คริปโทเคอร์เรนซี คืออะไร ไม่มีความรู้ลงทุนได้ไหม มีอะไรบ้างที่ต้องระวัง ?
คริปโทเคอร์เรนซีคืออะไร ? คนไม่มีความรู้เฉพาะทางสามารถลงทุนได้ไหม รวมเรื่องที่ต้องรู้ก่อนลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีแบบเข้าใจง่ายประโยชน์ของคริปโทเคอร์เรนซี คืออะไร ? เปิดวิธีสร้างรายได้ และความเสี่ยงที่ต้องเผื่อใจระวังก่อนตัดสินใจในการลงทุน จาก แรบบิท แคร์
คริปโทเคอร์เรนซี คือ
คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คือ ประเภทของสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานเป็นสื่อกลางในกระบวนการแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกับสกุลเงินทั่วไป (เงินตราประเทศ) โดยไม่สามารถจับต้องได้
ในปัจจุบันคริปโทเคอร์เรนซียังไม่สามารถใช้ชำระหนี้ตามกฎหมายได้เช่นเดียวกับสกุลเงินทั่วไป (ยกเว้นประเทศเอลซัลวาดอร์ซึ่งเป็นประเทศแรกที่รับรองให้บิตคอยน์สามารถใช้ชำระหนี้ตามกฎหมาย) อย่างไรก็ตามมีธุรกิจหลายแห่งที่เริ่มนำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีมาใช้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือการเงิน เช่นการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบิตคอยน์หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ
คริปโทเคอร์เรนซี มีอะไรบ้าง
สำหรับประเภทของคริปโทเคอร์เรนซีนั้น ปัจจุบันจะแบ่งเป็น 7 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน คือ
- คริปโทเคอร์เรนซี แบบรักษามูลค่า (Store of Value)
เป็นเหรียญที่มีจำนวนจำกัด ไม่มีการเพิ่มจำนวนจากที่มีอยู่ หรือก็คือมีจำนวนเท่าไร ก็จะบันทึกไว้เท่านั้น ซึ่งจะเป็นเหรียญในกลุ่ม Bitcoin (BTC), Litecoin (LTC), Bitcoin Cash (BCH)
- คริปโทเคอร์เรนซี สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract)
เป็นสัญญาอัจฉริยะแบบอัตโนมัติที่อยู่บนระบบบล็อกเชน ทำหน้าที่จัดเก็บเงื่อนไขสัญญา ซึ่งเมื่อมีการดำเนินการที่ตรงตามเงื่อนไข ก็จะมีการดำเนินการตามที่ได้ระบุไว้ ตัวอย่างคริปโทเคอร์เรนซีที่สนับสนุนการทำงานของ Smart Contract เช่น Ethereum (ETH), Cardano (ADA), Polkadot (DOT)
- คริปโทเคอร์เรนซี เพื่อระบบการเงินแบบไม่รวมศูนย์ (Decentralized Finance: DeFi)
เป็นบริการทางการเงินที่อยู่ในระบบบล็อกเชน โดยใช้ Smart Contract มารองรับ ไม่ใช้ตัวกลาง โดยแต่ละเหรียญจะมีวัตถุประสงค์ การใช้งาน และจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เช่นเหรียญในกลุ่ม Uniswap (UNI), Maker (MKR), AAVE
- คริปโทเคอร์เรนซี แบบส่งต่อมูลค่า (Value Transfer)
เป็นเหรียญที่ออกแบบพัฒนาขึ้น เพื่อส่งต่อมูลค่าผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยระบบบล็อกเชน ซึ่งมีค่าธรรมเนียมถูก ตัวอย่างเช่น หากต้องการโยกย้ายเหรียญที่มีอยู่ไปต่างประเทศ ก็สามารถแปลงเหรียญเป็น Value Transfer ทำให้ค่าธรรมเนียมถูกลงและรวดเร็วขึ้น เช่นเหรียญในกลุ่ม Ripple (XRP), Stellar (XLM)
- คริปโทเคอร์เรนซี ประเภท Oracle
เป็นโปรแกรมจัดการฐานข้อมูล ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างข้อมูลภายนอกบล็อกเชน (Off-chain) กับข้อมูลภายในบล็อกเชน (On-chain) เพื่อให้สามารถนำข้อมูลต่าง ๆ ไปใช้ประโยชน์ต่อได้ เช่น ข้อมูลสภาพอากาศ ราคาสินทรัพย์ ผลโหวต ผลการแข่งขัน เหรียญในกลุ่มนี้ เช่น Chainlink (LINK), Band Protocol (BAND)
- คริปโทเคอร์เรนซี ประเภท Stablecoin
เป็นเหรียญที่ตรึงมูลค่าเข้ากับสกุลเงินหลักของโลก (ดอลลาร์ ยูโร) หรือสินค้าโภคภัณฑ์หนุนหลัง (ทองคำ น้ำมัน ที่ดิน) ในอัตรา 1:1 จึงนิยมนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระเงิน เช่น หากอยากจะเข้ามาเทรด ก็จะต้องใช้เงินจริงซื้อคริปโตฯ ประเภท Stablecoin ในอัตรา 1:1 แล้วจึงนำไปซื้อคริปโตฯ อื่น ๆ ต่อไปได้ เช่นเหรียญ USDT, USDC, DAI
- เหรียญมีม (Meme Coin)
เป็นเหรียญที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Meme ต่าง ๆ ที่เป็นที่นิยม ออกแบบมาเพื่อล้อเลียนและความสนุกสนานเท่านั้น ไม่ได้มีแพลนหรือโปรเจกต์รองรับ จึงมักเป็นที่นิยมในระยะเวลาสั้น ๆ และมีความผันผวนสูง
ประโยชน์-ข้อดีของคริปโทเคอร์เรนซี
- สะดวกและรวดเร็วในการทำธุรกรรม : เนื่องจากทุกธุรกรรมเป็นแบบดิจิทัล คริปโทฯ มอบความสะดวกและความเร็วในการทำธุรกรรมทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยกว่าธนาคารเดิม
- ลดต้นทุนในการทำธุรกรรม : ผู้ที่เคยโอนเงินระหว่างประเทศจะรู้ถึงค่าธรรมเนียมสูง แต่การใช้คริปโทฯ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมเมื่อเปรียบเทียบกับบริการการเงินทั่วไป
- มีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว : เนื่องจากคริปโทฯ ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ยากต่อการถอดรหัสทางคณิตศาสตร์ ทำให้สกุลเงินดิจิทัลมีความปลอดภัยกว่าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป
- โปร่งใสกว่า : ทุกธุรกรรมของคริปโทฯ ถูกบันทึกในบัญชีแยกประเภทโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้ไม่สามารถแก้ไขหรือทำลายข้อมูลได้
- การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ : ผู้มีรายได้สูงได้รับบิตคอยน์เข้าพอร์ตเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เพราะเชื่อว่าสกุลเงินดิจิทัลที่มีการอุปทานจำกัด เช่น Bitcoin เป็นเครื่องมือในการป้องกัน
- ตลาดเปิดให้ซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง : ในทางกลับกันกับตลาดหุ้นที่มีเวลาเปิดปิดแน่นอน ตลาดคริปโทฯ สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่มีวันหยุด
วิธีสร้างรายได้จากคริปโทเคอร์เรนซี
- การลงทุนระยะยาว (Hodl) วิธีสร้างรายได้จากคริปโทเคอร์เรนซีที่ในวงการคริปโทเคอร์เรนซี จะเรียกผู้ลงทุนสายนี้ว่า “Hodl” ซึ่งมาจากคำว่า “Hold on for dear life” ความหมายคือ การถือเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีไว้ในระยะยาว ๆ อาจเป็นเดือนหรือปี โดยไม่มีการขาย ไม่ว่าราคาตลาดจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร จะมีการผันผวนเป็นอย่างไรก็ตาม ดังนั้น สิ่งที่ผู้ลงทุนสายนี้ต้องใส่ใจคือเทคโนโลยีของเหรียญที่เราได้ซื้อไว้ ว่ามีโอกาสที่จะเติบโตมากน้อยแค่ไหน และมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวหรือไม่นั่นเอง
- การเทรด (Trading) ถือเป็นการทำกำไรในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นกระบวนการทำกำไรจากความผันผวนของราคาคริปโทเคอร์เรนซีในระยะเวลาสั้น ๆ โดยอย่างที่ทราบกันดีว่าค่าเคอร์เรนซีมีการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็ว ทำให้มีนักลงทุนที่มีความสามารถในการกำไรจากการเทรดในตลาดคริปโตฯ ซึ่งยังสามารถใช้กลยุทธ์การเทรดหลากหลายรูปแบบ เช่น Scalping, Day Trade และ Swing Trade ตามความเหมาะสม ทั้งนี้การที่จะเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ นั้นจำเป็นต้องพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์ตลาดและใช้เทคนิคต่าง ๆ รวมถึงต้องติดตามข่าวสารใกล้ชิด เพื่อให้สามารถทำกำไรจากราคาเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีได้อย่างแม่นยำและประสบความสำเร็จในการเทรดในตลาดคริปโตฯ
- Staking เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างรายได้จากคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งหมายถึงการนำเหรียญไปฝากไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลที่รองรับการ Stake และทำการล็อกมันไว้ เหรียญที่เรานำมาฝากจะถูกนำไปใช้ในกระบวนการความถูกต้องของธุรกรรมบนบล็อกเชนแบบ Proof of Stake (PoS) โดยสิ่งตอบแทนที่ได้รับจากการ Stake นั้นจะได้เป็นรูปแบบของดอกเบี้ย อัตราการได้รับดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ดี ความสามารถในการถอนเหรียญที่เราฝากไว้นั้นจะมีข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลาการปลดล็อก ซึ่งอาจทำให้เราไม่สามารถถอนเหรียญที่ฝากไว้ได้ทันที
- Yield Farming หรือที่เรียกกันว่า “ฟาร์ม” เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างรายได้จากคริปโทเคอร์เรนซี โดยผ่านกระบวนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปฝากใน Liquidity Pool ของแพลตฟอร์ม Decentralized Finance (DeFi) เพื่อเพิ่มความเคลื่อนไหวให้กับแพลตฟอร์มนั้น ๆ รางวัลที่จะได้รับจากการฟาร์มจะเป็นรูปแบบของค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย รวมถึงโทเคน ซึ่งอัตราการได้รับรางวัลจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแพลตฟอร์ม
- การขุด (Mining) เป็นหนึ่งในวิธีสร้างรายได้จากคริปโทเคอร์เรนซีที่มีมาอย่างยาวนานที่สุด ใครที่ต้องการหารายได้ผ่านการขุด ขั้นแรกคือการหาเครื่องขุดคริปโตฯ คุณสมบัติที่ดี สเปกสูงเพราะประสิทธิภาพของของเครื่องขุดเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงค่าไฟเนื่องจากการขุดคริปโตฯ โดยเฉพาะ Bitcoin ต้องใช้พลังงานมาก ดังนั้นควรคำนวณให้ละเอียด ว่าหากคุณซื้อเครื่องขุดและหักค่าไฟตามราคานั้น จะคุ้มหรือไม่ ใช้เวลานานแค่ไหนในการคืนทุน
- แอร์ดรอป (Airdrop) หรือการที่เหรียญคริปโตฯ และโทเคนจะถูกแจกจ่ายลงในกระเป๋าเงินดิจิทัลของผู้รับ โดยผู้รับจะต้องเข้าร่วมโครงการหรือต้องทำกิจกรรมตามเงื่อนไขที่ผู้จัดแจกกำหนด เช่น ติดตามแอ็กเคานต์โซเชียลมีเดีย แชร์หรือรีทวีตโพสต์ ลงทะเบียนเข้าใช้งานเว็บไซต์ และอื่น ๆ ซึ่งความจริงแล้วการแอร์ดรอปเป็นวิธีที่นับว่าเป็นการตลาดที่ผู้ที่กำลังจัดโปรเจกต์คริปโตฯ ใช้ในการโปรโมทเพื่อให้คนได้รับรู้จักโปรเจกต์นั้น ๆ มากขึ้น
ความเสี่ยงของคริปโทเคอร์เรนซี
การซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีนั้นเป็นการลงทุนชนิดหนึ่ง ซึ่งให้ผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อกับราคาขายแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และ เนื่องจากมูลค่าของเงินคริปโตขึ้นอยู่กับราคาซื้อขายเงินคริปโตอย่างเดียว โดยไม่มีปัจจัยอื่นเป็นตัวอ้างอิงมูลค่าของมัน จึงทำให้เกิดความผันผวนในราคาสูงและง่าย ดังนั้นการลงทุนซื้อขายเงินคริปโตจึงมีความเสี่ยงสูงมากทีเดียว ดังนั้นก่อนที่จะลงทุน ควรศึกษาและเรียนรู้ข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนเสมอ
และข้อมูลเหล่านี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ควรรู้ก่อนจะเข้าสู่การลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี สำหรับใครที่อยากเริ่มทำให้เงินเก็บงอกเงยแต่ยังไม่พร้อมรับความเสี่ยงก็ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งอย่างการซื้อประกันออมทรัพย์ กับ แรบบิท แคร์ ที่มีประโยชน์หลากหลาย ออมเงินก้อนได้ รับผลกำไรจากดอกเบี้ยที่มากมายพร้อมรับความคุ้มครองอย่างอุ่นใจนั่นเอง
Tawan มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 2 ปี เขียนด้านยานยนต์ ประกันยานยนต์ที่ Rabbit Care และ Asia Direct
มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตและนายหน้าประกันวินาศภัย มีความเชี่ยวชาญด้านประกันรถยนต์และประกันชีวิต