ครอบครัวขยาย เมื่อมีลูกน้อย ต่อเติมบ้านอย่างไรดี
การที่จะมีครอบครัวที่สมบูรณ์นั้นประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูก ซึ่งถ้าบ้านไหนที่กำลังจะมีลูกน้อยบ้านหลังเก่าที่อยู่อาศัย ณ ปัจจุบันคงจะคับแคบจนเกินไปถ้าเมื่อวันหนึ่งลูกของเราต้องเติบโตขึ้นมา ฉะนั้นแล้วเพื่อเป็นการวางแผนคกแต่งภายในบ้านใหม่ให้ลูกนั้นได้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น และไม่ก่อให้เกิดอุบัติได้ จึงจำเป็นต้องจ้างช่างมาต่อเติมบ้าน แต่นอกจากความปลอดภัยของลูกแล้วจะมีอะไรบ้างที่เราต้องมาวางแผนกัน เริ่มกันที่…
เทคนิคการตกแต่งต่อเติมบ้านสำหรับลูกน้อย
-
ความปลอดภัยที่ไม่ควรมองข้าม
เนื่องจากเด็กเล็กจะไม่ค่อยมีความระมัดระวัง ทำให้ในบางครั้งหัวอาจจะไปชนกับเหลี่ยม หรือแขน ขา ไปโดนกระแทกกับของแข็ง เช่น โต๊ะ เก้าอี้ หรือลื่นหกล้มไปจนสิ่งของตกแตก เป็นต้น ฉะนั้นแล้วการเลือกสิ่งของต่าง ๆ ที่มาประดับตกแต่งบ้าน หรือเฟอร์นิเจอร์ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญในการพิถีพิถันในความปลอดภัยที่เราไม่ควรจะมองข้าม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกของตกแต่งบ้าน หรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีวัสดุทนทาน นำหนักเบา และไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ลูกน้อยได้
-
ห้องสำหรับเด็กต้องโล่งโปร่ง
ควรจัดห้องนึงไว้สำหรับเลี้ยงลูกน้อย ซึ่งถือว่าควรจะเป็นห้องเฉพาะของลูกไปเลย ซึ่งการจัดวางสิ่งของ หรือการตกแต่งนั้นควรให้สะอาด มีความโล่งโปร่งแสง หรือได้รับแสงจากธรรมชาติสาดส่องเข้ามาไม่จัดมาก เพื่อให้ลูกน้อยนั้นได้เห็นธรรมชาติ เช่น ต้นไม้ ใบหญ้ามากว่าอยู่ในห้องแคบ ๆ สี่เหลี่ยม อยู่ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยแสงสีจัดจ้า เสียงดังวุ่นวาย เพราะแสงจากธรรมชาติจะช่วยให้เด็กมีความแข็งแรงให้กับร่างกาย ไม่ค่อยเจ็บป่วยง่าย มีพัฒนาการที่ดี อารมณ์ดีร่าเริงแจ่มใส
-
ทาสีของห้องนอนลูกน้อย
โทนสีของห้องนอนลูกน้อยก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย เพราะแต่ละโทนสีจะช่วยเสริมสร้างพัฒนการที่ดีให้ลูกน้อยนั้นมีการเจริญเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ ในแต่ละช่วงวัยของลูกน้อยได้ เช่น วัยเด็กควรเลือกตกแต่งห้องนอนในโทนสีสันที่สดใส แต่ไม่ถึงกับจัดจ้านจนเกินไป และควรมีการเบรกสีด้วยการตกแต่งห้องให้สดใสตามความต้องการ ขณะที่ถ้ามีลูกกำลังอยู่ก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ควรเริ่มใช้สีในโทนสบายตา สีเย็นตา เหมาะสำหรับในการพักผ่อนที่แท้จริง และเป็นการเบรกอารมณ์ความรุนแรงได้ ซึ่งควรหลีกเลี่ยงสีสันจัดจ้านอย่างเด็ดขาดเพราะจะทำให้เกิดความคึกคะนองนั่นเอง
-
ต่อเติมบ้านถูกต้องตามกฎหมาย
การต่อเติมบ้านอย่างถูกกฎหมายต้องยื่นขออนุญาตก่อสร้างกับทางหน่วยงานราชการเสียก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา หรือถ้าไม่ได้ขออนุญาตก็อาจจะแจ้งให้เพื่อนบ้าน หรือบ้านใกล้เรือนเคียงในระแวงเดียวกันทราบว่า บ้านของเรากำลังมีการก่อสร้างต่อเติม หรือขยายพื้นที่ เป็นต้น เพราะระหว่างการก่อสร้างนั้นอาจจะเสียงดังของอุปกรณ์ ในการตอก ทุบ หรืออาจจะมีฝุ่นละออง นั้นเอง ฉะนั้นแล้วสิ่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ถือว่าเป็นปัญหาระดับต้น ๆ ที่เราให้ความสำคัญ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะผิดใจ หรือเสียเพื่อนบ้านไปเลยก็ได้
-
ตั้งงบประมาณไว้จะได้ไม่บานปลาย
การต่อเติมบ้าน หรือการตกแต่งบ้านใหม่ นั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงนั้นคือ งบประมาณที่เราจะสามารถนำไปตกแต่งว่าราคานั้นเหมาะสมกับเงินที่เรามีเก็บออมไว้หรือไม่ ซึ่งในเบี้องต้นต้องให้ช่างที่เราติดต่อไว้เข้ามาประเมินหน้างาน หรือบ้านของเราว่าจะสามารถอยู่ในงบที่มีได้มากน้อยขนาดไหน และพื้นที่ หรือบริเวณของบ้านพอจะต่อเติมปรับเปลี่ยนตกแต่งรีโนเวทได้หรือไม่ ซึ่งถ้าช่างมาประเมินแล้วงประมาณนั้นไม่ลงตัวอย่างที่คุณพ่อ คุณแม่ได้ตั้งใจไว้ และไม่อยากที่จะปรับแผนการปรับปรุงบ้านใหม่ อีกหนึ่งตัวช่วยน้้นคือ การขอสินเชื่อเพื่อต่อเติมบ้านน้่นเอง
สินเชื่อส่วนบุคคลกู้ง่ายกว่าที่คุณคิด
- เมื่อตกลงปลงใจแล้วว่าจะต่อเติมบ้านอย่างแน่นอน และเลือกผู้รับเหมาที่จะมาทำการรีโนเวทให้แล้ว หลังจากนั้นให้ผู้รับเหมาออกหนังสือในการจ้างต่อเติมหรือหนังสือตีราคาค่าต่อเติม หรือสำเนาโฉนดที่ดิน แบบก่อสร้างและรายการวัสดุ สัญญาว่าจ้างปลูกสร้าง และใบอนุญาตก่อสร้าง เพื่อนำเอกสารดังกล่าวไปยื่นเรื่องขอกู้กับทางธนาคาร
- เมื่อมีเอกสารครบแล้วทำการยื่นกู้จากทางผู้รับเหมาแล้วก็ต้องเตรียมเอกสารส่วนตัวอย่าง สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรข้าราชการ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส เอกสารแสดงรายได้บัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
- ผู้ที่จะขอสินเชื่อประเภทนี้ ต้องมีอายุระหว่าง 20 – 60 ปี เนื่องจากระยะเวลาในการกู้ร่วมกับอายุของผู้กู้ต้องไม่เกิน 65 – 70 ปี และต้องมีฐานเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาท สำหรับพนักงานทั่วไป หรือผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวต้องมีรายได้เดือนละ 20,000 บาทขึ้นไป โดยวงเงินกู้สูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 70 – 80%
- สินเชื่อต่อเติ่มบ้านมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ สินเชื่อแบบวงเงินกู้ระยะยาว (Loan) ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยคงที่ 1 – 5 ปี ในระยะแรก หลังจากนั้นก็จะคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอิงกับ MLR และสินเชื่อวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (O/D) ธนาคารส่วนใหญ่จะคิดดอกเบี้ยลอยตัวอิงกับ MLR หรือ MOR บางธนาคารอาจจะคิด MLR,MOR+ หรือ – 1% หรือ -2% แล้วแต่ทางสถาบันการเงินจะกำหนด โดยธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจากยอดเงินที่มีการเบิกใช้จริงเท่านั้น
สนใจขอสินเชื่อต่อเติมบ้านได้ที่ Rabbit Care
มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี