แรบบิท แคร์ ชู “แคร์ ครบ คุ้ม” มั่นใจทุกการขับขี่หน้าฝน
“อุบัติเหตุทางถนน” เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่สามารถคาดเดาได้ และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่คร่าชีวิต คนที่เรารักไปมากมายไม่แพ้โรคภัยไข้เจ็บ และรู้หรือไม่? “10 นาทีแรกหลังการฝนตกเป็นช่วงที่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด” โดยเฉพาะอุบัติเหตุทางด้านรถยนต์ที่มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน ซึ่งจากสถิติมากกว่า 85% ของผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เนื่องจากพื้นถนนที่เปียกและง่ายต่อการพลิกคว่ำ
นอกจากแผนประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงหน้าฝนหรือเหตุน้ำท่วมอย่างที่หลายคนเข้าใจอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าแผนประกันรถยนต์ชั้น 2+ จากบางบริษัทประกันภัย หรือคิดเป็นเพียง 16% เท่านั้นที่ แรบบิท แคร์ พบว่าให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับน้ำท่วมร่วมด้วย หากไม่เปรียบเทียบความคุ้มครองให้ครบ และตัดสินใจซื้อประกันรถจาก ”ราคา” หรือเบี้ยประกันแต่เพียงอย่างเดียว อาจทำให้พลาดโอกาสได้รับความคุ้มครองเหตุน้ำท่วมร่วมด้วย
แรบบิท แคร์ พาไปดูสถิติและสาเหตุของอุบัติเหตุทางถนนในช่วงหน้าฝนที่หลายคนมักมองข้าม และความสำคัญของการเปรียบเทียบแบบประกันรถยนต์ให้ “แคร์-ครบ-คุ้ม” สำหรับทุกปัญหาการขับขี่ในช่วงหน้าฝนนี้
สถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงฤดูฝน
กรมควบคุมโรคเผยสถิติเกี่ยวกับสถานการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 16 กันยายน 2565 มีการรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมกันทั้งสิ้น 210,659 ราย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือเดือนกันยายนที่มีฝนตกหนักและน้ำท่วม ทำให้มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนนรวม 8,138 ราย และเสียชีวิตอีก 105 ราย
นอกจากนั้น รายงานข้างต้นยังพบว่าในช่วงเวลา 10 นาทีแรกหลังการฝนตกเป็นช่วงที่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด เพราะถนนที่ลื่นอาจทำให้รถเสียหลักได้ง่ายกว่าช่วงเวลาปกติ เนื่องจากน้ำฝนที่ตกลงมาจะชะล้างคาบฝุ่นและน้ำมันที่ติดอยู่บนพื้นถนน ทำให้เกิดเป็นเหมือนแผ่นฟิล์มฉาบอยู่บนผิวถนน เมื่อรถยนต์ถูกขับมาด้วยความเร็วที่สูง ทำให้มีโอากาสลื่นและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
อุบัติเหตุที่มักถูกมองข้ามในช่วงหน้าฝน
จากการสำรวจโดยกระทรวงคมนาคมพบว่าสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดเกิดจากสภาพแวดล้อม (39%), ถนนลื่น (27%), สาเหตุที่มีฝนตก (18%) และ สาเหตุที่มีคนตัดหน้ารถ (16%) นอกจากนั้นแล้วในช่วงหน้าฝนยังมีอุบัตเหตุที่อาจเกิดขึ้นมากมายโดยที่หลายคนคาดไม่ถึง ตัวอย่างช่น
ลูกเห็บตก
ลูกเห็บตก มักพบได้บ่อยในช่วงที่มีพายุฤดูร้อน แต่ก็พบได้ในช่วงฤดูฝนเช่นกัน เกิดจากความแปรปรวนของอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศ ซึ่งส่งผลให้น้ำในก้อนเมฆกลายเป็นลูกเห็บและตกลงมา ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินได้ หากในกรณีที่ลูกเห็บตกใส่รถ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ในขณะที่ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จากบางบริษัทประกันให้ความคุ้มครองเช่นกัน แต่ควรตรวจสอบเงื่อนไขและรายละเอียดความคุ้มครองก่อนซื้อทุกครั้ง
กิ่งไม้หรือต้นไม้หล่นทับ
ต้นไม้หรือกิ่งไม้หล่นทับรถยนต์ เกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าฝนจากลมพายุและฟ้าฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยเฉพาะกรณีที่เจ้าของไม่ยอมโค่นต้นไม้ ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของต้นไม้ได้ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ของกรมทางหลวง เทศบาล หรือเพื่อนบ้าน หรือสามารถแจ้งเคลมแบบไม่มีคู่กรณีกับบริษัทประกันได้เช่นกัน
ป้ายหล่นทับ
ในช่วงฤดูฝน อาจเจอกับเหตุการณ์น้ำท่วมและฝนตกหนัก ลมมรสุมพัดแรง ทำให้เกิดเหตุการณ์ป้ายโฆษณาหล่นใส่รถยนต์ ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้รถพัง แต่อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย โดยค่าสินไหมทดแทนจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
หากรถยนต์ได้รับความเสียหาย จากการที่ป้ายโฆษณาหล่นทับ ทางบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดแต่ต้องไม่เกินทุนประกันที่ระบุอยู่ในในกรมธรรม์ โดยจะคุ้มครองเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น และหากได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ตามวงเงินความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่มีระบุไว้ในท้ายสัญญากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
รถน้ำท่วม ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม?
หลายคนอาจมีความสงสัยว่าสามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ไหมหากรถถูกน้ำท่วม คำตอบคือ สามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ตามเงื่อนไขความคุ้มครองตามกรมธรรม์ที่เลือกทำและสถานการณ์น้ำท่วมที่ประสบ ตัวอย่างเช่น ถ้าตั้งใจขับรถเข้าไปยังพื้นที่ที่น้ำท่วมขัง กรณีนี้ประกันจะไม่คุ้มครองเพราะผู้เอาประกันภัยตั้งใจทำให้รถเกิดความเสียหายเอง
แต่กรณีรถจอดอยู่เฉย ๆ แล้วน้ำท่วม หรือขับรถเข้าไปในเส้นทางที่ฝนตกแล้วเกิดน้ำท่วม และไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นได้ ในกรณีนี้ประกันจะคุ้มครอง ดังนี้
- หากเครื่องยนต์เสียหายหนัก (Total loss) ไม่สามารถซ่อมได้ หรืออาจซ่อมได้แต่ไม่คุ้มค่า เช่น รถน้ำท่วมถึงแผงคอนโซลหน้ารถ หรือรถน้ำท่วมมิดคัน โดยทั่วไปบริษัทประกันจะประเมินมูลค่าความเสียหายที่ 80% จากราคาตลาดของรถในปีนั้น
- หากชิ้นส่วนรถยนต์เสียหายบางส่วน (Partial loss) เช่น รถน้ำท่วมบริเวณล้อ บริษัทประกันจะประเมินความเสียหายนั้น และจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้
รถน้ำท่วม ค่าซ่อมเท่าไหร่?
ค่าซ่อมรถในกรณีที่รถน้ำท่วมจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์และขึ้นอยู่กับอู่ซ่อมรถหรือศูนย์ที่เอารถไปซ่อม แม้ว่า คปภ. จะมีการกำหนดราคากลางเกี่ยวกับค่าซ่อมรถเมื่อรถน้ำท่วมที่ถูกใช้เป็นมาตรฐานการซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม แต่ไม่ได้แปลว่าทุกอู่หรือศูนย์ซ่อมรถจะมีค่าบริการหรือค่าซ่อมตามที่ คปภ. กำหนดไว้ ซึ่ง คปภ. แบ่งระดับราคาค่าซ่อมเมื่อรถน้ำท่วม ออกเป็น 5 ระดับ คือ ระดับ A, ระดับ B, ระดับ C, ระดับ D, ระดับ E มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ระดับ A : กรณีรถน้ำท่วม ถึงพื้นรถยนต์ ค่าซ่อมประมาณ 8,000 – 10,000 บาท
- ระดับ B : กรณีรถน้ำท่วม ถึงเบาะนั่ง ค่าซ่อมประมาณ 15,000 – 20,000 บาท
- ระดับ C : กรณีรถน้ำท่วม ถึงส่วนล่างของคอนโซลหน้า ค่าซ่อมประมาณ 25,000 – 30,000 บาท
- ระดับ D : กรณีรถน้ำท่วม ถึงส่วนบนของคอนโซลหน้า ค่าซ่อมประมาณ 30,000 บาทขึ้นไป
- ระดับ E : กรณีรถจมน้ำทั้งคัน ในกรณีนี้บริษัทจะคืนทุนประกันภัย (Sum insured) ให้กับผู้เอาประกันภัย
กรณีความเสียหายในระดับ D และ E หากน้ำท่วมรถถึงระดับคอนโซลหน้าหรือท่วมมิดคัน จะทำให้เกิดความเสียหายสูงสุด โดยชิ้นส่วนและองค์ประกอบของรถยนต์จะเสียหายไปด้วย เช่น ตัวถังสีภายนอก, ไฟหน้า และไฟท้าย, ห้องเครื่องยนต์, ที่กรองอากาศ, น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเบรก, มอเตอร์พัดลมแอร์, หน้าปัทม์เรือนไมล์, หรือขอบยางประตู ซึ่งหากไม่มีประกันรถยนต์จะต้องเสียค่าซ่อมเองตั้งแต่หลักหมื่น หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นรถใช้งานไม่ได้
อุ่นใจทุกเส้นทางกับบริการ “แคร์ ครบ คุ้ม” กับ แรบบิท แคร์
แรบบิท แคร์ จัดแคมเปญประกันรถยนต์ “แคร์ ครบ คุ้ม” แคร์รถทุกไซส์ ไม่ว่าจะรถเล็ก รถใหญ่ อุ่นใจรับหน้าฝน เพิ่มความแคร์ด้วยบริการสุดพิเศษมอบให้กับลูกค้าที่ซื้อประกันกับ แรบบิท แคร์ เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง, ศูนย์ซ่อมครอบคลุมทั่วประเทศไทย และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย ประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ แรบบิท แคร์ ซื้อได้ในราคาเบี้ยเริ่มต้นเพียง 625 บาท/เดือน และประหยัดสูงสุดถึง 70% หากขับดีไม่มีเคลมและระบุชื่อผู้ขับขี่
ไม่ว่าจะเหตุการณ์น้ำท่วมรถ รถลื่นไหลตกถนน หรือตกคูน้ำ รวมถึงอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันในช่วงหน้าฝน เช่น ต้นไม้ล้ม, ลูกเห็บตก, ป้ายหล่นทับ, และกิ่งไม้หล่น แรบบิท แคร์ พร้อมดูแลผ่านบริการช่วยเหลือแจ้งเคลมและบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเคลมง่าย สะดวก รวดเร็วที่ LINE Official Account พร้อมเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลและให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่เพียงแต่ประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับน้ำท่วม แต่ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จากบางบริษัทประกันก็ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับน้ำท่วมเช่นกัน ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อประกันรถยนต์ ควรตรวจเช็กเงื่อนไขและความคุ้มครองอย่างละเอียดทุกครั้ง หรือขอรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยกับ แรบบิท แคร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สนใจโทรเลย 1438
เป็นนักเขียนสายสุขภาพและการเงินที่มีประสบการณ์ในการเขียนมากมาย โดยได้ฝากผลงานในหลากหลายรูปแบบที่เน้นด้านบริหารร่างกายและจิตใจ ทำงานที่ Rabbit Care และ Asia Direct ได้อย่างมืออาชีพ