แคร์รถยนต์

7 สัญญาณเตือน รถมีอาการแบบนี้ต้องรีบเข้าอู่!

ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ

ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี

close
Facebook iconIG iconlinkedin iconYoutube icon
แก้ไขโดย : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
 
Published: December 21,2018
  
Last edited: August 11, 2024
ซ่อมรถ_1

คุณกำลังใช้รถมือสองอยู่หรือเปล่า? ถ้าใช่! รีบสังเกตอาการเหล่านี้ดูให้ดี ถ้าหากมีข้อใดข้อหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งข้อขึ้นไป รีบนำรถเข้าอู่ซ่อมเพื่อให้ช่างดูโดยด่วน!!

7 สัญญาณบอก รถมีอาการแบบนี้ต้องรีบเข้าอู่!

ซ่อมรถ_3

1.พวงมาลัยหนัก

พวงมาลัยหนักหรือต้องใช้แรงมากผิดปกติในการบังคับเลี้ยว หรือบางทีอาจจะหลวมจนเกิน หรือพวงมาลัยสั่นในขณะขับรถหรือเปล่า ถ้าใช่รีบนำรถเข้าศูนย์บริการตามยี่ห้อรถที่ใช้ทันที

2.เกียร์

เพราะเกียร์ทำหน้าที่เปลี่ยนแรงบิดของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับความเร็ว สัญญาณที่จะบอกว่า เกียร์ของคุณมีปัญหาแล้วก็คือ เกียร์มีเสียงดังขณะเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่ง เปลี่ยนเกียร์ยาก คลัตช์มีเสียงดังเมื่อคุณเหยียบแป้น หรือคลัทช์มีอาการสั่นขึ้นๆ ลงๆ ขณะที่กำลังขับอยู่

3.ยาง

สังเกตยางรถยนต์ของตัวเองให้ดีนะคะว่า ดอกยางตรงกลางล้อนั้นมีอาการสึกหรอมากกว่าขอบหรือเปล่า ถ้าใช่นั่นแสดงว่าคุณเติมลมแข็งจนเกินไป หรือดอกยางขอบล้อสึกหรอกว่าตรงกลางหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือใช่ แสดงว่าเติมลมอ่อนจนเกินไป แต่ถ้าดูแล้วดอกยางเป็นบั้งๆ นั่นแสดงว่าแนวของยางเริ่มไม่ขนานกับแนวเคลื่อนที่ของรถแล้วล่ะค่ะ แนะนำให้นำรถเข้าอู่เพื่อตั้งศูนย์ล้อเพื่อปรับแรงดันลมยางใหม่

4.น้ำมันหล่อลื่น

ถ้าคุณขับรถแล้วพบว่า มีสัญญาณไฟเตือนน้ำมันหล่อลื่นสว่างขึ้นละก็ ให้ทราบไว้เลยนะคะว่า รถของคุณกำลังขับเคลื่อนโดยปราศจากน้ำมันหล่อลื่นอยู่ อย่าคิดว่าไม่เป็นไรแล้วยังขับต่อไปโดยไม่รีบนำซ่อม แนะนำให้รีบหาอู่ที่ใกล้ที่สุดโดยทันทีค่ะ แต่ถ้าอยากจะเข้าอู่ที่รู้ใจและเชื่อใจแต่ดันอยู่ไกลล่ะก็ วิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็คือ ให้เติมน้ำมันเครื่องใส่ลงในถังน้ำมันหล่อลื่นไปก่อนค่ะ

ซ่อมรถ_2

5.เบรก

เบรก ส่วนประกอบสำคัญของรถที่คุณต้องสังเกตดูให้ดี ลองดูสิคะว่า เบรกลื่น หยุดไม่อยู่ทั้งๆ ที่ไม่ได้ลุยน้ำหรือเปล่า หรือเบรกแล้วปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง แป้นเบรกจมลึกทั้งๆ ที่ถอนเท้าออกมาแล้วหรือไม่ ถ้ามีอาการตามที่กล่าวมาแล้วล่ะก็ รีบนำรถเข้าอู่ซ่อมโดยทันทีค่ะ

6.หลอดไฟ

หลอดไฟรถยนต์ที่ใช้อยู่ขาดบ่อยหรือเปล่าคะ หรือต้องเติมน้ำกลั่นหม้อแบตเตอรี่บ่อยเกินไปหรือเปล่า ถ้าใช่ แสดงว่า “เรกกูเลเตอร์” หรืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ควบคุมกระแสไฟให้เหมาะสมนั้นชำรุด ให้รีบนำรถเข้าอู่เพื่อซ่อมอุปกรณ์ดังกล่าวทันที หรือถ้าหากชำรุดละก็ แนะนำให้เปลี่ยนใหม่เลยจะดีกว่าค่ะ

7.ไฟชาร์จ

หากพบว่า ที่แผงหน้าปัดเวลาที่เราสตาร์ทเครื่องหรือสตาร์ทติดแล้วมีไฟชาร์จขึ้น หรือไม่สว่าง หรือสว่างแล้วไม่ยอมดับ อาการเหล่านี้อาจเกิดจากไดชาร์จมีความผิดปกติ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นะคะ รีบเข้าอู่เพื่อเช็กระบบไฟฟ้าโดยทันที

ลองสังเกตรถยนต์ที่เราใช้กันอยู่ให้ดีนะคะ หากพบว่ามีอาการตามที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น อย่ารอช้าค่ะ อย่าคิดว่า ไม่เป็นไร นิดเดียวทนขับๆ ไปก่อนจะได้ไม่ต้องเสียเงิน … ความคิดเช่นนี้อาจจะทำให้คุณต้องเสียใจ เพราะแทนที่จะเสียหลักพัน อาจจะต้องถึงขั้นเสียหลักหมื่นเลยก็เป็นได้นะคะ! การดูแลรถยนต์นั้นสำคัญไฉน

แรบบิท แคร์ พร้อมมอบความคุ้มครองที่ดีที่สุดให้คุณ! ด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ครบวงจร แรบบิท แคร์ ช่วยให้คุณเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทชั้นนำทั่วประเทศได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ค้นหาแผนที่เหมาะสมที่สุด พร้อมรับความคุ้มครองครอบคลุมทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การซ่อมแซม หรือความเสียหายจากภัยธรรมชาติ อีกทั้งยังมีบริการฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงจากทีมงานมืออาชีพ เพื่อให้ทุกการเดินทางของคุณมั่นใจไร้กังวล ด้วยตารางความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ดังต่อไปนี้

  • ประกันภัยชั้น 1: ครอบคลุมทุกกรณี เช่น อุบัติเหตุชน พลิกคว่ำ ไฟไหม้ น้ำท่วม รถหาย รวมถึงการซ่อมรถ แม้ไม่มีคู่กรณี
  • ประกันภัยชั้น 2+: คุ้มครองกรณีชนที่มีคู่กรณี รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม และความเสียหายต่อบุคคลภายนอก
  • ประกันภัยชั้น 3+: คุ้มครองเฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะ (มีคู่กรณี) และความเสียหายของบุคคลภายนอก
  • ประกันภัยชั้น 2: คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ และความเสียหายต่อบุคคลภายนอก
  • ประกันภัยชั้น 3: คุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อบุคคลภายนอก

เลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์คุณ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษได้ทันทีที่ แรบบิท แคร์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 1438 ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 98871

แคร์รถยนต์

ใบขับขี่สาธารณะ ต่างกับใบขับขี่ทั่วไปอย่างไร ใช้กับรถประเภทใดบ้าง ?

ใบขับขี่สาธารณะ สิ่งสำคัญที่ผู้ต้องการประกอบอาชีพขับขี่รถสาธารณะจะต้องทราบ และมีติดตัวไว้ ใบขับขี่สาธารณะแตกต่างจากใบขับขี่ทั่วไปอย่างไร วันนี้ แรบบิท
Thirakan T
13/01/2025
Rabbit Care Blog Image 98492

แคร์รถยนต์

คลายข้อสงสัยทำสีรถกับเปลี่ยนสีรถราคาเท่าไหร่ ใช้เวลานานกี่วัน

การทำสีรถหรือเปลี่ยนสีรถนั้นมีหลายจุดประสงค์ ทั้งการซ่อมแซมในส่วนที่เสียหาย หรือมีความต้องการแต่งรถเพราะอยากทำสี รถยนต์แบบเฉพาะส่วน
Natthamon
12/01/2025
Rabbit Care Blog Image 98866

แคร์รถยนต์

โอนลอย ผิดกฎหมายหรือไม่ ? ต่างกับการโอนปกติอย่างไร ?

โอนลอย อีกหนึ่งวิธีการในการโอนรถที่มีการทำอย่างแพร่หลาย ความจริงแล้วการโอนลอย คืออะไร ผิดกฎหมายไหม ? มีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ? แรบบิท แคร์
Thirakan T
12/01/2025