ค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นคิดยังไง? พร้อมวิธีลดต้นทุนและสิทธิ์ลดหย่อนภาษี



สำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือแม้แต่นักเทรดมากประสบการณ์ การรู้จักและเข้าใจค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะค่าธรรมเนียม คือ ต้นทุนแฝงที่มีผลต่อกำไร-ขาดทุนโดยตรง และแน่นอนว่ามีหลายคนนับเรื่องของค่าะรรมเนียมเข้าไปอยู่ในส่วนของต้นทุน เมื่อต้องลงทุนในหุ้น
แม้จะเป็นตัวเลขเล็ก ๆ แต่สะสมแล้วอาจกระทบกำไรได้เยอะ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่ซื้อขายบ่อย แล้วค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น อัตราค่าธรรมเนียม วิธีคิด จนถึงการลดหย่อนภาษี คิดยังไงกันนะ แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปรู้จักกับประเด็นเหล่านี้ให้มากขึ้น เพื่อให้การลงทุนในหุ้นของคุณราบรื่น และป้องกันเสียกำไรโดยใช่เหตุนั่นเอง
ค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นคืออะไร
ค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น คือ ค่าบริการที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากการซื้อหรือขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการซื้อขาย หรือเป็นเรทขั้นต่ำที่กำหนดไว้ โดยมีองค์ประกอบหลัก ๆ ดังนี้
- ค่าธรรมเนียมนายหน้า (Brokerage Fee) โบรกเกอร์เก็บเป็น % ของมูลค่าการซื้อขาย
- ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ (Trading Fee) 0.005% ของมูลค่าซื้อขาย
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ของค่าธรรมเนียมนายหน้าและค่าธรรมเนียมตลาด
ตารางเทียบอัตราค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นปัจจุบัน
สำหรับในประเทศไทย อัตราค่าธรรมเนียมอาจแตกต่างกันตามโบรกเกอร์ แต่โดยทั่วไปจะมีราคาเฉลี่ยรวม ๆ ตามตารางเปรียเทียบต่อไปนี้
ประเภทการซื้อขาย | ค่าคอมมิชชันทั่วไป | หมายเหตุ |
ซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่ (Full Service) | 0.25% – 0.28% | ขั้นต่ำ 50 – 100 บาท/ครั้ง |
ซื้อขายผ่าน Streaming / Online | 0.15% – 0.18% | ขั้นต่ำ 50 บาท/ครั้ง |
โปรโมชันพิเศษ | เริ่มต้น 0.10% | มีเงื่อนไขตามโบรกเกอร์ |
จะเห็นได้ว่า ค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น Streaming จะมีความแตกต่างจากการซื้อขายปกติอยู่ โดยการซื้อขายผ่านแอป Streaming หรือระบบออนไลน์ มักมีค่าธรรมเนียมถูกกว่า เพราะไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ดูแลโดยตรง ทำให้เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการประหยัดต้นทุนและสามารถตัดสินใจเองได้ นอกจากนี้ หากค่าธรรมเนียมยิ่งต่ำ ยิ่งช่วยลดต้นทุนการลงทุนของคุณได้มากขึ้นอีกด้วย
วิธีคิดค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น คิดยังไง?
สำหรับใครที่อยากลองคำนวนค่าธรรมเนียมหุ้นคร่าว ๆ ด้วยตัวเองก่อน จากสูตร ดังนี้
ค่าธรรมเนียมรวม = (มูลค่าซื้อขาย × อัตราค่าธรรมเนียม) + VAT
สามารถคำนวนได้ตามสูตร จากตัวอย่างต่อไปนี้
คุณซื้อหุ้นมูลค่า 100,000 บาท ผ่าน Streaming ที่เรท 0.157%
- ค่าธรรมเนียมนายหน้า = 100,000 × 0.157% = 157 บาท
- ค่าธรรมเนียมตลาด = 100,000 × 0.005% = 5 บาท
- VAT = (157 + 5) × 7% = 11.34 บาท
รวมทั้งหมด 173.34 บาท

ค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น ลดหย่อนภาษีได้ไหมนะ?
สำหรับค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นเพื่อลงทุนทั่วไปนั้น จะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แต่ถ้าซื้อขายเพื่อการประกอบธุรกิจ และมีเอกสารครบตามกฎหมาย อาจนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษี เพื่อลดภาษีจากกำไรหุ้นได้ ทั้งนี้จะขึ้นกับเงื่อนไขของสรรพากรประกอบ
ข้อยกเว้นเกี่ยวกับการซื้อหุ้น แล้วสามารถลดหย่อนภาษี
- การซื้อขายหน่วยลงทุนบางประเภท (เช่น RMF, SSF) สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้
- ต้องมีเอกสารยืนยันจากโบรกเกอร์
เคล็ดลับลดค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น
- เลือกซื้อขายผ่าน Streaming (แบบฟอร์มออนไลน์) แทนการโทรสั่งโบรกเกอร์ในการซื้อขาย เพื่อค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น streaming ที่ถูกกว่า และช่วยลดทุนต้น
- เลือกโบรกเกอร์ที่มีโปรโมชั่นเรทต่ำ
- วางแผนซื้อขายแบบเป็นล็อต หรือซื้อครั้งละมาก ๆ เพื่อลดความถี่ในการเสียค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ
- ศึกษาเงื่อนไขลดค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ก่อนเสมอ
- ใช้บัญชี Cash Balance หรือบัญชีที่ไม่มีดอกเบี้ยเบิกเงินเกิน (ถ้าทำได้)
- ติดตามข่าวโปรโมชั่นโบรกเกอร์ทุกไตรมาส
ค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นอาจดูเป็นตัวเลขเล็ก ๆ แต่รวมกันตลอดปีอาจจะส่งผลต่อกำไรที่คุณควรจะได้ หากรู้วิธีคิดและเทคนิคประหยัด คุณก็สามารถเก็บกำไรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นนั่นเอง!
ถ้ากำลังมองหาแพลตฟอร์มออนไลน์ ซื้อ-ขายหุ้นได้ทันที ไม่ต้องกลัวดีเลย์ระหว่างประเทศ แถมให้ค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 0.10% และไม่มีขั้นต่ำ ให้ทุกการเทรดคุ้มค่ากว่าที่เคย เชื่อถือได้ มีการดาว์นโหลดมากกว่า 40 ล้านครั้งทั่วโลก มาพร้อมกับฟีเจอร์เสริมดี ๆ ใช้ฟรีอีกเพียบ ต้องที่นี้เลย Webull ที่ แรบบิท แคร์ ขอแนะนำสำหรับนักลงทุนทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า คลิกเลย!
สรุป
สำหรับ ค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น นั้น หากการซื้อขายผ่านแอป Streaming หรือระบบออนไลน์ มักมีค่าธรรมเนียมถูกกว่า เพราะไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ดูแลโดยตรง ทำให้เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการประหยัดต้นทุนและสามารถตัดสินใจเองได้ และแน่นอนว่า ถ้าค่าธรรมเนียมยิ่งต่ำ ยิ่งช่วยลดต้นทุนการลงทุนของคุณได้ด้วย

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct