ไข่เยี่ยวม้า อันตราย กินบ่อยเสี่ยงรับสารตะกั่วทำสมองเสื่อม!
ไข่เยี่ยวม้าเป็นสิ่งที่ใครหลายคนชื่นชอบหรือเป็นของโปรดที่ต้องกินทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถนำมทำอาหารคาวได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ยำ กะเพรา และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่!รู้หรือไม่ว่าความอร่อยของไข่ประเภทนี้แฝงไปด้วยอันตรายจากสารตะกั่ว ที่ถ้าหากกินบ่อย ๆ เสี่ยงสมองเสื่อมได้นะ
ไข่เยี่ยวม้า คืออะไร?
ไข่เยี่ยวม้า หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ไข่สำเภา คือ ไข่ไก่หรือไข่เป็ดที่มีการแปรรูปเพื่อการบริโภครูปแบบหนึ่งของคนจีนสมัยก่อน โดยการนำดินด่างมาพอกไข่ไว้ ดินที่พอกรอบไข่มีส่วนผสมของปูนขาว เกลือ โซเดียมคาร์บอเนต ใบชาดำ สังกะสีออกไซด์และน้ำจะทำให้เกิดการบ่มเป็นไข่ประเภทนี้ เพราะช่วยถนอมอาหารไม่ให้ไข่เสีย
ไข่เยี่ยวม้า ทำจากอะไร?
ในกระบวนการผลิต ส่วนใหญ่จะมีการเติมสารตะกั่วเข้าไปเพื่อควบคุมระดับความเป็นกรด-ด่าง (pH) ทำให้ไข่ขาวมีความแข็งตัวอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นในไข่ก็อาจมีสารตะกั่วในรูปของลีดซัลไฟด์ปะปนอยู่ โดยวิธีสังเกตไข่ที่ปนเปื้อนสารตะกั่ว คุณสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ดังนี้
- สังเกตได้จากส่วนของไข่ขาว หากไข่เยี่ยวม้าปนเปื้อนสารตะกั่ว ไข่ขาวจะมีลักษณะขุ่น มีสีดำมาก แต่ถ้าหากเป็นไข่ที่ไม่มีลีดซัลไฟด์จากสารตะกั่ว ลักษณะของไข่ขาวจะมีลักษณะใส สีออกน้ำตาล ๆ ดังนั้นหากพบว่าไข่มีลักษณะไข่ขาวที่ไม่ใสและขุ่น ก็ควรหลีกเลี่ยงการบริโภค
ไข่เยี่ยวม้าปนเปื้อนอะไรได้บ้าง?
เนื่องจากไข่เยี่ยวม้า วิธีทำมักจะมีสารและเชื้อต่าง ๆ ปนเปื้อนจากขั้นตอนการผลิตโดยเฉพาะสารตะกั่ว และยิ่งถ้าหากวัตถุดิบที่ใช้ไม่สะอาดหรือผู้ผลิตไม่ให้ความสำคัญกับความสะอาดมากเพียงพอ อย่างเช่น ไม่ล้างมือหลังเข้าห้องน้ำหรือไอ จามโดยไม่ปิดปากด้วยแล้วละก็ ไข่เยี่ยวม้าที่คุณรับประทานเข้าไปอาจจะมีเชื้อโรคปนเปื้อนเพิ่มเข้าไปอีก เพราะเมนูไข่เยี่ยวม้าส่วนใหญ่ เป็นเมนูที่ไม่ต้องนำไข่ไปทำให้สุกก่อนรับประทาน การรับสารปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายจึงเป็นเรื่องที่หลายคนอาจไม่ทันได้ระมัดระวัง ตัวอย่างเชื้อโรคที่สามารถปนเปื้อนในไข่เยี่ยวม้าได้ เช่น เชื้อคลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์และเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส ซึ่งเชื้อปนเปื้อนเหล่านี้สามารถทำให้คุณเกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ ดังนี้
- เชื้อคลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ : พบได้ในลำไส้ของคนและสัตว์ ดิน น้ำเค็ม และน้ำจืดที่ไม่ได้รับอากาศ การปนเปื้อนด้วยเชื้อนี้อาจทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษที่มีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง และท้องร่วง แต่ไม่มีอาการอาเจียน
- เชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส : พบได้ในอากาศ ฝุ่น ขยะมูลฝอย น้ำ และอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ผลิตภัณฑ์จากไข่ นม และมนุษย์ เชื้อชนิดนี้มักจะปนอยู่ในทางเดินหายใจ เช่น ลำคอ เส้นผม และผิวหนัง
เมื่อเชื้อเหล่านี้ปนเปื้อนอยู่ในอาหารและถูกเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม จะทำให้เชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและสร้างสารพิษปนเปื้อนในอาหารได้ การบริโภคอาหารที่มีสารพิษปนเปื้อนอาจทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ปวดในช่องท้องหรือกล้ามเนื้อ และอ่อนเพลีย
กินไข่เยี่ยวม้า อันตรายไหม?
ปัจจุบันมีบางพ่อค้าแม่ค้าที่อาจจะใช้สารตะกั่วออกไซด์หรือซัลไฟด์ในส่วนผสมที่ใช้ในการพอกหรือแช่ไข่เยี่ยวม้า เพื่อช่วยให้ไข่กลายเป็นไข่เยี่ยวม้าได้เร็วขึ้นและผลผลิตมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ไข่เยี่ยวม้าที่ผลิตมีสารตะกั่วปนเปื้อนได้ หากเรารับประทานอาหารที่มีสารตะกั่วปนเปื้อนสะสมเป็นระยะเวลานาน ๆ อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกและมีผลต่อการทำงานที่ผิดปกติของเซลล์ในกระดูก ระบบประสาท ไต หรืออาจกระทบถึงกล้ามเนื้อกระดูกข้อมือ ข้อเท้า ที่อาจเกิดอาการอัมพาต หรือบวมสมอง ชัก และอาจเสียชีวิตได้
อาการพิษจากตะกั่วที่ปนเปื้อนมากับไข่เยี่ยวม้า จะเริ่มต้นจากการ
- มีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง อาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย บางรายอาจมีอาการทางระบบประสาทส่วนปลาย เช่น อาการกล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรง หากร่างกายได้รับตะกั่วเข้าไปในปริมาณสูงและติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต
- อาการทางสมองจากพิษของตะกั่วจะเป็นอาการที่รุนแรงที่สุด เริ่มด้วยการมีอาการกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ อารมณ์ฉุนเฉียว อาจมีอาการชัก หมดสติและเสียชีวิตได้
- อาการทางเลือดมักมีอาการซีด โลหิตจาง อ่อนเพลีย นอกจากอาการดังกล่าวแล้วผู้ป่วยมักมีอาการปวดศรีษะ มึนงง ความดันโลหิตสูง ไตและสมองถูกทำลาย ในรายที่เป็นพิษตะกั่วเรื้อรังพบว่ามีอาการตัวเหลืองและตาเหลืองร่วมด้วย
คนท้องควรหลีกเลี่ยงกินไข่เยี่ยวม้า เพราะเสี่ยงได้รับสารตะกั่วและเชื้อปนเปื้อนสูง!
ความเสี่ยงหลักของการบริโภคไข่เยี่ยวม้ามาจากกระบวนการผลิตที่มีส่วนผสมของสารอันตรายก่อโรค ส่วนใหญ่การสั่งอาหารในร้านอาหารทั่วไปไม่มีการสอบถามว่าไข่ที่ใช้ในเมนูนั้นมาจากแหล่งใด อันตรายหรือปลอดภัยหรือไม่ ดังนั้นเกิดความเสี่ยงที่ไข่จะมาจากผู้ผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่มีคุณภาพ อาจถูกส่งตรงถึงอาหารที่คุณแม่รับประทาน เนื่องจากอาจมีการเตรียมอาหารโดยการใส่สารตะกั่วออกไซด์หรือซัลไฟด์ลงไปในขั้นตอนการทำ ซึ่งสารเหล่านี้ช่วยให้ไข่กลายเป็นไข่เยี่ยวม้าได้เร็วขึ้น และประหยัดเวลาในการผลิตมากกว่าวิธีที่ปลอดภัย แต่สารเหล่านี้อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนสารตะกั่วได้
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรคหลายชนิด หากทางร้านไม่ใส่ความสำคัญในสุขอนามัยระหว่างการเตรียมอาหาร เช่นเชื้อ “คลอสตริเดียมเพอร์ฟริงเจนส์ (Clostridium perfringens)” ที่ปนเปื้อนจากการไอ จามและไม่ล้างมือ และเชื้อ “สแตปฟิโลคอคคัสออเรียส (Staphylococcus aureus)” พบได้ในลำไส้ของคนและสัตว์ ทั้งสองเชื้อนี้เป็นเชื้อที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษและมีความผิดปกติต่าง ๆ ได้
แบบนี้จะกินไข่เยี่ยวม้าอย่างไรให้ปลอดภัย?
- ตรวจสอบความสดของไข่โดยดูลักษณะของเนื้อไข่ว่ามีลักษณะใสหรือไม่ หากเนื้อไข่มีลักษณะเป็นสีดำขุ่น แสดงว่าไข่เยี่ยวม้านั้นอาจมีสารตะกั่วที่เป็นอันตราย ดังนั้นต้องสังเกตความสดของไข่ก่อนการเลือกซื้อ
- เลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกซื้อจากร้านที่มีความเป็นมาตรฐานสูง และมีการดูแลรักษาความสะอาดและความปลอดภัยในการจัดเก็บและจัดส่ง
- ไข่ที่มีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นผิดปกติอาจเป็นสัญญาณว่าไข่มีความเสียหาย ดังนั้นควรตรวจสอบกลิ่นก่อนการสั่งซื้อ
- รับประทานควบคู่กับเมนูอื่น ๆ หากต้องการรับประโยชน์และความปลอดภัยมากที่สุด ควรรับประทานไข่เยี่ยวม้าควบคู่กับเมนูอื่น ๆ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่หลากหลายและสมดุลย์มากขึ้น
- ระมัดระวังความสะอาดของมือ ก่อนและหลังการรับประทานไข่เยี่ยวม้า ควรล้างมืออย่างระมัดระวังด้วยสบู่และน้ำสะอาดเพื่อลดความเสี่ยงจากเชื้อโรค
- หลีกเลี่ยงการรับประทานไข่เยี่ยวม้าที่ไม่สดหรือมีคราบสกปรก หากมีอาการไม่พึงประสงค์หลังจากการรับประทาน ควรปรึกษาแพทย์ทันที
สำหรับความปลอดภัยในการรับประทานไข่เยี่ยวม้า ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้เพื่อรับประทานไข่เยี่ยวม้าอย่างปลอดภัยและสุขอนามัย อย่างไรก็ตาม ใครที่เป็นสายกิน อย่าพลากที่จะซื้อประกันสุขภาพของ แรบบิท แคร์ ตืดตัวเอาไว้ เผื่อรับประทานแล้วท้องเสีย หรือมีการแพ้อาหาร ก็จะสามารถได้รับความคุ้มครองในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล ครอบคลุมทั้ง IPD และ OPD สนใจโทรเลย 1438
เป็นนักเขียนสายสุขภาพและการเงินที่มีประสบการณ์ในการเขียนมากมาย โดยได้ฝากผลงานในหลากหลายรูปแบบที่เน้นด้านบริหารร่างกายและจิตใจ ทำงานที่ Rabbit Care และ Asia Direct ได้อย่างมืออาชีพ