ตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ คอนโด หรือ รถยนต์ ซื้ออะไรก่อนดี ?
คอนโดและรถยนต์ในปัจจุบันนี้ ได้กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนพึงปรารถนาต้องการที่จะมีไว้ในครอบครองมากที่สุด เพื่อให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่! เนื่องด้วยความพร้อมและความสามารถทางการเงิน ส่งผลให้บางคนจึงต้องตัดสินใจเลือกซื้ออย่างใดอย่างหนึ่งก่อน เพราะหากตัดสินใจซื้อพร้อมกันทั้งสองอย่างอาจจะสร้างภาระค่าใช้จ่ายเกินที่มากเกินไปได้ เพราะฉะนั้นในบทความนี้ เราจะขอพาคุณไปตรวจสอบความพร้อมของตนเองกันว่า แท้ที่จริงแล้วเราควรจะเลือกซื้อคอนโดหรือรถยนต์ก่อนดี ที่จะทำให้การใช้ชีวิตประจำวันและเงินในกระเป๋าสตางค์ของเรานั้นไม่เดือดร้อน!
1.ถามตัวเองให้ดีว่าอะไรที่มีความจำเป็นมากกว่ากัน ?
อันดับแรกให้คุณถามตัวเองก่อนว่าคอนโดหรือรถยนต์มันจำเป็นต่อการใช้ชีวิตมากกว่ากัน ยกตัวอย่างเช่น…หากงานของคุณต้องมีการเดินทางไปส่งของ เดินทางไปพบกับลูกค้า หรืออาศัยอยู่กับครอบครัวไม่ได้เช่าคอนโดอยู่ การซื้อรถยนต์ก็อาจจะตอบโจทย์การใช้ชีชีวิตได้มากกว่า แต่หากในปัจจุบันนี้คุณต้องผ่อนค่าเช่าคอนโด เดือนละหมื่นกว่าบาททุกๆ เดือน อีกทั้งในอนาคตไม่มีแพลนที่จะย้ายที่อยู่อาศัยหรือที่ทำงาน การซื้อคอนโดก็อาจจะสร้างความคุ้มค่าได้มากกว่าการเช่า เป็นต้น ทั้งนี้ให้คุณลองนำค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ มาคิดคำนวณดูว่าค่าเดินทางหรือค่าเช่าคอนโดอันนั้นไหนที่คุณต้องเสียมากกว่ากัน มันก็จะช่วยทำให้คุณได้คำตอบที่แท้จริงในเบื้องต้น
2.ตรวจสอบกำลังการผ่อนของตัวเอง
อันดับที่สองก่อนตัดสินใจว่าเลือกซื้อคอนโดหรือรถยนต์ก่อนดี ก็คือการตรวจสอบกำลังการผ่อนของตัวเองว่าไหวอยู่ในระดับไหน ? ซึ่งตามหลักแล้วคุณไม่ควรมีภาระหนี้สินเกิน 40% ของรายได้ ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้คุณมีปัญหาทางด้านการเงินตามมาในอนาคต เช่น เงินเดือน 25,000 บาท ภาระหนี้สินคุณจะต้องไม่ควรเกิน 40% x 25,000 = 10,000 บาท ซึ่งหลักการคำนวณภาระหนี้สินแบบนี้ ทางธนาคารก็จะใช้หลักเดียวกันในการพิจารณาปล่อยเงินกู้สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อคอนโด ดังนั้นคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดี ว่าฐานเงินเดือนของคุณในตอนนี้เหมาะที่จะซื้อคอนโดหรือรถยนต์มากกว่ากัน และที่สำคัญคือห้ามตัดสินใจด้วยความชอบหรือความอยากได้ เพราะนั่นอาจจะทำให้คุณเกิดวิกฤตทางเงินเอาได้ง่ายๆ นั่นเอง
3.พร้อมที่จะยอมรับหนี้ระยะยาวได้แล้วหรือยัง ?
สิ่งที่คุณต้องยอมรับก่อนเลยว่า การซื้อคอนโดจะทำให้คุณเป็นหนี้ระยะยาวมากกว่าซื้อรถยนต์อยู่หลายเท่าตัว! อย่างน้อย ก็ 20 ปี ดังนั้นถามตัวเองให้ดีว่าพร้อมที่จะเป็นหนี้ระยะยาวแล้วหรือยัง ? การงานมีความมั่นคงมากแค่ไหน ? มีกำลังที่จะจ่ายเงินให้กับทางธนาคารตลอด 20-30 ปีหรือไม่ ? ซึ่งถ้ายังไม่พร้อม การซื้อรถยนต์ก็อาจจะตอบโจทย์การเป็นหนี้ของคุณได้มากกว่า เพราะเต็มที่ทางไฟแนนซ์จะให้คุณผ่อนรถยนต์ได้มากที่สุดเพียงแค่ 72 เดือน หรือ 6 ปีเท่านั้น (ไม่รวมกรณีที่ซื้อเงินสด)
4.เตรียมเงินดาวน์ให้พร้อม
ไม่ว่าคุณจะซื้อคอนโดหรือซื้อรถยนต์ สิ่งที่คุณจะต้องจัดเตรียมเลยก็คือ “เงินดาวน์” ทั้งนี้การซื้อคอนโดคุณจะต้องมีเงินดาวน์ประมาณ 10% – 20% ของราคาคอนโด และถ้าซื้อรถยนต์คุณจะต้องมีเงินดาวน์ประมาณ 25% เพราะฉะนั้นตรวจเช็คและเตรียมเงินดาวน์ให้พร้อมก่อนทำเรื่องซื้อคอนโดหรือซื้อรถยนต์
และหากคุณกำลังสนใจคอนโดมิเนียม คุณก็สามารถค้นหาคอนโดที่ถูกใจ ในทำเลที่ง่ายต่อการใช้ชีวิตได้ที่ Propertyhub เว็บไซต์สำหรับค้นหาคอนโดยเฉพาะและมีคอนโดให้คุณเลือกกว่า 4,000 โครงการ ทุกย่าน ทุกทำเล ทั่วไทย!
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology
