ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไม่ต้องกังวล มาเตรียมตัวให้พร้อมกันดีกว่า
เมื่อหลายคนมีโอกาสได้ไปขึ้นเครื่องบินครั้งแรก อาจทำให้เกิดความกังวลใจขึ้นมาอย่างมาก ไหนจะความกว้างของสนามบินที่พร้อมทำให้เราสับสน ไปจนถึงขั้นตอน กระบวนการต่าง ๆ มีรายละเอียดเยอะจนพาให้งงได้เกือบทุกครั้งแม้จะขึ้นเครื่องบ่อยก็ตามที ดังนั้นเพื่อไม่ให้คนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกต้องกังวลจนเกินไป
แรบบิท แคร์ เลยมีสรุปขั้นตอนการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกแบบง่าย ๆ ใน 5 ขั้นตอนมาฝาก พร้อมเกร็ดความรู้สำคัญอย่างเรื่องขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องบิน, มีเด็กขึ้นเครื่องบินด้วยต้องทำอย่างไร และสรุปแล้วขึ้นเครื่องบินห้ามอะไรบ้าง สามารถติดตามอ่านหาคำตอบได้จากหัวข้อด้านล่างนี้เลย
ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกง่าย ๆ ด้วย 5 ขั้นตอน
สรุปวิธีการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกแบบง่าย ๆ ที่จบได้เพียง 5 ขั้นตอน คือ เตรียมพร้อมข้อมูลหรือเอกสารก่อนเช็คอิน, เช็คอินให้เรียบร้อย, เข้าด่านตรวจเพื่อสแกนสัมภาระ, รอขึ้นเครื่องตาม Gate ที่ระบุไว้ และเมื่อเดินทางถึงที่หมาย ลงเครื่องแล้วอย่าลืมรับสัมภาระคืน รายละเอียดขั้นตอนขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ติดตามอ่านได้ที่หัวข้อดังต่อไปนี้
1.เตรียมพร้อมข้อมูลหรือเอกสารก่อนเช็คอิน
ก่อนเดินทางไปถึงสนามบินเพื่อสัมผัสประสบการณ์ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เราต้องเตรียมพร้อมข้อมูลหรือเอกสารให้พร้อมก่อนเช็ค คือ ตรวจสอบสนามบินและเวลาที่เครื่องขึ้น, ตรวจสอบรายละเอียดบนหน้าตั๋วอีกครั้ง, บัตรสำคัญประจำตัว, Passport และ วีซ่า
- ตรวจสอบสนามบินและเวลาที่เครื่องขึ้น ดูว่าเราต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินไหน เวลาที่ต้องขึ้นเครื่องกี่โมง (Boarding Pass) ถ้าเพิ่งขึ้นเครื่องบินครั้งแรกควรประเมินเวลาให้ดี ต้องไปถึงก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อเช็คอิน โหลดสัมภาระให้เรียบร้อย
- ตรวจสอบรายละเอียดบนหน้าตั๋วอีกครั้ง เพื่อเช็กรายละเอียดให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาดบนตั๋วของเรา โดยเฉพาะชื่อนามสกุล ห้ามมีผิดแม้แต่ตัวอักษรเดียว
- เตรียมบัตรสำคัญประจำตัวให้พร้อม โดยเฉพาะคนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกเตือนเลยว่า บัตรประชาชนห้ามลืมเด็ดขาด หรือหากเป็นผู้ป่วยมีบัตรประจำตัว ก็อย่าลืมพกติดตัวไปด้วย
- Passport สำหรับคนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในการเดินทางระหว่างประเทศ Passport เป็นสิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะเป็นเอกสารยืนยันตัวตนที่ใช้เหมือนกันทั่วโลก
- วีซ่า เพราะบางประเทศอาจต้องใช้วีซ่าในการเข้าออกระหว่างประเทศ ซึ่งวีซ่านั้นจะผูกติดอยู่กับ Passport อยู่แล้ว ผู้ที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกและมีเล่มเดียวก็สบายใจได้เลย
หมายเหตุ: ใครที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกแล้วซื้อตั๋วออนไลน์กับทางสายการบิน แล้วได้รับเป็นใบ Itinerary (ใบกำหนดการเดินทาง) มา ให้ปริ้นหรือเซฟไว้ในมือถือ เพื่อเตรียมนำไปออกใบ Boarding Pass ที่ใช้สำหรับขึ้นเครื่องต่อไป เพราะว่า Itinerary (ใบกำหนดการเดินทาง) ไม่สามารถใช้เพื่อขึ้นเครื่องได้
2.เช็คอินให้เรียบร้อย
เมื่อเตรียมข้อมูลหรือเอกสารส่วนตัวเสร็จแล้ว ก็สามารถเตรียมตัวเพื่อเช็คอินได้ต่อเลย ใครที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เรามีวิธีการเช็คอินที่ง่ายมากสำหรับผู้ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก 3 วิธี คือ เช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบิน, เช็คอินผ่านตู้ KIOSK และ เช็คอินผ่านแอปฯ บนมือถือหรือเว็บไซต์ของสายการบิน รายละเอียดมีดังนี้
- เช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบิน วิธีนี้แนะนำผู้ที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก และเหมาะกับคนที่ต้องการโหลดสัมภาระ รวมถึงผู้ที่เดินทางระหว่างประเทศ เมื่อถึงเคาน์เตอร์ให้ยื่นใบ Itinerary (ใบกำหนดการเดินทาง), บัตรประชาชน, สัมภาระ และ Pass Port(หากเดินทางระหว่างประเทศ) โดยเคาน์เตอร์จะปิดให้บริการก่อนเครื่องขึ้น 1 ชั่วโมง ดังนั้นอย่าลืมวางแผนการเดินให้ดี
- เช็คอินผ่านตู้ KIOSK ไปที่หน้าตู้ KIOSK แล้วนำบาร์โค้ดบนใบ Itinerary (ใบกำหนดการเดินทาง) ไปสแกนเพื่อรับ Boarding Pass ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่ผ่านการขึ้นเครื่องบินครั้งแรก และเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีแล้ว
- เช็คอินผ่านแอปฯ หรือเว็บไซต์ของสายการบิน หากใช้วิธีนี้เราจะได้ Boarding Pass มาทันที ซึ่งทำได้ทั้งการปริ้นออกมาเป็นเอกสาร หรือจะเซฟเก็บไว้ในมือถือก็ได้ แต่หากต้องการเซฟเก็บในมือถือ แนะนำว่าควรเซฟออกมาเป็นไฟล์สำเร็จรูป ไม่ควรใช้วิธีแคปหน้าจอเพียงอย่างเดียว
หมายเหตุ: ถ้าคุณขึ้นเครื่องบินครั้งแรกและเป็นการเดินทางระหว่างประเทศ จะต้องทำการเช็คอินที่เคาน์เตอร์เท่านั้น ไม่สามารถใช้วิธีอื่นได้
3.เข้าด่านตรวจเพื่อสแกนสัมภาระ
ทันทีที่ได้ Boarding Pass มาเรียบร้อยแล้ว ให้เราเดินไปที่ทางเข้า Gate เพื่อทำการสแกนสัมภาระติดตัวทั้งหมด และตรวจสอบ Boarding Pass คู่กับบัตรประชาชน ใครที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกแนะนำว่าอย่าเพิ่งรีบเก็บเอกสารเหล่านี้ลงกระเป๋า เพราะต้องใช้ค่อนข้างบ่อยจนกว่าจะขึ้นเครื่อง ควรถือให้ติดมือเอาไว้ หรือเก็บไว้ในกระเป๋าที่สามารถหยิบขึ้นมาใช้งานได้ง่ายที่สุด
4.รอขึ้นเครื่องตาม Gate ที่ระบุไว้
ผ่านด่านตรวจสแกนสัมภาระเรียบร้อย ให้เรามุ่งหน้าไปที่ Gate ตามที่ได้ระบุเอาไว้บนหน้า Boarding Pass เพื่อรอเวลาขึ้นเครื่อง ถ้าไปถึงก่อนเวลาคนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไม่ต้องตื่นเต้น หาที่นั่งรอพักผ่อนตามสบาย รอเจ้าหน้าที่เรียกผู้โดยสารตามช่วงเลขที่นั่งอีกครั้งเมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่อง หากผู้ที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกปริ้น Boarding Pass ออกมาเป็นเอกสาร เจ้าหน้าที่จะทำการฉีกให้เหลือเพียงส่วนท้ายให้เรานำไปใช้ขึ้นเครื่องอีกที แต่สำหรับใครที่ใช้ Boarding Pass บนมือถือ ก็สามารถเปิดให้เจ้าหน้าที่ดูพร้อมกับบัตรประชาชนและขึ้นเครื่องได้ทันที พอถึงบนเครื่องก่อนเดินเข้าที่นั่งจะมีการตรวจ Boarding Pass เป็นครั้งสุดท้ายก่อนเดินไปยังที่นั่งที่ระบุเอาไว้
5.ลงเครื่องและรับสัมภาระคืน
พอเครื่องแลนด์ดิ้งเรียบร้อยแล้ว เหล่าคนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไม่ต้องรีบลุกขึ้นยืน รอสัญญาไฟและประกาศเสียก่อน พอลุกแล้วอย่าลืมนำสัมภาระติดตัวลงไปทั้งหมด ไปที่จุดรับสัมภาระที่โหลดไว้แล้วเดินออกสนามบินได้เลย แต่สำหรับใครที่เดินทางออกนอกประเทศ จะต้องไปที่ จุดตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) เพื่อเขียนใบผ่านเข้าเมือง (Immigration Card) ซึ่งข้อมูลที่ต้องกรอก คือ ข้อมูลประจำตัว, โรงแรม, วันบินกลับ และมีการตรวจ Pass Port พร้อมกับมีคำถามอีกเล็กน้อย ตรงนี้คนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไม่ต้องกังวล ทำตัวสบาย ๆ เพราะเป็นเพียงแค่การสอบถามโดยทั่วไปเท่านั้น ตอบอย่างมั่นใจก็ผ่านฉลุยแล้ว
ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องบินและน้ำหนักที่กำหนด
ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกมาดูขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องบินและน้ำหนักที่กำหนด คือ ขนาดทั่วไปเฉลี่ยที่ประมาณ 54x36x23 เซ็นติเมตร ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ 7-10 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับกฎของแต่ละสายการบินอีกทีหนึ่ง หากคุณขึ้นเครื่องบินครั้งแรก แล้วไม่ต้องการโหลดสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง จะสามารถนำสัมภาระติดตัวเป็นกระเป๋าได้ตามขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องบินและน้ำหนักที่เราได้กล่าวไป
ถ้ามีเด็กขึ้นเครื่องบินไปด้วยต้องทำอะไรบ้าง
นอกจากขึ้นเครื่องบินครั้งแรกแล้วยังมีเด็กขึ้นเครื่องบินไปด้วย ต้องทำอะไรบ้าง? เพื่อลดความกังวลตั้งแต่การขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ก่อนอื่นต้องเตรียมเอกสารเพื่อยืนยันตัวของเด็กคนนั้นด้วย ส่วนราคาเครื่องบินของเด็กก็จะแตกต่างกันไปตามอายุเช่นกัน
เอกสารสำหรับเด็กขึ้นเครื่องบิน
เอกสารสำหรับเด็กขึ้นเครื่องบินจะแบ่งเป็น 2 กรณี คือ อายุยังไม่ถึง 7 ปี และเด็กที่อายุเกิน 7 ปีจะใช้เอกสารต่างกันดังนี้
เอกสารสำหรับเด็กขึ้นเครื่องบินอายุไม่เกิน 7 ปี
เอกสารสำหรับเด็กขึ้นเครื่องบินอายุไม่เกิน 7 ปี สามารถเลือกใช้ได้อย่างใดอย่างหนึ่งตามนี้ สูติบัตร, บัตรประจำตัวผู้พิการ, ทะเบียนบ้าน, หนังสือสุทธิสำหรับพระภิกษุสงฆ์และสามเณร และหนังสือเดินทาง ซึ่งเอกสารทั้งหมดต้องเป็นตัวจริงเท่านั้น
เอกสารสำหรับเด็กขึ้นเครื่องบินอายุเกิน 7 ปี
เอกสารสำหรับเด็กขึ้นเครื่องบินอายุเกิน 7 ปี ต้องใช้ฉบับจริง คือ บัตรประชาชน เท่านั้น ส่วนผู้ใหญ่ก็สามารถใช้เอกสารทั่วไปที่สายการบินกำหนดได้เลย
ค่าตั๋วสำหรับเด็กขึ้นเครื่องบิน
ค่าตั๋วสำหรับเด็กขึ้นเครื่องหากมีอายุ 7 วัน – 23 เดือน จะมีอัตราค่าโดยสารเพียง 25% ของผู้ใหญ่ (นั่งตักเท่านั้น) แต่ถ้าหากมีอายุ 2-11 ปีจะคิดค่าเดินทางตามอัตราปกติ
สรุปแล้วขึ้นเครื่องบินห้ามอะไรบ้าง
เพื่อไม่ให้ผู้ที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกเกิดความตระหนก และสามารถเตรียมตัวได้พร้อม เรามาดูว่าขึ้นเครื่องบินห้ามอะไรบ้าง ตั้งแต่สิ่งของที่ห้ามนำขึ้น และสิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดไม่ว่าจะขึ้นเครื่องบินครั้งแรก หรือครั้งไหนก็ตาม
ขึ้นเครื่องบินห้ามนำอะไรขึ้นเครื่องบ้าง
- ของเหลวที่มีปริมาณไม่เกิน 50 มิลลิลิตร และต้องมีการบรรจุหีบห่ออย่างดี
- ต้องไม่มีของมีคม เช่น กรรไกร, มีด, กรรไกรตัดเล็บ
- สัตว์และสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
- อาหารที่มีกลิ่นแรง (ทุเรียน, ขนุน, น้ำปลา เป็นต้น)
- อาหารทะเลสดหรือแช่แข็งหรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ หากต้องการนำขึ้นต้องมีการแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็น และขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่อีกที
หมายเหตุ: ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกหรือครั้งไหน หากต้องการนำ Power Bank ขึ้นเครื่องบิน สามารถทำได้โดยการนำติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย ซึ่งความจุไฟฟ้าที่สามารถนำ Power Bank ขึ้นเครื่องบินไปด้วยได้ คือ Power Bank ที่มีความจุไม่เกิน 32,000 mAh หากไม่เกิน 20,000 mAh นำขึ้นได้ไม่ระบุจำนวน แต่ถ้า 20,000-32,000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้แค่ 2 ก้อนเท่านั้น และถ้าหากใครอยากนำโน๊ตบุ๊คขึ้นเครื่องบิน สามารถทำได้ทั้งเป็นสัมภาระติดตัว หรือโหลดลงใต้เครื่องตามต้องการ
ขึ้นเครื่องห้ามทำอะไรบ้าง
- ไม่ควรเรียกแอร์โฮสเตสให้ช่วยยกกระเป๋าขึ้นที่เก็บสัมภาระ
- ห้ามยกเท้าขึ้นมาวางบนที่พักแขน
- ไม่ควรนำแขนหรือขาเตะหรือยืดไปดันเบาะด้านหน้า
- ไม่ควรคุยเสียงดังระหว่างเดินทาง
- หยุดการกระทำที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น
- ไม่ควรเอนเบาะระหว่างรับประทานอาหาร
- ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด
- ห้ามกดปุ่มเรียกพนักงานโดยไม่จำเป็น
- ไม่ควรรีบลุกขึ้นตอนเครื่องลงจอด
ถ้าคุณอ่านครบจบมากันจนถึงตรงนี้แล้ว การขึ้นเครื่องบินครั้งแรกคงไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป และพอเราสามารถเตรียมตัวจนจำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี หลังจากผ่านการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกอันเป็นประสบการณ์สำคัญไปแล้ว ก็จะสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัวแน่นอน
ครั้งหน้าหากมีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวไม่ว่าจะนอกหรือในประเทศ อยากสัมผัสความสะดวกสบายในการจองตั๋วเครื่องบิน พร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษตามช่วงเวลาที่คุณไม่ควรพลาด ก็อย่าลืม สมัครบัตรเครดิตประจำตัวสายท่องเที่ยวเผื่อไว้ แต่ถ้าไม่รู้ว่ามีใบไหนบ้าง เข้ามาให้ แรบบิท แคร์ ช่วยแนะนำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะคลิกที่ลิงก์บัตรเครดิต หรือติดต่อผ่านเบอร์โทร 1438 ก็โทรได้ 24 ชั่วโมง
นักเขียนบทความด้านประกันยานยนต์ รถยนต์ การเคลมประกันรถยนต์ ที่ Rabbit Care และ Asia Direct ตั้งใจเขียนงานให้ได้เกินครึ่งจากช่วงเวลาที่หาข้อมูล ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก