พาดูขั้นตอนการประกอบรถยนต์จากโรงงาน ทำไมถึงนาน ต้องแยกไปทั้งหมดกี่แผนก
เคยสงสัยไหมว่าในยุคสมัยปัจจุบันขั้นตอนการประกอบรถยนต์ส่วนใหญ่ ต้องทำอะไรบ้างในแต่ละส่วน เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมได้มีการพัฒนาไปถึงจุดไหนแล้ว เดี๋ยว แรบบิท แคร์ จะลองมาอัปเดตความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการประกอบรถยนต์ให้ได้อ่านกันโดยละเอียด รวมถึงการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับหุ่นยนต์ประกอบรถยนต์ ผู้ช่วยชั้นยอดที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากภายในโรงงานประกอบรถยนต์ นอกเหนือจากนั้นจะพาไปชมข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมแผนกในโรงงาน ไปจนถึงประเภทของชิ้นส่วนที่ใช้ในการประกอบอีกต่างหาก ใครที่สนใจเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ สามารถเลื่อนลงไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย
6 ขั้นตอนในการประกอบรถยนต์
ขั้นตอนในการประกอบรถยนต์โดยเบื้องต้นแล้วจะมีทั้งหมด 6 ขั้นตอนสำคัญ คือ 1.ตรวจสอบตำแหน่งถาดพาเลท, 2.เซ็นเซอร์ตรวจสอบและแยกสี, 3.ตรวจสอบจำนวนและขนาดของส่วนประกอบรถยนต์, 4.ตรวจสอบตำแหน่งของวัตถุ, 5.ควบคุมขนส่งอัตโนมัติ และ 6.ตรวจเช็กรุ่นของชิ้นส่วนรถยนต์ หากเห็นเพียงแค่หัวข้อของขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวมา เราอาจจินตนาการกันไม่ออกเลยว่าทำอะไรบ้างในแต่ละส่วน ดังนั้นลองมาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันจากหัวข้อย่อยต่อจากนี้ดีกว่า
1. ตรวจสอบตำแหน่งของถาดพาเลท
การตรวจสอบตำแหน่งของถาดพาเลท เป็นขั้นตอนแรกของการประกอบรถยนต์ ที่ใช้งานเซ็นเซอร์คุณภาพในการตรวจจับ เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำตำแหน่งของถาดพาเลท ให้อยู่ในจุดต่าง ๆ ที่สอดคล้องต่อกระบวนการผลิตทั้งหมด โดยเซ็นเซอร์จะถูกติดตั้งเอาไว้ที่ใต้พื้นโรงงาน เพือให้สามารถตรวจสอบถาดพาเลทได้อย่างครอบคลุมนั่นเอง
อธิบายเพิ่มเติม ถาดพาเลทในที่นี้หมายถึงแพลตฟอร์มที่ใช้ในการขนย้ายชิ้นส่วนสำหรับประกอบรถยนต์ ไปตามสายพานหรือขั้นตอนการผลิตรถยนต์ภายในโรงงาน ซึ่งหากถาดพาเลทไม่อยู่ในตำแหน่งที่ตรงกับเครื่องประกอบชิ้นถัดไป อาจส่งผลให้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดได้
2. เซ็นเซอร์ตรวจสอบและแยกสี
ใช้เซ็นเซอร์ตรวจสอบและแยกสี ช่วยป้องกันความผิดพลาดทั้งภายในระบบของการประกอบรถยนต์ และยังช่วยลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดของมนุษย์ได้ด้วย ส่วนกระบวนการนี้จะนำแผงเซ็นเซอร์เข้าไปติดยังชิ้นส่วนนั้น ๆ เพื่อช่วยตรวจสอบสีที่ถูกต้อง ทั้งนี้ความสามารถของตัวเซ็นเซอร์ สามารถตรวจสอบได้อย่างละเอียดมาก แม้จะมีสภาวะการเปลี่ยนแปลงของแสง ก็ยังตรวจสอบได้แม่นยำอยู่ดี
3. ตรวจสอบจำนวนและขนาดของส่วนประกอบรถยนต์
ตรวจสอบจำนวนและขนาดของส่วนประกอบรถยนต์ ด้วยการใช้งานเซนเซอร์แสงแบบกริด ซึ่งครอบคลุมพื้จที่การตรวจสอบที่กว้างขวาง ช่วยให้โรงงานสามารถเช็กข้อมูลเบื้องต้นได้รวดเร็ว และประหยัดอย่างมากเลยทีเดียว
4. ตรวจสอบตำแหน่งของวัตถุ
ตรวจสอบตำแหน่งของวัตถุจากการมใช้งานเซ็นเซอร์ตรวจจับระยะห่าง เพื่อดูมาตรฐานว่าชิ้นส่วนไหนมีความสูงมากกว่ากำหนดหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวเซ็นเซอร์นี้มีความสามารถในการตรวจสอบขนาด, รูปร่าง และวัดความหนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้แต่วัตถุขนาดเล็กก็ยังตรวจสอบได้เช่นเดียวกัน
5. ควบคุมขนส่งอัตโนมัติ
ควบคุมขนส่งอัตโนมัติในที่นี้ จะมีการใช้งานระบบ RFID สำหรับสายงานอุตสาหกรรม เพื่อสร้างเสถียรภาพในการขนส่งชิ้นส่วนอุปกรณ์สำหรับประกอบรถยนต์ ไปยังจุดต่าง ๆ ภายในโรงงานอย่างแม่นยำ ช่วยให้สามารถดำเนินการประกอบรถยนต์ได้ต่อเนื่อง โดยที่ไม่เกิดความผิดพลาดจากการขนส่งชิ้นส่วน
6. ตรวจเช็กรุ่นของชิ้นส่วนรถยนต์
ตรวจเช็กรุ่นของชิ้นส่วนรถยนต์ด้วยระบบกล้อง ช่วยให้สายพานการประกอบรถยนต์นั้นมีความถูกต้อง แม่นยำ ว่ารุ่นของชิ้นส่วนต่าง ๆ ถูกส่งขึ้นไปประกอบอย่างถูกต้องตามสเปกของรถยนต์แต่ละรุ่น
หากดูภาพรวมการประกอบรถยนต์ทั้งหมดที่เรากล่าวมา ถือว่ามีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้งานในทุกด้าน ลดทอนการทำงานของมนุษย์เหลือเพียงแค่การควบคุมเครื่องจักร ให้สามารถทำงานได้ตรงตามขั้นตอนการประกอบอย่างครบถ้วน และถูกต้องเท่านั้นเอง
ประเภทของชิ้นส่วนประกอบรถยนต์
ประเภทชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ จะแบ่งได้ประมาณ 3 ประเภทย่อย คือ ชิ้นส่วนที่ผลิตจากโลหะ, ผลิตจากพลาสติก และชิ้นส่วนระบบไฟฟ้า แต่ละประเภทจะอยู่ในกระบวนการประกอบรถยนต์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับประเภทชิ้นที่กล่าวมา จะมีดังลิสต์รายการต่อไปนี้
- ชิ้นส่วนที่ผลิตจากโลหะ เช่น บานประตู ฝากระโปรง ตัวถังรถยนต์ เป็นต้น
- ชิ้นส่วนที่ผลิตจากพลาสติก มักจะเป็นชิ้นส่วนที่อยู่ภายในห้องโดยสารตามจุดต่าง ๆ มีขนาดตั้งแต่ใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็กมาก
- ชิ้นส่วนระบบไฟฟ้า ที่เป็นหัวใจหลักในการทำงานของรถยนต์ ตั้งแต่ผู้ผลิตสายไฟ เซมิคอนดัคเตอร์ ไปจนถึงระบบควบคุมต่าง ๆ ภายใน
ลองหลับตาแล้วจินตนาการถึงชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในรถยนต์ หรือเดินไปดูที่รถยนต์ของคุณเองเลยก็ได้ว่าชิ้นส่วนแต่ละประเภทในการประกอบรถยนต์ มีอยู่ที่จุดไหนบ้าง เท่านี้ก็คงจะมองเห็นถึงความละเอียดในขั้นตอนทั้งหมดอย่างชัดเจน นั่นจึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้การประกอบรถยนต์ที่ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือมากมาย ก็ยังคงกินเวลาที่ค่อนข้างนาน เพื่อแลกมาด้วยความละเอียด รอบคอบ และมีประสิทธิภาพสูง
ภาพรวมแผนกในการประกอบรถยนต์
แผนกในการประกอบรถยนต์จะมีอยู่ทั้งหมด 5 แผนกหลัก คือ แผนกขึ้นรูปตัวถังรถยนต์, แผนกประกอบตัวถังรถยนต์, แผนกสี, แผนกประกอบเครื่องยนต์ และแผนกประกอบขั้นสุดท้าย โดยในแต่ละแผนก็จะมีหน้าที่รวมถึงขั้นตอนการทำงานร่วมกับเครื่องจักรที่ไม่เหมือนกัน ดังนี้
- แผนกขึ้นรูปตัวถังรถยนต์ ดำเนินการผลิตชิ้นส่วนตัวถังของรถยนต์ทั้งชิ้นส่วน ภายนอกและภายใน ซึ่งจะนำโลหะอันเป็นส่วนประกอบรถยนต์หลัก มาขึ้นรูปด้วยเครื่องจักรภายในโรงงาน พร้อมด้วยหุ่นยนต์ประกอบรถยนต์ที่จะมีติดตั้งไว้ช่วยยก หรือจับส่วนประกอบ
- แผนกประกอบตัวถังรถยนต์ มีหน้าที่นำโครงสร้างตัวถังที่มาจากแผนกขึ้นรูป ไปเข้าจุดเชื่อมภายในโรงงานเพื่อให้ออกมาเป็นโครงรถยนต์ในแต่ละรุ่น
- แผนกสี ต้องดำเนินการล้างทำความสะอาด ชุบสีกันสนิม ปิดร่องรอยกันน้ำรั่ว เตรียมผิวแล้วจัดการพ่นสีต่อไป
- แผนกประกอบเครื่องยนต์ จะมีหน้าที่ในการประกอบเครื่องยนต์เพื่อใช้งานในรถแต่ละรุ่น ทั้งยังต้องรับหน้าที่ในการทดสอบเบื้องต้นด้วย
- แผนกประกอบขั้นสุดท้าย ทำการประกอบชิ้นส่วนที่เหลือทั้งหมด คือ ภายในห้องโดยสาร, ช่วงล่าง, นำเครื่องยนต์ติดตั้ง, ประกอบขั้นสุดท้าย และตรวจเช็กทั้งหมด เพื่อทำการตรวจสอบความเรียบร้อยและแก้ไขหากมีจุดบกพร่อง
ในสมัยก่อนแต่ละแผนกในการประกอบรถยนต์ อาจมีช่างผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงพนักงานช่างทั่วไปที่จะเข้ามาดูแลช่วยเหลือในการประกอบแต่ละส่วน แต่ด้วยตอนนี้มีเทคโนโลยีที่เรียกว่า หุ่นยนต์ประกอบรถยนต์ หรือแขนกลเข้ามาช่วยเหลือในส่วนต่าง ๆ ทำให้บทบาทของเจ้าหน้าที่ลดน้อยลง เน้นไปที่ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลควบคุมคุณภาพ และควบคุมเครื่องจักรทั้งหมดเป็นหลัก
หุ่นยนต์ประกอบรถยนต์ คือ อะไร
หุ่นยนต์ประกอบรถยนต์ คือ แขนกลที่เข้ามาทำหน้าทดแทนมนุษย์ในส่วนต่าง ๆ เช่น การป้อนงานให้เครื่องจักร, การตรวจสอบ, และการประกอบชิ้นส่วนในระบบขับเคลื่อน เป็นต้น ยิ่งตัวหุ่นยนต์ประกอบรถยนต์มีความอัจฉริยะมากเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้มีขอบเขตการทำงานที่สูงขึ้น พร้อมช่วยให้กระบวนการภายในโรงงานสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มผลผลิต ลดโอกาสการเกิด Human Error และด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่รวดเร็ว หุ่นยนต์ประกอบรถยนต์บางตัว จะมีความยืดหยุ่นที่สูง สามารถทำงานได้หลายประเภท ช่วยให้โรงงานประกอบรถยนต์ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว
กว่าการประกอบรถยนต์จะเสร็จสิ้น แล้วออกมาเป็นรถยนต์คันโปรดของเราได้หนึ่งคัน ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน วางเงินจองแล้วกว่าจะได้เจอกัน ก็ต้องใช้เวลา ดังนั้นเรามาดูแลรถยนต์ของเราให้ดูที่สุดกันดีกว่า ตั้งแต่การทำความสะอาด ไปจนถึงการเลือกใช้ประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อการคุ้มครองที่ครอบคลุมต่อทุกความต้องการ หากใครที่ยังตัดสินใจเรื่องประกันรถยนต์ไม่ได้ แรบบิท แคร์ ยินดีให้คำปรึกษาอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้เฉพาะด้าน เพียงติดต่อเข้ามาที่เบอร์ 1438 (โทรได้ตลอดเวลา) และสอบถามในสิ่งที่ต้องการ หากตัดสินใจซื้อประกันที่ แรบบิท แคร์ เรายินดีมอบส่วนลดสุดพิเศษให้สูงสุดถึง 70% เลยทีเดียว!
สรุป
บทความนี้นำเสนอภาพรวมเกี่ยวกับกระบวนการประกอบรถยนต์ในยุคปัจจุบัน โดยแบ่งขั้นตอนสำคัญออกเป็น 6 ขั้นตอน เช่น การตรวจสอบตำแหน่งถาดพาเลท การแยกสี และการตรวจสอบชิ้นส่วนต่างๆ ด้วยเซ็นเซอร์และระบบอัตโนมัติ รวมถึงอธิบายถึงบทบาทสำคัญของหุ่นยนต์ประกอบรถยนต์ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความผิดพลาดในโรงงาน นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงประเภทของชิ้นส่วนที่ใช้ในการประกอบ เช่น ชิ้นส่วนโลหะ พลาสติก และระบบไฟฟ้า รวมถึงภาพรวมของแผนกในโรงงานที่มีหน้าที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การขึ้นรูปตัวถังจนถึงการประกอบขั้นสุดท้าย โดยเทคโนโลยีและนวัตกรรมช่วยลดการพึ่งพามนุษย์ และทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น สุดท้ายบทความยังแนะนำการดูแลรถยนต์หลังจากผลิตเสร็จ พร้อมโปรโมตบริการประกันรถยนต์จาก Rabbit Care ที่ให้คำปรึกษาและส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้า
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย