มีบัตรเครดิตแล้ว Paypal ยังจำเป็นอยู่ไหม?
การซื้อ-ขายในยุคดิจิทัลเรียกได้ว่าอะไรก็ง่ายไปหมด ระบบ E-commerce เติบโตอย่างรวดเร็ว จึงมีการพัฒนาระบบการจ่ายเงินออนไลน์เพื่อให้การซื้อขายง่ายขึ้น “Paypal” ก็เป็นหนึ่งในนั้น
บางคนก็บอกว่าการมีบัตรเครดิตก็สามารถชำระเงินกับการซื้อของออนไลน์ได้ ง่ายและสะดวกเหมือนกัน แล้ว Paypal ล่ะ ยังต้องใช้อีกหรือ ? เรามาคลายข้อสงสัยไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
Paypal คืออะไร ?
Paypal หรือ เพย์พาล คือธนาคารแห่งหนึ่งที่ให้บริการในรูปแบบออนไลน์ ทำงานคล้ายๆ กับบริการ Internet Banking จะมีบริการรับฝากเงิน-ชำระเงิน เช่นเดียวกับธนาคารทั่วไป ข้อแตกต่างก็คือ Paypal จะไม่มีดอกเบี้ย แต่คิดค่าธรรมเนียมเล็กน้อย
ความพิเศษของ Paypal คือ เราสามารถมีบัญชีได้โดยไม่ต้องมีสมุดบัญชี เราจะใช้เพียงอีเมลของเราเป็นบัญชี ซึ่งเราสามารถส่งเงินไปให้ใครก็ได้บนโลก เพียงแค่บุคคลนั้นมีบัญชี Paypal เราก็สามารถเชื่อมต่อกันได้ง่ายๆ ค่ะ
มีบัตรเครดิตแล้ว Paypal ยังจำเป็นอยู่ไหม?
หากคุณทำธุรกิจ E-commerce หรือเป็นคนที่ชอบสั่งซื้อของจากต่างประเทศอยู่บ่อยๆ การใช้ Paypal จะเป็นช่องทางที่จะทำให้การรับเงิน-จ่ายเงิน กับต่างประเทศสามารถทำได้ง่าย
โดยเฉพาะคนที่ทำธุรกิจก็จะมีโอกาสในการรับเงินที่มากขึ้น ง่ายต่อการขยายช่องทางการค้า และได้ผลกำไรที่สูงขึ้น
แม้ว่าคุณจะเป็นบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ทำธุรกิจ Paypal ก็ยังมีประโยชน์กับคุณไม่น้อยเลยล่ะค่ะ เรามาดูข้อดีของการใช้ Paypal กันเถอะ
- ปลอดภัยกว่าการกรอกข้อมูลบัตรเครดิต
การซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ คุณจำเป็นต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวของคุณลงไปในเว็บไซต์นั้นๆ ด้วย โดยเฉพาะข้อมูลบัตรเครดิต แม้ว่าเว็บไซต์นั้นจะมีความน่าเชื่อถือมาก แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีการนำข้อมูลบัตรเครดิตของเราไปใช้งานต่อ
ดังนั้น การหลีกเลี่ยงที่จะกรอกข้อมูลบัตรเครดิตลงในเว็บไซต์ เพื่อป้องกันอันตรายจากมิจฉาชีพในโลกออนไลน์ แล้วหันมาใช้บริการของ Paypal จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
- กรอกข้อมูลผิด ไม่ได้ของ
จากข้อมูลการซื้อสินค้าจากต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ พบว่ามีคนไทยที่ทำการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านอุปกรณ์สมาร์ตโฟนมากขึ้น เป็นสัดส่วนมากถึง 33% ในปัจจุบัน และมีคนจำนวนมากที่กรอกข้อมูลผิด และเกิดความยุ่งยากกับการสั่งซื้อสินค้า
ด้วยความที่การกรอกข้อมูลบัตรเครดิตนั้นต้องกรอกข้อมูลหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อ-สกุล, เลขบัตรเครดิต 16 หลัก, ชื่อธนาคาร, เลขรหัสหลังบัตร ซึ่งมีโอกาสผิดพลาดสูงกว่า
ในขณะที่การชำระเงินด้วย Paypal นั้นต้องกรอกข้อมูลเพียง Username และ Password เท่านั้น เห็นมั้ยล่ะคะ ง่ายกว่าตั้งหลายเท่า
- Paypal มีโปรแกรมคุ้มครองด้วยนะ
เมื่อมีการซื้อสินค้าจากแดนไกล เราก็มักจะกังวลว่าสินค้าที่เราสั่งซื้อและถูกส่งมานั้น จะตรงกับที่เราสั่งไปไหมหนอ ระบบตัดเงินจากบัตรเครดิตไปแล้วด้วย จะเรียกเงินคืนหรือส่งของกลับไปเปลี่ยนก็คงยากแล้ว
แต่ถ้าคุณใช้ Paypal แม้จะมีการส่งสินค้ามาผิด ไม่ว่าทางร้านค้าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม โปรแกรมคุ้มครองจาก Paypal จะคุ้มครองทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยจะมีการตรวจสอบและคืนเงินให้หากพบว่ามีความผิดพลาดจริง
- คิดค่าเงินบาทให้ทันที
ไม่ว่าเราจะซื้อของออนไลน์จากร้านค้าของประเทศใดก็ตาม การจ่ายเงินตามสกุลเงินของแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ดอลล่าร์ ปอนด์ เยน วอน หรือสกุลเงินอื่นๆ อีกมากมาย ก็ไม่ต้องเสียเวลาคำนวณกลับไปกลับมาให้ยุ่งยาก
เพราะระบบของ Paypal จะเปลี่ยนเป็นเงินไทยให้ทันที เราจะได้รู้ยอดเงินที่เราจ่ายไปทันทีว่าจ่ายไปกี่บาท ไม่ต้องมากังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอีกต่อไป
ทั้งนี้ เรายังมองว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตก็ไม่ได้แย่เสมอไป เพราะมีความสะดวก มีโปรโมชันบัตรตามไลฟ์สไตล์ของผู้ถือบัตรให้เลือกได้มากกว่า และมีคะแนนสะสมที่สามารถนำไปแลกรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ เพราะฉะนั้น การเลือกจ่ายเงินผ่าน Paypal หรือจะจ่ายผ่านบัตรเครดิต ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของธุรกรรมนั้นๆ ว่าแบบไหนจะคุ้มค่ากว่านั่นเอง
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี