บัตรกดเงินสด vs บัตรเครดิต เลือกบัตรผ่อนสินค้าแบบไหนดี
บัตรเครดิต กับ บัตรกดเงินสด เชื่อว่าหลายคนอาจจะเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานกันไปบ้างแล้ว แต่ เอ๊ะ? แล้วแบบนี้ถ้าเราอยากผ่อนชำระสินค้าอะไรสักอย่าง ควรเลือกบัตรแบบไหนดีนะ เพราะทุกวันนี้บัตรกดเงินสดเองก็สามารถผ่อนสินค้าได้แล้วเช่นกัน!
เอ๊ะ แล้วแบบนี้จะเลือกใช้บัตรไหนดีนะถึงจะตอบโจทย์ได้ดี ข้อดี ข้อเสีย บัตรเครดิต กับบัตรกดเงินสดต่างกันอย่างไรบ้าง? วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน!
.
รู้จักกันให้มากขึ้น กับบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด
มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต หรือ บัตรกดเงินสด บัตรทั้งสองประเภทจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ Cash Advance หรือ การเบิกทดรองจ่ายล่วงหน้า คือ สินเชื่ออีกประเภทหนึ่ง เป็นการกู้ยืมเงินในระยะสั้น ๆ จากสถาบันทางการเงินมาใช้ล่วงหน้าก่อน ช่วยให้คุณมีสภาพการเงินที่คล่องตัวมากขึ้น นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยชั้นดีสำหรับคนยุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้ หากเราเลือกใช้ให้เหมาะสม โดยทั้งบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสดเอง จะมีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- บัตรเครดิต
หรือก็คือ บริการจ่ายเงินค่าสินค้า บริการต่าง ๆ ล่วงหน้าให้กับผู้ถือบัตร แม้ว่าผู้ถือบัตรเครดิต ผ่อนของจะไม่มีเงินสดติดตัว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องชำระค่าใช้จ่ายล่วงหน้านี้ในระยะเวลาที่ทางสถาบันการเงินได้กำหนดเอาไว้ ไม่เช่นนั้นจะมีการคิดดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากการให้ยืมเงินล่วงหน้า
เช่น บัตรเครดิต A ให้ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยนาน 50 วัน คุณก็ต้องจ่ายเงินคืนทั้งหมดภายในระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 50 วัน หรือ บัตรเครดิตผ่อนสินค้า 0% 10 เดือน ก็ต้องผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ ภายในระยะเวลาที่กำหนด 10 เดือน ไม่เช่นนั้นจะมีการคิดดอกเบี้ยเพิ่ม
ปัจจุบัน ทางบัตรเครดิตได้มีการปรับลดยอดวงเงินเริ่มต้นจากผู้สมัครบัตรหน้าใหม่เหลือ 1.5 เท่า ยกเว้นแต่ผู้สมัครมีเครดิตดี หรืออาจจะเคยทำบัตรเครดิต เคยกู้สินเชื่อกับทางสถาบันการเงินนั้น ๆ มาก่อน หรือใช้ไปสักระยะ ผู้ถือบัตรก็อาจจะขอยื่นเพื่อเพิ่มวงเงินได้ภายหลัง นอกจากนี้บัตรเครดิตผ่อน 0 % 10 เดือน ร่วมกับร้านค้า ห้างสรรพสินค้า บริการต่าง ๆ ได้ครอบคลุมมากกว่า
- บัตรกดเงินสด
อีกหนึ่งบริการจากทางสถาบันการเงิน ซึ่งจะเน้นให้ความสำคัญกับการกดเงินสด เงินก้อนล่วงหน้ามากกว่า บัตรกดเงินสดจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เงินสดแบบเร่งด่วน หรือไม่สามารถใช้บัตรเครดิตจ่ายสินค้า บริการเหล่านั่นได้
จุดเด่นของบัตรกดเงินสดคือ เป็นบัตรที่อนุมัติไว มีเงื่อนไขให้สมัครได้ง่ายกว่าบัตรเครดิต ไม่มีค่าธรรมเนียมเมื่อต้องกดเงินสด โดยแลกกับการที่ไม่มีระยะปลอดดอกเบี้ย และคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันซึ่งแพงกว่าบัตรเครดิต จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินด่วนในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
โดยสิ่งที่ถูกอัพเดตเข้ามาให้ และเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน คือ บัตรกดเงินสดสามารถผ่อนสินค้า หรือผ่อนเงินก้อนที่กดออกมาได้ 0% นานหลายเดือน โดยอาจจะมีเงื่อนไขว่า ต้องผ่อนกับร้านค้าที่กำหนดเท่านั้น และร้านค้าที่ร่วมรายการมีน้อยกว่าบัตรเครดิต รวมถึงการผ่อนจ่ายเองก็ยังไม่ครอบคลุมเท่าบัตรเครดิตอีกด้วย
สำหรับข้อดีของทั้งบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด คือ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน อนุมัติได้ง่ายในระยะเวลาที่ไม่นานเมื่อเปรียบเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่น ๆ
เทียบกันหมัดต่อหมัด บัตรกดเงินสด vs บัตรเครดิต สรุปบัตรไหนเวิร์ค!
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกบัตรผ่อนสินค้าด้วยบัตรไหนดี ลองมาเปรียบเทียบกันแบบหมัดต่อหมัดกับ แรบบิท แคร์ กันก่อนกันดีกว่า
- หมัดที่หนึ่ง ว่าด้วยเรื่องดอกเบี้ย
ถ้าจุดประสงค์หลักของคุณคือการสำรองจ่ายล่วงหน้า ผ่อนสินค้าต่าง ๆ เป็นหลัก ในระยะเวลาหลายเดือน บัตรเครดิตจะเหมาะกับการเป็นบัตรผ่อนสินค้ามากกว่า เพราะบัตรเครดิตมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย หากคุณจ่ายเงินภายในระยะเวลาดั่งกล่าว คุณก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด! ในขณะที่บัตรกดเงินจะคิดดอกเบี้ยทันทีที่เริ่มกดเงิน หรือรูดจ่าย แต่มีข้อดีตรงที่ดอกเบี้ยเป็นการลดต้นลดดอก ทำให้หากคุณหาเงินมาปิดยอดได้ไวเท่าไหร่ ดอกเบี้ยก็มากตามไปด้วย
- หมัดที่สอง ว่าด้วยการผ่อนสินค้า
หากคุณชื่นชอบการผ่อนสินค้า ต้องการบัตรผ่อนสินค้าที่ช่วยให้การเงินไม่สะดุด บัตรเครดิตผ่อน 0 % 10 เดือน อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะบัตรเครดิต ผ่อนของช่วยให้คุณไม่ต้องจ่ายเงินก้อนโตในครั้งเดียว เพิ่มอิสระด้านการเงินได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังครอบคลุมร้านค้าหลากหลาย สะสมแต้มคะแนนจากการซื้อได้ หรือรับเงินคืนได้ และบางแห่งมีประกันภัยไซเบอร์ ที่ช่วยเหลือปัญหาเรื่องการถูกโกงเมื่อซื้อของออนไลน์อีกด้วย!
ส่วนบัตรกดเงินสดในแง่การผ่อนสินค้า แม้บางบัตรกดเงินสดจะเปิดโอกาสให้คุณสามารถผ่อน 0% ได้นานถึง 48 เดือน แต่ร้านค้าที่เปิดรับการผ่อนผ่านบัตรกดเงินสดจะมีน้อยกว่าบัตรเครดิต และผ่อนได้แค่สินค้าบางประเภทเท่านั้น ซ้ำยังไม่ได้แต้มสะสม หรือใช้แต้มส่วนลดอีกด้วย
- หมัดที่สาม ว่าด้วยเรื่องกดเงินสด
หากเปรียบเทียบในเรื่องของการกดเงินสด เงินก้อน หรือการกดเงินเพื่อนำมาใช้ฉุกเฉิน บัตรกดเงินสดอาจจะตอบโจทย์ตรงนี้มากกว่า เพราะถึงแม้อัตราดอกเบี้ยของบัตรเครดิตจะต่ำเพียง 20% ต่อปี ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับบัตรกดเงินสด แต่บัตรเครดิตมีค่าธรรมเนียมการกดเงินสดที่ค่อนข้างสูง ทำให้มีโอกาสเป็นหนี้เสียมากกว่าการใช้บัตรกดเงินสด
ในทางกลับกัน บัตรกดเงินสดนั้น แม้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูงประมาณ 28% ต่อปี คิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน แต่ดอกเบี้ยเป็นลักษณะลดต้นลดดอก ทำให้หากคุณจ่ายปิดยอดได้มากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยก็จะน้อยลงเท่านั้น นอกจากนี้บัตรกดเงินสดไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงินอีกด้วย ทำให้ค่าใช้จ่ายยิบย่อยในส่วนนี้ และคุ้มค่ามากกว่า แม้อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าก็ตาม
- หมัดที่สี่ ว่าด้วยเรื่องการสมัคร
แม้ในปัจจุบัน บัตรเครดิตจะเปิดโอกาสให้คุณสมัครได้ง่ายดายมากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังคงมีเงื่อนไขที่ทางสถาบันทางการเงินต้องใช้เวลาในการพิจารณาอยู่ดี แตกต่างจากบัตรกดเงินสดที่ใช้เวลาตรวจสอบที่รวดเร็วกว่า อนุมัติได้ไวกว่า บางบัตรกดเงินสดยังอนุมัติไวภายใน 1 วัน หรือบางแห่งใช้เวลาเพียงครึ่งวันเท่านั้นก็รู้ผลแล้ว!
ดังนั้น หากต้องการใช้เงินเร่งด่วนจริง ๆ และมั่นใจว่าสามารถคืนเงินกลับได้ภายในระยะเวลาไม่กี่วัน บัตรกดเงินสดจะตอบโจทย์แน่นอน แต่ถ้าอยากมีบัตรเครดิตไว้เผื่อใช้งานในอนาคต สามารถรอได้ บัตรเครดิตก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
- สรุปเทียบกันให้เห็นแบบหมัดต่อหมัด
บัตรกดเงินสด | บัตรเครดิต | |
ตัวอย่าง | ||
ดอกเบี้ย | อัตราดอกเบี้ยสูงสุด ~18% คิดดอกเบี้ยทันทีที่กดเงิน | อัตราดอกเบี้ยสูงสุด ~28% มีช่วงปลอดดอกเบี้ย |
ผ่อนสินค้า | - ผ่อน 0% สูงสุด 24 เดือน แต่ไม่ครอบคลุมร้านค้า และสินค้า | - ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน - ครอบคลุมร้านค้าหลากหลาย - ปลอดภัยสูง |
กดเงินสด | ไม่มีค่าธรรมเนียม | มีค่าธรรมเนียม ~ 3% |
การสมัคร | สมัครง่าย อนุมัติเร็วภายใน 1 วัน | ความยากง่ายของการสมัครขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันทางการเงิน |
บัตรนี้จะเหมาะกับใคร? | ต้องการถอนเงินสดได้ในกรณีฉุกเฉิน | ต้องการรูดใช้จ่ายสินค้าแทนเงินสด หรือผ่อนสินค้าระยะยาว |
สรุปแล้ว บัตรไหน ใช้ผ่อนสินค้าดีกว่ากัน?
โดยสรุปจากข้อมูลทั้งหมดแล้ว บัตรเครดิต จะเหมาะกับการเป็นบัตรผ่อนสินค้ามากกว่า หากเราประเมินจากความครอบคลุมร้านค้าในการผ่อนสินค้า รวมถึงยังมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย และบัตรเครดิตผ่อน 0 % 10 เดือน นอกจากนี้ บางบัตรยังมีแต้มคะแนนให้คุณสะสมไว้ใช้ประโยชน์อื่น ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแลกคะแนนเพื่อเป็นส่วนลด เงินคืน หรือแลกรีวอร์ด แลกบริการเสริมต่าง ๆ ได้
ส่วนบัตรกดเงินสดเอง จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้เงินก้อน เงินด่วนฉุกเฉินเป็นหลัก ต้องกดเงินสดมาสำรองจ่ายล่วงหน้าบ่อย ๆ โดยการใช้บัตรผ่อนสินค้าเป็นเพียงลูกเล่นพิเศษที่เสริมมาเท่านั้น แต่การผ่อนสินค้าจะไม่ครอบคลุมมากเท่าบัตรเครดิต เหมาะกับผู้ที่มีรายได้ไม่สูงมาก หรือผู้ที่ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์เป็นหลัก แต่แลกมาด้วยการที่ไม่ได้แต้มคะแนนต่าง ๆ หรือบริการเสริมอื่น ๆ นั่นเอง
แต่ทั้งนี้ ไม่ว่าจะสมัครบัตรอะไร ก็จำเป็นต้องระวัง คอบควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ดี ไม่เช่นนั้นคุณอาจเป็นหนี้เสียได้โดยที่ไม่ทั้งตั้งตัว หลายคนต้องประสบปัญหาหนี้พอกพูน จนต้องกู้สินเชื่อเพื่อมาปิดหนี้บัตร แต่กลับกัน หากคุณสามารถบริหารการใช้งานบัตรให้ดี บัตรเหล่านี้จะช่วยให้การเงินของคุณคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะบัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสด ก็เลือกสมัครได้ เพียงสมัครกับ แรบบิท แคร์ ที่นี้รวบรวมข้อมูลเปรียบเทียบบัตรเครดิต ผ่อนของที่น่าสนใจ และบัตรกดเงินสดที่สามารถผ่อน 0% ได้ มาให้คุณได้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์ ความต้องการของคุณ! คลิกเลย!
บทความแนะนำอื่น ๆ
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct