช่วยให้คุณทราบถึงข้อดีข้อเสียของผ้าคลุมรถแต่ละประเภท และช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น

การเลือกผ้าคลุมรถที่เหมาะสม จะช่วยปกป้องรถของคุณจากสภาพอากาศและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานของรถคุณให้ยาวนานขึ้น

การใช้ผ้าคลุมรถตากแดด​เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการดูแลรักษารถยนต์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันแสงแดด ความร้อน ฝุ่นละออง รอยขีดข่วน หรือแม้แต่ขี้นก แต่การเลือกใช้ผ้าคลุมรถที่เหมาะสมกับการใช้งาน และดูแลรักษาผ้าคลุมรถอย่างถูกวิธีก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์จากการใช้ผ้าคลุมรถอย่างเต็มที่

หากคุณต้องจอดรถกลางแจ้งเป็นประจำ การลงทุนกับผ้าคลุมรถที่ดีและมีคุณภาพ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพื่อรักษารถยนต์คู่ใจของคุณให้ดูดีและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นดูแลรถยนต์คู่ใจให้มากขึ้น ด้วยการทำประกันรถยนต์กับ แรบบิท แคร์ ที่มาพร้อมกับบริการเปรียบเทียบประกันรถได้เอง มีตั้งแต่ ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 3+ หรือจะ ต่อ พ.ร.บ. ก็ทำได้ง่าย ๆ ที่นี้ คลิกเลย!