หุ้นบลูชิพ คือ อะไร? ทำไมนักลงทุนถึงให้ความสนใจ





ในโลกของการลงทุนในหุ้น คำว่า “หุ้นบลูชิพ” (Blue Chip Stock) เหล่านักลงทุนหน้าใหม่อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง และหลายแห่งต่างแนะนำว่าควรมีติดพอร์ตไว้หากคุณต้องการลงทุนอะไรสักอย่างในระยะเวลานาน ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนระยะยาวและผู้ที่ต้องการความมั่นคงในพอร์ตการลงทุน ว่าแต่หุ้นบลูชิพคืออะไร และทำไมถึงได้รับความนิยมมากนัก? มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กับ แรบบิท แคร์ กันดีกว่า
ทำความรู้จักกับ หุ้นบลูชิพ (BlueChip Stock) ทำไมควรมีประกับพอร์ตลงทุน?
หุ้นบลูชิพ หรือ หุ้น Blue Chip คือ หุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับต้น ๆ เรียกได้ว่าเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมและตลาดหลักทรัพย์ ส่วนมากมักจะเป็นหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงทางการเงิน มีชื่อเสียง และมีความน่าเชื่อถือในตลาดสูง หลายแห่งเป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมสำคัญ และมีบทบาทหลักในระบบเศรษฐกิจ เช่น พลังงาน การธนาคาร เทคโนโลยี หรือสินค้าอุปโภคบริโภค
ซึ่งคำว่า “Blue Chip” มาจากเกมโป๊กเกอร์ โดยชิปสีน้ำเงินมีมูลค่าสูงที่สุด จึงเปรียบเปรยว่าหุ้นเหล่านี้มีคุณภาพสูงเช่นเดียวกัน
โดยลักษณะเด่นของหุ้นบลูชิพ มีความมั่นคงสูง แม้ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย กระแสเงินสดแข็งแกร่ง บ่งบอกถึงความมั่นคงทางการเงิน ทำให้มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอแม้ตลาดผันผวน เนื่องจากผลตอบแทนจากการเล่นหุ้นไม่ใช่เพียงแค่ส่วนต่างราคา แต่ยังมีเงินปันผลที่ยังคงเป็นผลตอบแทนให้นักลงทุนแทน ที่สำคัญ สภาพคล่องสูงทำให้สามารถซื้อขายได้ง่าย เช่น S&P 500, Dow Jones, หรือ SET50 (ในไทย)
และเนื่องจากคุณสมบัติความปลอดภัยของหุ้น BlueChip ทำให้หุ้นประเภทนี้ถือเป็นการลงทุนที่ดี เพราะหลายแห่งคือบริษัทฯชั้นนำที่สามารถทนต่อสภาพเศรษฐกิจผันผวนได้ นอกจากนี้ ยังถือเป็นหุ้นคุณภาพสูง ทำให้กองทุนต่าง ๆ ถือหุ้นบลูชิพไว้เยอะ นี่เองที่ทำให้หุ้นบลูชิพ เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการรายได้ประจำจากการลงทุน ต้องการความมั่นคง และเหมาะมาก ๆ กับผู้ที่เริ่มต้นลงทุนและต้องการความเสี่ยงต่ำ และควรมีติดพอร์ตลงทุนเอาไว้
ถึงแม้หุ้นบลูชิพจะมีความมั่นคงสูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเสี่ยงเลย เช่น อาจเผชิญปัญหาด้านเศรษฐกิจโลกหรือการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน และกระจายความเสี่ยงอยู่เสมอ

หุ้น blue chip มีตัวไหนบ้าง ?จะรู้ได้อย่างไรว่านี่คือหุ้นบลูชิพ?
เบื้องต้นนั้น เราสามารถสังเกตคุณสมับติหลัก ๆ ที่จะเป็นหุ้น BlueChip ได้ ดังนี้
- บริษัทต้องจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และหุ้นมีมูลค่าตลาดมากกว่าแสนล้านขึ้นไป
- เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องการซื้อขายค่อนข้างสูง และมีความน่าเชื่อถือ
- เป็นหุ้นที่มาจากบริษัทที่รู้จักกันเป็นวงกว้าง มีชื่อเสียงในด้านการบริหารและบริการ
- บริษัทฯสามารถบริหารงานให้มีผลกำไรและจ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานาน
โดยเราสามารถยกตัวอย่างหุ้นบลูชิพในตลาดอเมริกา และตลาดในไทยได้ ดังนี้
- Apple (AAPL) ผู้นำด้านเทคโนโลยีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
- Microsoft (MSFT) บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลก
- Johnson & Johnson (JNJ) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสุขภาพ
- Coca-Cola (KO) แบรนด์เครื่องดื่มระดับโลก
- VISA บริษัทผู้ให้บริการชำระเงินระดับโลกที่ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิตและเดบิตทั่วโลก
- PTT บริษัทพลังงานระดับประเทศ
- ADVANC บริษัทฯชั้นนำด้านโทรคมนาคม (AIS)
- SCB ธนาคารไทยพาณิชย์
- CPALL ผู้ดำเนินการร้าน 7-Eleven ในไทย
จะเห็นได้ว่า หุ้น BlueChip ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคง ปลอดภัย และมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว แม้จะไม่หวือหวาเหมือนหุ้นเติบโตจนมีกำไรที่เห็นได้ชัด แต่ก็เหมาะสำหรับการสร้างฐานะการเงินอย่างมั่นคงในระยะยาว และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มต้นอยากศึกษาการลงทุนในหุ้นนั่นเอง
แต่อย่างที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น ในทุกการลงทุนนั้นล้วนมีความเสี่ยงไม่เว้นแม้แต่หุ้นบลูชิพ ดังนั้นเราจึงควรศึกษาให้ดีทุกครั้งก่อนการลงทุน และมีการกระจายพอร์ตลงทุนเพื่อพร้อมรับในทุกความเสี่ยงอยู่เสมอ
และสำหรับใครที่มีหุ้นบลูชิพในดวงใจ และต้องการจะลงทุนเพิ่มเติมโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตลาดหุ้นในต่างประเทศ ทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงคุณสมัครใช้แพพลตฟอร์มที่ให้บริการเทรดออปชันสหรัฐฯ อย่าง Webull นอกจากจะใช้ได้สะดวกแล้ว ยังให้ค่าธรรมเนียมต่ำให้ทุกการเทรดคุ้มค่ากว่าที่เคย นอกจากนี้ยังสามารถติดตามการซื้อขายแบบ Real-Time ให้คุณทันทุกช่วงเหตุการณ์ เพิ่มโอกาสในการเทรดเสริมความเติบโตด้านการลงทุนได้ไม่ยาก! สมัครเลย!
สรุป
หุ้นบลูชิพ คือ หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียง มีความมั่นคงสูง มีผลประกอบการที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนั้น ๆ โดยหุ้นประเภทนี้จะเหมาะกับนักลงทุนที่เน้นความมั่นคง, นักลงทุนระยะยาว หรือแม้แต่ผู้เริ่มต้นลงทุน เนื่องจากตัวหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างน้อยนั่นเอง

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct